ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #23 : 4 สายตาคู่นั้น 4/6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 4.41K
      1
      2 ก.พ. 65


    “เออ” ดูเหมือนเป็นการตอบเพื่อตัดรำคาญมากกว่า แต่สุดท้ายธตรัฐก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าหญิงสาวน่ารักจริง ๆ ชุดเดรสยาวพลิ้วสีแดงขับกับผิวขาว ๆ ช่างดึงสายตาเขาให้จดจ่อ ชายหนุ่มพ่นลมหายใจหนัก ๆ คิดว่าบางทีความคิดไม่เข้าท่าอาจออกมากับลมหายใจได้บ้าง แต่ไม่มีวี่แววว่าจะเป็นอย่างนั้น

    “กูอยากเป็นวิโอลาว่ะ น้องเขาจะได้สีกูทุกวัน” ไม่ว่าในสถานการณ์ไหนภูธิปก็คือภูธิป เขาหาเรื่องอื่นพูดกลบเกลื่อนความเศร้าในใจได้เสมอ

    “พล่ามมากจริงนะมึง”

    “ไม่พูดก็ได้วะ”

    มานิลาแทบสีวิโอลาไม่เป็นเพลงเมื่อมองลงมายังโต๊ะชิดขอบเวทีแล้วเห็นธตรัฐนั่งอยู่ ตอนนี้สมองเธอถูกแยกออกเป็นสองส่วนไปแล้ว ส่วนหนึ่งจดจ่อกับเครื่องสายที่เล่นอยู่ อีกส่วนจดจ่อกับผู้ชายที่ไม่เคยพูดดีกับเธออีกเลยนับจากเจอกันครั้งแรก หญิงสาวเพิ่งมั่นใจก็วันนี้ว่าสายตาที่เขามองไม่ได้รังเกียจอย่างที่เธอเก็บไปคิดเองเออเอง แต่สายตาคู่นั้นราวกับผิดหวังอะไรสักอย่าง และแน่นอนว่าเธอไม่รู้ว่าเรื่องใด

     

    ช่วงเวลาหัวใจเหงาหนักที่สุดสำหรับมานิลาคือช่วงกลางคืนหลังเล่นดนตรีที่โรงแรมหรือร้านอาหารเสร็จ แล้วกลับมาห้องสี่เหลี่ยมภายในอะพาร์ตเมนต์เพียงลำพัง เพราะเหตุนี้เธอถึงอยากทำโน่นทำนี่ให้เยอะเข้าไว้ เวลาจะได้ไม่หมดไปกับความเหงาและการคิดมาก

    กล่องไม้เก่า ๆ ที่ข้างในมีสิ่งของแห่งความทรงจำรวมทั้งรูปถ่ายพ่อถูกวางอยู่ตรงที่เดิมของมัน เธอไม่คิดเปิดกล่องออกดู เพราะนั่นอาจทำให้เหงาและคิดถึงพ่อมากกว่าเดิม หญิงสาวลุกจากเก้าอี้แล้วเดินมานั่งตรงขอบเตียงก่อนเลิกผ้านวมขึ้น เตียงนอนผู้หญิงส่วนใหญ่อาจมีหมอนข้างและตุ๊กตาน่ารัก ๆ แต่เตียงนอนมานิลามีกล่องวิโอลาไม้สีดำที่แม้เก่าเล็กน้อยตามกาลเวลาและมีรอยไหม้นิด ๆ อยู่ตรงขอบ ทว่าดูออกว่าได้รับการดูแลเอาใจใส่จากเจ้าของเป็นอย่างดี

    ...มันกอดอุ่นยิ่งกว่าหมอนข้างใบใด ๆ ในโลก

    บางทีก็นึกขำตัวเอง เธอเป็นนักวิโอลาแต่กลับไม่เคยใช้วิโอลาคันนี้เล่นให้ใครฟังเลยนอกจากพ่อ ตอนเรียนดนตรีเธอใช้เครื่องดนตรีของครูที่สอน แม้แต่ตอนเล่นในร้านอาหารหรือโรงแรมก็ใช้เครื่องดนตรีที่เขามีให้ตลอด

    มานิลายกกล่องวิโอลามาวางตรงหน้า ก่อนกดสลักล็อกจนครบทั้งสามแล้วเปิดฝากล่องยกเครื่องดนตรีสีเดียวกับกล่องออกมาดู พลันเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องอาหารบลูจัสมินชั้นบนสุดของโรงแรมอคิราห์สกายก็ผุดเข้ามาในห้วงความคิด หญิงสาวพลิกวิโอลาช้า ๆ ชื่อจริงของแม่ที่ถูกสลักไว้เป็นภาษาอังกฤษทำให้เริ่มหายใจไม่ออก รู้สึกได้ถึงอุณหภูมิที่สูงขึ้นของน้ำในกระบอกตา

    ดวงตาหม่นเศร้าไล่มองวิโอลาละเอียดทุกตารางเซนติเมตรอย่างเช่นที่ทำทุกครั้งยามคิดถึงแม่ วิโอลาคันนี้อายุมากกว่าเธอเสียอีก แต่ยังสวยและไม่มีแม้รอยขีดข่วน เปลือกตาบางกะพริบถี่จนขนตางอนยาวเปียกชื้นด้วยน้ำที่มาคลอเคลียอยู่ คำพูดที่พ่อบอกไว้เมื่อหลายปีก่อนแวบเข้ามาไม่ต่างจากทุกครั้งที่หยิบวิโอลาคันนี้ออกมาจากกล่อง

    ตอนแม่ท้องลูกได้ไม่กี่เดือน แม่เคยบอกพ่อว่าถ้าลูกโตขึ้นแม่จะสอนลูกเล่นมันเอง

    แต่แล้ว...คนที่สอนวิโอลาให้เธอกลับไม่ใช่แม่

    มานิลาเริ่มเรียนวิโอลาตอนสี่ขวบ ครูสอนคืออาจารย์สอนเครื่องสายในมหาวิทยาลัยที่อุทิศเวลาว่างให้กับเด็ก ๆ ในหมู่บ้านด้วยการสอนดนตรีให้ฟรี ๆ และพอวันเกิดครบรอบแปดขวบพ่อก็ยกวิโอลาของแม่ให้เธอดูแล หญิงสาวจำได้ว่าตอนนั้นแปลกใจไม่น้อยว่าพ่อซ่อนวิโอลาคันนี้มาได้อย่างไรถึงแปดปีโดยที่เธอไม่เคยเห็นหรือเอะใจเลยสักนิด

    “หนูอยากให้แม่ฟังเพลงที่หนูเล่นจังค่ะ”

    หญิงสาววางวิโอลาทำมุมสี่สิบห้าองศากับไหล่ นิ้วเรียวกดลงบนสะพานนิ้วในตำแหน่งโน้ตตัวแรกของเพลง มืออีกข้างยกคันชักขึ้นมาวางทาบบนสายวิโอลา ก่อนเริ่มบรรเลงเพลงที่เธอเล่นมันบ่อย ๆ ทั้งเล่นที่ร้านอาหาร โรงแรม หรือเล่นให้ตัวเองฟัง และคาดหวังว่าแม่จะชอบเหมือนกัน

    มานิลารู้จักกับเพลงบรรเลงไวโอลินโดย Lindsey Stirling ตั้งแต่ช่วงที่เพลงเพิ่งออกมาใหม่ ๆ ผ่านทางเว็บไซต์อัพโหลดวิดีโอยอดนิยมราวสี่ปีก่อน

    ...Song of the Caged Bird

    หญิงสาวชอบมันตั้งแต่เห็นเพียงแค่ชื่อเพลง เมื่อได้กดเข้าไปฟังก็ไม่ผิดหวังเลย จังหวะเพลงที่ไม่ช้าหรือเร็วเกินไปแต่ให้ความตื่นเต้นและลุ้นตามทำให้มานิลาตีความหมายในความเข้าใจของตัวเองว่าเพลงนี้ตั้งใจสื่อถึงผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งอยู่ในโลกแสนเงียบงันไม่ต่างจากนกที่ถูกขังอยู่ในกรงเพียงตัวเดียว แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อบังเอิญค้นพบไวโอลินในกล่องไม้แล้วลองเล่นมัน ความเงียบงันที่มีอยู่เดิมก็ถูกกำจัดออกไปด้วยเสียงเพลง

    เธอโชคดีกว่าผู้หญิงในเพลงอยู่หน่อยหนึ่งตรงที่ไม่ได้เป็นนกที่ถูกขังในกรงไร้ซึ่งทางออก ตรงกันข้าม เธอเป็นนกที่มีอิสระบนโลกใบกว้าง อยากบินไปไหนก็ได้ตามแต่ใจต้องการ แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อนกตัวนี้บินเพียงลำพัง ไร้ฝูง ไร้ญาติ ไร้ครอบครัว

    บทเพลงจบลงแล้ว มานิลาไม่แน่ใจว่าการหยิบวิโอลาของแม่ขึ้นมาเล่นแทนการไม่หยิบกล่องไม้ของพ่อขึ้นมาดูเพราะกลัวจะคิดถึงพ่อเป็นการเลือกที่ถูกหรือไม่ เพราะตอนนี้เธอคิดถึงและอยากกอดแม่สุดหัวใจเช่นกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×