คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ
“เปรี้ยวก็จิ้มเกลือ หวานก็จิ้มเกลือ ....” รุ่นพี่ปี 2 และปี 3 ต่างก็พากันรับน้องเฟรชชี่ปี1 กันอย่างสนุกสนาน ..ท่าทางจะมันส์กันมาก แต่ยกเว้นผมคนนึงแหละครับ
... นี่พวกคุณให้กระผมทำอะไรเนี้ยยยยย !!!
ผมที่ต้องรับบทเป็นสตาฟงานรับน้องจำเป็นเต้นเพลงสับปะรด ..ผมแอบสงสัยว่าใครวะ มันช่างสรรค์สร้างเพลงเชียร์พวกนี้มา ..แล้วใครวะที่มันคิดท่าเต้นประกอบได้สุดแสนจะ ..อย่าให้อธิบายเลยจะดีกว่า !
“ทำหน้าให้มันมันส์ๆหน่อย” นังกระเทยควายใหญ่ยักษ์นามว่าอีชาติชาย (ถุ้ย ! ใครตั้งให้มึงฟระ) .. มันเดินเข้ามาตบหัวผมพร้อมสั่งผมอย่างเอาเรื่อง
“โอ้ย อีชาติชาย มันส์สุดได้แค่นี้แหละเว้ย แกไปจ้างสามีแกมาเต้นสิ ไอ้เวร!” ผมด่าไปอย่างเหลืออด
“แกอยากตายมั้ยไอ้ริท ..ฉันเปลี่ยนชื่อแล้วย่ะ ! ฉันน่ะชื่อทิฟฟานี่ แกรู้ไว้ด้วย”
“อุ้ยว๊ายตายแล้ว ! ทิฟฟานี่ น่ารักอ่าา” ผมแกล้งดัจริตสะบัดมือ สะบัดเท้าไปมาให้ดูคล้ายสาวประเภทสองเพื่อล้อเลียนมัน แต่แทนที่มันจะอาย มันกลับเชิ่ดหน้า กอดอก ยกยิ้มอย่างภูมิใจ - -“
“ริทหันมาหาฉันสิย๊ะ”
“ไม่เอาอะ ฉันกลัวแกจะปล้ำฉัน” ผมพูดไปทั้งที่ยังเต้นเพลงรับน้องบ้าบอๆอยู่
“แกคิดว่าฉันหน้าด้านขนาดปล้ำแกกลางผู้คนขนาดนี้เนี้ยนะ”
“อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ ถ้ามีอีชาติชายอยู่ด้วย”
“เอ๊ะ !! ชาติชายมันชื่ออีปลวกที่ไหนก็ไม่รู้ ตอนนี้มีแต่ทิฟฟานี่เท่านั้นย่ะ” ผมหัวเราะคิกคัก
ผมกับไอ้ชาติชาย เอ๊ย ทิฟฟานี่เป็นเพื่อนร่วมคณะกันครับ เห็นมันอย่างนี้มันเรียนเก่งขั้นเทพเลยนา ..แต่ผมกับมันไม่ค่อยสนิทกันเท่าไหร่ แค่รู้จักกันไว้แค่นั้น เผอิญว่าผมไม่อยากมีเพื่อนเป็นปลวกน่ะครับ
“ทิฟฟานี่ก็ทิฟฟานี่ ...” ผมยอมๆมันไปแล้วหันไปตั้งใจเต้นต่อ ถึงผมจะบ่นว่าบ้าบอแต่ผมก็ไม่เคยอู้จากหน้าที่เลยนะครับ หล่อแถมมีความรับผิดชอบอีกต่างหาก เพอร์เฟ็คว่ะ !
“จะว่าไปแกก็หน้าหวานเนาะ ถ้าฉันเป็นผู้ชายฉันคงจีบแกไปแล้วละ”
“แล้วตอนนี้แกไม่ใช่ผู้ชายหรอวะ ตัดไอ้นั่นทิ้งแล้วหรือไง” ผมหยุดเต้นแล้วยื่นหน้าล้อเลียนไปใกล้ๆมัน
“กวนตีน !!!”
“หะๆ แล้วแกว่าฉันหน้าหวานตรงไหนวะ ออกจะหล่อเหลาเอาการขนาดนี้” ผมพูดพลางเก๊กท่าหล่อใส่มัน มันแอบแหวะเบาๆด้วยครับ ทำไมๆ ยอมรับความจริงไม่ได้รึไง
“หวานไม่หวานก็มีผู้ชายมาจีบละวะ แย่งของกินฉันหมด”
ก็อย่างที่มันว่าครับ ผมน่ะมีเสน่ห์กับเพศเดียวกัน ผู้ชายมาจีบผมกันให้พรึบ ผมไม่ได้หลงตัวเองนะครับ แต่มันมีจริงๆ ..ส่วนเพศตรงข้ามผมยอมรับเลยครับว่าน้อยมากที่จะมีผู้หญิงส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ผม ซึ่งผมเศร้าใจนัก
“แกก็ไปบอกมันให้เลิกตามฉันสิวะ”
“ถ้ามันเลิกยุ่งกับแกก็ดีสิวะ ฉันจะได้จับกินซะให้หมด ..อุ้ย ! คุยนานละ ฉันไปก่อนละ เดี๋ยวพี่จ๊อดมาเห็น โวยวายแย่เลย” น้องทิฟฟานี่ที่รักเดินออกไปไกลริบๆ ส่วนพี่จ๊อดที่มันว่าคือรุ่นพี่ปี 4 ที่เป็นคนควบคุมดูแลกิจกรรมรับน้องครั้งนี้ ทุกคนในที่นี้กลัวพี่จ๊อดหมด ..บอกได้คำเดียว “โคตรโหดดดด”
ผมกลับมาเต้นต่อ ตอนนี้มันเป็นเพลงอะไรก็ไม่รู้ครับ เคยฟังหลายครั้งแต่ก็ยังไม่รู้จักสักที แต่ขอบอกว่าท่าเต้นล่อแหลมมากครับ ..เกิดเป็นรุ่นพี่มันลำบากเยี่ยงนี้นี่เอง
คุยมาซะนาน ลืมแนะนำตัวเองไปซะสนิท ..กระผมมีนามว่า “ริท” ครับ ผมเป็นนักศึกษาปี 2 คณะบริหารธุรกิจ อึ้งใช่มั้ยครับ ..หน้าตาอย่างผมควรเรียนแพทย์ ทันตะ อะไรเทือกๆนั้นใช่มั้ย แต่ขอโทษครับสมองผมมันยังไม่บรรลุอะไรขนาดนั้น
ทุกคนคงจะสงสัย(จะมีคนสงสัยมั้ยฟระ) ว่าทำไมผมถึงมีเสน่ห์กับเพศเดียวกัน ผมจะอธิบายให้ทุกคนได้รู้ว่า ..เพราะผมเป็นคนที่มีสรีระบอบบางมากถึงมากที่สุด ปากนิด จมูกหน่อย ตาโตๆ ผิวขาวๆ ขาสั้นๆ แขนเล็กๆ เอวบ๊างบาง ดูยังไงมันก็เพศแม่ชัดๆ ..ดังนั้นสมบัติทางกายภาพของผมมันเลยดู..เอิ่ม ! ที่วัยรุ่นๆเค้าเรียกกันว่า “เคะ” น่ะ
“ไอ้ริท ยืนเหม่อไรวะ” แว๊กกก !! พี่จ๊อดมาแล้ววว ผมทำเป็นหูทวนลมไม่ได้ยินอะไร แต่หันกลับไปเต้นต่ออย่างตั้งใจ ต้องโทษรีดเดอร์ที่ทำให้ผมต้องแนะนำตัว ผมเล่าเพลินเลยเห็นมั้ย ..งอนรีดเดอร์แล้วครับ โป้งโป้งโป้ง!
พอพี่จ๊อดเห็นผมไม่สนใจ ก็เดินไปดูแผนกอื่น ผมแอบถอนหายใจออกมาเบาๆดังเฮือก (นี่เบาแล้วใช่มั้ย) พิม เพื่อนคณะเดียวกันหันมามองผมพร้อมส่งยิ้มหวานมาให้ มันคงรู้แหละครับว่าผมสะพรึงพี่จ๊อดมาก
แว๊กก ! กิจกรรมรับน้องจบแล้วคร้าบบบ ผมละดีใจเป็นที่สุด ..แต่ยังเหลือพรุ่งนี้อีกวัน แต่ก็ไม่มีอะไรมากครับ ก็แค่อบรมน้องๆ ปลูกฝังให้รักสถาบันการศึกษา บลาๆ แค่นั้นแหละ ซึ่งในวันพรุ่งนี้ ผมแทบจะไม่มีบทบาทในกิจกรรมนี้เลยด้วยซ้ำ จริงๆผมเป็นฝ่ายบริการครับ พวกอาหาร น้ำ ของว่าง แต่ไอ้เพื่อนสนิทเวรๆทั้งหลายมันกลับผลักไสไล่ส่งให้ผมมาเต้นแร้งเต้นกา ไอ้เพื่อนนรก
“เป็นไงวะไอ้ริท ไปเต้นมาสนุกเลยอะสิท่า”
“สนุกบ้านแกอะสิไอ้กัน ..อายเด็กมัน โตเป็นควายแล้วมาเต้นท่าเด้งตูด โอ้ย ! ไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”
“ก็ไว้บนบ่าแกนั่นแหละ โห่ ! อายไรวะ เดี๋ยวมันก็มาเป็นรุ่นน้อง หรืออีกหน้าที่นึงคือทาสของเรา”
“ไอ้เลว คนเค้ามีพ่อมีแม่ ..ไอ้คนไม่มีหัวใจ”
“ใครบอกกระผมไม่มีหัวใจครับ ..คนเลวก็มีหัวใจนะเฟร้ยย เคยฟังเปล่า” ไอ้นี่มันรู้จักไปซะทุกเพลงครับ จะบอกว่ามันเป็นคนที่ร้องเพลงเพราะมากมากกกก ! ฟังแล้วจะหลับ ..มันเคลิ้มครับ เสียงมันนุ่มมาก ฟังแล้วสบายหูสวดๆ
“ที่คนร้องตาตี่ๆปะ”
“เออนั่นแหละ!”
“ว่าแต่แกอะ แผนกบริการเป็นไงบ้าง” ผมเปลี่ยนเรื่องก่อนที่มันจะไปไกลกว่านี้
“โคตรวุ่นอะ ไอ้พี่จ๊อดปล่อยน้องกินข้าวช้ามาก ไม่รู้จะทรมานเด็กมันถึงไหน แล้วแกคิดดูนะเว้ย ว่ามีข้าวกล่องเสียไปตั้งหลายกล่อง ข้าวมาส่งตั้งแต่ 11 โมง กว่าจะปล่อยน้องกินได้ตั้งบ่าย 2 อากาศก็ร้อนจะไม่ให้เสียได้ไงวะ” ไอ้กันพูดอย่างหัวเสีย ..แต่ก็นะ พี่จ๊อดเค้าใหญ่สุดดด ไม่ว่าพี่เค้าจะทำอะไรผมขัดไม่ได้หรอกครับ
“เอาน่า ๆๆ ก็เค้าเป็นรุ่นพี่นี่หว่า”
“เว้ย ! เครียดว่ะ ไปผับมั้ยริท” นั่นไง! อะไรๆก็วกเข้าผับตลอดอะไอ้กัน ..นี่มันเครียดหรือมันอยากรับประทานเครื่องดื่มอันแสนโอชากันแน่
“พรุ่งนี้มีรับน้องอีกวันอะ แกอยากไปก็ไปเหอะ ฉันกลับบ้านก่อนละกัน” ผมเดินออกมาจากคณะ แต่ในขณะที่ผมกำลังเดินอยู่ริมฟุตบาทภายในมหาวิทยาลัยเพื่อหารถกลับบ้านก็ดันเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันซะก่อน
เสียงเบรกดังทั่วทั้งบริเวณ ผมที่โดนรถเฉี่ยวถึงกับทรุดลงกับพื้น ก้นผ๊มมมม !!! ไอ้เบนซ์คันงามจอดห่างจากผมระยะนึง ..ฮึ่ย! ขับรถไม่เกรงใจอธิการบดีเลยนะ ไอ้เวรเอ๊ย ! นี่มันมหา’ลัยนะเว้ย
“ขับรถประสาอะไรวะ ..อูยยย เจ็บ!” ผมพูดพลางถ่อสังขารตัวเองให้ลุกขึ้นจากพื้น ผมลูบก้นปอยๆ กระแทกพื้นไปอย่างนั้นมันก็ต้องเจ็บสิครับ
“นายนั่นแหละเดินประสาอะไร ไม่มองรถเลยรึไง” ผมมองหน้าไอ้เจ้าของรถที่มันลงจากเบนซ์คันงามของมันมายืนอยู่หน้าผม ..โหววว โคตรหล่อเลย หน้าขาวๆ จมูกโด่งๆ มันสูงมาก แบ่งความสูงมาให้ผมบ้างก็ได้เห๊อะ ! ..แต่เวลานี้ไม่ใช่เวลามาชื่นชมมัน
“ฉันก็เดินบนฟุตบาท นายนั่นแหละเอาเบนซ์มาเสยฉัน ดีนะที่แค่ก้นกระแทกพื้น!”
“บ่นอยู่นั่นแหละ จะให้ทำอะไรก็ว่ามา ให้จ่ายค่าเสียหาย ..หรือจะให้รักษาก้นให้ครับ ^^” มันพูดประโยคสุดท้ายพร้อมทำหน้าหื่นกาม อึ๋ยย ! ผมละเกลียดสายตาแบบนี้ที่สุด
“จะ..จะบ้าหรอ ! ขอโทษสักคำอะมีมั้ย”
“โอ้ย อย่าเรื่องมากได้มั้ย”
“นี่! ฉันไม่ได้เรื่องมากนะ แต่มันเป็นมารยาทอะ หัดสะกดคำว่ามารยาทใส่หัวสมองที่มีหยักน้อยๆของนายด้วยนะ ..ไม่ขอโทษก็ไม่ขอโทษ ฉันจะปล่อยมันไป ทำบุญแก่คนไร้มารยาท” ผมสะบัดหน้าเล็กน้อยก่อนจะเดินไป ..เจ็บก้นชะมัดแต่ก็ต้องเดินนิ่งๆไปก่อน เดี๋ยวจะเสียฟอร์ม
“บ้าเอ๊ย! คิดจะด่าฉันแล้วหนีรึยังไง” ผมเดินได้ไม่นานแต่มันก็มากระชาก ย้ำครับว่ากระชากผมให้หันกลับมาหามัน
“อะไรอีกละเว้ย อุตส่าห์ไม่เอาเรื่องแล้วนะ อยากมีเรื่องรึไง” ผมก็พูดไปงั้นแหละครับ ถ้าให้ผมไปมีเรื่องกับมันจริงๆ คงไม่ต้องบอกครับว่าใครจะชนะ ...
“กล้ามากนะที่ด่าฉัน ตั้งแต่เกิดมานายคือคนแรกที่กล้าด่าฉันแบบนี้” มันตะโกนแหกปากดังลั่น คนที่เดินผ่านไปผ่านมาเริ่มหันมามองผมกับมันกันเป็นตาเดียว แกไม่อายแต่ฉันอายเว้ยย!
“บอกไมอะ จะให้ฉันดีใจรึไงที่ได้ด่านายเป็นคนแรก ..อุ้ย! จริงหรอ ฉันดีใจจังที่ได้รับเกียรติด่านายเป็นคนแรก โอ้ย! น้ำตาจะไหล” ผมแกล้งเอามือมาปาดน้ำตาทำเป็นว่าร้องไห้
“นี่คิดจะกวนฉันใช่มั้ย” มันจับข้อมือผมขึ้นมา โอ้ยยย! แต๊ะอั๋งผมยังไม่พอ ยังทำร้ายร่างกายโดยการบีบข้อมือผมแรงอีก เจ็บนะเฟร้ยยย!
“ใครกวนนายกัน”
“หึ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ฉันว่าคงต้องสั่งสอนไอ้คนที่ชอบอวดดีซะหน่อย” มันว่าพร้อมกระชากผมขึ้นรถเบนซ์ของมันไป เห้ยยย!! จะพาผมไปไหน ไม่นะ !!! ผมมีพ่อมีแม่นะ ..
“ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไอ้บ้า ไอ้โรคจิต แกจะพาฉันไปไหนนน!!” ผมนั่งดิ้นไปมาอยู่ในเบนซ์ของมัน ถีบข้าวของที่วางอยู่กระจัดกระจายไปหมด
“อยู่นิ่งเป็นมั้ยวะ ...ลิงส่งมาเกิดชัดๆ ถ้าไม่นิ่ง ฉันจะพาไปขายแถวชายแดน” ผมนิ่งครับ! ดูท่ามันไม่ได้พูดเล่นด้วยอ่า T T ผมชักจะกลัวไอ้บ้านี่ขึ้นมาซะแล้ว
“แล้วนายจะพาฉันไปไหน”
“ไม่รู้!”
“เอ้า ! นายจะพาฉันไปไหนยังไม่รู้แล้วจะขับออกมาทำไม เปลืองน้ำมันจะตาย!” ผมพูดพลางกอดอกมองออกไปนอกกระจก ..ขนาดโดนฉุดมาแบบนี้สันดานความงกของผมก็ยังไม่จางหายครับ - -
“บอกให้เงียบไง”
“นายจะให้ฉันเงียบได้ยังไงในเมื่อนายลากฉันขึ้นรถมา ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่านายจะพาฉันไปที่ไหน ฉันไม่ได้มีเวลาว่างมากพอมานั่งรถชมนกชมไม้รอบกรุงเทพหรอกนะ ฉันจะกลับบ้าน เข้าใจมั้ย!!!”
“โธ่เว้ย!! บ่นอยู่นั่นแหละ”
“รำคาญมากก็ปล่อยฉันลงสิ ! โอเค ..ฉันขอโทษ จบมั้ย? จอดรถสิ ฉันจะลง”
“จอดให้โง่สิ ! ฉันยังไม่ได้ชำระโทษที่นายด่าฉันเลยนะ”
“ก็บอกแล้วไงว่าขอโทษ ..นายควรจะสำนึกซะบ้างนะ ฉันยอมขอโทษนาย ทั้งๆที่ฉันไม่ผิดเลยแม้แต่นิด ถือว่าเป็นบุญของนายนะ รู้อย่างนี้แล้วก็ปล่อยฉันลงสิเว้ย!”
“คำขอโทษอะไรนั่นฉันไม่ต้องการ ..แล้วฉันก็จะปล่อยนายแน่ แต่.....ไม่ใช่ตอนนี้” มันไม่ว่าเปล่าพลางเหยียบคันเร่งซะจนแทบมิด โอ้ย! สงสารชีวิตตูบ้างเถอะ พ่อแก้วแม่แก้วช่วยลูกด้วย T T ลูกยังหล่อและยังไม่มีแฟน ไอแอมยังไม่อยากตายนะ
ผมนั่งอย่างหวาดระแวงมาตลอดทาง นี่มันจะพาผมไปที่ใดรึนี่ ผมนั่งรถมันมาประมาณเกือบชั่วโมงได้ ตอนนี้อากาศข้างนอกเริ่มมืดแล้ว รถก็ติด นี่กะจะพาตูนั่งรถเบนซ์เที่ยวรึไงคร้าบบ - -
“นี่นายจะพาฉันไปไหน”
“พาไปข่มขืนมั้ง” มันพูดหน้าเข้ม เห้ยยย! บอกฉันสิว่าพูดเล่น แง๊ T T ผมไม่อยากมีคู่ชีวิตเป็นเพศเดียวกันนะ
“ไม่ต้องทำหน้าเหมือนอมขี้ขนาดนั้นหรอก ถ้าให้ฉันข่มขืนนาย ฉันไปทำกับต้นมะขามคงจะสนุกกว่า” อ้าว ! ไอ้เวรนี่ดูถูก ...ของแบบนี้มันดูภายนอกอย่างเดียวไม่ได้เฟ้ย (ตกลงยังไง) ...
“ชิ ! ..ไหนบอกจะชำระโทษ ไหนละโทษ พาฉันมานั่งตากแอร์รถนายชมกรุงเทพมหานคร รถก็ติดชิบเป๋งเนี้ยนะ”
“พูดอยู่นั่นแหละ หุบปากดิ๊”
“ทำไม ๆๆ เก่งจริงก็ฟังฉันพูดต่อไปให้ได้ดิ โธ่เอ๊ย! เห็นฤทธิ์ฉันแล้วทนไม่ได้รึไง จับผิดตัวแล้วไอ้น้อง !!! หึหึ”
“เออ ! ฉันก็ชักจะหมดความอดทนแล้วเหมือนกัน บอกให้หุบปากก็หุบปากสิวะ พูดภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง” ไอ้ตี๋ทำโหด คิดว่าจะกลัวรึไง แบร่ๆ ! ;P
“เผอิญว่าภาษาคนไม่ได้เรียนมา เรียนมาแต่ภาษาคนหล่อ ฮิ้ววว!” ผมพูดเอง ชงเองครับ ..ก็อยู่กันสองคน หวังจะให้ไอ้ตี๋ชงก็คงไม่ได้
“เฮอะ!”
“แล้วนายจะพาฉันไปไหน ..เห็นขับรถชมกรุงมาได้เกือบชั่วโมงแล้ว ถ้าสมองนายประมวลข้อมูลช้า ไม่สามารถคิดได้ว่าจะพาฉันไปทำโทษที่ไหนละก็ ...ฉันแนะนำให้นายปล่อยฉันกลับบ้านซะ แล้วชาติหน้าตอนบ่ายสามโมงของวันเข้าพรรษาค่อยมาบอกฉันแล้วกันนะ ลาละ จุ๊บ!” ผมแกล้งส่งจูบให้มันและหวังจะใช้เวลาช่วงรถติดเปิดประตูออกไป
“ปลดล็อคด้วย!” มันปลดล็อคให้ผมอย่างว่าง่าย โดนผมด่าไปจนสมองชาแล้วรึไง ทำไมเวลาจะปล่อยก็ปล่อยง่ายแท้วะ (แล้วมันไม่ดีรึไง?)
ผมเปิดประตูออกไปแต่ยังไม่ทันจะก้าวพ้นประตู ก็มีแรงกระชากให้ผมกลับเข้ามาในรถอย่างแรง โชคดีที่ผมหลบหัวทัน ทำให้หัวไม่ไปชนกับขอบประตูรถเข้า แต่ที่โชคร้ายคือไอ้บ้าหน้าตี๋มันดึงผมเข้ามาแล้วเอาริมฝีปากมันทาบทับลงบนริมฝีปากผมอย่างรวดเร็ว มันเอื้อมตัวไปปิดประตูรถฝั่งผม ทั้งๆที่ปากมันยังติดอยู่กับผม แน่นอนว่าไอ้รถที่จอดอยู่ข้างๆมันต้องเห็นแน่นอน แว๊กกก !! จูบแรกผมเสียให้กับผู้ชาย !!!!
ผมดิ้นแรงๆพลางทุบอกมัน แต่มันกลับกัดริมฝีปากล่างผมอย่างแรง โอ้ยเจ็บ! แต่ผมก็ยังไม่หยุดดิ้นครับ มันเลยพยายามเอาลิ้นอันโสมมของมันแทรกเข้ามาในโพรงปากของผม แต่มีรึผมจะยอม ผมพยายามปิดปากเพื่อไม่ให้มันนำลิ้นของมันเข้ามาได้ ..ดูมันจะขัดใจเล็กน้อยที่ผมต่อต้านมัน มันบีบคางของผมอย่างแรงเพื่อให้ริมฝีปากเผยอออก แล้วก็เป็นอย่างที่มันหวังครับ ทันทีที่ริมฝีปากของผมเผยอออกมันก็แทรกลิ้นของมันเข้ามาในปาก มือของไอ้ตี๋ไล้หลังผมไปทั่ว
“อื้มมม” ไอ้ตี๋ครางอย่างพอใจ ซึ่งต่างจากผมที่ยังคงดิ้นไม่หยุด โอ้ย ! ตูอยากจะร้องไห้ออกมาเป็นเสียงเพลงโอเปร่า
จากจูบที่หยาบกระด้าง ไร้ซึ่งความอ่อนโยน ค่อยๆแปรเปลี่ยนเป็นจูบที่หอมหวาน แรงที่ผมทุบอกมันเมื่อครู่กลับหายไปหมด ผมดันหน้าอกมันไว้เพื่อยันร่างกายไม่ให้อ่อนลงไป ..ผมปล่อยให้ไอ้ตี๋จูบผมได้อย่างสบาย ทั้งๆที่ภายในใจผมต่อต้าน แต่ร่างกายกลับตอบสนองมันอย่างดี
“อื้อออ” ผมเริ่มเป็นฝ่ายครางบ้าง ...ตาของผมค่อยๆหลับช้าๆ จูบอ่อยอิ่งยังคงดำเนินต่อไปไม่หยุด ผมไม่รู้ว่านานเท่าไหร่ ..แต่ผมบอกได้คำเดียวว่า ผมรู้สึกดีกับจูบแรกครั้งนี้ ! ..บ้าบ้าบ้า!! ผมมันบ้าไปแล้ว
= = = = = = = = = =
ร้อนแรงดีจริงคู่นี้ มาตอนแรกก็จูบกันเลย บ๊ะ !! อะไรจะขนาดนั้น
จะเรียกเค้าว่าไรเตอร์หรือเมบีก็ได้นะ (จริงๆไม่ได้ชื่อเมบีหรอก แต่เรียกเก๋ๆ)
อ่านแล้วเม้น,โหวตกันด้วยนะคะ เมบีมือใหม่หัดแต่ง
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านเด้อออ :)
ความคิดเห็น