ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIN] Roller selector รักครั้งนี้คุณพี่ขอแซ่บ ! (krisyeol)

    ลำดับตอนที่ #24 : chapter 19 : ช่วยบอกได้ไหม..

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.76K
      0
      23 เม.ย. 56

      









    Chapter 19









     

                เสี่ยวลู่หานนั่งเหม่อมองน้ำทะเลสีครามและท้องฟ้าสีส้มยามพระอาทิตย์ใกล้ตกดินด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว วันนี้ตลอดทั้งวันเขายังไม่ได้พูดคุยกับโอเซฮุนเลยแม้แต่คำเดียว กิจกรรมสันทนาการต่าง ๆ ที่วางแผนเอาไว้ว่าจะทำอย่างไรเพื่อจะได้สัมผัสตัวผู้ชายหน้าตาดีล่มลงไม่เป็นท่า กระเทยแอ๊บแบ๊วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ด้วยความสับสน เหตุการณ์นี้ทำให้ลู่หานตระหนักว่าตนเองยังไม่พร้อมที่จะเปลี่ยนแปลงหรือยอมรับในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

     คิมมินซอกและคิมจงแดซึ่งกำลังนั่งสอดแนมอยู่หลังโขดหินทำได้เพียงยกนิ้วขึ้นมากัดด้วยความหวาดเสียวทั้งที่ยังไม่มีเรื่องน่าสนใจเกิดขึ้นเลยสักนิด พูดง่าย ๆ ก็คือพวกเขาสองคนกำลังพยายามซ้อมท่าทางเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้นมานั่นเอง

    ตุ๊ดอินดี้ซึ่งนั่งอยู่บนโขดหินซึ่งอยู่ถัดออกไปเหลือบตามองกะเทยแอ๊บแบ๊วเป็นระยะด้วยความรู้สึกหลากหลาย ภาพความทรงจำระหว่างกันค่อย ๆ กลับมาฉายวนอยู่ในความคิดทำให้หยดน้ำตารื้นขึ้นมาอย่างไม่อาจห้ามได้ เซฮุนเบือนหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะปล่อยให้น้ำตาไหลลงมา ม่านน้ำตาบดบังภาพสวยงามในความทรงจำระหว่างสองเพื่อนรัก ตุ๊ดอินดี้เม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่นก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกอย่างลวก ๆ แล้วลุกขึ้นเดินกลับเข้าไปในโรงแรมอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะเหลียวหลังกลับมามองสายตาของลู่หานซึ่งมองตามแผ่นหลังบางนั้นไปเลยแม้แต่น้อย..

    ลู่หานชันเข่าขึ้นกอดอย่างว้าเหว่ ตั้งแต่จำความได้โลกทั้งใบของเขาก็ถูกแต่งแต้มไปด้วยสีชมพูงดงามตระการตาและแน่นอน..ส่วนหนึ่งในชีวิตก็คือโอเซฮุนเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่ในเวลานี้ราวกับกลายเป็นคนแปลกหน้าเพียงเพราะเหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อคืน

    อีเซฮุน..กระเทยแอ๊บแบ๊วพึมพำก่อนจะซบหน้าลงกับหน้าขาแล้วร้องไห้ออกมาเงียบ ๆ ความรู้สึกอัดอั้นในหัวใจบีบหน่วงจนดูราวกับว่าหัวใจของลู่หานอาจแตกสลายได้อย่างง่ายดายอย่างไรอย่างนั้น

    อันที่จริง..เพียงแค่คิดถึงช่วงเวลาดี ๆ ระหว่างกันลู่หานก็ไม่อาจทำใจยอมรับได้ว่าต่อจากนี้เขาอาจไม่มีโอกาสได้เห็นรอยยิ้มของโอเซฮุนอีกต่อไปแล้ว..

     

     

     

    ..............................................

     

     

     

     

    น้องคยองซูววววอิเสี่ยวิ่งระริกระรี้เข้ามาหาผองเพื่อนซึ่งนั่งเรียงรายกันอย่างพร้อมเพรียงที่โต๊ะทานอาหารพร้อมกับถือแก้วน้ำอัดลมไว้ในมือแล้วส่งให้กับโดคยองซูที่นั่งรออยู่เมื่อครู่ก่อนจะทรุดตัวลงนั่งข้าง ๆ ส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้จนอีกฝ่ายต้องเอียงคอมองอย่างแปลกใจในความวิกลจริตของคนผิวเข้ม

    ค..ครับ ^^ ” คยองซูเอ่ยพลางเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจ

    ฮร้ายยย พี่เขินครับ ! ” จงอินยกมือขึ้นปิดหน้าพลางบิดตัวไปมาและพยายามขยับเก้าอี้เข้าหาคนตัวเล็กอย่างเนียน ๆ

    เชี่ยไค -_-^ ”

    โอเคไอ้สัด อา..กินข้าวครับน้องคยองซู ^+++^ ” อิเสี่ยพึมพำด่าอิเฮียผู้ซึ่งนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่ทางฝั่งตรงข้ามก่อนจะหันมาพูดเสียงหวานกับคนตัวเล็กพร้อมกับดวงตาหยาดเยิ้มที่ออกจะดูน่ากลัวเสียมากกว่าน่ารักแต่ดูเหมือนว่าคิมจงอินจะไม่รู้ตัวเลยสักนิด

    อ๊ะ..เทาเทา >///< ” พยอนแบคฮยอนสะดุ้งสุดตัวก่อนจะหันไปฟาดมือเล็กเข้ากับไหล่หนาของหวงจือเถาซึ่งนั่งหัวเราะคิกคักอย่างชอบใจอยู่ข้างกาย

    กินข้าวทีหอมกันทีนี่มึงบ้ารึเปล่าเนี่ย ! ” คิมจุนมยอนพึมพำอย่างหัวเสีย

    ไอ้เชี่ยเตี้ยมึงก็กิน ๆ ไปจะไปยุ่งอะไรกับคนอื่นล่ะ

    แล้วมึงมายุ่งกับกูทำไมไอ้หน้ามึนเอ๊ย ! ”

    ชานยอลกับเฮียกินข้าวสิคยองซูว่าพลางส่งยิ้มไปให้เพื่อนรักที่ยังคงมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออกหลังจากเกิดการเข้าใจผิดกับอู๋อี้ฟานเมื่อเช้า

    อ..อื้ม

    เฮียน่ะกินอยู่แล้วล่ะ ไม่ได้โกรธใครจนไม่ยอมกินข้าวหรอกถึงขั้นแดกจุดกันทั้งโต๊ะเมื่ออิเฮียประกาศจุดยืน ปาร์คชานยอลหันขวับไปมองเสี้ยวหน้าคมคายของคนข้างกายก่อนจะถอนหายใจออกมาแผ่วเบาในขณะที่คิมจุนมยอนแอบสะกิดขาจางอี้ชิงเพื่อถามเรื่องราวแต่สิ่งที่ได้รับกลับมาก็คือสีหน้ามึนตึงไม่รู้เรื่องราวใด ๆ

    เอ่อ..อร่อย ! ” คิมจงอินโพล่งขึ้นขณะพยายามกอบกู้สถานการณ์และบรรยากาศอึมครึมที่เกิดขึ้น

    ก็ดี ถ้าไม่ต้องกินพร้อมใครบางคนแต่นี่กูก็ไม่ได้หมายถึงใครนะ โอ้ย อิห่านี่ก็เล่นตัวจังอิเสี่ยคิดในใจพร้อมกับหันไปส่งยิ้มเจื่อน ๆ ให้กับโดคยองซูที่ยังคงนั่งทำตาโตอยู่ข้างกาย

    มึงโกรธกู ชานยอลพึมพำเสียงแผ่ว

    ใครโกรธมึง คริสว่าพลางม้วนสปาเก็ตตี้ขึ้นมาทานอย่างบ้าคลั่งโดยไม่คิดจะหันไปมองใบหน้าหวานของอีกฝ่ายที่กำลังหม่นหมองลงเลยแม้แต่น้อย ชานยอลเม้มริมฝีปากบางเข้าหากันแน่นก่อนจะเบือนหน้าหนีแล้วลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปในทันที

    อ..อ้าว น้องชานยอลจะไปไหนล่ะนั่นน่ะ หวงจือเถาพูดขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

    เฮีย..ไม่ตามไปเหรอฮะ ? คยองซูเอ่ยถามร่างสูงซึ่งยังคงนั่งทำหน้าบึ้งตึงอยู่อย่างนั้น

    ไม่ล่ะ ไอ้เชี่ยหูกางคงไม่อยากเห็นหน้าเฮียหรอก

    กูอยากด่ามึงมาก ทีเรื่องแบบนี้ทำไมมึงดูโง่จังวะ คิมจงอินพึมพำอย่างเอือมระอาทำเอาคนถูกด่าเงยหน้าขึ้นจากจานสปาเก็ตตี้มามองอย่างไม่สบอารมณ์ทันที

    อืม โง่จริง ๆ จางอี้ชิงเอ่ยเสียงเรียบโดยมีคิมจุนมยอนพยักหน้าเห็นด้วยอยู่ข้าง ๆ แม้จะถูกมองว่าเสือกก็ตามที

    มึงทะเลาะอะไรกันก็ไปเคลียร์เหอะว่ะ มึงบ้าป่ะเนี่ยมานั่งประชดน้องหูของมึงอยู่ได้ หวงจือเถาว่าพลางยกช้อนขึ้นประกอบท่าทางอย่างคนมีอารมณ์ร่วมเต็มที่

    หูกางโว้ยไม่ใช่แค่หู ! ” อิเฮียโวยวาย

    เออนั่นแหละ มึงต้องเคลียร์ถ้าไม่เคลียร์ก็ปี้เลยแล้วชีวิตมึงจะสบายขึ้น แพนด้าผู้โรแมนติกแนะนำก่อนจะโอบแขนพาดรอบบ่าของพยอนแบคฮยอนผู้ซึ่งกำลังนั่งหน้าแดงอยู่ข้าง ๆ

    พวกมึงรุมกู.. คริสเอ่ยเสียงแผ่วอย่างน่าหมั่นไส้

    พ่อง ! ” จงอินด่าก่อนจะหยิบถั่วลิสงจากจานมาปาใส่หน้าหล่อ ๆ ของอีกฝ่ายในทันที

    เชี่ยไคเดี๋ยวเถอะมึง

    ร้องเพลงสิร้องเพลง พยอนแบคฮยอนแนะนำด้วยรอยยิ้มสดใส อู๋อี้ฟานขมวดคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจทำเอาคนที่อยู่บนโต๊ะถึงกับเอือมในความประสาทแดกของคนหน้าหล่อที่ดูจะสับสนทางอารมณ์เป็นที่หนึ่ง

    เฮีย..เค้าหมายถึงให้ร้องเพลงง้อครับ ร้องเพลงง้อชานยอล คยองซูอธิบาย

    เฮ้ย ! เรื่องอะไรจะง้อ เฮียไม่ใช่คนผิดนี่ ! ” ร่างสูงโวยวายเสียงดังลั่นพลางยกมือขึ้นกอดอกราวกับเด็กที่ถูกพ่อแม่ขัดใจ

    แล้วมึงจะได้เคลียร์กับน้องเขาไหมไอ้ฟวย หวงจือเถาสำทับ

    นั่นสิ มึงมีพาวเวอร์หรือเปล่าน่ะ?

    เชี่ยเตี้ยมึงกวนตีนกูเหรอ ! ”

    อย่าเรียกกูว่าเตี้ยกูก็แค่บุรุษผู้ถูกหยุดส่วนสูง ! ” คิมจุนมยอนเถียงอย่างไม่ลดละ แต่ก่อนที่เรื่องราวระหว่างอิลีดผู้กระหายในพาวเวอร์กับอิเฮียเงิงเผยอจะบานปลายทุกคนภายในโต๊ะก็รวมหัวกันประชุมเกี่ยวกับแผนการเคลียร์ปัญหารักรุมเร้าของอู๋อี้ฟานผู้อาภัพ

     

     

     

     

    และแน่นอน..ว่าถ้าหากมันไม่จบภายในงานเลี้ยงแล้วล่ะก็..

    มันจะไปจบลงบนเตียงนอนภายในห้องพัก..

     

     

     

     

    ไอ้เชี่ยเตี้ยมึงไม่ต้องพากย์... จางอี้ชิงเอ่ยเสียงเรียบทำเอาคิมจุนมยอนสตันท์จุดหุบปากไปในทันที = =





                แผนทุกอย่างที่วางไว้ค่อย ๆ ดำเนินไปอย่างช้า ๆ เมื่องานเลี้ยงอำลาค่ายเริ่มขึ้นโดยจางอี้ชิงรับหน้าที่เล่นกีต้าร์ให้อู๋อี้ฟานร้องเพลงง้อปาร์คชานยอล แม้ว่าในตอนแรกอิเฮียจะไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจนี้เท่าไหร่นักเพราะไม่คิดว่าตัวเองจะต้องแบกหน้าอันหล่อเหลาและเงิงสีชมพูสดขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีแต่สุดท้ายเขาก็ไม่อาจทานทนต่อเสียงก่นด่าสาปแช่งและคำพูดกวนตีนของคิมจุนมยอนได้

                “ ขอพาวเวอร์จงสถิตย์อยู่ในตัวมึง อิลีดอวยพรในขณะที่ทุกคนกำลังเคร่งเครียดกับการเตรียมขึ้นเวทีของอู๋อี้ฟาน ทำเอาอิเฮียต้องถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่แล้วหันไปส่งยิ้มสยองให้กับคิมจุนมยอนพลางเอ่ยเสียงเรียบ

                “ มึงเลิกพูดเหอะ

                “ ขอบคุณ = =  ” ลีดนีออนสตันท์จุด นึกอยากเอานิ้วจิ้มถ้ำลิเจียของอิเฮียด้วยความเคียดแค้น ทำไมกันนะ..ทำไมถึงไม่มีใครเห็นถึงความเป็นห่วงที่จุนมยอนมอบให้ ! บ้าจริง !

                “ เฮีย..สู้ ๆ นะ เค้าจะจัดการกับชานยอลเอง คยองซูให้กำลังใจ อู๋ฟานพยักหน้าพร้อมกับสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่คนอย่างเขาจะขึ้นเวทีร้องเพลงง้อใครสักคน ให้ตาย ! ทำไมเขาต้องมาทำเรื่องบ้าๆ แบบนี้ให้กับปาร์คชานยอลด้วยวะเนี่ย

                ขึ้นเหอะมึง คนรอนานแล้ว อี้ชิงว่าพลางถือกีต้าร์เดินนำขึ้นไปก่อน

                อย่าทำเสียแผนนะมึง สายตาอ่ะมองที่ชานยอลเข้าไว้ แล้วอย่าไปค้อนใส่นะโว้ย ! ” จงอินเน้นย้ำก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังเมื่อได้เห็นใบหน้าบูดบึ้งของเพื่อนสนิท

                กูรู้แล้ว อู๋อี้ฟานตอบก่อนจะเดินตามอี้ชิงขึ้นไปเรียกเสียงกรี๊ดจากบรรดานักเรียนหญิงทั้งหลายได้อย่างท่วมท้น ร่างสูงจุดยิ้มเฝื่อน ๆ อย่างเก้ ๆ กัง ๆ ก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้อย่างรวดเร็วเพราะสะดุดสายไมค์

                เอ่อ..วันนี้ผมอู๋อี้ฟานและจางอี้ชิงตัวแทนนักเรียนชั้นปีที่สาม เอ่อ.. สายตาคมสบกับดวงตากลมโตของปาร์คชานยอลที่นั่งอยู่บนพื้นทรายตรงจุดที่ตรงกันอย่างเหมาะเจาะทำให้อู๋ฟานเกิดอาการพูดไม่ออกอย่างกะทันหันในขณะที่บรรดาผองเพื่อนด้านล่างต่างโบกไม้โบกมือเร่งเร้าให้เขาพูดต่อ

                วันนี้เป็นครั้งแรกที่ผมได้ขึ้นเวที ส่วนเหตุผล..

                “ ผมอยากร้องเพลงนี้ให้กับใครคนหนึ่ง เราเข้าใจผิดกันเมื่อเช้าจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้เคลียร์กันซักที ผมรู้ตัวเองว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาผมมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองแต่ยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของคนคนนั้น เพราะงั้น..หลังจากงานจบผมหวังว่าผมจะได้รับคำตอบมายืนยันทุกอย่างเสียที..

                เสียงปรบมือดังขึ้นพร้อม ๆ กับที่จางอี้ชิงเริ่มดีดกีต้าร์เป็นทำนองเพลง อู๋อี้ฟานมองสบตากับปาร์คชานยอลที่กำลังเม้มริมฝีปากเข้าหากันแน่น ดวงตากลมโตฉายแววสับสน ร่างสูงจุดยิ้มมุมปากไปให้ก่อนจะเริ่มต้นร้อง

     


     

    ที่นี่ที่ฉันคอยเธออยู่ เฝ้ารอเธอมานานแล้วเธอรู้ไหม

    ทุกทียังมั่นคงไม่เปลี่ยน ยังไงก็ยังทนไหว ยังไงก็ยังรอไหว

     

    แต่ว่าในวันนี้ฉันเริ่มอยากรู้ สิ่งหนึ่งในใจวนเวียนคิดอยู่

    อยากให้เธอบอก ไม่อยากจะหลอกตัวเองอีกแล้ว

     

    ช่วยบอกได้ไหมจริงๆเธอคิดเช่นไร มันคือความรักแบบไหนที่เธอต้องการ

    ฉันเป็นได้แค่เพื่อนเธอหรือมากกว่านั้น และฉันยังควรรอเธอทุกวัน อีกไหม

     

    เมื่อก่อนก็ไม่เคยรู้สึก อยากที่จะมีคำถามเธอสักที

    รักเธอหมดทั้งใจที่มี หัวใจดวงหนึ่งดวงนี้ไม่คิดจะมีข้อแม้

     

    แต่ว่าในวันนี้ฉันเริ่มอยากรู้ สิ่งหนึ่งในใจวนเวียนคิดอยู่

    อยากให้เธอบอก ไม่อยากจะหลอกตัวเองอีกแล้ว

     

    ช่วยบอกได้ไหมจริงๆเธอคิดเช่นไร มันคือความรักแบบไหนที่เธอต้องการ

    ฉันเป็นได้แค่เพื่อนเธอหรือมากกว่านั้น และฉันยังควรรอเธอทุกวัน อีกไหม

     

    ฉันอยากจะขอให้เธอเห็นใจ เพราะว่าวันนี้ฉันทนไม่ไหว ขอเธอได้ไหม ช่วยบอกกับฉันที

     

    ช่วยบอกได้ไหมจริงๆเธอคิดเช่นไร มันคือความรักแบบไหนที่เธอต้องการ

    ฉันเป็นได้แค่เพื่อนเธอหรือมากกว่านั้น และให้เธอบอกกับฉันสักคำ

    สิ่งที่ฉันได้อยากจะรู้มานาน และฉันยังควรรอเธอทุกวัน อีกไหม..

     



     

                ดูราวกับว่าในเวลานี้พื้นที่แห่งนั้นจะมีเพียงแค่อู๋อี้ฟานและปาร์คชานยอล ร่างสูงค่อย ๆ กระโดดลงเวทีไม้เตี้ย ๆ ลงไปหาอีกฝ่ายที่ยังคงนั่งนิ่งอยู่บนผืนทรายสีขาวสะอาด สายลมพลิ้วไหวทำให้เส้นผมเส้นเล็กของร่างโปร่งปลิวไปตามแรง อู๋ฟานทิ้งตัวลงนั่งตรงหน้าก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาทว่ากลับดังก้องอยู่ในหัวใจของปาร์คชานยอลอย่างชัดเจนเหลือเกิน

                ฉันชอบนาย..

                “ ...

                “ นายเคยชอบฉันบ้างไหม..ชานยอล.. ทุกสิ่งเงียบสงบในขณะที่คนหน้าหวานแทบจะลืมหายใจในทันทีที่ได้ยินประโยคนั้น อู๋อี้ฟานยกมือขึ้นแนบข้างแก้มใสอย่างแผ่วเบาทำเอาชานยอลใจเต้นแรงไปหมด

                ตอบสิ..ฉันควรจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองดี

                “ ก..กู..ไม่ใช่สิ..ผม.. ร่างโปร่งเงียบไป อันที่จริงเขาเองก็ตัดสินใจไว้ก่อนหน้านี้แล้วว่าจะบอกชอบอู๋อี้ฟาน เพราะงั้นก็คงไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดหนักอะไร ชานยอลยิ้มก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ แล้วตอบ

                ผม..ชอบพี่ครับ ผมก็ชอบพี่..

                “ อ๊า..เหี้ยเอ๊ย อยากจูบมึงจัง ! ” อู๋อี้ฟานยิ้มกว้างราวกับคนเสียสติด้วยความดีใจจนนึกอยากจะดึงตัวอีกฝ่ายเข้ามารับจูบดูดดื่มแต่ก็ต้องหยุดยั้งตัวเองเอาไว้ก่อนเพราะถ้าหากจะให้เขามาทำอะไรโจ่งแจ้งต่อหน้าคนเป็นร้อย ๆ ในเวลานี้ก็คงไม่เหมาะแม้ว่าในใจจะหลุดลอยไปไกลสุด ๆ ด้วยความฟินแล้วก็ตาม

                พูดไม่เพราะ.. ชานยอลดุ

                ลืมตัวอ่ะ อิเฮียตอบยิ้ม ๆ สายตาของคนทั้งคู่สอดประสานกันเนิ่นนานเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกที่มี หัวใจสองดวงเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่งจนคล้ายกับว่าทุกสิ่งรอบข้างกำลังถูกกลืนหายไปกับอากาศ ณ ตอนนี้ที่ตรงนี้มีเพียงแค่อู๋อี้ฟานและปาร์คชานยอลเท่านั้น

                ขึ้นห้องไหมมึง เสียงของหวงจือเถาดังขึ้น และวินาทีถัดมาบรรยากาศรอบข้างก็เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

                กรี๊ดดดดดดดดดดดด เสียงกรีดร้องอย่างพร้อมเพรียงของตุ๊ดอินดี้และกะเทยแอ๊บแบ๊วดังขึ้นหลังจากที่เมื่อครู่นั่งลุ้นกันอยู่คนละฟากจนแทบลืมหายใจ คิมจงแดและคิมมินซอกอ้าปากหวอด้วยความตกตะลึงเพราะที่ผ่านมาไม่ได้สอดแนมเรื่องราวความรักของแก๊งรุ่นพี่ทำให้รู้สึกราวกับทุกสิ่งกำลังผิดพลาดไปหมด !

                “ ฟร๊าคคคค ! ทำไมเราถึงได้พลาดประเด็นนี้ ! ” จงแดโหยหวน

                โฮ..ฟรัคเย้ ! ” มินซอกอุทานพลางยกมือขึ้นปิดปากอย่างอึ้ง ๆ ในขณะที่นักเรียนคนอื่น ๆ ยังคงวางตัวไปถูกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น




                อู๋อี้ฟานปีสามสารภาพรักปาร์คชานยอลปีสองในงานอำลาค่าย..



     

                ชองยุนโฮสต๊าฟประจำค่ายยิ้มกริ่มอย่างพึงพอใจที่ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดี การแสดงชุดต่อไปเริ่มขึ้นอย่างสนุกสนานท่ามกลางเสียงหัวเราะของทุกคนแต่อาจจะยกเว้นตุ๊ดอินดี้และกะเทยแอ๊บแบ๊วล่ะนะ แม้ว่าทั้งคู่จะยังคงแต่งองค์ทรงเครื่องมาประชันกันอย่างไม่มีใครยอมใครทว่าก็ยังไม่ยอมหันมาเปิดปากพูดคุยกันอยู่ดี

                นี่ ๆ พวกนายสองคนไม่คิดจะคุยกันหน่อยเหรอ มินซอกรวบรวมความกล้าสะกิดถามเพื่อนใหม่ทั้งสองแต่กลับมีเพียงความเงียบและรังสีอำมหิตแผ่ออกมาเป็นคำตอบ

                เอ่อ..ฮะ ๆ =____=;; ”

                “ เอ้อ..ดูการแสดงต่อเถอะมึง ฮ่า ๆ จงแดเอ่ยก่อนจะดึงตัวเพื่อนสนิทให้หันกลับมาสนใจการแสดงบนเวทีต่อ

                ทางด้านสองสายแก๊งเดอะเตี้ยที่เริ่มกรึ่ม ๆ เพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ก็เริ่มออกลายป่วงอีกครั้งเมื่อพยอนแบคฮยอนลากคิมจุนมยอนขึ้นไปร้องคาราโอเกะบนเวที

                เสี๊ยงงงรถด่วนขบวนสุดท้ายยย... อิหมาโหยหวนพลางควงไมค์ในมือไปมาทำเอาหวงจือเถาต้องยกมือขึ้นกุมขมับอย่างเหนื่อยใจ

                ดั่งเป็นเหมือนกามหนดหมายหยาดน้ำคาวไหลนองหน้า...

                “ ไอ้เชี่ยเตี้ยแม่งบ้าไปแล้วเรอะ! ” อี้ชิงผุดลุกขึ้นยืนด้วยความตกใจหลังจากอิลีดแย่งไมค์จากแบคฮยอนไปต่อเติมเนื้อร้องใหม่พลางหัวเราะคิกคักอย่างสนุกสนาน

                น้องคยองซูวววว จงอินเรียกเสียงหวานพลางส่งสายตาไปให้กับโดคยองซูที่นั่งทำตาโตส่งยิ้มน่ารักอยู่ข้าง ๆ

                ครับ ?

                “ น่ารักจุงครับ ! ฮ่า ๆ คนผิวเข้มตอบก่อนจะหันกลับไปปรบมือเป็นจังหวะเมามันประหนึ่งเพลงฮาเร็มเชคทั้งที่อิพวกแก๊งเดอะเตี้ยมันกำลังร้องเพลงโหยหวนครวญครางกันอยู่ = =;;

                อยากนั่งตักกูป่ะ >< ” อิเฮียสะกิดอิหยอยพลางก้มหน้าลงมองพื้นอย่างเขิน ๆ

                ตกลงมึงจะพูดยังไงกับกูเนี่ย ชานยอลส่ายหน้าถามขำ ๆ

                ไม่รู้ว่ะ กูติดพูดแบบนี้กับมึงไปแล้วนี่ แต่กูชอบมึงจริง ๆ นะ

                “ อืม..กูก็ชอบมึงจริง ๆ .. ร่างโปร่งตอบเสียงแผ่ว ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีระเรื่อเพราะความเขินอายที่ไม่รู้จะแสดงออกชัดเจนอะไรนักหนา อิเฮียจึงยกนิ้วขึ้นเกลี่ยแก้มใสเบา ๆ ทำเอาหัวใจของชานยอลเต้นแรงยิ่งกว่าดิมเสียอีก

                อื้อ ! อย่าแกล้งสิ >///< ”

                “ เขินแล้วน่ารักจัง..มึงเป็นแฟนกูยังวะเนี่ย ?

                “ ยังงงง >< ” ร่างโปร่งส่ายหน้ารัว อู๋ฟานหัวเราะออกมาเบา ๆ ก่อนจะถามต่อ

                “ งั้นเป็นเลยได้ป่ะ ?

                “ ขอไม่โรแมนติกเลยแม่ง = = ” ใบหน้าน่ารักยู่ลงเล็กน้อยอย่างขัดใจตรงกันข้ามกับความรู้สึกร้อนผะผ่าวที่แล่นปราดขึ้นมาทั่วตัวด้วยความตื่นเต้น

                “ เออๆ เอาใหม่.. คริสเอ่ยเสียงเรียบก่อนจะนิ่งไปสักพักเพื่อรวบรวมความกล้า

                “ เร็วดิ

                “ อย่าเร่งสิไอ้เชี่ยนี่.. ว่าพลางสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ในขณะที่หัวใจกำลังเต้นกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง ชานยอลบีบมือเย็นเฉียบเข้าหากันแน่นเพื่อรอฟังอย่างตั้งใจ

                “ ...

                “ คือ..เป็นแฟนกันนะชานยอล ;///; ”

                .

                .

                “ อื้อ..เป็นแฟนกัน..คริส >////< ”

                   

     

     

     

     

    TBC
      


     




    #มาต่อแล้วฮ่ะ 555555555555555555
    เหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้าละเกิน =[]=;;;
    เจอกันใหม่แช้ปหน้าค่าาาา ฮู่เร่ !!!!!!!!!!
    สุดท้ายเปิดจองฟิคคุณพี่แล้วนะฮร้าาา รายละเอียดตามนี้ฮร่ะ จิ้ม









     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×