ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIN] The Hallucination ◆ (krisyeol)

    ลำดับตอนที่ #9 : ◆ 7 : that black door

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.52K
      6
      21 มี.ค. 56

       





    -7-
    Tumblr_mesjadtwax1rldg9fo1_500_large







     

    that black door

     

     

     

     

                อู๋อี้ฟานนอนเท้าแขนกับหมอนมองดูปาร์คชานยอลที่หมุนตัวไปมาอยู่บนเตียงอย่างขำ ๆ หลังจากพูดความในใจออกไปคนหน้าหวานก็ไม่ยอมพูดกับเขาอีกเลย ร่างโปร่งฉีกยิ้มกว้างขณะหมุนตัวไปมาอย่างร่าเริงจนร่างสูงอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมากับท่าทีแบบเด็ก ๆ นั้น

                คนดีไม่เวียนหัวเหรอครับมือหนายื่นออกไปลูบศีรษะทุย ชานยอลหยุดนอนนิ่ง ๆ ดวงตากลมโตจ้องเพดานห้องไม่ยอมหันมาสบตากับอู๋ฟานตรง ๆ

                อื้อร่างโปร่งยกมือขึ้นปิดหน้าเมื่อร่างสูงโน้มตัวลงมาหา

                ทานยานะครับนายแพทย์หนุ่มแกะมือของชานยอลออก ก่อนจะช้อนตัวคนตัวเล็กกว่าขึ้นมากอดด้วยแขนข้างเดียว ส่วนอีกข้างยื่นไปหยิบขวดยาจากโต๊ะข้างเตียงมายื่นให้

                ไม่กินไม่ได้เหรอใบหน้าน่ารักยู่ลงเล็กน้อยขณะที่ชานยอลส่ายหัวช้า ๆ ปฏิเสธการทานยา อู๋อี้ฟานหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะก้มลงกดจมูกโด่งเข้ากับแก้มนิ่ม ชานยอลทำตาโตหัวใจเต้นแรงไปหมด

                เด็กดีอย่าดื้อนะ ทานยาก่อนนายแพทย์หนุ่มว่าพลางลูบแขนคนตัวเล็กกว่าเบา ๆ

                ทานแล้วนะ

                หืม? ทานเมื่อไหร่ ยังไม่ได้ทานเลย

                ทานเมื่อวานแล้วนะคิ้วสวยขมวดเข้าหากันจนหน้ายุ่ง ดูท่าว่าวันนี้ปาร์คชานยอลจะไม่ยอมทานยาง่าย ๆ ร่างสูงหัวเราะเบา ๆ พร้อมกับเขย่าขวดยาในมือไปด้วย

                เด็กดื้อ ทำไมเดี๋ยวนี้ดื้อจังอู๋ฟานแกล้งดุ

                ไม่ดื้อ..ไม่ดื้อ..ชานยอลพึมพำขณะโยกตัวไปมา ดวงตากลมหลุบลงต่ำ

                ไม่ดื้อก็ต้องทานยานะครับ โอเคไหม?นายแพทย์หนุ่มถาม ร่างโปร่งทำหน้ายุ่งก่อนจะพลิกตัวกลับมาหาแล้วดึงขวดยาออกจากมือของอู๋อี้ฟานมาถือ

                ทานยานะมือหนายกขึ้นลูบผมนุ่มของชานยอลเบา ๆ คนตัวเล็กกว่าค่อย ๆ เปิดฝาขวดยาดื่มช้า ๆ แล้วยื่นคืนให้ อู๋อี้ฟานโน้มตัวไปใกล้ก่อนจะถูไถจมูกโด่งเข้ากับจมูกเล็กของอีกฝ่ายแล้วยิ้มออกมาเล็กน้อย

                คุณจะไม่ไปไหน..ไม่ไปไหนมือบางยกขึ้นมาประคองใบหน้าของนายแพทย์เจ้าของไข้เอาไว้ ดวงตากลมฉายแววเป็นกังวล

                ไม่ไปหรอก ถ้าเธอตื่นขึ้นมาฉันสัญญาว่าเธอจะเจอฉันเป็นคนแรกอู๋อี้ฟานส่งยิ้มบาง ๆ ไปให้ก่อนจะดึงมือของชานยอลออกจากใบหน้าแล้วพลิกตัวคนตัวเล็กกว่าลงแนบกับพื้นเตียง

                ชานยอลหลับตาลงช้า ๆ คิ้วที่ขมวดกันค่อย ๆ คลายออกเมื่อเจ้าตัวหลับสนิท ร่างสูงเกลี่ยปอยผมที่หน้าผากมนออกก่อนจะก้มลงไปจุมพิตเบา ๆ ใบหน้าของร่างสูงเต็มไปด้วยความสับสน อู๋อี้ฟานลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกจากห้องใต้หลังคาไปเงียบ ๆ

     

     

     

    ………………

     

     

     

     

                ร่างสูงทอดกายไปตามทางเดินที่เงียบสงบ เป้าหมายไม่ได้อยู่ที่ห้องทำงานอย่างที่ควรจะเป็น อู๋อี้ฟานเดินมาหยุดอยู่หน้าประตูสีดำบานใหญ่อีกครั้ง มือหนาเอื้อมไปเปิดประตูก่อนจะก้าวเข้าไปช้า ๆ

                บรรยากาศภายในยังคงมืดและอับจนน่าอึดอัด ดวงตาคมหยุดอยู่ที่เชือกผุ ๆ ที่ห้อยอยู่บนคานไม้ คิ้วหนาขมวดเข้าหากันในขณะที่สาวเท้าเข้าไปใกล้ นายแพทย์หนุ่มค่อย ๆ ดึงเชือกลงมาถือไว้ นิ้วเรียวกำเข้าหากันแน่น ฟันคมกัดลงบนริมฝีปากจนรู้สึกได้ถึงรสชาติฝาดลิ้น สมุดเก่า ๆ เล่มหนึ่งวางอยู่บนโต๊ะบริเวณมุมห้อง อู๋อี้ฟานเดินเข้าไปหยิบขึ้นมาปัดฝุ่นดู หน้าปกสีน้ำตาลซีดถูกเขียนด้วยลายมือที่คุ้นตา ชื่อบนหน้าปกนั้น

     

     

     

     

                Wu Yi Fan..

     

     

     

     

     

                ร่างสูงเปิดสมุดออกอ่าน ลายมือที่คุ้นตาเขียนบันทึกเรื่องราวในแต่ละวันเอาไว้อย่างเป็นระเบียบ นายแพทย์หนุ่มปิดสมุดและหลับตาลงเพื่อใช้ความคิด ก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของตัวเองโดยไม่ลืมที่จะหยิบสิ่งของสองชิ้นนั้นติดมือมาด้วย

                บ่ายวันนั้นอู๋ฟานหมกตัวอยู่แต่ในห้องทำงาน พยอนแบคฮยอนไม่ได้มาหาอย่างที่นัดกันไว้ นายแพทย์หนุ่มร่างเล็กตามนางพยาบาลฮันอึนมีเข้าไปในเมืองเพื่อหาซื้อของใช้ส่วนตัวเพิ่มเติม บนโต๊ะทำงานของร่างสูงเต็มไปด้วยเอกสารต่าง ๆ เต็มไปหมด อู๋อี้ฟานเอนกายพิงพนักเก้าอี้ก่อนจะหลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า

                คุณหมออู๋ครับ อาหารเย็นครับ..คิมจงแดเดินถือถาดอาหารเข้ามาให้ในห้อง อู๋อี้ฟานเงยหน้าขึ้นมองก่อนจะส่งยิ้มให้

                ขอบคุณครับ

                ไม่เป็นไรฮะ บุรุษพยาบาลหนุ่มยิ้มพร้อมกับพยักหน้าตอบรับก่อนจะเดินออกจากห้องไปเงียบ ๆ

                ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่ติดอยู่บนผนังก่อนจะเดินลงไปยืดเส้นยืดสายที่สนามหน้าโรงพยาบาล สายลมเย็นพัดเอื่อย ๆ ผ่านใบหน้า อู๋ฟานหายใจเข้าออกลึก ๆ เพื่อผ่อนคลายความเครียด ก่อนที่สายตาคมจะเหลือบไปเห็นร่างบางซึ่งกำลังนั่งไกวชิงช้าไปมาอยู่เพียงลำพัง

                จางอี้ชิงนั่งกระดิกขาใบหน้าหวานหม่นหมองและเหม่อลอย นายแพทย์หนุ่มค่อย ๆ เดินเข้าไปหาและทิ้งตัวลงนั่งคุกเข่าพลางเงยหน้าขึ้นมอง

                อี้ชิง..อู๋อี้ฟานส่งเสียงเรียก อีกฝ่ายก้มหน้าลงสบตาก่อนจะยื่นมือออกมาหา

                เป็นอะไรครับ ?ร่างสูงยื่นมือออกไปจับกับมือบางนั้นไว้ น้ำตาเริ่มรื้นขึ้นที่ขอบตาของจางอี้ชิงก่อนที่มันจะไหลลงมาเป็นทางจนใบหน้าเรียวเปียกไปหมด

                ฮึก..คิดถึงนะ..คิดถึง..อี้ชิงเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตาคู่สวยสั่นระริก อู๋ฟานยืดตัวก่อนจะยกมือขึ้นเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากแก้มใสด้วยความสงสาร

                เข้าไปข้างในกันดีกว่านะ เริ่มหนาวแล้ว..ร่างสูงส่งยิ้มให้ จางอี้ชิงพยักหน้ารับก่อนจะจับมือกับนายแพทย์หนุ่มแล้วเดินตามเข้าไปในตัวตึกอย่างว่าง่าย

                ภายในห้องเล็ก ๆ ของจางอี้ชิงค่อนข้างเย็นและอับชื้น เตียงสีขาวขนาดเล็กตั้งอยู่ชิดมุมหนึ่งของห้อง ข้าง ๆ มีโต๊ะเขียนหนังสือฝุ่นเขรอะตัวหนึ่ง หน้าต่างบานเกล็ดเปิดออกรับลมเพียงเล็กน้อย อู๋ฟานขมวดคิ้วมองกรอบรูปที่อยู่บนโต๊ะเล็กข้างเตียงของร่างบางด้วยความสนใจ

                ตายไปแล้ว..ฮึก..ตอนนี้..ไม่ใช่..อี้ชิงพึมพำก่อนจะยกมือขึ้นปิดหน้าร้องไห้สะอึกสะอื้น อู๋อี้ฟานยกมือขึ้นลูบแผ่นหลังที่สั่นเทาของคนไข้เบา ๆ เพื่อปลอบประโลม

                ไม่แน่หรอก..ร่างสูงยิ้มขณะมองดูภาพถ่ายในกรอบรูปอย่างใช้ความคิด

                เย็นวันนั้นอู๋อี้ฟานอยู่ป้อนอาหารและยาให้กับจางอี้ชิง พูดคุยกับร่างบางจนคนตัวเล็กหลับไปจึงค่อยปลีกตัวออกมาแล้วเดินเข้าไปในครัวเพื่อเตรียมอาหารให้กับชานยอล

                นายแพทย์หนุ่มตักข้าวต้มในหม้อใส่ถ้วยขนาดกลางอย่างร้อนรนด้วยความเป็นห่วงปาร์คชานยอล ก่อนจะรีบจัดถาดอาหารแล้วเดินกลับขึ้นไปบนห้องใต้หลังคาอย่างรีบเร่ง ร่างสูงเปิดประตูเข้าไปสิ่งแรกที่มองเห็นคือเตียงใหญ่สีขาวที่ว่างเปล่า หัวใจของอู๋ฟานกระตุกวูบรีบเดินเข้าไปวางถาดอาหารไว้บนโต๊ะหนังสือแล้วกวาดตามองหาร่างโปร่งไปทั่ว

                ชานยอลนายแพทย์หนุ่มร้องเรียกก่อนจะกวาดสายตาไปทั่วทุกมุมภายในห้อง ไม่มี..ปาร์คชานยอลหายไป หัวใจของอู๋อี้ฟานร้อนรนไปหมด เพราะเขามักจะมาถึงก่อนที่ชานยอลจะตื่นเสมอ จึงไม่เคยรู้เลยว่าหากร่างโปร่งตื่นมาแล้วไม่พบเขาจะเป็นอย่างไร

                เสียงเปิดน้ำดังขึ้นภายในห้องน้ำ อู๋อี้ฟานรีบวิ่งเข้าไปดูอย่างรวดเร็ว ชานยอลนั่งหันหน้าเข้าหาผนังอยู่ในอ่างอาบน้ำ แผ่นหลังเปลือยเปล่าสั่นน้อย ๆ จนอู๋ฟานใจเสีย ร่างสูงค่อย ๆ เดินเข้าไปหา มือหนายื่นออกไปแตะไหล่ของคนตัวเล็กกว่าเบา ๆ ชานยอลสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันหน้ากลับมาหา มือบางยกขึ้นปาดน้ำตาออกจากใบหน้า

                วันนี้คุณโกหก..ฮึกใบหน้าหวานของชานยอลเบ้เล็กน้อย อู๋ฟานคุกเข่าลงนั่งก่อนจะดึงตัวชานยอลเข้ามากอดไว้แน่นจนเสื้อผ้าเปียกไปหมด

                ฉันขอโทษนะชานยอล ฉันขอโทษ..ร่างสูงพึมพำ ชานยอลยกแขนขึ้นโอบรอบเอวของนายแพทย์หนุ่มแน่น ไม่เข้าใจเลยสักนิดว่าความรู้สึกที่เป็นอยู่ในตอนนี้เรียกว่าอะไร มันไม่ใช่ความโกรธแบบที่ชานยอลเคยรู้สึก แต่มันเป็นอารมณ์ที่ต่างออกไป มันเป็นความรู้สึกที่แค่เพียงอ้อมกอดอบอุ่นและคำขอโทษของอู๋ฟานก็สามารถจะเยียวยาได้แล้ว

                ฮื่อ..ชานยอลพยักหน้ารับรู้น้ำตาค่อย ๆ หยุดไหลไปเอง

                คนดีให้ฉันอาบให้นะ แล้วเดี๋ยวเราไปทานข้าวกัน โอเค
    ไหม ?
    นายแพทย์หนุ่มเอ่ยถาม ชานยอลผละออกมาจากอ้อมแขนก่อนจะพยักหน้า รอยยิ้มบาง ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากของร่างสูงทำให้หัวใจของคนตัวเล็กเต้นแรง

    ชานยอลชอบ..อู๋อี้ฟานที่เป็นแบบนี้..

     

     

     

     

     

    …………………..

     

     

     

     

     

                พี่อึนมี พี่เคยสงสัยเรื่องห้องประตูดำทางปีกซ้ายบนชั้นสองหรือเปล่า ?นางพยาบาลเชมินจองเอ่ยถามรุ่นพี่ เธอเป็นหญิงสาวร่างท้วมวัยยี่สิบต้น ๆ ที่เพิ่งย้ายเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลเซจองก่อนหน้าพยอนแบคฮยอนได้ไม่นาน ใบหน้ากระหายใคร่รู้ยามเปิดประเด็นเกี่ยวกับเรื่องราวแปลก ๆ ภายในสถานที่ทำงานของมินจองทำให้อึนมีหลุดขำออกมาเบา ๆ

                ถ้าสงสัยนักก็แอบไปดูสิจะได้รู้นางพยาบาลรุ่นพี่ส่ายหัวอย่างอ่อนใจ

                โธ่พี่..อย่าท้าฉันนะ ! ”มินจองขมวดคิ้วแน่น

                ทำอะไรกันอยู่ ! ”

                ว้าย ! นี่แน่ะคิมจงแด ทะเล่อทะล่าเข้ามาไม่ให้ซุ่มให้เสียงตกใจหมด ! ” ฮันอึนมียกมือขึ้นฟาดไหล่คิมจงแดเบา ๆ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก

                ก็พวกพี่น่ะคุยอะไรกัน ทำท่าลับ ๆ ล่อ ๆบุรุษพยาบาลหนุ่มทำหน้าอยากรู้อยากเห็น

                ไม่ต้องอยากรู้สักเรื่องได้ไหมคิมจงแด อันที่จริงนายน่าจะไปพักร้อนตามพี่จีอึนนะ อยู่ไปก็ดูไร้ประโยชน์เชมินจองเบะปากใส่ด้วยความหมั่นไส้

                โธ่..ผมไม่อยากรู้แล้วก็ได้จงแดส่ายหน้าก่อนจะเดินเลี่ยงออกไปจากห้องครัวซึ่งถูกใช้เป็นจุดนัดประชุมของทุกคน เพราะมันเป็นสถานที่ที่เงียบที่สุดและปลอดภัยที่สุดในโรงพยาบาลแล้ว

                ฮันอึนมีส่ายหัวด้วยความอ่อนใจก่อนจะเดินตามบุรุษพยาบาลหนุ่มออกไป ในขณะที่เชมินจองยังคงยืนพิงเคาน์เตอร์กลางห้องครัวใบหน้าอวบฉายแววลิงโลด..

                คืนนี้เธอจะต้องรู้ให้ได้ว่าในห้องนั้นมันมีอะไรกันแน่..

     

     

     

     

     

     

                เสียงฝีเท้าแผ่วเบาย่ำลงบนพื้นอย่างระแวดระวังขณะที่นางพยาบาลสาวค่อย ๆ เดินเข้าไปใกล้กับประตูห้องปริศนาที่เธอเฝ้าสงสัยและครุ่นคิดถึงสิ่งที่อยู่ภายในนั้นมาเสมอ มืออวบยื่นออกไปสัมผัสลูกบิดประตูสีทองที่เริ่มถลอก มินจองเหลือบมองซ้ายขวาด้วยความหวาดระแวงแต่เมื่อพบว่าทางสะดวกหล่อนก็รีบเปิดประตูเข้าไปในทันที

                แน่ล่ะ..อุตส่าห์ตั้งเวลาปลุกดึกขนาดนี้ ทุกคนที่นี่คงจะสลบไสลกันไปหมด ไม่มีใครบ้าจี้ออกมาเดินกลางดึกแบบนี้หรอก

                ภายในห้องมืดเหม็นอับและเต็มไปด้วยฝุ่นหนาจนมินจองต้องยกมือขึ้นมาปิดจมูกก่อนจะหยิบไฟฉายกระบอกเล็กที่เตรียมมาด้วยขึ้นฉายไปทั่วทั้งห้อง ดวงตาเล็กหรี่กวาดมองไปทั่วด้วยความอยากรู้อยากเห็น แต่นอกจากโต๊ะทำงานเก่า ๆ ที่อยู่ติดผนังมุมหนึ่ง และเตียงนอนขนาดกลางที่เหลือไว้เพียงฟูกเต็มไปด้วยฝุ่นจับก็ไม่มีอะไรที่น่าสนใจอีก

                เชมินจองถอนหายใจออกมาด้วยความผิดหวัง แต่ก่อนจะเดินออกจากห้องสายตาก็ไปสะดุดอยู่กับขวานใหญ่เล่มหนึ่งที่ตกอยู่กลางห้องเข้า..

                นางพยาบาลสาวค่อย ๆ ก้มลงเก็บขึ้นมาดู..ดวงตาเล็กเบิกกว้างด้วยความตกใจเมื่อปลายนิ้วสัมผัสกับคมขวาน

                เลือดยังไม่แห้งดีเลยนี่..

                คุณพยาบาลเช..เสียงนุ่มทุ้มดังขึ้นจากหน้าประตู เชมินจองสะดุ้งด้วยความตกใจจนขวานเล่มนั้นเกือบหลุดจากมือ โชคดีที่คว้าเอาไว้ได้ทันแบบหวุดหวิด ร่างอวบหันกลับไปมองหน้าประตูด้วยความหวาดหวั่น ก่อนจะถอนหายใจออกมาเมื่อได้เห็นใบหน้าคมคายของผู้มาเยือนซึ่งกำลังยืนพิงขอบประตูอยู่ด้วยท่าทีสบาย ๆ

                คะ..คุณหมอ มาอยู่ตรงนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ..คือขอโทษทีค่ะ ดิฉันก็แค่..

                อืม..ก็ตั้งแต่แรกนั่นแหละครับ ว่าแต่..คุณสนใจจะไปหาอะไรสนุก ๆ ทำกับผมหรือเปล่าครับคุณพยาบาลเช ตอนนี้ก็ดึกมากแล้วและดูเหมือนว่าจะมีแค่ผมกับคุณเท่านั้นล่ะที่ยังตื่นอยู่ใบหน้าหล่อฉายแววเจ้าเล่ห์ขณะเอ่ยชวนด้วยน้ำเสียงทุ้มแหบพร่าฟังดูมีเสน่ห์ มินจองรู้สึกใบหน้าเห่อร้อนขึ้นมาในทันที

                ว่าไงครับ..น่าสนใจกว่าขวานในมือคุณกับห้องอับ ๆ นี่หรือเปล่านางพยาบาลสาวหลบตาด้วยความเขินอายก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ สายตาคมดูเร่าร้อนของร่างสูงกำลังจะทำให้เธอละลายไปเสียให้ได้ และแน่นอน..มินจองเข้าใจความหมายที่เจ้าของใบหน้าหล่อเข้มนั้นพูด แล้วเรื่องอะไรจะต้องปฏิเสธล่ะ ในเมื่อนี่มันเป็นโชคสองชั้นของเธอชัด ๆ

                นอกจากจะได้รู้ว่าภายหลังห้องประตูดำนี้ไม่มีอะไรน่าสนใจเลยสักนิดแล้วเธอก็ยังมีโอกาสที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับนายแพทย์หนุ่มร่างสูงตรงหน้านี้อีกด้วย

                โอเคค่ะ..ฉันจะไปกับคุณ..มินจองยิ้มหวาน

     

     

     

     

    …………………

     

     

     

     

     

     

                แอ๊ดดด..

     

     

     

     

     

                นางพยาบาลฮันอึนมีนอนลืมตาก่อนจะผุดลุกขึ้นนั่งบนเตียง เธอจ้องมองฝ่าไปในความมืดหลังจากได้ยินเสียงเปิดประตูห้องข้าง ๆ ซึ่งเป็นห้องนอนของเชมินจอง อึนมีส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจก่อนจะปัดผ้าห่มผืนหนาออกจากร่างกายแล้วลุกขึ้นเดินออกไปจากห้อง

                ดวงตาเล็กหรี่ปรับให้คุ้นกับแสงสว่างจากตะเกียงตามทางเดินข้างนอก ร่างเล็กบ่นพึมพำไปตลอดทางขณะกระชับเสื้อคลุมตัวบางไปด้วย อึนมียังคงรู้สึกหวาดหวั่นและไม่คุ้นเคยกับบรรยากาศยามค่ำคืนภายในโรงพยาบาลแห่งนี้

                ให้ตายเถอะเชมินจอง เชมินจอง ! เธอนี่มันจอมหาเรื่อง
    ชัด ๆ
    ฮันอึนมีบ่นกับตัวเอง รู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับความดันทุรังของนางพยาบาลรุ่นน้องอย่างบอกไม่ถูก แสงไฟจากตะเกียงวูบไหวไปพร้อม ๆ กับเงาร่างของใครคนหนึ่ง ร่างเล็กหันหลังกลับไปมองด้วยความสงสัย

                เสียงฝีเท้าหนัก ๆ ดังออกมาจากห้องโถงกลาง ฮันอึนมีถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความโล่งอก

                สงสัยจะล้มเลิกความคิดไปแล้วล่ะมั้งนางพยาบาลสาวคลี่ยิ้มบาง ๆ ก่อนจะค่อย ๆ ออกเดินเตรียมกลับไปนอนต่อที่ห้อง ขณะเดียวกันหางตาก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังคุ้นตาของใครคนหนึ่งเดินลิ่วออกจากประตูโรงพยาบาลไปในความมืด ฮันอึนมีเลิกคิ้วด้วยความสงสัย

                นี่ก็อีกคน ดึกดื่นป่านนี้แล้วออกมาทำอะไร..ร่างเล็กส่ายหน้าอย่างอ่อนใจก่อนจะเดินจ้ำอ้าวตามออกไปอย่างรีบเร่ง คืนนี้ถ้าหากไม่ได้บ่นอะไรสักหน่อยอึนมีคงนอนไม่หลับเพราะความอัดอั้นเป็นแน่..

     

     

     

     

                ตุบ !

     

     

     

     

                รอยยิ้มเย็น ๆ ปรากฏขึ้นที่มุมปากขณะปล่อยชิ้นส่วนแขนข้างหนึ่งลงบนพื้น ร่างสูงเชิดหน้าขึ้นระบายลมหายใจที่ติดขัดพลางหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อนจากกิจกรรมเมื่อครู่

                เขายอมรับว่าเชมินจองเป็นของเล่นที่ทำให้เขาเพลิดเพลิน
    จริง ๆ แต่สำหรับฮันอึนมีนั้นเขาไม่ค่อยพิสมัยสักเท่าไหร่

                เหอะ นังโง่ร่างสูงพึมพำก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ เขาใช้ขวานจามลงไปบนศีรษะของเชมินจองก่อนจะใช้ค้อนทุบจนกะโหลกแตกละเอียดก่อนที่หล่อนจะทันได้แหกปากส่งเสียงอะไรออกมาเสียอีก แต่กับฮันอึนมีที่บังเอิญโชคร้าย..อา..ไม่สิ บังเอิญโชคดีตื่นขึ้นมาเห็นเข้านั้นน่ารำคาญพอดู

                นางพยาบาลฮันวิ่งหนีเขาเข้ามาในป่า ส่งเสียงกรีดร้องแสบแก้วหูออกมาตลอดทาง แม้แต่ตอนที่ขวานจามลงไปบนแผ่นหลังบางจนเลือดทะลักออกมาราวกับเขื่อนแตกหล่อนก็ยังไม่หยุดกรีดร้อง ในขณะที่คมขวานฟันลงไปบนแขนเล็ก ๆ นั้นเธอก็ดิ้นพล่านไปมาอย่างน่ารำคาญ

    น่ารำคาญ..มากเสียจนเขาต้องตัดสินใจหยิบมีดเล่มเล็ก ๆ ที่ติดมือมาด้วยแทงลงไปบนหน้าอกบริเวณเดียวกับที่หัวใจดวงน้อย ๆ ของนางพยาบาลฮันกำลังเต้นตุบ ๆ สุดท้ายหล่อนก็เลิกดิ้นรน..เลิกกรีดร้อง..และนอนแน่นิ่ง..

    แต่กว่าจะเป็นไปตามนั้นก็ต้องเหนื่อยพอดู อา..เขาไม่ได้สนุกแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะตั้งแต่นางพยาบาลชอยและนางพยาบาลลีลาพักร้อนไปอย่างไม่มีกำหนด

    มือหนายกขึ้นปาดเลือดสีแดงสดออกจากใบหน้า กลิ่นคาวที่คละคลุ้งอาจทำให้รู้สึกคลื่นเหียนแต่สำหรับเขาแล้วมันเป็นกลิ่นที่ดึงดูดใจอย่างน่าประหลาด

    คิดถึงเธอจังปาร์คชานยอล..เด็กดีของฉัน ฉันคิดถึงเธอ..รอยยิ้มวิกลจริตผุดขึ้นที่มุมปากอิ่ม ร่างสูงค่อย ๆ ก้มลงเก็บเศษชิ้นส่วนของนางพยาบาลทั้งสองลงในกระสอบผ้าใบใหญ่

    คืนนี้เขามีความสุขมาก..มากเสียจนอยากจะแบ่งปัน..อยากจะระบายความตื้นตันนี้ให้กับใครบางคนได้รับรู้บ้าง

     

    อา..จริงสิ..ถึงเวลาหรือยังนะ..จางอี้ชิง..

     

     

     

     

    …………………..

     

     

     

     

     

                พยอนแบคฮยอนนั่งคิดอะไรเพลิน ๆ อยู่ที่โต๊ะทำงาน มือบางควงปากกาในมือไปด้วยขณะใช้ความคิด ร่างเล็กทบทวนเรื่องราวแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นนับตั้งแต่ย้ายเข้ามาทำงานในโรงพยาบาลแห่งนี้ ทุกอย่างมันแปลก..และดูเหมือนว่าจะแปลกขึ้นเรื่อย ๆ

                คิ้วสวยขมวดเข้าหากันขณะนั่งมองรายชื่อและภาพบุคลากรประจำโรงพยาบาลในมือ บางชื่อถูกขีดฆ่าออกไป ในขณะที่บางชื่อมีหมายเหตุต่อท้ายอย่างการลาพักร้อน ทว่าบุคคลเหล่านี้กลับไม่เคยกลับมาที่นี่อีกเลย

                และล่าสุดที่คิมจงแดเพิ่งมาเพิ่มหมายเหตุต่อท้ายลงไปเมื่อไม่กี่วันก่อนก็คือนางพยาบาลฮันและนางพยาบาลเช ในขณะที่เมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่แล้วนางพยาบาลลีก็เพิ่งจะขอลาพักร้อนไป..

                แปลกมาก..มานับดูดี ๆ แล้วตอนนี้เหมือนจะเหลือแค่
    คิมจงแด เป็นไปได้ยังไง..
    ร่างเล็กพึมพำอย่างใช้ความคิด คิมจงแดกลายเป็นคนเดียวที่ยังทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งนี้

    บุรุษพยาบาลหนุ่มเป็นผู้จัดการทุกอย่างตั้งแต่การเตรียมยาเตรียมอาหาร ยกเว้นแต่เพียงงานทำความสะอาดที่จะมีพนักงานเข้ามาทำอาทิตย์ละหนึ่งครั้ง นอกจากนั้นแล้วก็ดูเหมือนว่าจงแดจะเป็นผู้รับผิดชอบงานทั้งหมด

                อาจกล่าวได้ว่าบุรุษพยาบาลหนุ่มคนนี้มีความอดทนสูงแต่สำหรับพยอนแบคฮยอนแล้วความอดทนนั้นดูมากเกินไป..มากเสียจนน่าสงสัย

                เสียงคนเดิน..ยังไงห้องนั้นก็ต้องมีคน นายแพทย์หนุ่มร่างเล็กเก็บเอกสารทุกอย่างไว้ในลิ้นชักก่อนจะลุกขึ้นเดินออกไปจากห้องทำงาน

    เสียงไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าดขณะที่พยอนแบคฮยอนเดินไปตามทางเดิน ร่างเล็กพยายามคำนวณดูจุดที่ได้ยินเสียงคนเดินในวันแรกที่มาถึงแล้วเดินไปหา ระหว่างทางที่มีเพียงแสงไฟจากตะเกียงนั้นมืดสลัว ไม่มีแสงใดเล็ดลอดเข้ามาแม้แต่น้อย เพราะบนอาคารไม้สีขาวหลังนี้แทบจะไม่มีหน้าต่างเลย ทุกอย่างปิดทึบ อาจจะด้วยเหตุผลจำเป็นหลาย ๆ อย่าง

    บรรยากาศยามบ่ายแก่ ๆ ของที่นี่เงียบสงัดและเยือกเย็นจนน่าขนลุก แบคฮยอนหัวใจเต้นถี่ขณะค่อย ๆ สาวเท้าเข้าไปใกล้จุดที่คำนวณไว้มากขึ้นเรื่อย ๆ

                พยอนแบคฮยอนหยุดมองภาพถ่ายเก่า ๆ ที่ติดอยู่ข้างผนัง มือบางยกขึ้นสัมผัสรูปเบา ๆ คิ้วทั้งสองขมวดเข้าหากัน

                รูปรุ่นพี่นี่.. แบคฮยอนพึมพำก่อนจะเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูบานหนึ่ง แปลกตรงที่ประตูทุกบานในอาคารหลังนี้เป็นสีขาวหากทว่าประตูบานนี้กลับเป็นสีดำ เขามองดูลูกบิดประตูอย่างชั่งใจ

                แบคฮยอนค่อย ๆ ยื่นมือออกไปตรงหน้า อีกเพียงไม่กี่มิลลิเมตรก็จะแตะกับลูกบิดโลหะสีทองที่เริ่มลอกถลอกไปตามกาลเวลา

     

     

     

              อย่าบอกใครว่าเจอฉันอยู่ที่นี่..ทำได้ไหม หืม? ”

     

     

     

                เสียงนุ่มทุ้มดังเล็ดลอดออกมาจากข้างหลังประตูบานนั้น แบคฮยอนยกมือขึ้นปิดปากขณะพยายามเงี่ยหูตั้งใจฟังเสียง

     

     

     

              ดะ..ได้ อื้ม..

     

     

     

                อีกเสียงหนึ่งตอบกลับมา ในใจของนายพยอนแบคฮยอนเต็มไปด้วยคำถาม ถ้าหากหูของเขาไม่เพี้ยนไป อู๋อี้ฟานก็คงจะเป็นคนพูดประโยคแรก แต่ประโยคต่อมานั้นเขาไม่แน่ใจว่าเคยได้ยินเสียงนี้มาก่อนหรือไม่ มันไม่คุ้นหูเลยสักนิด..

                คิ้วสวยขมวดเข้าหากันอย่างเครียด ๆ อะไรก็ตามที่อยู่หลังประตูบานนั้น ไม่ว่าจะเป็นสิ่งไหนหรือเป็นใคร แม้จะค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นอู๋อี้ฟานแต่เมื่อนึกถึงวันที่ได้ยินเสียงคนเดินอยู่ข้างบนนี้มันกลับทำให้แบคฮยอนรู้สึกขนลุก ไม่ใช่..แม้แต่เสียงที่เล็ดลอดออกมาเมื่อครู่ก็ยังฟังดูแปลก ไม่เหมือนน้ำเสียงปกติของนายแพทย์รุ่นพี่เลยสักนิด

                ห้องพักคนไข้ ไม่มีคน.. แบคฮยอนพึมพำสิ่งที่คิมจงแดบอกเอาไว้ รู้สึกราวกับมีอะไรบางอย่างมาบิดมวนอยู่ในท้อง สองมือค่อย ๆ ยกขึ้นลูบสัมผัสป้ายชื่อเก่า ๆ ที่ติดอยู่บนบานประตู แม้สีจะซีดและตัวหนังสือสีทองเริ่มลอกกร่อนไปตามกาลเวลา แต่นายแพทย์หนุ่มร่างเล็กก็เชื่อว่าตัวเองไม่ได้อ่านผิดเป็นแน่ ชื่อบนป้ายหน้าประตูบานนั้น

     

     

     

                Wu Yi Fan..

     

     

     

                ดวงตาคมสีเข้มตวัดมองเงาที่ทอดเข้ามาใต้ช่องประตู ใครบางคนคงกำลังสงสัย แน่นอน..เขารู้ดีว่าความอยากรู้อยากเห็นก็เป็นเหมือนสัญชาตญาณดิบที่ติดตัวมนุษย์มาตั้งแต่เกิด

     รอยยิ้มเย็น ๆ ผุดขึ้นที่มุมปากอิ่มในขณะที่ช่วงล่างยังคงขยับกระแทกรุนแรงไม่ยั้งกำลัง มือหนาที่ยกขึ้นบีบรอบคอของคนใต้ร่างค่อย ๆ คลายออกก่อนจะเลื่อนลงไปไล้วนแผ่นอกขาวเนียน

                ดวงตากลมจ้องมองใบหน้าหล่อคม มือบางลูบไล้แผ่นหลังของร่างสูงก่อนจะจิกเล็บลงไปบนเนื้อนิ่มเพื่อระบายความเสียวซ่าน แม้จะต้องเจ็บปวดกับสัมผัสที่ได้รับแค่ไหนเขาก็พร้อมจะทน แค่เพียงผู้ชายคนนี้เรียกชื่อเขา แค่เพียงดวงตาคมสีเข้มจ้องเข้ามาในดวงตาของเขา แค่เพียงเท่านี้เขาก็พร้อมจะทำทุกอย่าง..

                อย่าบอกใครว่าเจอฉันอยู่ที่นี่..ทำได้ไหม หืม? ” เจ้าของใบหน้าคมคายก้มลงกระซิบข้างหูก่อนที่ฟันขาวจะขบกัดติ่งหูของคนใต้ร่างเบา ๆ ลิ้นร้อนโลมเลียไปทั่วผิวกายเนียนนุ่มอย่างหื่นกระหาย

                ดะ..ได้ อื้ม.. รอยยิ้มพึงพอใจผุดขึ้นที่มุมปากอิ่มเมื่อได้รับคำตอบในขณะที่ช่วงล่างก็ยังคงขยับ ดวงตาคมมองดูใบหน้าหวานที่เต็มไปด้วยความต้องการของคนตรงหน้าอย่างพึงพอใจ

                ผิวกายขาวเนียนเต็มไปด้วยรอยแดงช้ำ หากแต่คนใต้ร่างของเขาในตอนนี้กลับไม่มีทีท่าว่าจะขัดขืน ดวงตากลมฉ่ำน้ำตาช้อนมองใบหน้าของร่างสูง มือบางเลื่อนมาพักที่หน้าอกแกร่ง จางอี้ชิงไม่เคยขัดขืน..จางอี้ชิงน่ารักกับเขาเสมอ..

     

     


     

                อา..ช่างน่าเสียดาย ที่จางอี้ชิงไม่ใช่ปาร์คชานยอล..

     

     

     

     

    TBC

      

      






    #ไหนบอกจะเขียนยาว -_-? 5555555555555
    ง้ากกกกกกกกกกกกก ไปละค่ะ กลัวโดนถล่ม 555555555









    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×