คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ◆ 2 : darkness
-2-
darkness
เข็มนาฬิกาบอกเวลาบนหน้าปัดเคลื่อนที่ช้า ๆ ราวกับจะยืดเวลาแห่งความทรมานนี้ให้นานออกไป ใบหน้าหวานของ
ปาร์คชานยอลเหยเกด้วยความเจ็บปวดในขณะที่แก้มใสแนบลงเกลือกกับพื้นเตียง ร่างโปร่งขยับโยกไปตามแรงกระแทกจากร่างสูง ข้อมือช้ำห้อเลือดจากการดิ้นรนต่อสู้ของตัวเอง
“ อา..ชานยอล..ชานยอล ” เสียงครางของคนเหนือร่างดังขึ้นข้างหูเมื่อร่างสูงโน้มตัวลงต่ำพลางซุกไซ้ลำคอขาวของชานยอลด้วยความหลงใหล กลิ่นกายที่หอมหวานและความร้อนที่ดูดกลืนแกนกายอยู่ในเวลานี้กำลังทำให้เขาเจียนคลั่ง ร่างสูงไสร่างกระแทกกายรุนแรงอย่างไม่อาจควบคุม
เขาหลงใหลและมัวเมา..เขาเสพติดร่างกายของปาร์คชานยอล..
“ ฮึก.. ” ชานยอลนอนร้องไห้อยู่กับพื้นเตียงด้วยความเจ็บปวดในขณะที่คนเหนือร่างพรมจูบไปทั่วใบหน้าของคนตัวเล็กกว่าอย่างหลงใหล ก่อนจะเลื่อนมาประกบริมฝีปากอิ่มเข้ากับริมฝีปากบางเพื่อจูบซับของเหลวสีขาวขุ่นบริเวณมุมปากสวย มือหนาเอื้อมไปแก้มัดให้กับร่างโปร่งก่อนจะไล้มือทั่วผิวกายขาวเนียนที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยแดงช้ำ ดวงตาคมจดจ้องดวงตากลมฉ่ำน้ำตาของชานยอลด้วยความรัก
“ เธอรักฉันไหม.. ” ร่างสูงถามเสียงอู้อี้ขณะที่ใบหน้าซุกไซ้กับลำคอขาวที่แสนหอมหวาน
“ ไม่..ไม่.. ” ชานยอลส่ายหน้าช้า ๆ เมื่อมือหนานั้นไล้ไปตามโครงหน้าเรียวเบา ๆ
“ จำไว้ว่าเธอเป็นของฉัน..เธอต้องเป็นเด็กดีของฉันคนเดียว..”
..................
เป็นเวลากว่าสองเดือนที่นายแพทย์หนุ่มเก็บความสงสัยเกี่ยวกับเสียงแปลกประหลาดที่มักจะดังขึ้นหลังเที่ยงคืนเอาไว้ในใจ เสียงกรีดร้องอย่างทุกข์ทรมาน..อู๋อี้ฟานไม่แน่ใจว่ามันดังมาจากไหนกันแน่ แม้จะพยายามถามจากนางพยาบาลและบุรุษพยาบาล แต่น่าแปลกที่ทุกคนกลับพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่เคยได้ยินเสียงที่ว่านั่นเลยแม้แต่น้อย
ร่างสูงนอนขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นขณะที่ดวงตาคมแหงนมองนาฬิกาข้างฝาบอกเวลาตีสอง เสียงกรีดร้องเงียบไปแล้ว..แต่เขากลับยังคงไม่หายข้องใจ เวลานี้ชายหนุ่มรู้สึกเป็นห่วงปาร์คชานยอลอย่างน่าประหลาด
ร่างสูงยันตัวเองลุกจากเตียงแล้วตัดสินใจเดินไปหาคนไข้ในความดูแลที่ห้องใต้หลังคา เสียงไม้กระดานลั่นเอี๊ยดอ๊าดแสงไฟสีส้มจากตะเกียงติดผนังวูบไหวยามที่อู๋ฟานเดินผ่าน นายแพทย์หนุ่มเดินขึ้นบันไดแคบชันซึ่งเป็นทางไปสู่ห้องใต้หลังคาอย่างรีบเร่งก่อนจะมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูด้วยจิตใจที่ว้าวุ่นและร้อนรน
ความเงียบในยามวิกาลทำให้ร่างสูงได้ยินเสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นดังออกมาจากภายในห้องได้อย่างชัดเจน ใบหน้าหล่อฉายแววหวั่นวิตกก่อนจะบิดลูกบิดประตูเข้าไปภายในห้องทันที
“ ชานยอล.. ” อู๋อี้ฟานพึมพำเรียกชื่อขณะที่ใช้สายตามองหาคนตัวเล็กกว่าไปทั่วห้องที่มีกลิ่นคาวของเลือดคละคลุ้ง
“ อย่า..ไม่..อย่า.. ” ร่างสูงขมวดคิ้วมองหาต้นเสียงก่อนจะพบร่างโปร่งกำลังนั่งกอดเข่าตัวสั่นอยู่ใต้โต๊ะหนังสือ นายแพทย์หนุ่มรีบถลาเข้าไปหาคนตัวเล็กกว่าในทันทีด้วยความเป็นห่วง
“ ชานยอลเป็นอะไร เด็กดีออกมาหาฉันเร็ว.. ” อู๋ฟานยื่นมือออกไปหา ชานยอลเงยหน้าขึ้นมอง ร่างโปร่งส่ายหน้าก่อนจะขยับหนีเข้าไปชิดกับผนังไม้มากกว่าเดิม
“ คนดีออกมาหาฉันเถอะ.. ” นายแพทย์หนุ่มเกลี้ยกล่อมน้ำเสียงอ่อนโยนทั้งที่ในใจกำลังร้อนรุ่ม มือหนาเลื่อนเข้าไปจับแขนคนตัวเล็กกว่าเบา ๆ เพื่อลากออกมา ชานยอลก้มมองมือของอู๋ฟานก่อนจะค่อย ๆ คลานออกมาจากใต้โต๊ะหนังสือช้า ๆ ดวงตากลมโตฉ่ำไปด้วยน้ำตาในมือกำสร้อยคอที่ขาดแล้วของร่างสูงแน่น
อู๋อี้ฟานถลาเข้าไปหาชานยอลอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กกว่าตวัดอ้อมแขนโอบกอดร่างของนายแพทย์หนุ่มในทันทีก่อนจะร้องไห้ออกมาอย่างหนัก ร่างสูงกระชับอ้อมกอดแน่นด้วยความสงสารสุดหัวใจ อู๋ฟานรู้สึกผิดกับชานยอลเหลือเกิน..
“ ฮึก..เขามา..เขามาจริง ๆ ” ร่างโปร่งพึมพำขณะที่ยังคงร้องไห้อยู่ในอ้อมแขนนั้น ไหล่แกร่งของอู๋ฟานเปียกไปด้วยน้ำตาของชานยอล ร่างสูงลูบศีรษะคนตัวเล็กกว่าเบา ๆ อย่างปลอบประโลม
“ ใครกัน.. ” นายแพทย์หนุ่มพึมพำพูดกับตัวเองขณะซุกหน้าลงกับลำคอขาวของชานยอล จมูกโด่งกดลงที่แก้มใสซึ่งเปียกไปด้วยน้ำตานั้น ชานยอลเงยหน้าขึ้นช้อนตากลมที่สั่นระริกมองดวงตาคมหม่นหมองของอู๋อี้ฟาน สองมือยกขึ้นประคองใบหน้าเรียวได้รูปเอาไว้ด้วยความไม่เข้าใจ
“ ผมเป็นเด็กดีแล้วนะ ฮึก..แต่ทำไม.. ” ริมฝีปากบางเบ้ออกขณะที่น้ำตาเริ่มรินไหลลงมาอย่างสุดกลั้น อู๋ฟานดึงมือของ
ชานยอลออกจากใบหน้าก่อนจะก้มลงสำรวจทั่วร่างที่เต็มไปด้วยรอยแดง บางจุดช้ำเขียว ข้อมือห้อเลือด นายแพทย์หนุ่มเลิกเสื้อถอดเสื้อนอนตัวบางที่ใส่ไว้อย่างลวก ๆ ของชานยอลออกช้า ๆ มือหนาไล้ไปตามบาดแผลที่ลำคอลงมายังแผ่นอกขาวเนียนที่บัดนี้เต็มไปด้วยรอยขีดข่วน
“ เด็กดี..ฉันจะทำแผลให้เธอนะ ลุกไหวไหม? ” อู๋ฟานถาม
ชานยอลส่ายหน้า
“ ถ้างั้นฉันจะอุ้มเธอไปนะ ” ร่างสูงถามอีกครั้งคราวนี้
ชานยอลพยักหน้าก่อนยกแขนขึ้นโอบรอบคอของอู๋ฟาน นายแพทย์หนุ่มช้อนร่างอ้อนแอ้นของคนตัวเล็กกว่าไว้ในอ้อมแขนก่อนจะนำไปวางลงบนเตียงอย่างแผ่วเบาเพื่อไม่ให้ชานยอลกระทบกระเทือนไปมากกว่านี้
“ ไปไหน..ไปไหน.. ” ดวงตากลมคู่สวยสั่นระริกด้วยความหวั่นใจเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะเดินออกไปจากห้อง
“ ไม่ได้ไปไหน ฉันมาเอากล่องปฐมพยาบาลตรงนี้ไง ” ร่างสูงว่าก่อนจะดึงกล่องเครื่องมือปฐมพยาบาลลงมาจากหลังตู้เสื้อผ้า
ชานยอลพยักหน้าด้วยความโล่งใจ อู๋ฟานยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเดินกลับมาหา
“ คนดีทนเจ็บหน่อยนะ ” นายแพทย์หนุ่มว่าก่อนจะเริ่มลงมือทำแผลให้
“ อื้อ..เจ็บ.. ” ชานยอลสะดุ้งเมื่ออู๋ฟานแต้มยาที่แผลบริเวณลำคอ
“ เดี๋ยวก็เสร็จแล้วนะคนดี อดทนหน่อยนะครับ ” ร่างสูงปลอบอย่างอ่อนโยน คนตัวเล็กกว่าพยักหน้าพลางกัดริมฝีปากเอาไว้เพื่อกลั้นเสียง สองมือบีบมือข้างที่ว่างอยู่ของอู๋ฟานแน่นเพื่อระบายความเจ็บปวด
เมื่อทำแผลและเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้วนายแพทย์หนุ่มก็กลับมานั่งลงบนเตียงข้าง ๆ ชานยอลที่นอนลืมตาโพลงอยู่ เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกลับมาหาแล้วร่างโปร่งก็โผเข้ากอดเอวของร่างสูงแน่น
และไม่มีทีท่าว่าจะยอมปล่อยง่าย ๆ
“ ฮึก..อย่าทิ้งผมไป.. ” เสียงที่แหบพร่าและสั่นเครือนั้นทำให้
อู๋ฟานปวดใจ มือใหญ่ยกขึ้นลูบศีรษะของชานยอลเบา ๆ อย่างปลอบประโลม
“ ไม่แล้ว..ฉันจะไม่ทิ้งเธอไปอีกแล้วล่ะ ฉันสัญญา ”
“ จริง ๆ นะ..คุณสัญญาแล้ว ” ชานยอลส่ายหน้าอยู่กับเอวของร่างสูงขณะกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น
“ ฉันสัญญา หลับซะนะเด็กดี.. ” อู๋ฟานว่าพลางแกะมือของชานยอลออกแล้วพลิกตัวของอีกฝ่ายให้นอนลงแนบกับพื้นเตียงตามเดิม
“ อย่าไปไหน.. ” คนตัวเล็กกว่ากุมมือของร่างสูงไว้หลวม ๆก่อนจะค่อย ๆ ปิดเปลือกตาลงนอนหลับ อู๋ฟานใช้มือหนาลูบใบหน้าของ
ชานยอลอย่างแผ่วเบา ก่อนจะก้มลงจุมพิตที่มุมปากอย่างทะนุถนอม
“ ใครทำกับเธอแบบนี้ชานยอล ” นายแพทย์หนุ่มพึมพำอย่างใช้ความคิด
TBC.
# ตอนนี้ไม่สั้นเด้อถ้ารวมฉากที่ตัดออกไป ><
วิธีอ่านฉากที่ถูกตัด : ติดต่อแอค @bazugaa นะคะ
ความคิดเห็น