ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    กิจกรรมที่สอง "กิจกรรมแต่งฟิคเวียน~"

    ลำดับตอนที่ #11 : ตอนพิเศษ - เรื่องราวของชายปริศนา และ ผู้มาใหม่

    • อัปเดตล่าสุด 6 ก.ย. 53



                    ไพต์ทรุดตัวลงนั่งตรงข้ามเด็กสาว เขาถอดฮู้ดสีดำพาดไว้กับพนักเก้าอี้ หันมาจ้องโชด้วยสีหน้าเรียบๆ

                    มีอะไรก็ว่ามา

                    ฉันอยากให้นายร่วมมือกับฉัน ยังไงเราก็มีเป้าหมายเดียวกัน ช่วยกันก็ไม่เสียหายเด็กสาวผมดำตอบทันที เธอก็จ้องหน้าเขาเอาเรื่อง ไพต์ขมวดคิ้ว

                    ...แท้จริงแล้ว เขามีเป้าหมายอะไรกันแน่...

                    เราไม่ได้มีเป้าหมายเดียวกั...

                    ฉันต้องการแก้แค้นแอล ทำทุกอย่างให้เขาเจ็บปวด นายก็อยากทำอย่างนั้นเหมือนกัน ไม่ใช่รึไง คนของฉันน่ะจับตาดูนายมาตั้งนานแล้ว

                    ที่เขารู้สึกเหมือนมีใครสะกดรอยเป็นเพราะอย่างนี้เอง

                    แต่...

                    แล้วฉันก็เห็นทางแก้แค้นแล้วด้วย ยัยมาเรียอะไรนั่น...

                    โครม!

                    เด็ก หนุ่มลุกพรวดจนเก้าอี้หงายล้มไปข้างหลัง เขาเอามือเท้าไว้กับโต๊ะ โน้มตัวไปข้างหน้า พูดกับเธอด้วยเสียงและสีหน้าที่เย็นชา ทว่ากดดัน...น่ากลัวราวกับจะหยุดหายใจได้

                    อย่าแม้แต่จะคิด ฉันไม่ยอมให้เธอทำอะไรมาเรียแน่ชายปริศนาก้มลงเก็บฮู้ด ก่อนจะใส่มันเหมือนปกติ แล้วร่างของเขาก็ค่อยๆเลือนรางหายไปในที่สุด

     

                    ไพต์มาปรากฏตัวอีกทีที่ตรอกเล็กๆอันเต็มไปด้วยกองขยะ(?) เขาถอดฮู้ดออกอีกครั้ง เริ่มคิดว่าควรจะทำตัวให้เหมือนมนุษย์สักที ในเมื่อที่ผ่านมาเขาก็เอาแต่แวบไปแวบมา หลายคนแม้กระทั่งมาเรียคงเข้าใจไปแล้วว่าเขาเป็นผีหรือวิญญาณ มันเป็นเรื่องน่าเศร้าพอสมควรทีเดียวสำหรับเด็กอายุ 17 ที่อยู่ตัวคนเดียว

                    คิดได้อย่างนั้นเด็กหนุ่มก็หัวเราะกับตัวเอง เดินออกมาจากตรอก เลี้ยวเข้าประตูตึกคอนโดมิเนียมหรูใจกลางเมือง

                    พอไขกุญแจเข้าห้องตัวเองมาได้แล้ว เขาก็เริ่มรู้สึกว่า

                    ...ยืนอยู่แปบเดียว กลิ่นขยะติดมาเลยอ้ะ! =[]=…

                    บางทีมาโผล่ตรงนั้นคงไม่ใช่ความคิดที่ดีเท่าไหร่ ว่าแล้วเด็กหนุ่มก็คว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำไป

     

    *************************************************************

     

                    เซนจางงง~”เพ ซิสทำท่าเคลิบเคลิ้มขณะมองดูรูปเด็กหนุ่มผมสีส้มแดงในหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ที่ได้มาจากการแอบถ่าย ผู้โดยสารบนเครื่องบินหลายคนมองเขาอย่างงงงวย แต่เด็กหนุ่มผมฟ้าก็หาได้สนใจไม่  ยิ่งไปกว่านั้นเขายังออกอาการเอาแก้มไปถูๆกับหน้าจอโทรศัพท์เมื่อครู่ ยิ้มคนเดียวอีกต่างหาก

                    ผมจะไปหาเซนจังละน๊า~ >[]<~”

                    ผู้ โดยสารคนอื่นสะดุ้งกันเป็นแถบ หันไปมองเก้าอี้บ้าง มองออกนอกหน้าต่างบ้าง มองเท้าตัวเองบ้าง ด้วยความเข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าบางทีเด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลานั่นอาจเป็น พวกสติไม่สมประกอบก็เป็นได้

                    ยังเด็กอยู่แท้ๆ ไม่น่าเป็นแบบนี้เลย...

                    เพซิสรู้สึกเหมือนโดนประโยคทำนองนี้กระเด็นมาตบหน้า ก็บ่นหงุงหงิง

                    อะไรกัน ก็เซนจังน่ารักเกินไปนี่นา -3-

                    ...มีหน้ามาโทษคนอื่นอีกเนอะ...

                    ประโยค ประชดตามมาเป็นระลอกสอง เด็กหนุ่มทำหน้าอึ้งๆ สงสัยว่าตนมีความสามารถอ่านใจคนได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่นึกดูดีๆแล้วก็พบว่าพวกเขาแสดงออกทางสีหน้าชัดเจนขนาดแปลเป็นคำพูดได้ ต่างหาก  หลังจากแปลความหมายออก เจ้าตัวก็พรวดพราดลุกยืนขึ้น ตะโกนลั่น

                    พวกคุณจะเอาอะไรกับผมกันเล่า! เลิกพูดแบบนั้นซะทีเถอะ!”

                   

                    เงียบ ไร้สัญญาณตอบรับ...

                    จะว่าไป นอกจากเรายังไม่มีใครพูดอะไรเลยนี่หว่า...

                    เพล้ง!

                    เอ ฟเฟคหน้าแตกดังกระหึ่มทั้งห้องโดยสารบนเครื่องบินชั้นเฟิร์สคลาส บ่งบอกถึงฐานะทางการเงินอันไม่ธรรมดาเป็นอย่างดี พร้อมด้วยเครื่องเสียงสเตอริโอเซอร์ราวน์รอบทิศทางก้องไปมาในหัวเด็กหนุ่ม เหมือนเสียงสะท้อน

                    หลังจากนั้นเหล่าผู้คนที่มีฐานะการเงินอันไม่ธรรมดาก็สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้อสันนิษฐานของพวกเขามิได้มีส่วนเกินจริงแต่อย่างใด

                    /(O[]O)\

                    เพซิสนั่งเอามือกุมหัว ตาเบิกโพลง อ้าปากค้าง อันเป็นผลกระทบจากเอฟเฟคดังกล่าวจนกระทั่งถึงจุดหมายปลายทาง

     

    *************************************************************

     

    หลังอาบน้ำเสร็จ ไพต์ก็หยิบผ้าขนหนูผืนเล็กมานั่งขยี้ผมตัวเองอยู่บนเตียง คิดไปเรื่อยๆ พลันเรื่องเมื่อ 7 ปีก่อนก็ผุดขึ้นมาในหัวราวกับดอกเห็ด(?)

                    ไพต์...จะกลับมา...จะกลับมาใช่ไหม...กลับมาหามาเรียนะ?”

                    เด็กหญิงผมสีขาวยาวสยายเอ่ยด้วยเสียงสั่นๆ ดวงตาสีแดงกลมโตจ้องมาที่เขาน้ำตาคลอ กุมมือเด็กชายแน่น...แน่นจนไพต์ทำหน้าเหยเก แต่ก็ฝืนยิ้ม และรีบเปลี่ยนมากุมมือเธอแทนก่อนที่กระดูกข้อมือเขาจะบอกลาเจ้าของมัน เขาพูดด้วยความมั่นใจ สัญญากับเธอและตัวเอง เสียงมั่นคงเหมือนมันไม่ได้เป็นเพียงสัญญาในวัยเด็ก หากเป็นคำสาบานชั่วชีวิต

                    ครับ ไพต์จะกลับมาที่นี่ กลับมาหามาจังแน่ๆ

                    ชายปริศนาจำได้ว่าตอนนั้นเขาอายุ 10 ขวบเท่ามาเรีย แต่ไอคิว 180 ทำให้มีองค์กรหนึ่งที่มาพาตัว...ลักพาตัวเขาในขณะที่พ่อแม่ไม่อยู่ เพื่อให้เขาไปทำงานกับองค์กร แต่น่าแปลก ตอนที่เด็กชายขอไปลาเพื่อนคนในองค์กรกลับอนุญาต ไม่น่าใช่พฤติกรรมของพวกลักพาตัวเลยแม้แต่น้อย เขาได้พบกับมาเรียตอนนั้นเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะหายตัวไป 7 ปี

                    สภาพเขาตอน 10 ขวบ ไม่น่าจำเลยสักนิด แว่นสายตาหนาเตอะ ตัวผอมลีบแบบพวกขาดสารอาหาร กับผมสีดำชี้ฟูยุ่งเหยิงเพราะไม่ได้ใช้ซัลซิ – มีดีแค่ฉลาดกับบ้านรวย นิสัยก็ไม่ใช่ไม่ดี แต่ก็ค่อนข้างเก็บตัวเนื่องจากโดนเพื่อนที่โรงเรียนแกล้งเอาบ่อยๆ มีแต่มาเรียที่สนใจเขาและเขาเองก็ไม่อยากจากเธอไปไหน คงได้แต่ภาวนาว่าจะมีสักคนที่สามารถปกป้องดูแลเธอได้ อย่างน้อยก็จนกว่าเขาจะกลับมา

                    เขาทำงานกับองค์กร(ที่ตอนแรกนึกว่าเป็นพวกผิดกฎหมายลักพาตัวเด็กเรียกค่าไถ่ เพราะบ้านเด็กชายค่อนข้างมีฐานะ แต่ก็ไม่ใช่)โดยการตามหาตัวเด็กๆและผู้ใหญ่ที่มีความสามารถมากกล่าคนทั่วไปไม่ว่าด้านใดก็ด้านหนึ่ง พวกเขาเป็นกลุ่มโอกาสเสี่ยงที่จะถูกชักจูง หรือบังคับให้นำความสามารถนั้นไปใช้ในทางที่ผิด องค์กรจะช่วยอบรมด้านต่างๆ พัฒนาศักยภาพ เพิ่มทักษะพื้นฐาน ความสามารถพิเศษ ฝึกฝนร่างกายและศิลปะป้องกันตัว กรณีที่ช่วยงานองค์กรก็จะได้ค่าจ้าง ในส่วนของเขาก็ทำนู่นทำนี่ไปด้วย ติดต่อพ่อแม่เป็นครั้งคราว พวกท่านเข้าใจ บอกว่ายังไงก็ให้ติดต่อไปเรื่อยๆเพราะพวกท่านก็คิดถึงและเป็นห่วงเขา พูดถึงเวลา 7 ปีที่เสียไป โรคสายตาสั้นถูกรักษาหายด้วยเทคโนโลยีขององค์กร จึงไม่ต้องใส่แว่นสายตาอีก ผลจากการฝึกฝนศิลปะป้องกันตัวเกือบทุกรูปแบบ คือจากร่างกายผอมแห้งเป็นสมส่วน ผมเงางามตรงสลวยเพราะซัลซิ  (*- -) พร้อมด้วยความสามรถพิเศษน่าทึ่งหลายอย่าง ...แต่ก็นั่นแหละ มารู้ตัวอีกทีเขาก็กลายเป็นพวกหุ่นดี หน้าตาดี บ้านรวย ไอคิว 200 (มาจากไหนไม่รู้อีก 20) บวกกับเสื้อฮู้ดหายตัวขององค์กร(ที่ทำให้ห่างไกลความเป็นคนมากขึ้น) ไปเสียแล้ว...

                    เขาถูกปล่อยตัวก็ตอนองค์กรมั่นใจว่าเขาจะอยู่ได้โดยไม่ถูกหลอกใช้ และมีคุณธรรมมากพอที่จะไม่ทำชั่วเสียเอง เด็กหนุ่มบอกพ่อแม่ว่าจะขออยู่ที่คอนโดในเครือธุรกิจของบ้านแต่จะไปเยี่ยมพวกท่านบ่อยๆ ซึ่งพ่อแม่เขาก็โยนคอนโดห้องหรูมาทับเขาจนเละ บางทีไพต์ก็สงสัยในชะตาชีวิตตนเองช่วงนี้  แต่มันก็ไม่สำคัญไปมากกว่าการที่เขาเจอตัวมาเรียแล้วและดีใจที่พี่ชายเธอมีกำลังอำนาจมากพอจะปกป้องเธอได้ ทั้งยังเพื่อนๆที่โรงเรียนของเจ้าตัวก็ดูไม่น่าเลวร้ายอะไร...ดีเสียด้วยซ้ำ ผู้ชายผมเงินตาเงินนั่นก็ดูไว้ใจได้ คงจะเป็นเด็กเก็บตัวคนหนึ่งนอกจากเขาเมื่อ 8-9 ปีที่แล้วแถมเด็กสาวก็สนใจหมอนั่นมาก(ท่าทางเธอจะชอบของแปลก) แอล หรือ เจ้าชายเดียวดาย ตอนนี้กลับมีเพื่อนๆมากมายและคนที่เขาชอบเป็นตัวเป็นตน จากที่ไพต์ตามดูในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมานี้ก็พบว่าเด็กหนุ่มผมเงินเป็นที่กล่าวขวัญไม่เบา จากทั้งอาจารย์(เรื่องผลการเรียน กีฬา และ ศิลปะนันทนาการที่ดีเยี่ยม) จากสาวๆ(เรื่องบุคลิกเจ้าชายน้ำแข็ง  และ สรรพคุณแสนเพอร์เฟ็กต์) จากหนุ่มๆ(เรื่องแฟนที่คลั่งไคล้เขากับหมั่นไส้ในหลายๆเรื่อง) ...แอลมีดีไม่น้อยทีเดียว ดูท่าจะจริงใจและจริงจังกับมาเรีย มีคุณสมบัติมากพอจะอยู่เคียงข้างเธอ กระนั้นเขาก็ไม่วายรู้สึกได้จากสัญชาตญาณ

                    ...มีใครกำลังคิดปองร้ายมาเรีย...

                    ว่าแล้วเขาก็ตามสังเกตราวกับสตอล์กเกอร์ มาคิดอีกที มันน่าจะมีวิธีที่ดีกว่านี้...ดีกว่าและสามารถตามดูแลคนสำคัญของเขาแบบเปิดเผยตัวได้ด้วย...

                    ไพต์หยุดเอาผ้าขนหนูขยี้ผม มานั่งกุมหัว กุมไหล่ กุมท้องแทน

                    ...โอ๊ย...มึน เราคงจะง่วงมากละมั้งเนี่ย...

                    ...อ๊ายยย...เมื่อยแขน ท่าจะขยี้ผมนานเกินไป...

                    ...แอร๊ยยยยย...หิวชะมัด ตั้งแต่เที่ยงแล้วยังไม่ได้กินอะไรเลย...

                    เด็กหนุ่มลุกไปเปิดตู้เย็นหาอะไรกิน พร้อมหาวเซ็กซี่(?) แต่แล้วก็หยุดชะงัก เขามองผักกาดขาวในมือ หลุดอุทานออกมา

                    “เฮ้ย...นมหมดอายุ

                    ...

                    ไม่ใช่!

                    “น้ำไม่ไหล ไฟดับ

                    ...

                    แย้กกกจะบ้าเรอะ!

    ...

                    ส้วมตัน คันขา กาบินผ่าน

                    ไปกันใหญ่แล้วว้อยยย!!!

                    “งั้นอะไรละเฟร้ยยย!!!”

                    แกท่องบทมารึเปล่าหา!

                    ก็ไปเรียนโรงเรียนเดียวกันกับมาจังเลยไง!”

                    เออ! นั่นแหละ

     

                    จากนั้น 2 วันต่อมาหลังจากโศกนาฏกรรมในบ้านมาเรียจบลง เราก็จะได้เห็นหน้าตา และปฏิกิริยาต่างกันไปของเด็กนักเรียนชั้น ม.ปลาย ปี 2 ห้อง A กลุ่มหนึ่ง

                    หน้าตาประหลาดใจของรูเซีย

                    หน้าตาตกใจของมาเรีย

                    หน้าตาสนุกสนานของเซียร์

                    หน้าตาสงสัยของแอล

     

                    และ...หน้าตาพะอืดพะอมของเซน...

                    วันนี้ครูจะแนะนำพวกเธอให้รู้จักนักเรียนใหม่ 2 คนนะจ๊ะ พวกเขาข้ามาเรียนกลางเทอม ยังไงก็ฝากพวกเธอช่วยเหลือเขาด้วย... นี่ ’ไพต์ กับ เพซิส จ้ะ

                    “กรี๊ดดดดดดดด!!!~ หล่อทั้งคู่เลย~”

                    เธอ 2 คนก็แนะนำตัวกับเพื่อนๆซะนะ

                    ผมไพต์นะครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ฝากตัวด้วยครับทุกคน ^ ^” เด็กหนุ่มผมดำหันไปพูดกับเพื่อนในห้องด้วยยิ้มสดใสพิฆาตใจสาว

                    เพซิสคร้าบบบบเพิ่งกลับจากต่างประเทศ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยครับ~ >w<”เด็กหนุ่มผมฟ้าทำหน้าแอ๊บแบ๊ว จ้องเซลิออนด้วยสายตาหวานหยาดเยิ้มปานมิต ผล(น้ำตาล...)ทั้งโรงงาน

                    ฝากหัวใจด้วยก็ได้นะค๊าาา สองหนุ่ม

                    อ๊ายยยย น่ารักจนทนไม่ไหวแล้ววว

                    หล่อลากใจอย่างนี้ มีแฟนยังจ๊ะ~”

                    ....

     

                    หลังโดนรุมโทรมจน(สาวๆ)พอใจแล้ว นักเรียนใหม่ทั้งสองคนก็ตรงมาที่กลุ่มของเหล่าโมเดลตัวอย่างอารมณ์ข้างต้น มาเรียมองไพต์อย่างดีใจ  ผิดกับเซนที่ทำหน้า’ หมดสิ้นแล้วชีวิต’ ตั้งแต่แวบแรกที่เห็นเพซิส

                    พ...ไพต์? ไพต์จริงๆใช่มั้ย...

                    ครับ ไม่ได้เจอกันนานนะครับ มาจัง ^ ^”

                    ทั้งสองโผเข้ากอดกันอย่างอาลัย เอ้ย! รักใคร่(มันจะไพต์มาเรียให้ได้ใช่ไหม) ทันใดนั้น เด็กหนุ่มผมเงินก็เริ่มปล่อยรังสีอำมหิตและจิตสังหารอย่างต่อเนื่อง

                    “เซนจางงงง~”

                    อะ...อ่อก! ...พ...เพ...เพซิส แอ้ก!!!”

                    เซนมองหน้าเด็กหนุ่มผมฟ้า ทำหน้าประมาณนี้ >>> (=[]=)||| ก่อนจะชักกระแด่ว แน่นิ่งไป และแล้วเด็กหนุ่มผมเรืองแสงก็จากโลกไปอย่างสงบด้วยพลังรังสีแห่งรักจากคนตรงหน้า...เอวัง

                    เซน...เป็นอะไรรึเปล่าวะ 555เซียร์เข้าไปพยุงเพื่อนเหมือนเป็นห่วง แต่จากอาการหัวเราะนั่น ดูก็รู้เลยว่ากำลังฮามากกว่า

                    อ่อกยะ...ยังไม่ตายเฟร้ย... เซนที่อยู่ในกรณีเดียวกับโกคุเดระตอนเห็นหน้าเบียงกี้ตอบกลับ แสดงถึงพลังชีวิตอันน้อยนิด...

                    ผมคิดถึงมาจังมากนะครับ

                    ฉันก็คิดถึงไพต์นะคะ

                    ( - -)+++++

                    555555555555555

                    อะ...อ้วกกกกกกก

                    เซนจางงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง~”

     

    ขอจบตอนพิเศษด้วยประการฉะนี้...

    **************************************************************************************************
    BananaChoco

    

    Selion - ผมไม่ได้เห็นเพซิสเป็นของร้อนนะ!! ||orz (แต่เห็นวิ่งเข้ามาหาแล้วอยากเอาเท้ายันต่างหาก...)

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×