ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #76 : 14 สายเลือดในสายตา 2/5

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.8K
      2
      3 ก.พ. 65


    ต่อมาศิริญดาเป็นต้นเสียงร้องเพลงสุขสันต์วันเกิดให้ผู้เป็นแม่ เมื่อเพลงจบหญิงสูงวัยหลับตา ประสานมือไว้ตรงอก ตั้งใจอธิษฐานแล้วเป่าเทียนรูปตัวเลขบนหน้าเค้กจนดับลง ก่อนตัดเค้กก้อนใหญ่ออกเป็นชิ้นเล็กใส่จานมอบให้กับผู้ที่มาร่วมงานวันเกิดในค่ำคืนนี้ แจกจ่ายทุกคนจนมาถึงคนสุดท้าย

    “ของหนูจ้ะ” คุณปรางนวลยื่นเค้กให้ครูสอนพิเศษของหลานสาวด้วยรอยยิ้ม

    “ขอบคุณค่ะคุณนวล มีความสุขมาก ๆ นะคะ” มานิลารับมามือไม้สั่น ตื่นเต้นจนคำอวยพรที่คิดไว้เสียดิบดีหดสั้นลงเหลือเพียงคำอวยพรธรรมดา ๆ หัวใจที่แฟ่บไปเมื่อครู่ถูกสูบลมจนพองโตเช่นเดิม ถึงแม้เป็นคนสุดท้ายที่ได้รับเค้กจากคุณปรางนวล แต่ก็ยังดีกว่าท่านไม่เคยนึกถึงเลย

    ขอบคุณนะคะคุณยาย...

     

    งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดคุณปรางนวลย่อมมีวันเลิกรา แขกเหรื่อทุกคนแยกย้ายกันกลับ เช่นเดียวกับครอบครัวธัญภากร ตอนขามาธตรัฐเป็นสารถี แต่ขากลับชายหนุ่มขอให้พ่อขับรถเขาพาแม่กลับบ้านไปก่อน ส่วนเขาจะขับรถให้ธริษตรี ด้วยเป็นห่วงน้องสาวที่อาจเป็นอันตรายหากต้องขับรถกลับบ้านมืดค่ำเช่นนี้

    ก่อนขึ้นรถยนต์คันสีน้ำตาลเข้มของลูกชายที่มีสามีเป็นคนขับ อาจารย์ตรีทิพย์ไม่วายฝากฝังเจ้าของรถ

    บอมแวะไปส่งมะลิที่อะพาร์ตเมนต์ให้แม่ทีนะ แม่ฝากมะลิด้วยนะลูก

    ธตรัฐรู้ว่าแม่พูดไปอย่างนั้นเอง เพราะท่านรู้อยู่แล้วว่าต่อให้ไม่สั่งเขาก็เต็มใจไปส่งมานิลาถึงที่ ทีแรกจะให้ธริษตรีกลับไปพร้อมพ่อกับแม่ เขาจะได้ใช้เวลาอยู่กับมานิลาบนรถเพียงสองคน แต่ยายตัวเล็กกลับนึกรักนึกเป็นห่วงพี่ชายขึ้นมา กลัวว่าขากลับจากส่งมานิลาเรียบร้อยแล้วเขาจะเหงาจึงอาสานั่งรถเป็นเพื่อน

    ห่วงพี่น่ะดี แต่ห่วงผิดที่ผิดเวลาแบบนี้...ไม่ค่อยดีเท่าไรนะน้องสาวที่รัก

    “โอ๊ย ! มือถือยังอยู่ห้องน้องฟ้า ลืมได้ยังไงกันเนี่ย” คนขี้ลืมบ่นกับตัวเองแล้วหยุดเดินทันที เดินจะถึงโรงจอดรถอยู่แล้วเชียวเพิ่งนึกขึ้นได้

    “เดี๋ยวฟ้าไปเอาให้ค่ะ” ชรัมพรบอก

    “ไม่เป็นไรจ้ะ น้าไปด้วยดีกว่า” หญิงสาวยิ้มให้คนจิตอาสา ก่อนส่งกระเป๋าเครื่องสำอางให้พี่ชาย “บรีสฝากหน่อยนะพี่บอม เดินไปรอที่รถก่อนเลยก็ได้”

    “พี่รอแถวนี้แหละ” ชายหนุ่มบอกหลังจากรับกระเป๋ามา สายตาหันสบไปที่เก้าอี้สนามกลางดงต้นมะลิลา

    “โอเค บรีสไปแป๊บเดียว ไม่เกินห้านาที ฝากพี่มะลิด้วยนะ”

    ธตรัฐพยักหน้า ก่อนลอบมองมานิลาเล็กน้อย ทั้งแม่ทั้งน้องเขาดูจะห่วงเธอไปเสียหมด

    “พี่มะลิรอบรีสแป๊บนะคะ”

    มานิลาไม่ทันตอบอะไรธริษตรีก็วิ่งปรู๊ดไปเสียแล้ว ธตรัฐวางกระเป๋าเครื่องสำอางของน้องสาวลงบนเก้าอี้สนาม ทำท่าจะชวนมานิลาให้มานั่งตรงนี้ด้วยกัน ทว่าเสียงโทรศัพท์เคลื่อนที่กลับดังขึ้นเสียก่อน ล้วงออกมาดูก็พบว่าเป็นสายจากภูธิปซึ่งเพิ่งแยกตัวออกไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงดี โทรมาดึก ๆ ดื่น ๆ เช่นนี้หวังว่ามันคงไม่ได้ชวนเขาไปทำอะไรสนุก ๆ ตามประสาผู้ชายที่มันสนุกอยู่คนเดียว ในขณะที่เขาไม่ได้รู้สึกอยากสนุกด้วยตั้งแต่เจอกับมานิลา

    “เดี๋ยวพี่รับโทรศัพท์ก่อน มะลิรออยู่แถวนี้นะ” ชายหนุ่มขยี้กลุ่มผมนุ่มอย่างนึกเอ็นดู พอชื่นใจแล้วจึงเดินห่างออกไป คงไม่ดีเท่าไรนักถ้าเพื่อนรักคุยเรื่องนั้นขึ้นมาจริง ๆ แล้วแม่คนหน้าหวานของเขารับรู้

    ฝ่ามือเล็กยกขึ้นลูบแขนตัวเองบรรเทาความหนาวจากลมเย็น ๆ ในยามค่ำคืน แม้อยากเปลี่ยนกลับไปอยู่ในเสื้อเชิ้ตแขนยาวอย่างตอนมาที่นี่ หากก็ทำอย่างใจไม่ได้แล้วเพราะเสื้อตัวนั้นเลอะเทอะไปด้วยคราบดินตอนที่อุ้มเจ้าปลาวาฬออกจากกอมะลิลา ตอนนี้เลยต้องอยู่ในเดรสยาวตัวเดิม

    ระหว่างรอธริษตรีสองเท้าเรียวที่เปลี่ยนจากรองเท้าส้นสูงมาอยู่ในรองเท้าผ้าใบคู่เก่งก้าวเดินตามทางที่สองข้างขนาบด้วยพุ่มมะลิลาเพื่อฆ่าเวลา แสงสีเหลืองนวลจากไฟสนามส่องสว่างทั่วบริเวณ พอมาสุดทางซึ่งเกือบจะถึงตัวเรือนไทยก็ย่อตัวลงนั่ง ยกมือขึ้นช้อนมะลิลาดอกน้อยขึ้นจรดปลายจมูก สูดดมกลิ่นหอมชื่นใจเข้าจนเต็มปอด แม้ยามดึกกลิ่นหอมไม่มากเท่าช่วงหัวค่ำ ทว่ายังหอมมากอยู่ดี

    “ฉันนึกว่าหนูกลับไปแล้วเสียอีกจ้ะ”

    มานิลาเพลิดเพลินกับดอกไม้ที่ชื่อเหมือนตัวเองจนไม่ทันได้สังเกตว่ามีอีกคนเดินใกล้เข้ามา หญิงสาวหลุดออกจากภวังค์ หันกลับไปก็พบกับศิริญดายืนยิ้มอยู่ก่อนแล้ว เธอลุกขึ้นยืนส่งยิ้มอ่อน ๆ ให้

    “ยังค่ะ น้องบรีสลืมโทรศัพท์ไว้ที่ห้องน้องฟ้าเลยขอขึ้นไปเอาค่ะ”

    “อ๋อจ้ะ ว่าแต่หนูชอบดอกมะลิลาหรือ”

    “ค่ะ”

    ดวงตาดำขลับลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของศิริญดาที่กำลังเงยขึ้นพิศดวงจันทร์กลมโตสีเหลืองนวลผ่านเรือนยอดไม้ มานิลาเผลออมยิ้ม หญิงวัยกลางคนตรงหน้าเธอยังดูสวยสง่า

    ศิริญดากับศรัญญาละม้ายกันมากจนคนที่ไม่คุ้นเคยมักคิดว่าเป็นฝาแฝด ต่างกันตรงที่คนพี่นั้นใบหน้าสวยหวาน ลงตัวกับเส้นผมดำสนิทยาวถึงบั้นเอว ส่วนคนน้องใบหน้าสวยคม รับกับผมซอยสั้นดูทะมัดทะแมง ทว่าชรัมพรกลับมีเครื่องหน้าประพิมพ์ประพายไปทางผู้เป็นป้ามากกว่ามารดา

    “หนูชื่อมะลินี่นะ คนเรามักชอบอะไรที่เกี่ยวข้องกับชื่อตัวเอง หนูว่าไหม” ศิริญดาส่งยิ้มหวานละมุนแล้วหัวเราะ “น้องฟ้านั่นก็อีกคน ห้องนอนก็สีฟ้า จะซื้ออะไรก็ต้องเป็นสีฟ้าไว้ก่อน”


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×