คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 8 - คฤหาสน์หลังใหญ่กับความลึกลับ
“เมื่อไหร่จะเปิดประตูให้ซักทีน้า~” เซียร์เริ่มบ่นอุบอิบเนื่องจากยืนคอยอยู่นานแสนนาน แต่กลับยังไม่มีใครเดินออกมาเปิดประตูให้ซักคน ไอ้ครั้นจะปีนเค้าไป คฤหาสน์หลับใหญ่ข้างหน้าก็ใช่ว่าจะน่าปีนเอาซะเลย...
“โอ๊ะ มีคนเดินมาแล้วแฮะ”เซนชี้เข้าไปยังข้างในรั้วคฤหาสน์ ซึ่งก็มีคนเดินมาจริงๆนั่นแหละ สาวน้อยในชุดเมดกำลังเดินตรงมาทางประตู ทุกคนต่างพากันถอนหายใจเมื่อในที่สุดก็มีคนในคฤหาสน์มองเห็นเราซักที
“พวกคุณเป็นใคร มีธุระอะไรที่นี่คะ”เจ้าหล่อนถามอย่างสุภาพ...ผ่านทางจอมอร์นิเตอร์ที่ติดเอาไว้ตรงประตูรั้ว …
‘เวรกรรม มีมอนิเตอร์นี่หว่า’
นี่อาจเป็นความคิดของใครหลายๆคนที่มัวแต่ยืนเอ๋ออยู่หน้าประตูอยู่ได้ตั้งนานสองนานโดยที่ไม่กดมอร์นิเตอร์หรือกริ่งบอกเจ้าบ้านเสียก่อน (อเนถอนาถยิ่งนัก)
“เรามาหามาเรีย มาเยี่ยมเธอ เห็นก่อนหน้านี้เธอรีบกลับบ้านกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไป” แอลพูดตอบแทนหลายๆคนที่มัวแต่ยืนกุมขมับ สาวใช้ในชุดเมดคนนั้นตอบกลับมาประมาณว่าให้ยืนรอสักครู่ ก่อนที่ประตูตรงหน้าจะค่อยๆเปิดออก เผยให้เห็นคฤหาสน์หลังใหญ่ที่มองได้อย่างเต็มตา...
“ยินดีต้อนรับค่ะ”
‘มันบ้านหรือวังวะเนี่ย!!’
สาวน้อยร่างเล็กมองผ่านหน้าต่างลงมา ดวงตาสีแดงเลือดของเธอพยายามเพ่งพินิจบุคคลที่ผ่านเข้ามายังประตูบ้าน คุ้นตา ความรู้สึกที่ผ่านเข้ามายังสมอง
“พวกแอลนี่นา!!” เจ้าหล่อนเอ่ยออกมาอย่างตกใจเล็กน้อย ระบบรักษาความปลอดภัยของพี่ แย่แล้ว แอลกับพวกรูเซียจะผ่านเข้ามาได้มั้ยนะ พี่ของเธอต้องไม่เชื่อแน่ๆว่าพวกนั้นเป็นเพื่อนๆของเธอ ทำยังไงดี...
“นึกออกแล้ว!”
“เอ่อ รูเซีย มาเรียนี่เป็นพวกเจ้าหญิง เชื้อพระวงศ์อะไรเทือกนี้รึเปล่า? ทำไมบ้านใหญ่โคตรเงี่ย!!” เซนเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงกึ่งประชดประชันกึ่งจะทึ่ง ดวงตากลมโตสีเพลิงมองสำรวจยังคฤหาสน์ตรงหน้าด้วยความใคร่รู้เป็นพิเศษ ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างมีเลศนัยน์
“เซียร์ นายว่าถ้าเราเก็บรูปปั้นเล็กๆที่วางประดับตามทางเดินไปขายจะได้เงินซักตัวละเท่าไหร่กัน...”
ผัวะ!!
เสียงแห่งความประทุษร้ายดังขึ้น ผู้ถูกประทุษร้ายเอามือกุมหัวซึ้งโดนตบอย่างแรงคลอไปกับเสียงโอดครวญ ซึ่งฟังแล้วให้ความรู้สึก ‘สมน้ำหน้า’ มากกว่าจะนึก ‘สงสาร’ ยังไงชอบกล
“ฉันพูดอะไรผิดกัน! แค่ถามเองนะ!!” เซนเอ่ยถามน้ำตาคลอ (เล็กน้อย) อันเนื่องมาจากความเจ็บที่ได้จากฝ่ามือของคนตรงหน้าทั้งสาม ให้ตาย! ไม่มีใครคิดจะออมมือมั่งเลยรึไงกัน!
“หมั่นไส้ว้อยย พูดอะไรไม่รู้จักดูทิศลม รู้มั้ยตอนนี้ทุกคนเค้ากำลังห่วงมาเรียกันอยู่น่ะห๊า!” เซียร์ตะโกนใส่หูเซลิออนดังๆ เป็นเหตุให้ตัวแสบประจำกลุ่มเอามือที่กุมหัวอยู่ลงมาปิดหูแทน
“เห็นเครียดๆกันนี่นา..ไม่เล่นแล้วก็ได้” เจ้าตัวว่าพร้อมก้าวสวบๆเดินนำหน้าไปอย่างอารมณ์เสีย
“เซนระวัง!!”
“อะระ...ว๊าคคค!!”
จู่ๆพื้นตรงหน้าที่เคยเรียบสนิทกลับยุบครืนลึกลงไปเป็นกิโลๆ จนมองเห็นแต่สีดำ เซนซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ที่สุดถึงกับเข่าอ่อน รู้สึกขาไร้ซึ่งแรงไปชั่วครู่จนจากที่ยืนอยู่กลายเป็นนั่งพับเพียบอย่างเรียบร้อย...
“เอ่อ...คือ.....”เซนหันหน้ากลับมาเป็นเชิงถามทุกคนว่าจะเอาไงต่อ ทุกคนมองหน้ากันเชิงจะปรึกษา เว้นแต่แอล ที่ยืนกอดอกคิ้วขมวดราวกับกำลังใช้ความคิด
“เดินอ้อมมั้ย...คงไม่ไกลนักหรอก”รูเซียเสนอความเห็น เจ้าหล่อนมองลงไปยังเหวลึกข้างหน้าที่เคยเป็นทางเดินต่อๆไปมาก่อนแล้วกะพริบตาปริบๆ ลึกแฮะ
“บ้านนี้เค้าสร้างอีท่าไหนหว่า ไปสร้างทับเอาตรงจุดเคลื่อนแผ่นทวีปเอาพอดีรึไงมันถึงได้พังครืนลงไปไม่เป็นท่าอย่างนั้นน่ะ”เซียร์เอ่ยขึ้นลอยๆพลางฉุดเซนที่มัวแต่นั่งพับเพียบ(เพราะลุกไม่ขึ้น)ขึ้นมาด้วย รูเซียจึงได้แต่ยิ้มน้อยๆแล้วประเคนมะเหงกให้เซียร์ไปหนึ่งที
“มันไม่ใช่เรื่องที่นายควรจะรู้เลยนะ ที่นายควรจะรู้แล้วควรจะทำก็คือหางทางเดินต่อไปต่างหากล่ะ!”
“เดี๋ยว...”ชายหนุ่มผู้พูดน้อยที่สุด(มั้ง)เอ่ยขึ้นหลังจากที่ผ่านการใช้ความคิดมาซักพัก แอลเดินตรงไปยังเหวลึกที่เพิ่งพังถล่อมลงไปไม่นาน และเดินผ่านไป...จนเหมือนเหยียบอากาศ!!
“เฮ้ยยย!!” ผู้ร่วมเดินทางทั้งสามอุทานขึ้นมาพร้อมๆกัน ไหงจู่ๆทางที่ไม่ควรจะเดินได้มันกลับเดินได้ขึ้นมาซะอย่างงั้นล่ะ!
“มันเป็นภาพลวงตา...”แอลเอ่ยสั้นๆก่อนจะเดินตรงต่อไป เซน เซียร์ รูเซียร์มองหน้ากันอย่างงงๆก่อนจะเดินตามไป...แบบเหยียบอากาศไปอ่ะนะ
ทั้งสี่เดินตรงไปเรื่อยๆจนได้พบประตูบานใหญ่มหึมาสีสนิม ซึ่งประตูใหญ่บานนั้นได้มีแม่น้ำไหลเชี่ยวกรากพัดผ่านตลอดเวลา...
“ฝั่งโน้นมีมอนิเตอร์ปลดล็อคประตู.. ต้องมีซักคนที่ว่ายน้ำข้ามไปปลดล็อคประตูให้เปิดลงมาเป็นสะพานทอดให้เราที่เหลือข้ามไป...”เซียร์เอ่ยขึ้นพลางมองไปยังมอนิเตอร์หน้าจอยักษ์ที่อยู่อีกฝั่ง ว่า
”แต่แม่น้ำเชี่ยวกรากขนาดนี้ใครจะข้ามไปล่ะ อีกอย่าง คนที่ใช้คอมเก่งๆน่ะมันมีซะที่หนะ...”รูเซียชะงักคำพูดก่อนที่ทุกสายตาจะจ้องไปยังเซนที่กำลังหาวหวอดๆอย่างได้ที่ ตาปรือๆนั้นหันกลับมามองทุกคนที่จ้องมายังตนเองก่อนจะเอียงคอสงสัยเล็กน้อย เป็นเชิงว่า ‘มองมาที่ฉันทำไมกัน’
“เซน นายว่ายน้ำเก่งมั้ย?”รูเซียเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อย มือซ้ายแตะบ่าเซนอย่างเบามือ และตามด้วยมือขวา...
“เอ๋...ก็ว่ายได้อ่ะนะ ว่าแต่มีอะไรหรอ จู่ๆก็ถามขึ้นมา...”
“นั้น...ไปปลดล็อคประตูที่อยู่ฝั่งโน้นทีนะยะ!!” พูดไม่ทันจบประโยครูเซียก็ผลักร่างเล็กๆของเพื่อนร่วมการเดินทางลงไปยังแม่น้ำอันแสนเชี่ยวกรากข้างหน้าอย่างหน้าตาเฉย ทำเอาร่างที่ไม่ทันตั้งตัวไหลไปตามน้ำและแทบหาอะไรคว้ารั้งชีวิตไว้ไม่ทัน โอ้วว โขดหินช่วยชีวิต
“ยัยผู้หญิงบ้า ยัยผู้หญิงไร้จิตใจ ยัยผู้หญิงเฮงซวย! พูดดีๆก็ยอมลงมาแล้ว ดันผลักลงมาแบบนี้มันน่าช่วยมั้ยเนี่ย!”เซนบ่น(กึ่งตะโกน)เสียงดัง ก่อนจะค่อยๆจับโขดหินพยุงตัวเองเดินไปข้างหน้าเรื่อยๆอย่างเสียไม่ได้ กระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากข้างตัวทำเอาเข้าเดินไม่สะดวกเอาซะเลย ยังดีที่น้ำไม่ลึกนัก เส้นผมสีแดงเพลิงลู่ลงเพราะน้ำทำเอาเขารำคาญไม่น้อย จนเผลอคิดเรื่อยเปื่อยไปว่าเขาคงต้องตัดผมบ้างซะแล้ว
“ปากบอกไม่อยากช่วยแต่ก็ยังเดินไปฝั่งตรงข้าม หมอนั่นนี่ยังไงกัน”
“เธอควรขอโทษเค้าซะด้วยนะ”เซียร์เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงติดจะหงุดหงิดเล็กๆ ใครมาใช้ให้เจ้าหล่อนตัดหน้าการแกล้งเพื่อนของเขาไปล่ะ! แบบนี้มันน่าหงุดหงิดจะตายไป
“อะไร ห่วงเค้ารึไงกัน?”รูเซียเอ่ยตอบกลับมาเชิงแหย่เล่น เซียร์ขมวดคิ้วเล็กๆก่อนจะเมินหน้าหนีอย่างไม่สนใจ
“เธอระวังจะโดนหมอนั่นเอาคืนเข้าซักวัน...”แอลเอ่ยเบาๆก่อนจะจ้องกลับไปที่ร่างเล็กๆกลางสายน้ำตรงหน้าอีกครั้ง
ร่างเล็กพยุงตัวเองขึ้นจากฝั่งเมื่อถึงจุดหมาย เสื้อยืดสีดำเปียกน้ำจนเจ้าตัวรู้สึกรำคาญตะหงิดๆ แล้วจะให้เค้าซึ่งตัวเปียกน้ำมายุ่งเกี่ยวกับวงจรอิเลคทรอนิคต่อเนี่ยนะ...เอิ่ม...เค้าไม่ใช่ซุปเปอร์แมนนะ
สิ้นสุดความคิดเจ้าตัวก็เหลือบเห็นชุดแห้งๆวางอยู่ข้างๆประตูราวกับจะรออย่างไรอย่างนั้น เซลิออนหรี่ตาลงเล็กน้อยอย่างชั่งใจ ก่อนจะเดินไปหยิบชุดตรงหน้ามาเช็ดมือและเช็ดผมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
“หึหึ”เจ้าตัวหัวเราะสยองขวัญนิดๆก่อนจะตรงไปยังจอมอนิเตอร์ขนาดใหญ่ตรงหน้า ดวงตาสีเพลิงกวาดมองไปทั่วมอนิเตอร์ โปรแกรม ปุ่มกดหลายอย่างที่เค้าไม่อาจรู้จัก ทำเอาเค้าหวั่นเล็กๆในใจไม่ได้ว่าตัวเองจะมั่วแหลกได้เต็มที่รึเปล่า...?
“เอาล่ะ มาเล่นเกมกันเถอะ”
“เซนสุดยอด! เมพว่ะเฮ้ย!!”เซียร์เอ่ยชมเพื่อนตัวเองอย่างไม่ขาดปาก ตอนนี้ประตูเลื่อนลงมาเป็นสะพานให้พวกเขาเดินข้ามไปยังอีกฝั่งได้เรียบร้อย ด้วยฝีมือของเจ้าตัวแสบที่ดูโดยปกติไม่ค่อยจะมีประโยชน์ซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเรื่องคอมพิวเตอร์ล่ะก็เค้าไม่เคยชนะมันได้ซักที
“เก่งแฮะ ดูมีประโยชน์มากกว่าทีคิดซะอีก”รูเซียร์เอ่ยเบาๆพลางมองไปยัง คนที่มีประโยชน์มากกว่าที่คิดซึ่งตอนนี้กำลังนั่งรอพวกเขาข้ามสะพานด้วยสีหน้าติดจะง่วงนิดๆ
มันออกจะน่าตกใจนิดหน่อยที่จู่ๆเจ้าตัวแสบก็เล่นกดปุ่มที่ใหญ่ที่สุด พอเจอคีย์บอร์ดที่เจ้าตัวถนัดยื่นออกมา เจ้าตัวก็ละเลงความมั่วลงไปแบบไม่ยั้ง
ตกลงนั่นจงใจหรือไม่ก็ไม่อาจจะมีใครทราบได้ เว้นเสียแต่เจ้าตัวเอง ที่รู้สึกจะไม่อยากพูดเท่าไหร่อ่ะนะ
“เห~ สนามเด็กเล่นหรอ น่ารักจัง”เสียงของคนเคยงัวเงียดังขึ้นจากข้างหลังคณะเดินทาง ก่อนที่เจ้าตัวแสบประจำกลุ่มจะเดินฉับๆมาข้างหน้าอย่างไวอย่างเกือบห้ามไม่ ทัน
“เดี๋ยว!” แอลจับคอเสื้อ(เปียกๆ)ของเซนเอาไว้ก่อนจะเหยียบลงไปยังพื้นข้างหน้า...
ตรงหน้า พื้นราบเรียบปูด้วยไม่ปาร์เก้อย่างหรู สลับเป็นลายตารางหมากรุกอย่างน่ารัก สีเขียว เหลือง แดง ไม่ค่อยหน้าแปลกใจเท่าไหร่ที่ใครบางคนที่โตแต่ตัว(ตัวก็ไม่ได้โต...)จะวิ่ง เข้าใส่ด้วยความคึก...
“ห้ามไมอ่ะ”เซนทำหน้าบึ้งเล็กน้อยก่อนที่แอลจะส่งสายตา ชิ้งๆ มาให้อย่างกึ่งจะหงุดหงิด
“(แหกตา)ดูนี่(ซะ)”แอลพูดพร้อมถอดนาฬิกา(ของเซน)ออกแล้วโยนออกไปตรงหน้า ในช่องสีแดง
แล้วหนามก็พุ่งออกมาจากทุกช่องที่เป็นสีแดง...
“อ้าคคคค นาฬิกาช้านนนนน!!”เสียงกรีดร้องดังขึ้นตามมาติดๆ แต่รู้สึกนั่นจะไม่ใช่ประเด็น
“น่า กลัวแฮะ ดีนะที่ฉันยังไม่ได้เดินเหยียบลงไปน่ะ ว่าแต่ช่องไหนจะเดินได้หว่า...”เซียร์บ่นๆพร้อมมองดูหนาม
แหลมๆที่ค่อยๆเก็บ ตัวเองลงไปช้าๆ
“นาฬิกา...นาฬิก๊า~!!”
“นั่นสิ...อืม น่าจะเป็นสีเขียวนะ เพราะสีเขียวแปลว่าปลอดภัยนี่นา”รูเซียร์เสนอความเห็น
“โฮๆๆ นาฬิกาฉันนน....”
“นั้นลองปาๆของลงไปก่อนดีมั้ย”เซียร์เอ่ยถามอีกครั้ง
“แง๊~~!!”
“หุบปากซักทีจะได้มั้ย!!”สามเสียงเอ่นขึ้นพร้อมๆกัน เจ้าของเสียงสุดน่ารำคาญจ้องตรงมายังแอลพร้อมชี้นิ้วชี้มายังคนที่ทำนาฬิกาเสียหาย
“ซื้อใหม่ซะ !!”
“ได้ แล้วก็หุบปากไปซะ”
เป็นอันจบบทสนทนาอันแสนไร้แก่นสารและหาสาระมิได้....
สรุป แล้ว สีที่สามารถเดินได้อย่างปลอดภัยก็คือสีเขียว ทุกคนจึงพากันเดินบ้างกระโดดบ้าง เพื่อให้ลงไปยังช่องสีเขียวที่ปลอดภัยที่สุด แต่แล้วก็เกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นจนได้...
“ระ...รูเซีย นั่นมันสีเหลือง...”เซียร์เอ่ยด้วยสีหน้าซีดๆ และมันก็ทำเอาทุกคนหน้าซีดไปตามๆกัน
‘เวรแล้วมั้ยล่ะ!!’
“เอ่อ...ฉัน....”รูเซียพยายามเค้นเสียงออกจากลำคอ แต่ตอนนี้รู้สึกจะยากเย็นเสียเหลือเกิน
โครม!!
ก้อน หินก้อนใหญ่ร่วงกรูกราวลงแทบจะในทันที ทำเอาทุกคนต่างพากันวิ่งหนีแบบไม่คิดชีวิต ถึงตอนนี้หนามไม่โผล่ออกมาแล้ว ไม่รู้เพราะอะไร แต่มันก็ทำให้วิ่งสะดวกขึ้นล่ะนะ
“ทางลาดนี่หว่า!!” เซนเอ่ยตัดความหวังและความดีใจของทุกคนดังฉับ ก่อนที่ทุกคนจะพยายามวิ่งหนีกันต่อไป …โดยที่หอบกันไปตามๆกัน
- -- - - -
ความคิดเห็น