ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ►[FIC BOYFRIEND-2] Therapy Addict ◄

    ลำดับตอนที่ #2 : ► Different Tear's 01 ◄ Kwangmin's Part ! + Intro

    • อัปเดตล่าสุด 1 ม.ค. 55


          





             ชีวิตๆหนึ่งของคนเรา มันไม่ได้ยืนยาวและมันก็ไม่ได้สมหวังในทุกๆเรื่อง ..
    ภายใต้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นกำลังมีความสุขเสมอไป
    ใครสักคนที่คนๆหนึ่งสามารถมอบชีวิตทั้งชีวิตให้ได้โดยไม่มีขอแลกเปลี่ยน
    คนๆนั้นที่ผมทุ่มทั้งตัวและหัวใจ .. คนๆนั้นที่ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา ..
    และใครคนหนึ่งผู้ยังคงเชื่อมั่นในความรักโง่ๆมาตลอด ..
     
    ผมเองยังไงล่ะ .. โจกวังมิน


     





     
    ความรู้สึกดีๆที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกับคนๆหนึ่ง
    รอยยิ้ม ความร่าเริง และความลึกลับในตัวของคนๆนั้นที่คอยดึงดูดผมมาตลอด
    ไม่รู้ .. ว่าตัวเองเผลอทำใครคนนั้นเสียน้ำตาไปจนยากจะให้อภัย
    เฝ้ามอง .. แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไร โง่ .. ที่ปล่อยให้คนๆนั้นหลุดมือไปโดยไม่รั้งเอาไว้
    เจ็บใจ .. ที่แม้แต่ความรู้สึกของตัวเองแท้ๆยังไม่มั่นใจ เสียใจ .. ที่คิดได้ก็สายไปจริงๆ
     
    ทำไม .. คิมดงฮยอน ทำไมนายถึงได้เลวร้ายขนาดนี้


     




     
    เพราะเสียใจ .. มันเลยทำให้ผมต้องทรยศกับหัวใจตัวเอง
    ผมมันไม่ดีที่หลอกใช้คนอื่นมาเป็นเครื่องมือของความผิดครั้งนี้
    จนในที่สุดมันความรู้สึกของผมเองมันก็เปลี่ยนตามไปด้วย
    เพราะผมไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมตัดสินใจทำลงไป
    เพียงเพราะความหวังเล็กๆที่อาจจะทำให้พี่หันกลับมามองผมบ้าง
     
    เพราะแบบนั้น มันทำให้ผู้ชายที่ชื่อมินวูคนนี้ ยืนยันจะเลือกพี่ไม่ได้อีกต่อไป ..

     





     
    ความรักที่มันผิดรูปแบบ ความเห็นแก่ตัวผิดๆที่มันขัดต่อทุกอย่าง
              แค่เพราะเชื่อว่าความรักมันไม่มีข้อจำกัด มันเลยทำให้ผมไม่คิดจะถอนตัว
              รักคนๆหนึ่งที่เขาไม่รัก .. แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากปล่อยใครอีกคนให้จากไป
              ผมเพิ่งมองเห็นความหวังดีจากสายตาของคนที่ผมไม่ได้รักในวันที่สิ้นหวัง
              แต่มันก็สายไป .. และไม่เหลือใครเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง
     
              ได้โปรด .. กลับมารักกันอีกครั้ง .. กลับมารักยองมินคนนี้อีกครั้ง ..

     
     
                 
     



    Different Tear’s – Boy Friend 01
    Kwangmin’s Part



    “ตั้งใจหน่อยสิ นายพลาดมากี่รอบแล้ว ? หา ?”


                “...”


                เสียงดุดังมาจากผู้กำกับเหมือนเช่นเคย ..


    ผมเอง .. กวังมิน ที่เต้นผิดจังหวะรอบที่ล้านกว่าๆ ผมไม่อยากมองหน้าทุกคนตอนนี้เลย รู้สึกผิดแบบบอกไม่ถูก ผมปวดหัวมากแล้วผมก็เต้นต่อไปไม่ไหวแล้ว จังหวะเพลงที่เริ่มจะเพี้ยนไปทุกทีๆ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเพราะปวดหัวจนนอนไม่หลับ


    “ขอโทษครับ ผมจะตั้งใจมากกว่านี้”


    และผม ก็พูดออกไปได้แค่เท่านี้ พวกเรายังคงเต้นกันต่อไป แต่จริงๆแล้วแทบจะทรงตัวกันไม่ไหว เพลงยังคงดำเนินต่อไปและทันทีที่ถึงคิวผมต้องเต้นคู่กับยองมิน พี่ยองมินมองหน้าผมแล้วยิ้มก่อนที่เขาจะจงใจเต้นผิดจังหวะต่อหน้าต่อตา


    “คัด ! เริ่มใหม่อีกรอบทั้งคู่เลย ยองมิน นายด้วยหรอ ?”


                ตอนนี้ ยองมินก้มหน้าแล้ววิ่งหายไปอีกทาง


                “ฮยองจะไปไหนน่ะ ?”


                เป็นมินวูที่ตะโกนตามหลังยองมิน ส่วนผมก็กำลังจะวิ่งตามเขาก็ถูกรั้งแขนเอาไว้แทน


                “กวังมินอา ให้ฉันไปเองเถอะ”


                แล้วเงาของมินวูก็หายออกไปอีกคน ..


                ผมทรุดตัวลงกับพื้นทันทีแล้วหายใจเหมือนกับคนขาดอากาศ ผมรู้ทุกคนต้องเหนื่อยเพราะความผิดพลาดของผม .. ทำไมผมถึงเต้นเหมือนคนอื่นเขาไม่ได้สักที


                ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าทุกคนกำลังเหนื่อย แต่ผมฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว
     

                ภาพที่เห็นเมื่อกี้มันยิ่งกว่าบั่นทอนกำลังใจของผมเสียอีก


                “พี่ฮะ ผมขอโทษ ผมเต้นต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ”


                “เอาน่ากวังมิน ไม่เป็นไรหรอก เรามาสู้กันใหม่ก็ได้”


                พี่จองมินยิ้มให้แล้วยกมือมายีเส้นผมของผมเบาๆส่วนพี่ฮยอนซองก็เดินไปหาผู้กำกับ คุยอะไรกันอยู่สักพักก่อนที่ผู้กำกับจะสั่งพักกองแล้วถ่ายต่อในอีกสองวันแทน


                ผมหันไปมองพี่ดงฮยอน ที่เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆแล้วมองไปทางที่ยองมินกับมินวูวิ่งไป ผมแค่อยากให้พี่เป็นห่วงผม ไม่สิ แค่อยากให้พี่เห็นผมบ้างก็ยังดี


               
    อา ผมส่ายหัวกับความคิดไร้สาระแล้วพยุงตัวเองเดินตามหลังพี่จองมินไปที่รถ แล้วก็เห็นว่ามินวูพายองมินมาที่รถแล้ว


                “มินวู นายไปเจอยองมินได้ยังไงน่ะ ?”


                “ตอนแรกผมก็หาไม่เจอหรอกฮะ แต่พอจะกลับออกมาก็เห็นฮยองร้องไห้อยู่หน้าห้องน้ำ”


                “อ่า อย่างนั้นหรอกหรอ”


                กลายเป็นพี่ดงฮยอนที่ถามมินวูแทน ทั้งที่วันนี้พี่เขายังไม่พูดกับผมสักคำ


                 .. เจ็บใช้ได้เลย



                “กวังมิน ขึ้นรถเถอะ”


                ยองมินเดินมาตบไหล่ผมเบาๆแล้วดึงตัวผมให้นั่งหลังสุดกับเขาสองคน


                “ไหวไหม ?”


                ผมลืมตาทันทีเมื่อได้ยินเสียงพี่ยองมิน ทั้งๆที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน


                “ไม่สบาย ทำไมไม่บอก นายน่ะฝืนไข้ไม่ไหวหรอกนะ”


                “ฮะ พี่รู้หรอ ?”


                ผมเบิกตากว้าง ขยับตัวเองมาอยู่ในท่านั่งตรงก่อนจะถามยองมินอย่างสงสัย
    ใช่ ผมไม่สบายเพราะตากฝนหลังงานแฟนไซน์เมื่อสองวันก่อน

                 .. แล้วยองมินรู้ได้ยังไง ผมคิดว่าตัวเองปิดได้เนียนสุดๆแล้วนะ


                “หน้านายซีดขนาดนี้ เต้นก็แทบทรงตัวไม่อยู่ ถ้านายไม่ได้นอนพักทั้งๆที่เป็นไข้แบบนี้ อาการมันจะยิ่งหนักเอานะ ไม่กลัวแฟนคลับกังวลหรอ ?”


                ยองมินมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนผิดกับคนที่ผมอยากให้เป็น ..
    ที่เขาว่ากันว่า ฝาแฝดมักจะรู้เรื่องของกันและกันเสมอ มันก็คงจริงสินะ


                ขอบคุณนะครับ ที่พี่เป็นห่วงผม ..


                “กว่าจะถึงห้องก็อีกนาน นายพักไปก่อนเถอะ”


                “พี่ยองมิน ขอบคุณนะครับ”


                ผมยิ้มบางๆให้พี่ชายฝาแฝดของตัวเองก่อนจะหลับไปในที่สุด
             








                “ตื่นสักทีนะ”


                ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของใครบางคน และพอลืมขึ้นมาเต็มตาก็เห็นว่าทุกคนกำลังล้อมตัวผมอยู่


                “กวังมิน นายป่วยทำไมไม่บอกกันหน่อย ?”


                “อา พี่จองมิน ..”


                “พวกเราเข้าใจ ว่าที่นายไม่มีสมาธิเพราะป่วยแต่ทำไมไม่บอกล่ะ ?”


                “ขอโทษครับ ผมแค่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน”


                "นายไม่ได้ผิด พวกเราไม่มีใครโทษนายหรอกนะ"


                ทุกคนผลัดกันถามถึงอาการของผมไม่หยุด เว้นก็แต่พี่ดงฮยอนคนเดียวเท่านั้นที่มองผมเฉยๆแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเองเงียบๆ ทั้งๆที่พี่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้


                “ผมขอตัวนะครับ”


                ผมบอกทุกคนแล้วยันตัวเองยืนขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องของตัวเองแล้วเอนตัวลงนอนอีกครั้งอย่างหมดแรง ผมคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากให้คนๆนั้นเป็นห่วงตัวเองบ้าง ในหัวของผมมีแต่เรื่องของพี่ดงฮยอนเต็มไปหมด ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ผมจะทำยังไงถึงจะเลิกคิดถึงพี่เขาสักที 


                ทำไม ?
               
                ผมยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งก่อนจะเหลือบไปเห็นถาดแก้วน้ำกับยาสองสามเม็ดที่โต๊ะข้างๆ ผมยันตัวเองขึ้นนั่งและจับยาใส่ปากอย่างเลื่อนลอย สมองผมมันตื้อไปหมด บ่งบอกว่าผมกำลังจะหลับในไม่ช้านี้แน่ๆ ถ้าความคิดสุดท้ายของผมจะคิดเข้าข้างตัวเองว่า .

    .
                พี่ดงฮยอนเอายามาให้ผม .. มันก็คงไม่ผิดใช่ไหม ?
     
                .....

                ...


                “พี่ดงฮยอน เดี๋ยวสิครับ พี่ดงฮยอน พี่ดงฮยอน
    !”


                ผมกำลังวิ่งตามใครสักคนออกไปอย่างไร้จุดหมาย


                “ไปซะเถอะ กวังมิน อย่าพยายามคิดถึงพี่อีกเลย”


                เสียงที่ทุ้มนุ่มของคนตรงหน้าแฝงไว้ด้วยความเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ร่างของพี่ดงฮยอนลอยไกลออกไปเกินกว่าสองมือของผมจะเอื้อมถึง .. แล้วหายไปในที่สุด


                “ไม่ พี่ดงฮยอน ไม่ !”
               

                ฝันร้าย .. ผมฝันร้ายอีกแล้ว




                “ให้ตายสิกวังมิน ถ้าพี่ไม่ไปปลุกนี่นึกว่าจะตายตาเตียงไปแล้ว”


                เสียงของพี่จองมินดังเข้ามาในโสตประสาททันทีที่เดินผ่านโต๊ะอาหารด้วยอาการงัวเงีย ส่วนเรื่องป่วยหลังจากนอนพักแล้วผมก็หายเป็นปลิดทิ้ง


                “พูดกับน้องมันดีๆหน่อยจอง”


                “ฮยอนซอง นายเงียบไปเลย !”


                ผมอมยิ้มกับการกระทำแปลกๆของรุ่นพี่ในวงแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆกับลีดเดอร์ของวง ยองมินกำลังจ้องภาพบนจอกับมินวูอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนพี่ดงฮยอนกลับนั่งอ่านหนังสือในมือตัวเองเงียบๆ


                “ดีขึ้นแล้วหรอกวังมิน ? .. อ้าวฮยอง”


                เสียงสดใสของมินวูดังขึ้นมาก่อนที่พี่ดงฮยอนจะลุกออกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป หัวใจของผมสั่นวูบ รู้สึกเหมือนว่าพี่ดงฮยอนจะรังเกียจผม มันไม่มีคำอธิบายอื่น ..


                “นายนอนไปวันนึงเต็มเลยๆรู้ตัวไหมเนี่ย ?”


                “ฮะ พี่ยองมิน ผมมันหลับไม่รู้เรื่องเลย”


                “แล้วดีขึ้นรึยังล่ะ ?”


                “เหมือนปกติทุกอย่างแล้วครับ”


                ผมฝืนยิ้มแห้งๆให้ยองมินแล้วกวาดสายตาไปรอบๆห้องนั่งเล่น ท้องของผมเริ่มร้องมันเลยทำให้ผมต้องเดินไปหาอะไรกินที่ห้องครัว ตอนนี้พี่ฮยอนซองหายไปแล้ว เหลือแต่พี่จองมินที่หันหลังทอดไข่ดาวอย่างมืออาชีพ


                “หิวล่ะสิ นั่งเลยๆจะเสร็จแล้วล่ะ เออ .. เอาขนมปังด้วยไหม ?”


                “ก็ได้ครับ”


                แล้วอาหารเช้าสุดหรูของพี่จองมินก็ถูกวางอยู่ในจานของผม ผมยกส้อมกับมีดจัดการกับของในจานจนหมด


                “พรุ่งนี้ จะเริ่มถ่ายกันอีกรอบ เตรียมตัวพร้อมแล้วนะ ?”


                พี่จองมินพูดพลางล้างจานของตัวเองในมือ


                “ครับพี่ อา พี่ครับผมขอตัวก่อนนะ”


                ผมเลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าที่แล้วเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอนของตัวเอง ยกหมอนขึ้นแล้วหยิบไดอารี่เล่มหนาขึ้นมาเปิดอ่านเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ..


     
               



               “พร้อมนะ เริ่ม
    !”


                เสียงดนตรีที่ดังขึ้นพร้อมๆกับจังหวะการออกตัวของแต่ละคน วันนี้อาการปวดหัวน่ารำคาญนั่นหายไปหมดแล้ว ผมตั้งใจเต้นอย่างเต็มที่และในที่สุดมันก็จบลงโดยไม่ต้องเทคเลย ทุกคนดีใจกันมาก ผมก็เหมือนกัน พวกเราตกลงกันว่าจะปาร์ตี้น้ำหวานกันคืนนี้


                ผมนั่งเบาะหลังสุดกับมินวูสองคนส่วนด้านหน้าเป็นยองมินกับพี่ฮยอนซอง .. บรรยากาศในรถดูเงียบพิกลเพราะทุกคนหลับกันหมดยกเว้นผมกับมินวู เราสองคนไม่พูดอะไรกันจนในที่สุดมินวูก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้นลง


                “กวังมิน นายเคยรักใครรึเปล่า ?”


                มินวูพูดพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง


                “ก็ .. เคยสิ”


                ผมตอบเขาไปแบบไม่แน่ใจว่ามินวูต้องการจะสื่ออะไรกันแน่


                “แล้วมันเป็นยังไงหรอ มันเจ็บรึเปล่า ? แล้วถ้าคนที่นายรัก .. ไม่รักนาย นายยังจะรักเขาต่อไปไหม ?”


                “มินวูอา .. นายเป็นอะไรไปน่ะ”


                “บอกฉันมาสิ ตอบฉันมา”


                “การที่เรารักใครสักคนแล้วมั่นใจว่าเราสามารถจะให้เขาได้ทุกอย่าง มันก็เหมือนกับความสุขเล็กๆถึงแม้เขาจะมองไม่เห็น แต่มันก็คือความสุขที่มันทำให้เรามีกำลังใจต่อไป”


                “...” มินวูไม่พูดอะไรแต่หันหน้ากลับมามองผมแทน


                “สำหรับฉัน .. ถึงมันดูงี่เง่า แต่แน่นอน ฉันยืนยันที่จะรักต่อไปโดยไม่มีข้อแม้”


                เหมือนกับที่ผม .. ยืนยันจะรักพี่ต่อไปแบบนี้


                “ขอบคุณนะกวังมิน”


                มินวูพูดได้เท่านั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วซบลงที่ไหล่ของผม ..

                                                                                    นายไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมมินวู .. ?


     

    เคยสงสัยเหมือนกันว่าเวลาเขียนทำไมต้องมีทอล์ก ? ..
    แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะค่ะ
    ยังไงก็ขอฝากชายกวังไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะ
    มันอาจจะสั้นไปหน่อยก็ขออภัยมากจริงๆ
    สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ !
    มีความสุขมากๆคิดอะไรขอให้สมหวัง ..:')

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×