คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 1 ความใส่ใจแม้เพียงน้อยนิด 2/3
“แม่ขา”
เสียงเล็กใสดังมาแต่ไกล ภาพที่ทรายรุ้งเงยหน้าขึ้นเห็นคือเปรี้ยวหวานกำลังโบกไม้โบกมือให้เธอ สาวน้อยแก้มป่องซึ่งสวมกางเกงขายาวสีน้ำตาลอ่อนกับเสื้อสีขาวทรงกะลาสียิ้มอวดฟันขาวเดินเคียงข้างผู้เป็นพ่อลงบันไดมาจากด้านบน ในทุกเช้าเธอจะทำงานบ้าน ส่วนธรณ์เป็นฝ่ายจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ลูก เขาจูงมือลูกลงบันไดเป็นภาพที่เห็นทุกวันจนชินตา แต่น่าแปลกที่เธอไม่เคยเบื่อเลยสักวัน ธรณ์รักลูก รักมากกว่ารักตัวเองเป็นสิบเป็นร้อยเท่า ทรายรุ้งรู้ดีเพราะเธอรักลูกไม่ต่างกัน
ไม้ถูพื้นซึ่งทำหน้าที่ของมันเสร็จสิ้นแล้วถูกวางพิงผนังบ้าน หญิงสาวย่อตัวลงแล้วอ้าแขนรับลูกสาวเข้าสู่อ้อมกอด ผลัดกันหอมทั้งแก้มซ้ายแก้มขวา
“เปรี้ยวหวานของแม่ตัวหอมจังเลยค่ะ”
“พ่ออาบน้ำให้ค่ะ”
“ใครถักเปียให้น้า”
“พ่อค่ะ”
หนูน้อยยืดอกยิ้มอย่างภาคภูมิใจกับฝีมือการอาบน้ำและทำผมของพ่อ ความสุขของเด็กวัยนี้หาได้ไม่ยาก เพียงแค่ได้รับรอยยิ้มและคำชมหวานๆ จากแม่ เท่านี้ขีดความสุขก็เพิ่มสูงจนเหลือแหล่ในแต่ละวัน
“หิวหรือยังคะ วันนี้แม่ทำข้าวต้มปูด้วย”
“เย้ !” ท่อนแขนป้อมชูขึ้นสุด
“เอาโกโก้ร้อนด้วยไหมคะ”
“พี่ดูลูกเอง”
ธรณ์อาสาโดยไม่มองหน้าคนที่เขาแทนตัวเองด้วยว่าพี่ หญิงสาวพยายามตัดเรื่องที่พานให้คิดมากออกไปจากสมอง เขากำลังทำหน้าที่พ่อที่ดีของลูก และเมื่อเช้าเขาก็ทำให้หัวใจเธอพองโตมากพอแล้ว
อย่าหวังอะไรเกินตัว...ทรายรุ้งเตือนตัวเอง
“ค่ะ”
เธอเลี่ยงบอกว่า ‘ขอบคุณค่ะ’ เพราะหากพูดเช่นนั้นพี่ธรณ์คงตอบกลับมาว่า ‘ขอบคุณทำไม เปรี้ยวหวานก็ลูกพี่’ เธอหอมกระหม่อมลูกหนักๆ หนึ่งที แล้วบอก
“เปรี้ยวหวานกินข้าวนะคะ แม่ไปดูผ้าก่อน อีกสิบห้านาทีเจอกันค่ะ”
“พ่อขา”
เปรี้ยวหวานถามขึ้นเมื่อแม่เดินลับไปทางหลังบ้าน ส่วนตัวเองถูกพ่อจูงเข้าครัวแล้วอุ้มขึ้นนั่งบนเก้าอี้กินข้าวที่สูงกว่าตัวอื่นๆ ในโต๊ะ
“ครับ” ธรณ์เริ่มตักข้าวต้มใส่ชามใบน่ารักของลูกสาว พอวางให้บนโต๊ะดวงใจของเขาก็ถามต่อ
“สิบห้านาทีนานไหมคะ”
“เปรี้ยวหวานกินข้าวเสร็จก็ครบสิบห้านาทีพอดี” เปรี้ยวหวานคือเจ้าหนูจำไม กระนั้นการตอบคำถามลูกก็ไม่ใช่เรื่องน่าเบื่อสำหรับธรณ์ “เอาโกโก้ด้วยไหม พ่อแถมให้”
“เอาค่ะ”
เจ้าตัวเล็กพยักหน้าหงึกๆ ก่อนหยิบช้อนขึ้นตักข้าวต้มเข้าปากคำแล้วคำเล่าอย่างเอร็ดอร่อย ธรณ์มองลูกอยู่นานกว่าจะผละไปชงโกโก้ร้อนให้ลูกกับชาร้อนให้ตัวเองดื่มฆ่าเวลา เปรี้ยวหวานไม่ได้หน้าเหมือนเขาเสียทีเดียว ประพิมพ์ประพายไปทางคุณทวดซึ่งคือย่าเขาเสียมากกว่า นั่นอาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ท่านรักเปรี้ยวหวานมากมายนัก
ทรายรุ้งตากผ้าเสร็จด้วยเวลาไล่เลี่ยกับที่เด็กหญิงปั้นดาวจัดการข้าวต้มปูฝีมือแม่กับโกโก้ร้อนฝีมือพ่อลงท้องจนเกลี้ยง หญิงสาวขึ้นด้านบนไปหยิบกระเป๋าสะพายและเครื่องใช้ส่วนตัวของลูก ลงมาถึงห้องนั่งเล่นไม่ทันได้คว้าเอาตะกร้าหวายบรรจุของกินมากมายขึ้นมาถือ สามีก็ท้วงขึ้นก่อน
“ไม่ต้องรีบหรอก พี่สัญญากับลูกว่าจะพาไปดูลูกนก”
“พี่ธรณ์ไม่ต้องทำงานหรือคะ”
หลายเดือนตั้งแต่ระหองระแหงกัน ปกติของทุกเช้าก่อนธรณ์กลับไปดูแลโรงพยาบาลสัตว์ในตัวเมือง ชายหนุ่มจะขับรถไปส่งทรายรุ้งและลูกที่ฟาร์มสุกรการุณย์กาญจ์ซึ่งมีเนื้อที่ติดกับฟาร์มนกกระจอกเทศ ฟาร์มนั้นคือที่ที่ภรรยาเขาโตมาและเขาวิ่งเล่นตั้งแต่เด็ก คุ้นที่คุ้นทางจนหลับตาเดินได้
ทรายรุ้งมีหน้าที่ตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายให้กับฟาร์มหมูที่เปลี่ยนมือจากคุณการุณย์ผู้เป็นบิดามาเป็นทะเลจันทร์ และอีกเหตุผลที่ทายาทคนโตของฟาร์มกับหลานสาวคนแรกใช้ชีวิตช่วงกลางวันที่นั่นเป็นเพราะทั้งคุณการุณย์และคุณกาญจนาหลงหลานไม่น้อย เปรี้ยวหวานเป็นทั้งดวงใจของคนในครอบครัวและเป็นนายน้อยตัวเล็กๆ ขวัญใจคนงานทั้งสองฟาร์ม
“เข้าสายหน่อยได้ ไม่เป็นไร”
“ค่ะ” ตอบไปก็ลุ้นว่าเขาจะพูดอะไรต่อ จะชวนเธอไปดูนกกระจอกเทศด้วยกันหรือให้เธอรอเขากับลูกอยู่ที่นี่
“แม่ไปกับเปรี้ยวหวานนะคะ”
ทรายรุ้งสบตาสามีอยู่ครู่หนึ่ง แม้ว่าลูกชวนไปด้วยแต่ไม่แน่ใจนักว่าพ่อของลูกอยากให้เธอไปด้วยหรือเปล่า ฟาร์มนกกระจอกเทศแห่งนี้คนงานทั้งฟาร์มเรียกเธอว่านายหญิงก็จริง แต่เธอไม่ได้มีบทบาทใดๆ เลยในฟาร์ม ธรณ์ไม่เคยให้ช่วยดูแลเรื่องบัญชีทั้งที่เขาก็รู้ว่าเธอเรียนจบด้านนี้โดยตรงแถมยังพ่วงเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง เขาให้เหตุผลว่าอยากให้เธอดูแลลูกอย่างเต็มที่มากกว่าต้องมาเครียดเรื่องตัวเลข
“แม่ขา”
สาวน้อยอ้อนอีกรอบเมื่อแม่ไม่ตอบ มือเล็กๆ กอดแขนแม่แน่น ซุกซบแก้มนุ่มนิ่มกับท่อนแขนเป็นการอ้อนหนักเข้าไปอีก ในขณะที่ทรายรุ้งเริ่มใจเสียไปแล้วกึ่งหนึ่ง
ธรณ์หยิบหมวกคาวบอยของตนขึ้นมาหมุนเล่นสองที แล้ววางลงบนศีรษะปกคลุมด้วยผมยาวสลวยเส้นดำขลับจนเจ้าของศีรษะสะดุ้งเล็กๆ ก่อนบอกด้วยน้ำเสียงนุ่มทุ้ม
“ใส่ไว้ แดดเริ่มออกแล้ว”
“ขอบคุณค่ะ” ทรายรุ้งทำทีเป็นจัดหมวกจัดผมเผ้าให้เข้าที่ ทั้งที่จริงๆ แล้วการกระทำเหล่านี้แสดงออกเพื่อกลบเกลื่อนความดีใจที่เกิดขึ้นฉับพลัน
“เย้ ! แม่ไปกับเปรี้ยวหวานด้วย” เจ้าซาลาเปาดีใจยิ่งกว่าตอนรู้ว่าพ่อจะพาไปดูนกกระจอกเทศเสียอีก
“เปรี้ยวหวานดีใจที่แม่ไปด้วยหรือคะ” ธรณ์ถามหลังวางหมวกคาวบอยที่มีลักษณะเหมือนกับหมวกของตนแต่ขนาดเล็กกว่าลงบนศีรษะลูกสาว
“ดีใจที่พ่อกับแม่ไปกับเปรี้ยวหวานค่ะ”
หนูน้อยจับมือพ่อ แต่แก้มยุ้ยแนบกับแขนแม่ ความคิดของเด็กในวัยนี้ไม่ซับซ้อน คิดอย่างไรพูดอย่างนั้น แต่ประโยคจากปากลูกสาวคนเดียวกลับทำให้ธรณ์กับทรายรุ้งมองหน้ากัน แววตาทั้งสองสื่อความหมายเดียวกันราวกับถ่ายเอกสาร
...ลูกต้องการทั้งพ่อและแม่
“เล่นกับน้องนกนานๆ ได้ไหมคะ”
คำถามเริ่มขึ้นตั้งแต่ยังไม่ออกจากบ้าน เปรี้ยวหวานเปิดตู้รองเท้า หยิบรองเท้าผ้าใบวางลงกับพื้นแล้วนั่งสวมทีละข้าง ติดตรงที่ยังผูกเชือกรองเท้าไม่เป็น ถึงคราวพ่อต้องผูกให้
“ไว้วันหลังแล้วกันลูก วันนี้เราแค่ไปเยี่ยมน้องนก เพราะเปรี้ยวหวานต้องไปบ้านตากับยาย”
“ว้า”
“น้าซีบอกแม่ว่าไข่ตุ๋นคิดถึงพี่เปรี้ยวหวานค่ะ”
พอเอ่ยชื่อเด็กหญิงลัดฟ้า ลูกสาวเธอก็ดูอ่อนลงทันที ทรายรุ้งยิ้มในหน้า เปรี้ยวหวานผูกพันกับน้องตั้งแต่ยังอยู่ในท้องทะเลจันทร์ หนูน้อยถูกปลูกฝังมาว่าน้องตัวเล็กๆ จะเป็นอีกคนที่รักเปรี้ยวหวานมากๆ และเป็นอีกคนที่เปรี้ยวหวานต้องดูแลเพราะน้องตัวเล็กกว่า เป็นตามนั้นจริงๆ ลูกสาวเธอเห่อตั้งแต่วันแรกที่น้องคลอด
“พี่เปรี้ยวหวานก็คิดถึงน้อง”
“ถ้าอย่างนั้นเรารีบไปดูน้องนก ดูน้องนกเสร็จพ่อพาไปหาไข่ตุ๋น ดีไหมคะ”
“ดีค่ะ”
ธรณ์กับทรายรุ้งออกจากบ้านโดยจูงมือลูกสาวคนละข้าง สามคนพ่อแม่ลูกเลี่ยงเดินบนถนนดินแต่ใช้ทางเดินแนวอิฐมอญซึ่งปูทอดยาวจากบ้านไปยังโรงเรือนเลี้ยงนกกระจอกเทศแทน เพลงที่มาจากการขับร้องโดยนักร้องตัวจิ๋วดังคลอเบาๆ ตลอดทาง พอถึงท่อนไหนที่นึกไม่ออกหรือจำเนื้อร้องไม่ได้ก็เงยหน้าขึ้นถามแม่บ้างพ่อบ้างเป็นครั้งคราว
ความคิดเห็น