ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Maybe ผม..อาจจะ..รักไอ้เตี้ย ! {โน่ริท}

    ลำดับตอนที่ #3 : Special Part {Tono}

    • อัปเดตล่าสุด 13 ต.ค. 54



                ผมเดินออกมาจากคณะบริหารอย่างมึนๆ ..หลังจากรู้ว่าผมขโมยจูบไอ้เด็กหน้าหวาน ไอ้เด็กนั่นหน้าเหมือนผู้หญิง ตัวก็บางๆ ผมตกใจไม่น้อยที่ผมเป็นจูบแรกของนายนั่น หน้าตาก็ออกจะหวานขนาดนั้น มันจะไม่เคยมีใครมาจูบเลยหรือไงวะ

    ผมสาบานเลยว่าเมื่อวานผมไม่ได้ตั้งใจจะจูบไอ้เด็กนั่นหรอก แต่เป็นเพราะผมหมั่นไส้มันมากกว่า ก็คิดดูสิครับ ตั้งแต่สตาร์ทรถมันจ้อไม่หยุด พอบอกให้หยุด ก็หยุดไป 3 วินาที แล้วแม่งก็พูดต่อ ผมไม่ใช่คนที่มีความอดทนมากมายอะไรขนาดนั้นซะด้วย

    มันบอกให้ผมปลดล็อกรถเพื่อมันจะลงโดยอาศัยช่วงรถติด ผมเลยปลดล็อกให้มันอย่างว่าง่าย แต่มันก็ไม่ง่ายอย่างที่ใครคิด ทันทีที่มันก้าวเท้าแรกลงจากรถไป ผมก็กระชากตัวบางๆของเด็กนั่นให้กลับมา ก่อนจะรีบประกบจูบลงไปทันที คราแรกมันขัดขืนผมจนผมอารมณ์เสีย แต่ไปๆมาๆทั้งผมและเด็กนั่นเคลิ้มทั้งคู่ ผมน่ะไม่เท่าไหร่หรอก เพราะเรื่องแบบนี้ผมทำจนเรียกได้ว่ามืออาชีพ (หลงตัวเองอีกคนละ ; maybe.wt) ส่วนเด็กนั่นผมก็พอรู้ว่ามันคงยังไม่ค่อยจะประสาเรื่องแนวนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่คิดว่าจะเป็นครั้งแรก พอผมรู้เลยทำให้ผมอึ้งนิดนึง

    จากการวิจัยจากตัวผมเอง (- -“) ผมสังเกตว่าพวกผู้หญิงที่ดูหงิมๆ ติ๋มๆ พอใครเจอผมปุ๊บ หล่อนต่างก็ออกลายความแรว๊งให้ผมเห็นเสมอ ตอนแรกผมก็แอบตกใจ ไหนว่าเรียบร้อยไงวะ แต่พอหลังๆผมเริ่มชินกับผู้หญิงพวกนี้ซะแล้ว ..แต่เด็กนี่มันไม่เหมือนผู้หญิงทั่วไป ภายนอกดูน่ารักๆ แต่แม่งปากจัด แถมยังพูดมากชิบหาย แถมยังดูกะโปโล ไม่เหมือนเด็กมหาวิทยาลัยเลยสักนิ

    หลังจากที่ผมถอนจูบจากเด็กนั่นด้วยสาเหตุที่ว่าขวางทางจราจร โชคดีที่ตำรวจไม่มาซะก่อน ไม่งั้นคงได้รับหลายข้อหา รวมถึงอนาจารในที่สาธารณะด้วย ..ผมขับรถมาเรื่อยๆ คราวนี้เด็กนั่นเงียบซะผมงง ไหงตอนแรกมันพูดไม่หยุด แต่ทำไมคราวนี้มันเงียบกริบขนาดนี้ ผมพยายามขู่มันว่าถ้ามันไม่พูดผมจะจับมันปล้ำบนรถ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เข้าหูเลยแม้แต่น้อย เด็กบ้ายังคงนั่งเฉยมองออกนอกรถตลอด ไม่รู้ว่าข้างนอกมันมีอะไรที่ดูดีไปกว่าหน้าตาผมหรือไง

    ผมตัดสินใจไปส่งเด็กนั่นที่หน้ามหาวิทยาลัย ก่อนที่จะกลับบ้าน คราแรกผมกะจะทำโทษซะให้เข็ด ก็มันมาด่าผมนิ คนอย่างผมเคยยอมให้ใครด่าที่ไหน เพียงแต่ผมคิดไม่ออกว่าผมจะทำโทษด้วยวิธีไหนดี ถ้าไม่เห็นว่ามันเตี้ยม่อต้อแบบนี้ผมคงซัดแหลก

    ..ด้วยความแค้นที่ยังไม่ทันจะได้ชำระ ทำให้ผมต้องโทรหารุ่นน้องในมหาลัยที่มีหน้าที่คล้ายๆเบ๊ของผมให้ช่วยสืบว่าเด็กนั่นชื่ออะไร เรียนคณะอะไร ผมแค่บอกเพียงลักษณะหน้าตาของเด็กนั่นไปเท่านั้น ..เพียงไม่กี่ชั่วโมงรุ่นน้องของผมก็โทรมารายงานทั้งชื่อจริง นามสกุล ชื่อเล่น เรียนคณะอะไร บลาๆๆ ก่อนจะส่งรูปให้ผมทางเมลล์เพื่อให้แน่ใจว่าคนที่มันไปสืบมาคือคนเดียวกับที่ผมต้องการจริงๆ

    เช้าวันรุ่งขึ้นผมรีบเดินไปที่คณะบริหารธุรกิจ ผมชะเง้อมองหาเด็กนั่น หายากแท้วะ ..อาจเป็นเพราะวันนี้มีกิจกรรมรับน้องของคณะ เลยทำให้ดูคนเยอะเป็นพิเศษ เห้ยนั่น!! ผมเห็นเด็กนั่นวิ่งไปตรงแถวหลังตึก หึ ! ไม่รอดแน่เด็กน้อย

    ผมเข้าไปวิ่งดักหน้าเอาไว้ ดูท่าทางเด็กนั่นคงจะเห็นผมตอนเดินเข้ามาจนระแวง วิ่งไม่มองทาง เลยชนผมเข้าซะงั้น แถมยังก้มหัวขอโทษเตรียมตัวจะวิ่งต่อ นี่มันรู้หรือแกล้งไม่รู้กันแน่ว่าเป็นผม

    “เดี๋ยวก่อนสิ ! คิดจะชิ่งรึไง หนี้เก่ายังไม่ได้ชำระความเลยนะ ..เรืองฤทธิ์ ศิริพานิช”

    ผมลากมันเข้ามาในที่ลับตาคน ดูสิครับมันหน้าซีดเป็นไก่ต้มเลย โธ่! คิดว่าจะแน่ ..ผมเริ่มเปิดประเด็นขึ้นก่อน และแน่นอนว่ามันต้องมีเรื่องจูบมาเกี่ยวข้อง หมอนี่ดูฉุนไม่น้อยที่ผมจูบมัน ผมแอบงงครับว่าทำไมหมอนี่ไม่เหมือนผู้หญิง (เอ้า! ก็เค้าเป็นผู้ชายนี่หว่า ; maybe.wt) ผมเคยจูบกับผู้หญิงมานักต่อนักละ ไม่เห็นมีใครจะอารมณ์เสียอย่างนี้มาก่อน มีแต่วิ่งเข้าใส่ผมลูกเดียว และผมก็ได้รู้ความจริงว่าผมได้ขโมยเวอร์จิ้นของชายแท้ๆ(ที่หน้าหวานอย่างกะผู้หญิง) โดยการขโมยจูบแรกของเค้ามา เด็กนั่นดูโกรธจัด ผมก็ตะลึงไม่น้อยจนต้องเป็นฝ่ายชิ่งออกมา ก็มันตกใจนี่หว่า ไม่ใช่ว่าผมจะไม่เคยไปเปิดจูบแรกใครนะครับ แต่ครั้งนี้มันเป็นผู้ชาย (ซึ่งผมก็ไม่เคยสุงสิงกับผู้ชาย) และหน้าตาดีๆอย่างนี้มันจะไม่เคยโดนใครจูบเลยรึไงฟระ ..แต่จะว่าไปมันก็สะใจดีเหมือนกันนะ 

    = = = = = = = = = =
    ตอนนี้สั้นหน่อยเพราะเมบีคิดไม่ออก ฮ่าๆ
    ขอบคุณทุกคนที่อ่านแล้วบอกว่าชอบกันนะคะ
    เม้น+โหวตให้กำลังใจนังไรเตอร์ผู้นี้กันด้วยเด้อ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×