คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : การฟื้นฟูศิลปะวิทยา
หมายถึง การเกิดใหม่(ของการศึกษา การฟื้นฟูอุดมคติศิลปะและวรรณกรรมของกรีกและโรมัน เป็นยุคเริ่มต้นของการแสวงหาสิทธิเสรีภาพและความคิดอันไร้ขอบเขตที่เคยถูกจำกัด สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยาเริ่มต้นในคริสต์ศตวรรษที่ 14 และสิ้นสุดในกึ่งกลางคริสต์ศตวรรษที่ 17 โดยถือว่าเป็นจุดเชื่อมต่อ(transitional period)ของประวัติศาสตร์สมัยกลางและสมัยใหม่
1.แนวคิดใหม่สมัยฟื้นฟูศิลปวิทยา
สิ่งที่เปลี่ยนแปลงโลกเสมอๆ คือ ความคิดและความคิดที่ถือว่าเป็นพื้นฐานของทัศนคติฝ่ายโลก และเป็นลักษณะเฉพาะเจาะจงของการฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ คือลัทธิมนุษยนิยม-Humanism ซึ่งสอนให้มนุษย์เชื่อตัวเอง เพราะอย่างนี้ตอนที่แนวความคิดมนุษยนิยมกำลังมาแรงไม่ว่าจะเป็นศิลปะ วิทยาศาสตร์ หรือกิจกรรมทางภูมิปัญญา ล้วนมุ่งสู่เรื่องราวของมนุษย์ทั้งนั้น
สาเหตุเกิดที่อิตาลีก่อน เป็นเพราะว่าเมืองท่าสำคัญต่างๆที่นี่ไม่ว่า เวนิส เจนัว และฟลอเรนซ์ เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและการธนาคาร มีการติดต่อแลกเปลี่ยนสินค้าและวัฒนธรรมกับตะวันออกใกล้ตลอดเวลา และเมืองต่างๆเหล่านี้เป็นแค่แคว้นอิสระไม่ขึ้นต่อกัน ทำให้พ้นก้างขวางคอ เช่นอำนาจสันตะปาปาและจักรพรรดิ ความเจริญก็เกิดขึ้นได้ง่ายในแผ่นดินที่พ้นจากอุปสรรคทางการเมืองและศาสนา หากกล่าวถึงนักมนุษยนิยมที่มีอิทธิพลต่อความคิดของประชาชนไม่ได้แต่ประดาความคิดแบบนี้ก็มีอยู่มากมาย หากเอาแค่คนที่มีชื่อเสียงที่สำคัญๆ อาทิเช่น อิสรามุส แห่ง รอตเธอร์ดาม(ค.ศ.๑๔๙๖-๑๕๓๖) เขาเป็นนักคิดผู้ให้อิทธิพลต่อสังคมสมัยเรอนาซองเป็นอย่างมาก ผลงานชิ้นสำคัญคือ บทเพลงสรรเสริญความโง่ The Praise of Fool หนังสือเล่มนี้อิราสมุสเล่นถากถางความบ้าคลั่งงมงายของนักบวช และนักศึกษาทางศาสนาไว้มากมาย เรียกว่าเป็นการปูพื้นฐานให้ชาวยุโรปตื่นตัวคิดที่จะปฏิวัติศาสนาในเวลาต่อมา
ส่วนในอังกฤษ มีกวีคนสำคัญที่เสนอแนวคิดของของมนุษยนิยม กวีคนนี้ คือ เซอร์ ทอมัส มอร์ ผู้แต่งยูโทเปีย กวีผู้นี้เป็นทั้งอัครมหาเสนาบดี และที่ปรึกษาของพระเฮนรี่ที่ ๘ แห่งอังกฤษ แต่ในภายหลังท่านเซอร์ถูกตัดศีรษะเพราะแสดงความไม่เห็นด้วยกับการที่กษัตริย์จะดำรงตำแหน่งประมุขทางศาสนาควบคู่กันไปด้วย
หนึ่งในบรรดานักคิดของเรอนาซองที่ท้าทายอำนาจศาสนจักร ยังมีนิโคลัส คอเปอร์นิคัส คนนี้เป็นพระนักดาราศาสตร์ชาวโปล(ค.ศ.๑๔๓๗-๑๕๔๓) เขาเชื่อว่าโลกของเราหมุนไปรอบแกนของตัวเอง และหมุนเป็นวงกลมรอบดวงอาทิตย์อีกทีหนึ่ง ไม่ใช่จักราศีหมุนรอบโลกอย่างที่เคยคิดกันมาในสมัยปโตเลมี เขาไม่กล้าพิมพ์หนังสือดังกล่าวทันทีเพราะกลัวทางศาสนาจะตำหนิ แต่ความคิดนี้เป็นที่รู้กันในงานเล่มสำคัญของเขาคือ De Revolutionibus Orbium Coelestium พิมพ์ในปีที่เขาเสียชีวิต
ศิลปินดังๆที่น่าสนใจด้านจิตรกรรม เช่นซานโดร บอตติเชลี ค.ศ.๑๔๘๒ ซึ่งเป็นจิตรกรคนสำคัญแห่งยุคเรอนาซอง เขาได้รับความคิดจากนักมนุษยนิยมในการพิจารณารูปแบบของจริงทางสรีระและการศึกษาธรรมชาติ “ภาพกำเนิดวีนัส”เป็นภาพเทพปกรฌัมสมัยกรีกโรมันแสดงว่าเขาไม่ได้อยู่ในกฎเกณฑ์การใช้เนื้อหาหรือเรื่องราวเกี่ยวข้องกับคริสต์ศาสนา ยิ่งกว่านั้นยังศึกษาร่างกายของมนุษย์อย่างเปิดเผย
เช่นเดียวกับ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ศิลปินคนนี้นอกจากศึกษาเรื่องศิลปะแล้วยังรอบรู้เรื่องดาราศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์อีกด้วย ลักษณะพิเศษของเขาอยู่ตรงที่เป็นคนช่างสงสัย และจะไม่ยอมรับข้อมูลใดๆ ถ้ายังไม่มีเหตุผลมาสนับสนุน ผลงานที่สำคัญนอกจากแม่นางโมนาลิซ่าที่นั่งยิ้มแบบลึกลับ ยังมีข้อมูลการค้นคว้าหาเหตุผลทั้งวิทยาศาสตร์ เครื่องกล ดาราศาสตร์ฯลฯ วาดลงในสมุดเสก็ตซ์เป็นจำนวนหลายร้อยหน้า แม้กระทั่งเครื่องร่อนยุคแรกของโลก เขาก็เป็นคนคิด และเป็นผู้กล่าวถ้อยคำว่า
“จะเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีได้ ก็ต้องเป็นศิลปินที่ดีเสียก่อน”
เคียงข้างมากับดาวินชี ก็คือประติมากรคนดัง ไมเคิล แองเจโล ประติมากรใหญ่แห่งยุค ศิลปินคนนี้สามารถสลักหินอ่อนเป็นรูปเป็นร่างอย่างงดงาม ดูเหมือนง่ายๆ ไมเคิล แองเจโล กล่าวว่า เขาไม่สลักหินเป็นรูปต่างๆหรอก รูปมีอยู่ในหินแต่ละก้อนอยู่แล้ว เขาเป็นเพียงแค่ผู้กะเทาะเปลือกนอกออกเท่านั้น ผลงานที่สำคัญชื่อ เดวิด เป็นรูปสลักของเดวิดผู้ฆ่ายักษ์ด้วยหนังสติ๊กกับก้อนหิน และระลึกถึงวีรกรรมที่พวกนิยมประชาธิปไตยสามารถโค่นล้มพ่อค้าตระกูลเมดิชีลงได้
นอกจากนี้ยังมีศิลปินอีกมากมาย เช่นจิตรกร ราฟาเอล ผู้วาดรูปได้อย่างนุ่มนวลจนมีคนเอาอย่างมาก กลายเป็นศิลปะที่เรียกว่าตระกูลราฟาเอล ส่วนเรื่องสถาปนิกได้แก่บรามานเต้ อมาเดโอ แห่งเมืองฟลอเรนซ์
แต่ละเรื่องของเรอนาซอง ไม่มีการรบ ไม่มีการขัดแย้ง มีแต่การสร้างสรรค์อย่างเดียว
ความคิดเห็น