ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ► Different Tear's 01 ◄ Kwangmin's Part ! + Intro
ชีวิตๆหนึ่งของคนเรา มันไม่ได้ยืนยาวและมันก็ไม่ได้สมหวังในทุกๆเรื่อง ..
ภายใต้รอยยิ้มและเสียงหัวเราะ ไม่ได้หมายความว่าคนๆนั้นกำลังมีความสุขเสมอไป
ใครสักคนที่คนๆหนึ่งสามารถมอบชีวิตทั้งชีวิตให้ได้โดยไม่มีขอแลกเปลี่ยน
คนๆนั้นที่ผมทุ่มทั้งตัวและหัวใจ .. คนๆนั้นที่ไม่เคยเห็นผมอยู่ในสายตา ..
และใครคนหนึ่งผู้ยังคงเชื่อมั่นในความรักโง่ๆมาตลอด ..
ผมเองยังไงล่ะ .. โจกวังมิน
ความรู้สึกดีๆที่ก่อตัวขึ้นมาตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอกับคนๆหนึ่ง
รอยยิ้ม ความร่าเริง และความลึกลับในตัวของคนๆนั้นที่คอยดึงดูดผมมาตลอด
ไม่รู้ .. ว่าตัวเองเผลอทำใครคนนั้นเสียน้ำตาไปจนยากจะให้อภัย
เฝ้ามอง .. แต่ไม่ได้ลงมือทำอะไร โง่ .. ที่ปล่อยให้คนๆนั้นหลุดมือไปโดยไม่รั้งเอาไว้
เจ็บใจ .. ที่แม้แต่ความรู้สึกของตัวเองแท้ๆยังไม่มั่นใจ เสียใจ .. ที่คิดได้ก็สายไปจริงๆ
ทำไม .. คิมดงฮยอน ทำไมนายถึงได้เลวร้ายขนาดนี้
เพราะเสียใจ .. มันเลยทำให้ผมต้องทรยศกับหัวใจตัวเอง
ผมมันไม่ดีที่หลอกใช้คนอื่นมาเป็นเครื่องมือของความผิดครั้งนี้
จนในที่สุดมันความรู้สึกของผมเองมันก็เปลี่ยนตามไปด้วย
เพราะผมไม่คิดว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากที่ผมตัดสินใจทำลงไป
เพียงเพราะความหวังเล็กๆที่อาจจะทำให้พี่หันกลับมามองผมบ้าง
เพราะแบบนั้น มันทำให้ผู้ชายที่ชื่อมินวูคนนี้ ยืนยันจะเลือกพี่ไม่ได้อีกต่อไป ..
ความรักที่มันผิดรูปแบบ ความเห็นแก่ตัวผิดๆที่มันขัดต่อทุกอย่าง
แค่เพราะเชื่อว่าความรักมันไม่มีข้อจำกัด มันเลยทำให้ผมไม่คิดจะถอนตัว
รักคนๆหนึ่งที่เขาไม่รัก .. แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่อยากปล่อยใครอีกคนให้จากไป
ผมเพิ่งมองเห็นความหวังดีจากสายตาของคนที่ผมไม่ได้รักในวันที่สิ้นหวัง
แต่มันก็สายไป .. และไม่เหลือใครเพราะความเห็นแก่ตัวของตัวเอง
ได้โปรด .. กลับมารักกันอีกครั้ง .. กลับมารักยองมินคนนี้อีกครั้ง ..
Different Tear’s Boy Friend 01
Kwangmin’s Part
“ตั้งใจหน่อยสิ นายพลาดมากี่รอบแล้ว ? หา ?”
“...”
เสียงดุดังมาจากผู้กำกับเหมือนเช่นเคย ..
ผมเอง .. กวังมิน ที่เต้นผิดจังหวะรอบที่ล้านกว่าๆ ผมไม่อยากมองหน้าทุกคนตอนนี้เลย รู้สึกผิดแบบบอกไม่ถูก ผมปวดหัวมากแล้วผมก็เต้นต่อไปไม่ไหวแล้ว จังหวะเพลงที่เริ่มจะเพี้ยนไปทุกทีๆ เมื่อคืนผมไม่ได้นอนเลยทั้งคืนเพราะปวดหัวจนนอนไม่หลับ
“ขอโทษครับ ผมจะตั้งใจมากกว่านี้”
และผม ก็พูดออกไปได้แค่เท่านี้ พวกเรายังคงเต้นกันต่อไป แต่จริงๆแล้วแทบจะทรงตัวกันไม่ไหว เพลงยังคงดำเนินต่อไปและทันทีที่ถึงคิวผมต้องเต้นคู่กับยองมิน พี่ยองมินมองหน้าผมแล้วยิ้มก่อนที่เขาจะจงใจเต้นผิดจังหวะต่อหน้าต่อตา
“คัด ! เริ่มใหม่อีกรอบทั้งคู่เลย ยองมิน นายด้วยหรอ ?”
ตอนนี้ ยองมินก้มหน้าแล้ววิ่งหายไปอีกทาง
“ฮยองจะไปไหนน่ะ ?”
เป็นมินวูที่ตะโกนตามหลังยองมิน ส่วนผมก็กำลังจะวิ่งตามเขาก็ถูกรั้งแขนเอาไว้แทน
“กวังมินอา ให้ฉันไปเองเถอะ”
แล้วเงาของมินวูก็หายออกไปอีกคน ..
ผมทรุดตัวลงกับพื้นทันทีแล้วหายใจเหมือนกับคนขาดอากาศ ผมรู้ทุกคนต้องเหนื่อยเพราะความผิดพลาดของผม .. ทำไมผมถึงเต้นเหมือนคนอื่นเขาไม่ได้สักที
ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าทุกคนกำลังเหนื่อย แต่ผมฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว
ภาพที่เห็นเมื่อกี้มันยิ่งกว่าบั่นทอนกำลังใจของผมเสียอีก
ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าทุกคนกำลังเหนื่อย แต่ผมฝืนตัวเองต่อไปไม่ไหวแล้ว
ภาพที่เห็นเมื่อกี้มันยิ่งกว่าบั่นทอนกำลังใจของผมเสียอีก
“พี่ฮะ ผมขอโทษ ผมเต้นต่อไปไม่ไหวแล้วจริงๆ”
“เอาน่ากวังมิน ไม่เป็นไรหรอก เรามาสู้กันใหม่ก็ได้”
พี่จองมินยิ้มให้แล้วยกมือมายีเส้นผมของผมเบาๆส่วนพี่ฮยอนซองก็เดินไปหาผู้กำกับ คุยอะไรกันอยู่สักพักก่อนที่ผู้กำกับจะสั่งพักกองแล้วถ่ายต่อในอีกสองวันแทน
ผมหันไปมองพี่ดงฮยอน ที่เขาทำเพียงแค่ยืนนิ่งๆแล้วมองไปทางที่ยองมินกับมินวูวิ่งไป ผมแค่อยากให้พี่เป็นห่วงผม ไม่สิ แค่อยากให้พี่เห็นผมบ้างก็ยังดี
อา ผมส่ายหัวกับความคิดไร้สาระแล้วพยุงตัวเองเดินตามหลังพี่จองมินไปที่รถ แล้วก็เห็นว่ามินวูพายองมินมาที่รถแล้ว
อา ผมส่ายหัวกับความคิดไร้สาระแล้วพยุงตัวเองเดินตามหลังพี่จองมินไปที่รถ แล้วก็เห็นว่ามินวูพายองมินมาที่รถแล้ว
“มินวู นายไปเจอยองมินได้ยังไงน่ะ ?”
“ตอนแรกผมก็หาไม่เจอหรอกฮะ แต่พอจะกลับออกมาก็เห็นฮยองร้องไห้อยู่หน้าห้องน้ำ”
“อ่า อย่างนั้นหรอกหรอ”
กลายเป็นพี่ดงฮยอนที่ถามมินวูแทน ทั้งที่วันนี้พี่เขายังไม่พูดกับผมสักคำ
.. เจ็บใช้ได้เลย
“กวังมิน ขึ้นรถเถอะ”
ยองมินเดินมาตบไหล่ผมเบาๆแล้วดึงตัวผมให้นั่งหลังสุดกับเขาสองคน
“ไหวไหม ?”
ผมลืมตาทันทีเมื่อได้ยินเสียงพี่ยองมิน ทั้งๆที่ไม่รู้ตัวเลยว่าเผลอหลับไปตั้งแต่ตอนไหน
“ไม่สบาย ทำไมไม่บอก นายน่ะฝืนไข้ไม่ไหวหรอกนะ”
“ฮะ พี่รู้หรอ ?”
ผมเบิกตากว้าง ขยับตัวเองมาอยู่ในท่านั่งตรงก่อนจะถามยองมินอย่างสงสัย
ใช่ ผมไม่สบายเพราะตากฝนหลังงานแฟนไซน์เมื่อสองวันก่อน
.. แล้วยองมินรู้ได้ยังไง ผมคิดว่าตัวเองปิดได้เนียนสุดๆแล้วนะ
.. แล้วยองมินรู้ได้ยังไง ผมคิดว่าตัวเองปิดได้เนียนสุดๆแล้วนะ
“หน้านายซีดขนาดนี้ เต้นก็แทบทรงตัวไม่อยู่ ถ้านายไม่ได้นอนพักทั้งๆที่เป็นไข้แบบนี้ อาการมันจะยิ่งหนักเอานะ ไม่กลัวแฟนคลับกังวลหรอ ?”
ยองมินมองผมด้วยสายตาอ่อนโยนผิดกับคนที่ผมอยากให้เป็น ..
ที่เขาว่ากันว่า ฝาแฝดมักจะรู้เรื่องของกันและกันเสมอ มันก็คงจริงสินะ
ขอบคุณนะครับ ที่พี่เป็นห่วงผม ..
ที่เขาว่ากันว่า ฝาแฝดมักจะรู้เรื่องของกันและกันเสมอ มันก็คงจริงสินะ
ขอบคุณนะครับ ที่พี่เป็นห่วงผม ..
“กว่าจะถึงห้องก็อีกนาน นายพักไปก่อนเถอะ”
“พี่ยองมิน ขอบคุณนะครับ”
ผมยิ้มบางๆให้พี่ชายฝาแฝดของตัวเองก่อนจะหลับไปในที่สุด
“ตื่นสักทีนะ”
ผมงัวเงียลืมตาขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของใครบางคน และพอลืมขึ้นมาเต็มตาก็เห็นว่าทุกคนกำลังล้อมตัวผมอยู่
“กวังมิน นายป่วยทำไมไม่บอกกันหน่อย ?”
“อา พี่จองมิน ..”
“พวกเราเข้าใจ ว่าที่นายไม่มีสมาธิเพราะป่วยแต่ทำไมไม่บอกล่ะ ?”
“ขอโทษครับ ผมแค่ไม่อยากเป็นตัวถ่วงของทุกคน”
"นายไม่ได้ผิด พวกเราไม่มีใครโทษนายหรอกนะ"
ทุกคนผลัดกันถามถึงอาการของผมไม่หยุด เว้นก็แต่พี่ดงฮยอนคนเดียวเท่านั้นที่มองผมเฉยๆแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเองเงียบๆ ทั้งๆที่พี่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้
ทุกคนผลัดกันถามถึงอาการของผมไม่หยุด เว้นก็แต่พี่ดงฮยอนคนเดียวเท่านั้นที่มองผมเฉยๆแล้วเดินเข้าไปในห้องตัวเองเงียบๆ ทั้งๆที่พี่เขาไม่เคยเป็นแบบนี้
“ผมขอตัวนะครับ”
ผมบอกทุกคนแล้วยันตัวเองยืนขึ้นก่อนจะเดินเข้าไปที่ห้องของตัวเองแล้วเอนตัวลงนอนอีกครั้งอย่างหมดแรง ผมคงเป็นบ้าไปแล้วที่อยากให้คนๆนั้นเป็นห่วงตัวเองบ้าง ในหัวของผมมีแต่เรื่องของพี่ดงฮยอนเต็มไปหมด ทำไมผมถึงเป็นแบบนี้ ผมจะทำยังไงถึงจะเลิกคิดถึงพี่เขาสักที
ทำไม ?
ทำไม ?
ผมยกมือขึ้นขยี้ผมตัวเองอย่างบ้าคลั่งก่อนจะเหลือบไปเห็นถาดแก้วน้ำกับยาสองสามเม็ดที่โต๊ะข้างๆ ผมยันตัวเองขึ้นนั่งและจับยาใส่ปากอย่างเลื่อนลอย สมองผมมันตื้อไปหมด บ่งบอกว่าผมกำลังจะหลับในไม่ช้านี้แน่ๆ ถ้าความคิดสุดท้ายของผมจะคิดเข้าข้างตัวเองว่า .
.
พี่ดงฮยอนเอายามาให้ผม .. มันก็คงไม่ผิดใช่ไหม ?
.....
...
“พี่ดงฮยอน เดี๋ยวสิครับ พี่ดงฮยอน พี่ดงฮยอน !”
...
“พี่ดงฮยอน เดี๋ยวสิครับ พี่ดงฮยอน พี่ดงฮยอน !”
ผมกำลังวิ่งตามใครสักคนออกไปอย่างไร้จุดหมาย
“ไปซะเถอะ กวังมิน อย่าพยายามคิดถึงพี่อีกเลย”
เสียงที่ทุ้มนุ่มของคนตรงหน้าแฝงไว้ด้วยความเศร้าอย่างบอกไม่ถูก ร่างของพี่ดงฮยอนลอยไกลออกไปเกินกว่าสองมือของผมจะเอื้อมถึง .. แล้วหายไปในที่สุด
“ไม่ พี่ดงฮยอน ไม่ !”
ฝันร้าย .. ผมฝันร้ายอีกแล้ว
“ให้ตายสิกวังมิน ถ้าพี่ไม่ไปปลุกนี่นึกว่าจะตายตาเตียงไปแล้ว”
เสียงของพี่จองมินดังเข้ามาในโสตประสาททันทีที่เดินผ่านโต๊ะอาหารด้วยอาการงัวเงีย ส่วนเรื่องป่วยหลังจากนอนพักแล้วผมก็หายเป็นปลิดทิ้ง
“พูดกับน้องมันดีๆหน่อยจอง”
“ฮยอนซอง นายเงียบไปเลย !”
ผมอมยิ้มกับการกระทำแปลกๆของรุ่นพี่ในวงแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาข้างๆกับลีดเดอร์ของวง ยองมินกำลังจ้องภาพบนจอกับมินวูอย่างตั้งอกตั้งใจ ส่วนพี่ดงฮยอนกลับนั่งอ่านหนังสือในมือตัวเองเงียบๆ
“ดีขึ้นแล้วหรอกวังมิน ? .. อ้าวฮยอง”
เสียงสดใสของมินวูดังขึ้นมาก่อนที่พี่ดงฮยอนจะลุกออกจากโซฟาแล้วเดินเข้าห้องน้ำไป หัวใจของผมสั่นวูบ รู้สึกเหมือนว่าพี่ดงฮยอนจะรังเกียจผม มันไม่มีคำอธิบายอื่น ..
“นายนอนไปวันนึงเต็มเลยๆรู้ตัวไหมเนี่ย ?”
“ฮะ พี่ยองมิน ผมมันหลับไม่รู้เรื่องเลย”
“แล้วดีขึ้นรึยังล่ะ ?”
“เหมือนปกติทุกอย่างแล้วครับ”
ผมฝืนยิ้มแห้งๆให้ยองมินแล้วกวาดสายตาไปรอบๆห้องนั่งเล่น ท้องของผมเริ่มร้องมันเลยทำให้ผมต้องเดินไปหาอะไรกินที่ห้องครัว ตอนนี้พี่ฮยอนซองหายไปแล้ว เหลือแต่พี่จองมินที่หันหลังทอดไข่ดาวอย่างมืออาชีพ
“หิวล่ะสิ นั่งเลยๆจะเสร็จแล้วล่ะ เออ .. เอาขนมปังด้วยไหม ?”
“ก็ได้ครับ”
แล้วอาหารเช้าสุดหรูของพี่จองมินก็ถูกวางอยู่ในจานของผม ผมยกส้อมกับมีดจัดการกับของในจานจนหมด
“พรุ่งนี้ จะเริ่มถ่ายกันอีกรอบ เตรียมตัวพร้อมแล้วนะ ?”
พี่จองมินพูดพลางล้างจานของตัวเองในมือ
“ครับพี่ อา พี่ครับผมขอตัวก่อนนะ”
ผมเลื่อนเก้าอี้เก็บเข้าที่แล้วเดินผ่านห้องนั่งเล่นไปยังห้องนอนของตัวเอง ยกหมอนขึ้นแล้วหยิบไดอารี่เล่มหนาขึ้นมาเปิดอ่านเป็นรอบที่เท่าไหร่ก็ไม่รู้ ..
“พร้อมนะ เริ่ม !”
เสียงดนตรีที่ดังขึ้นพร้อมๆกับจังหวะการออกตัวของแต่ละคน วันนี้อาการปวดหัวน่ารำคาญนั่นหายไปหมดแล้ว ผมตั้งใจเต้นอย่างเต็มที่และในที่สุดมันก็จบลงโดยไม่ต้องเทคเลย ทุกคนดีใจกันมาก ผมก็เหมือนกัน พวกเราตกลงกันว่าจะปาร์ตี้น้ำหวานกันคืนนี้
ผมนั่งเบาะหลังสุดกับมินวูสองคนส่วนด้านหน้าเป็นยองมินกับพี่ฮยอนซอง .. บรรยากาศในรถดูเงียบพิกลเพราะทุกคนหลับกันหมดยกเว้นผมกับมินวู เราสองคนไม่พูดอะไรกันจนในที่สุดมินวูก็เป็นคนทำลายความเงียบนั้นลง
“กวังมิน นายเคยรักใครรึเปล่า ?”
มินวูพูดพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่าง
“ก็ .. เคยสิ”
ผมตอบเขาไปแบบไม่แน่ใจว่ามินวูต้องการจะสื่ออะไรกันแน่
“แล้วมันเป็นยังไงหรอ มันเจ็บรึเปล่า ? แล้วถ้าคนที่นายรัก .. ไม่รักนาย นายยังจะรักเขาต่อไปไหม ?”
“มินวูอา .. นายเป็นอะไรไปน่ะ”
“บอกฉันมาสิ ตอบฉันมา”
“การที่เรารักใครสักคนแล้วมั่นใจว่าเราสามารถจะให้เขาได้ทุกอย่าง มันก็เหมือนกับความสุขเล็กๆถึงแม้เขาจะมองไม่เห็น แต่มันก็คือความสุขที่มันทำให้เรามีกำลังใจต่อไป”
“...” มินวูไม่พูดอะไรแต่หันหน้ากลับมามองผมแทน
“สำหรับฉัน .. ถึงมันดูงี่เง่า แต่แน่นอน ฉันยืนยันที่จะรักต่อไปโดยไม่มีข้อแม้”
เหมือนกับที่ผม .. ยืนยันจะรักพี่ต่อไปแบบนี้
“ขอบคุณนะกวังมิน”
มินวูพูดได้เท่านั้นก่อนจะหลับตาลงแล้วซบลงที่ไหล่ของผม ..
นายไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมมินวู .. ?
นายไม่ได้เป็นอะไรใช่ไหมมินวู .. ?
เคยสงสัยเหมือนกันว่าเวลาเขียนทำไมต้องมีทอล์ก ? ..
แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วล่ะค่ะ
ยังไงก็ขอฝากชายกวังไว้ในอ้อมใจของทุกคนด้วยนะ
มันอาจจะสั้นไปหน่อยก็ขออภัยมากจริงๆ
มันอาจจะสั้นไปหน่อยก็ขออภัยมากจริงๆ
สุขสันต์วันปีใหม่นะคะ !
มีความสุขมากๆคิดอะไรขอให้สมหวัง ..:')
มีความสุขมากๆคิดอะไรขอให้สมหวัง ..:')
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น