คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ : ดาวมหา'ลัย
บทนำ
นิยายเรื่อง บ่วงเล่ห์ เงาสิเน่หา
ภายใน Fast&Machine Import Car โชว์รูมรถยนต์ชื่อดังแห่งนี้คึกคักเป็นพิเศษ เมื่อแขกระดับวีไอพี เหล่าคนดังจากแวดวงไฮโซ และดารานักแสดงต่างให้ความสนใจเดินทางมาร่วมงานเปิดตัว ‘ยนตรกรรม’ สุดหรู นำเข้าจากต่างประเทศกันอย่างคับคั่ง บรรยากาศด้านในถูกตกแต่งภายใต้คอนเซ็ปต์งานแบบโอเปร่า เพื่อสะท้อนถึงความหรูหรา มีระดับและแปลกใหม่ สำหรับการสร้างคอมมูนิตี้ให้กับลูกค้า รถยนต์แต่ละคันถูกนำมาโชว์มีราคาไม่ต่ำกว่าสิบล้าน มันถูกจอดนิ่งให้ผู้ที่สนใจได้ทดลองนั่ง โดยมีพริตตี้สาวสวยคอยอำนวยความสะดวก พร้อมกับให้คำแนะนำถึงคุณสมบัติรถอย่างขะมักเขม้น อีกมุมหนึ่งของโชว์รูม รถ Ferrari 458 ltalia สีแดงเพลิง รุ่นใหม่ล่าสุดราคาเกือบยี่สิบล้าน จอดเด่นเป็นสง่า โดยมีลูกค้าเป็นบุรุษวัยกลางคน รูปร่างอ้วนท้วม ดูภูมิฐานกำลังใช้มือลูบคลำตัวรถอย่างหลงใหล แต่ทว่าดวงตากรุ้มกริ่ม มีแววหื่นกระหายกลับจ้องเขม็งไปยังหญิงสาวรูปร่างอรชร จนแทบจะกลืนกิน
“ตกลงสนใจหรือเปล่าหนู งานสบายเงินดี มีรถให้ขับสมัยนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ แล้วถ้าหนูทำให้ฉันพอใจ บ้านสักหลังฉันก็ซื้อให้ได้”
“ขอประทานโทษนะคะท่าน เดี๋ยวหนูต้องขอตัวไปดูแลลูกค้าทางด้านนั้นก่อน” ‘แม่หนู’ ในชุดเสื้อเกาะอกสีขาว กางเกงขาสั้นรัดรูปสีเดียวกันดูทะมัดทะแมง สูดลมหายใจยาว ก่อนฝืนยิ้มหวาน พยายามระงับอารมณ์กรุ่นโกรธที่ปะทุขึ้นมา ดวงตากลมโตภายใต้แพขนตางอนวาวโรจน์ ยามจับจ้องใบหน้าเจ้าเล่ห์ของบุรุษซึ่งอายุรุ่นราวคราวบิดา เห็นท่าทางกระลิ้มกระเหลี่ยของมันแล้วแทบจะอาเจียน ถ้าเป็นเวลาปกติคงได้ด่ายันบรรพบุรุษ หากในเวลานี้เธอกำลังทำงาน จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องสงบสติและใจเย็นให้ถึงที่สุด
‘ยุบหนอ พองหนอ ยุบหนอ พองหนอ ไม่วีนหนอ ไอ้เฒ่าหัวงูเอ๊ย!’
“คิดดูให้ดีก่อนนะหนู ทำงานเป็นพริตตี้ต่อไปอีกสิบปีก็ไม่มีทางสบาย บอกตามตรงฉันถูกใจหนูจริง ๆ มาอยู่กับฉันเถอะ อย่ามาทนดักดานทำงานแลกเศษเงินไม่กี่พันบาทนี่อยู่เลย” ‘ท่าน’ ยังคงพล่ามข้อเสนอ พร้อมทั้งถ้อยคำดูถูกเหยียดหยาม ริมฝีปากหนาดำคล้ำแสยะยิ้มน่าเกลียด ทำเอาพริตตี้สาวรีบเบือนหน้าหนีด้วยความสะอิดสะเอียน แทบจะกลั้นใจตายลงตรงนี้ เมื่อลองนึกว่าหากตนเองมีเหตุจำเป็นต้องตกไปเป็น ’อีหนู’ ของมัน
‘อึ๊ยย แค่คิดก็ขนลุกรู้สึกสยอง ยิ่งกว่าเอามือไปแตะกิ้งกือ ไส้เดือนเสียอีก‘
“ขอโทษค่ะ! ดิฉันไม่ตกลงอะไรทั้งนั้น ดิฉันยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะทำงานแลกเศษเงิน!” หญิงสาวเค้นเสียงลอดไรฟัน ย้ำชัดอย่างหนักแน่น ชักเริ่มหมดความอดทนลงทุกขณะ จึงตัดปัญหาเมื่อเห็นท่านไม่ขยับเปิดทาง โดยการหมุนตัวเพื่อพาร่างเพรียวระหงเดินไปอีกฝั่ง
“จองหอง! พอเห็นฉันง้อเข้าหน่อยดันทำเป็นเล่นตัว อยากโก่งราคานักรึไงแม่คุณ มีผู้หญิงอีกไม่รู้กี่คนที่เสนอตัวมาให้ฉันเลือก อยากจะไปไหนก็ไป ไป๊ แต่ก่อนไปฉันขอค่าเสียเวลาสักหน่อยแล้วกัน”
‘ให้ตาย
นี่มันปีศาจชัด ๆ’
“ค่าเสียเวลาอย่างนั้นเหรอ” รินรดา ทวนคำแล้วค่อย ๆ หันกลับมา ใบหน้านวลแดงก่ำ ทั้งโกรธและขยะแขยง สองมือบางกำแน่นเข้าหากันจนเจ็บ ‘คนกักขฬะ’ ที่เธอให้ฉายาในใจ ฉีกยิ้มยั่ว แล้วยกมือหนาขึ้นดม เสียงสูดจมูกดึงความหอมจากการกระทำจาบจ้วง หยาบคาย ทำเอาขีดความอดทนที่เหลือเพียงน้อยนิดขาดสะบั้น
‘แกกล้าดียังไงมาจับก้นฉัน ไอ้โรคจิต ไม่ทนแล้วโว้ย’
“ไอ้แก่ตัณหากลับ!!!” สิ้นเสียงก่นด่า รินรดายกเท้าเตะไปที่กล่องดวงใจของมันเต็มแรง ส่งผลให้ร่างท้วมผงะหงาย มันค่อย ๆ ทรุดตัวลงกับพื้น ส่งเสียงครวญครางดังลั่น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกเจ็บปวดสุดชีวิต ดวงตาเล็กหยีมีประกายไฟแห่งความโกรธจ้องมองเธออย่างแค้นเคือง
“โอ้ย!! แก แก อีบ้า แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แกกล้าดียังไงมาทำร้ายฉัน”
“แกนะสิบ้า! ไอ้หื่นกาม! แก่หัวหงอกจวนจะเข้าโลงอยู่รอมร่อแล้วยังไม่เจียม หน้าตาอัปลักษณ์ไม่พอ จิตใจยังสกปรก คิดแต่เรื่องเอาเปรียบดูถูกเพศแม่ จำเอาไว้! ไม่ว่าแกจะเอาเงินมากองแทบเท้าฉันมากเท่าไหร่ ฉันก็ไม่สนใจ เพราะเงินของแกมันซื้อไม่ได้ทุกอย่าง” ไม่จำเป็นต้องให้ ’เกียรติ’ รินรดาบอกตนเอง ก่อนเสียงต่อว่าฉะฉานดังกังวานขึ้น ท่ามกลางผู้ร่วมงานนับร้อย ซึ่งกำลังวิพากย์วิจารณ์เหตุการณ์กันอยากออกรส แต่หญิงสาวที่เปี่ยมไปด้วยความมั่นใจในตนเอง แถมเกิดมาบนกองเงินกองทอง ไม่เคยมีสักครั้งที่ใครหน้าไหนสามารถเหยียดหยามได้ถึงเพียงนี้จะสนใจ รินรดาค่อย ๆ ย่างเท้าเข้าหา ริมฝีปากบางเหยียดยิ้มหยัน
“มองหน้าไม่สำนึกแบบนี้ ขออีกสักทีแล้วกัน ไอ้แก่!!”
“อะ อย่า ไม่เอาแล้ว พอแล้ว อย่าทำอะไรฉันเลย โอ๊ย!!!” รินรดางุนงง ยกเท้าค้างกลางอากาศ เธอจ้องมองมันนิ่ง จากที่ตั้งใจจะเหยียบลงบนพุงพลุ้ยอัดแน่นไปด้วยไขมัน แล้วขยี้ด้วยรองเท้าส้นสูงเพื่อความสะใจอีกสักรอบ แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไร ‘ไอ้แก่ตัณหากลับ’ ดันแผดเสียงร้องทรมาน ดวงตาเหลือกลาน ใบหน้าอวบอูมซีดเผือด มันดิ้นทุรนทุราย ลมหายใจติดขัด มือสั่นเทาพยายามล้วงเข้าไปภายในเสื้อสูท ปากก็พึมพำไม่เป็นภาษา แต่ยังจับใจความได้ว่า ยา..ยา ช่วยด้วย อะไรสักอย่าง
ความโกลาหลบังเกิดขึ้น เกือบทุกสายตาจากแขกผู้มีเกียรติและเจ้าหน้าที่ภายในงานต่างเหลียวมอง คนที่ยืนใกล้เหตุการณ์ส่งเสียงอื้ออึง หวีดร้อง สลับกับเรียกหารถพยาบาลให้วุ่น ระหว่างที่รินรดากำลังยืนหันรีหันขวาง ต้องการช่วยเหลือแต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง จับต้นชนปลายไม่ถูก ก็ต้องเซซวนจนเกือบล้มคะมำไปอีกด้าน พร้อมกับเสียงทุ้มเปล่งเฉียบ
“ถอยไป!” ร่างสูงกำยำแทรกตัวผ่านบรรดาแขกเหรื่อ เข้ามาทรุดกายลงนั่ง ชายหนุ่มล้วงหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าเสื้อคนลามก แล้วพ่นมันเข้าปากผู้เป็นเจ้าของทันที เพียงไม่นานไอ้แก่ตัณหากลับเริ่มมีอาการดีขึ้น มันหายใจเร็วและแรงสูดเอาอากาศเข้าปอด สีหน้าดีขึ้นเรื่อย ๆ ท่ามกลางเสียงถอนหายใจโล่งอก
“เกิดอะไรขึ้น!” ผู้ช่วยชีวิต ค่อย ๆ พยุงร่างท้วมให้ยืน ใบหน้าหล่อเหลาราวเทพบุตรกรีกของเขาเคร่งขรึมลงยิ่งกว่าเดิม เมื่อได้ยินประโยคแรกจากคนรอดตาย
“คุณอัคนี ผู้หญิงคนนี้ เธอทำร้ายผม”
“ฉันเปล่า!” รินรดาปฏิเสธเสียงแข็ง
“ทำไม!” อัคนีตวัดสายตาคมกริบจ้องมอง ‘ผู้หญิงคนนี้’ รู้สึกหมั่นไส้ตงิดกับท่าทางกอดอกมั่นใจ เย่อหยิ่ง ถือดี ดูท่าหญิงสาวไม่ได้ยี่หระกับปัญหาที่เกิดขึ้นสักนิด สงสัยคงลืมไปว่าตนเองอยู่ในฐานะพนักงานบริการ
“เธอ
เธอเตะผมเพราะเข้าใจผิด ตอนนั้นผมเริ่มมีอาการหอบกำเริบ จึงขอให้เธอช่วย แต่พอดีเกิดหน้ามืดขึ้นมาเสียก่อน จึงเซแล้วล้มไปโดนตัวเธอเข้า เธอก็กล่าวหาว่าผมฉวยโอกาส เอ่อ
จับก้นเธอ” ไอ้บ้ากามโกหกหน้าด้าน ๆ มันทำเสียงอ่อนล้าราวกับคนใกล้ตาย แต่ทว่าดวงตากลับเปล่งประกายเจ้าเล่ห์แฝงเยาะหยันอยู่ในที ซึ่งไม่มีใครสังเกตุเห็นนอกจากหญิงสาวคู่กรณี
“ไม่จริง! แกจงใจลวนลามฉัน” รินรดาตวาดลั่น โมโหกับเรื่องที่มันแต่งขึ้น เธอเงื้อมือสุดแรงแล้วโผเข้าหา หมายทำร้ายคนปั้นน้ำเป็นตัวอีกสักรอบ
“หยุด!! อย่ามาทำกิริยาป่าเถื่อนราวกับคนไม่มีการศึกษาตรงนี้” มือแข็งแกร่งคว้าหมับไปที่ต้นแขนเรียว ออกแรงบีบเล็กน้อย ยับยั้งการกระทำของหญิงสาว ขณะที่ดวงตาคมวาวดุจพญาเหยี่ยวปรายตามองรอบบริเวณ จนทุกคนที่ไม่เกี่ยวข้องรู้สึกตัว จึงเริ่มทยอยแยกย้าย หันไปให้ความสนใจกิจกรรมบนเวทีและรถยนต์ที่จัดแสดงต่ออีกครั้ง ส่วนคนป่วยจอมมารยาก็ถูกเจ้าหน้าที่พยุงไปปฐมพยาบาลยังอีกด้าน
“อย่าบอกนะว่าคุณเชื่อมัน หึ
อย่างว่าคุณเป็นผู้ชายเหมือนกัน” คนโดนกล่าวหาว่าป่าเถื่อน สะบัดแขนออกจากการเกาะกุม เอ่ยตัดพ้อชายหนุ่ม รู้สึกผิดหวังครามครัน เธออุตสาห์คิดว่าเขาจะให้ความยุติธรรมอยู่แล้วเชียว
“ผมเชื่อในสิ่งที่เห็น คุณเป็นพนักงานบริการ สิ่งจำเป็นที่ต้องมีเป็นอันดับแรกคือความอดทน ต่อให้เรื่องทั้งหมดเป็นความจริง คุณก็ควรใช้สติแก้ไขปัญหาแทนการใช้กำลังแบบนี้ ซึ่งมันไม่ทำให้เกิดผลดีทั้งต่อคุณและบริษัทที่คุณรับงาน“ อัคนีเอ่ยราบเรียบ ทว่าหนักแน่น เขาไม่พอใจที่หญิงสาวทำร้ายแขกวีไอพี แถมยังนิ่งดูดายไม่ให้การช่วยเหลือ ปล่อยให้อารมณ์ชั่ววูบครอบงำ จนเกือบทำให้ลูกค้าคนสำคัญของบริษัทสิ้นชีวิต แต่ถึงจะไม่ใช่ลูกค้าหากเป็นเพียงแค่บุคคลธรรมดา เธอก็ไม่มีสิทธิ์ใช้กำลังทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้
‘หนึ่ง สอง สาม’ รินรดานับเลขในใจ พยายามไม่ให้โทสะเอาชนะสติ
“คุณอัคนี” เธอแหวเสียงสูง เรียกชื่อเขาตามไอ้เฒ่าหัวงู พร้อมกับอธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้น
“ฉันไม่รู้หรอกนะว่าคุณเป็นใคร แต่คงมีความสำคัญต่อโชว์รูมแห่งนี้ไม่น้อย ยังไงเสียคุณช่วยทำความเข้าใจหน่อยเถอะ ผู้ชายคนนั้นต้องการเอาเงินฟาดหัวฉัน เพื่อให้ไปอยู่กับเขา พอฉันไม่ตกลง เขาก็เลยลวมลาม”
“แน่ใจได้ยังไงว่าคุณไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเอง มันอาจจะเป็นอุบัติเหตุโดยไม่ตั้งใจจริง ๆ ก็เป็นได้ อ้อ
อีกอย่างผมยังไม่เห็นอะไรในตัวคุณที่เป็นเสน่ห์ดึงดูด ชวนหลงใหลมากพอให้ผู้ชายคนไหนคิดมิดีมิร้าย”
“คุณ คุณอัคนี!” เธออึ้ง
“หน้าตารึก็ธรรมดาถ้าไม่แต่งหน้าก็คงดูไม่ได้ รูปร่างก็พอไปวัดไปวาดีกว่าไม้กระดานนิดหน่อยเท่านั้น เอ
ผมออกจะแปลกใจด้วยซ้ำว่าฝ่ายจัดงานคัดเลือกคนอย่างคุณมาเป็นพริตตี้ได้ยังไง ขาดคุณสมบัติครบถ้วนเสียขนาดนี้”
‘กรี๊ด
สี่ หก ห้า เจ็ด สิบ’ รินรดาอ้าปากค้าง นับเลขผิด ๆ ถูก ๆ ตกตะลึงคาดไม่ถึงว่าคำพูดสบประมาทเหล่านี้จะหลุดออกจากปากเขา หึ..ไม่เชื่อ ไม่สนใจ ไม่รับฟัง ไม่เป็นไร แต่เขามีสิทธิ์อะไรมาวิจารณ์รูปร่าง หน้าตาของเธอ
‘ตาถั่วจริง ๆ ไอ้ปากปีจอเอ๊ย! ฉันนี่แหละดาวมหาลัย’
“นี่คุณ!! ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายตัว ถึงฉันจะไม่สวย หุ่นไม่ดี แล้วฉันจำเป็นต้องยืนนิ่ง ๆ ให้มันทำอะไรทุเรศ ๆ กับฉันอย่างนั้นรึไง?” ดาวมหาลัยตะคอกเสียงถาม ใบหน้านวลแดงก่ำ เธอจ้องมองชายหนุ่มอย่างขุ่นเคือง เขาคงกำลังคิดว่าเธอหลงตัวเอง ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ และสุดท้ายใส่ร้ายป้ายสีลูกค้าของเขาเป็นแน่
‘ดวงตาสีสนิมคู่นั้นมันฟ้อง’
‘ใช่ มันต้องใช่แน่ๆ’
“คุณผู้หญิงครับ
คุณมีสิทธิ์ที่จะเดินหนีไปทางอื่นแต่คุณก็ไม่ทำ เอาล่ะ
คุณจะยังได้ทำงานที่นี่ต่อไป และได้รับค่าตอบแทนครบถ้วนก็ต่อเมื่อคุณไปขอโทษและยอมรับว่าเข้าใจผิดกับท่าน” อัคนีไม่สนใจที่เธอว่าแล้วตัดบทอย่างรำคาญ โชว์รูมแห่งนี้เปิดตัวมานาน แต่มันอยู่ภายใต้การบริหารของพี่ชาย ส่วนเขาเพิ่งเข้ามารับช่วงดูแลต่อแล้วงานนี้ก็เป็นงานสำคัญ งานใหญ่และงานแรกของเขาเสียด้วย มันไม่สมควรจริง ๆ ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เขาไม่สนใจว่าคนตรงหน้าจะถูกกระทำจริงหรือไม่ แต่คติของเขาถือว่าการใช้กำลังแก้ปัญหายังไงมันก็เป็นเรื่องที่ผิดอยู่วันยังค่ำ
“ถ้าคุณไม่ทำตามที่ผมบอก ก็โน้นประตู”
‘หา
ไม่อยากจะเชื่อ’ รินรดากระพริบตาปริบ ๆ กัดริมฝีปากแน่น
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาออกคำสั่งกับฉัน!!”
“ผมเป็นเจ้าของที่นี่ ชัดหรือยัง แล้วนี่ก็ไม่ใช่คำสั่งแต่มันคือสิ่งที่คุณสมควรทำ” อัคนีตอบรับแล้วส่ายศีรษะระอา ริมฝีปากหยักได้รูปกระตุกยิ้มที่มุมปากราวกับผู้ชนะ ชายหนุ่มจงใจไล่สายตาดูแคลนหญิงสาวที่ยืนอ้าปากค้างตั้งแต่หัวจรดเท้า
“ข้องใจอะไรอีกไหมครับ”
“หึ” เมื่อทำอะไรคนปากปีจอไม่ได้ รินรดาจึงได้แต่สาปส่ง สาปแช่ง
“น่าสงสารโชว์รูมนี้จริง ๆ ที่สักวันมันต้องเจ๊ง เพราะมีผู้บริหารอย่างคุณ!! มีตาแต่ไม่มีสมอง หูเบา ไร้เหตุผล เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตัวมากกว่าศีลธรรม ถ้าคุณตายไปต้องตกนรกแน่ ๆ” หญิงสาวต่อว่า ใบหน้าสวยเชิดขึ้น คอตั้งตรง ท้าทาย
“ผมคิดว่ามันคงไม่มีวันนั้นในเร็ว ๆ นี้หรอกครับคุณผู้หญิง และผมก็ไม่ถือสาถ้อยคำสิ้นคิดของคุณ ไปได้แล้ว
เชิญ” เมื่อไม่อยากต่อล้อต่อเถียงให้เสียเวลา และมั่นใจว่าหญิงสาวต้องยอมไปขอโทษลูกค้า แต่ที่เล่นตัวอยู่ตอนนี้เพราะกลัว’เสียฟอร์ม’ไปอย่างนั้นเอง อัคนีจึงใจดี หันหลังเดินนำไปยังห้องพักรับรองลูกค้า ตั้งใจว่าจะออกหน้าแทนหญิงสาวเสียหน่อย แต่เท้าที่กำลังก้าวพลันหยุดชะงักกึก
“ไอ้คนทุเรศ!” คุณผู้หญิงตะเบ็งเสียงต่อว่าอย่างเจ็บใจ รินรดาส่งสายตากร้าว จ้องมองแผ่นหลังหนาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ ก่อนก้าวเท้าถอยหลัง หมุนตัวเดินแกมวิ่งออกไปอีกทาง ออกไปให้ห่างผู้ชายเผด็จการ ออกไปให้พ้นสายตาสอดรู้สอดเห็นจากคนในงาน ออกไปให้ไกลจากสถานที่ ๆ ทำให้ศักดิ์ศรีของเธอด่างพร้อย ‘ไม่จำเป็นต้องขอโทษ ในเมื่อไม่ผิด’ ไม่ว่าชาตินี้หรือชาติไหน ขออย่าให้เธอได้เจอะเจอคนไม่มีเหตุผลแบบนี้อีกเลย ‘ไอ้คุณอัคนี!’
ความคิดเห็น