คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #29 : 5 จูบ...มีฤทธิ์สะกิดหัวใจ 4/7
มานิลาเก็บของลงในตะกร้าแล้วเดินมายังประตูที่เปิดแง้มไว้นิด
ๆ พอให้แสงสว่างสีเหลืองนวลลอดผ่านเข้ามาได้ ทว่าจู่ ๆ
ความตกใจก็วิ่งปรู๊ดจากปลายเท้าขึ้นมายังส่วนบนสุดของร่างกายเมื่อเจอแขกไม่ได้รับเชิญยืนอยู่หน้าประตูห้องแห่งความลับของเธอ
“คุณบอม !”
เธอเกือบจะช็อกอยู่แล้วเชียว ดีที่ไม่สติแตกจนทำของในตะกร้าหลุดมือ
ไม่เช่นนั้นคงเป็นเรื่องใหญ่เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ตีมูลค่าคร่าว ๆ
แล้วยังไงก็เป็นตัวเลขหลักหมื่น “มาตั้งแต่เมื่อไรคะ”
“สักพักแล้ว เปิดตู้เย็นก็แล้ว
ปิดตู้เย็นก็แล้ว เดินไปเดินมาก็แล้ว คุณไม่ได้ยินเสียงผมเลยหรือ”
มานิลาวางตะกร้าบนชั้นวางอุปกรณ์แล้วล้วงโทรศัพท์เคลื่อนที่จากกระเป๋ากางเกงออกมากดหยุดวิดีโอวิชาการที่อาจารย์ตรีทิพย์ส่งมาให้
ก่อนปลดหูฟังออกทั้งสองข้างแล้วหย่อนทั้งโทรศัพท์ทั้งหูฟังลงไปในกระเป๋าสะพายหลังใบเก่ง
“หนูใส่หูฟังอยู่ค่ะเลยไม่ได้ยิน”
เวลาทุกนาทีมีค่าเสมอ
หลายคนบอกมาเช่นนี้และเธอก็ใช้มันเกินคุ้ม
คงเป็นอย่างที่พลอยพิมพ์เคยบอกกึ่งประชดน้อย ๆ
ว่าเธอมันพวกมนุษย์ประหลาดที่ทำอะไรสองสามอย่างได้ในเวลาที่ทับซ้อนกัน
“ถ้าไม่ใช่ผมแต่เป็นโจร
ป่านนี้คุณคงโดนมันทำอะไรต่อมิอะไรไปแล้ว”
“คุณบอมไม่ใช่โจรเสียหน่อย”
“ไม่กลัวผมหรือ” ชายหนุ่มยิ้มกรุ้มกริ่ม
แล้วหยิบจอบขึ้นมาถือด้วยท่าทางทะมัดทะแมง เป็นจังหวะที่มานิลาหันกลับมาพอดี
“คะ...คุณบอมจะทำอะไรคะ” มานิลาหน้าซีด
ไม่อยากนึกเลยว่าถ้าด้านคม ๆ ของจอบนั้นจ้วงเข้าหน้าเธอจะเจ็บขนาดไหน
“ตกใจอะไร ผมแค่จะเอาไปเก็บ”
“ก็...”
“ค่ำแล้ว ทำไมยังอยู่ห้องแล็บ
ปิดเทอมแบบนี้คนน้อย อยู่คนเดียวมันอันตรายไม่รู้หรือไง”
มานิลารู้สึกอุ่นวาบไปทั้งตัว
น้ำเสียงของเขาฟังดูอ่อนโยนและเธอไม่ได้ยินน้ำเสียงแบบนี้จากเขามานานแล้ว...นับจากวันนั้น
“แต่หนูจำได้ว่าล็อกประตูแล้ว
คุณบอมเข้ามาได้ยังไงคะ”
“ผมมีนี่”
ชายหนุ่มชูพวงกุญแจขึ้น มานิลาจึงพอจะเดาออกว่าเขาคงได้มาจากอาจารย์ตรีทิพย์
“ว่ายังไง ทำไมถึงมาแล็บค่ำ ๆ”
“หนูต้องมาทุกวันอยู่แล้วค่ะ
ไม่อย่างนั้นเด็ก ๆ ในห้องจะไม่มีอะไรกิน”
หญิงสาวมองไปทางห้องที่ตนเพิ่งออกมา
ปกติเธอต้องมาทุกเช้าและเย็น
แต่หากวันไหนที่พลอยพิมพ์หรือน้องนิสิตปริญญาตรีเข้ามาก็มักจะอาสาดูแลเด็ก ๆ
แทนเธออยู่ร่ำไป
การดูแลหิ่งห้อยมีรายละเอียดปลีกย่อยมากกว่าการให้อาหารเนื่องจากหิ่งห้อยแต่ละช่วงวัยมีที่อยู่อาศัยแตกต่างกัน
ตัวอ่อนอยู่ในน้ำ ตัวเต็มวัยอยู่บนบก
กระนั้นการบอกกล่าวอย่างละเอียดให้ธตรัฐรับรู้ก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นสักเท่าไร
ธตรัฐเกือบจะหลุดหัวเราะกับคำว่า ‘เด็ก ๆ’ นักกีฏวิทยาเรียกแมลงแบบนี้ทุกคนหรือเปล่า
อย่างน้อย ๆ ก็สองคนแล้ว แม่เขาละคนหนึ่ง ส่วนอีกหนึ่งก็ยืนห่างกับเขาไม่ถึงศอก
“ทำไมไม่เปิดไฟ”
“ขี้เกียจค่ะ” มานิลาบอกปัด
นี่ก็อีกเรื่อง เธอไม่อยากอธิบายจนยืดยาวว่าไฟในแล็บหิ่งห้อยถูกตั้งเวลาเอาไว้ให้เปิดตอนหกโมงเช้าและให้ปิดตอนหกโมงเย็นของทุกวัน
เพื่อจำลองให้เหมือนธรรมชาติที่เจ้าแมลงปีกแข็งชนิดนี้อาศัยมากที่สุด
“ขี้เกียจ ? แต่มาเป็นติวเตอร์ให้บรีส”
“คุณบอมกำลังพูดไปเรื่องอื่นแล้วนะคะ”
ทำให้เธออุ่นใจอยู่ได้ไม่นานก็ชวนทะเลาะเสียแล้ว
อดนึกเปรียบเทียบไม่ได้ว่าระหว่างเขาเข้ามาในห้องกับโจรเข้ามาในห้อง
อย่างไหนอันตรายมากกว่ากัน
“เลิกสอนพิเศษให้น้องสาวผม”
ธตรัฐบอกเสียงนิ่งขรึม ทว่าภายในซุกซ่อนความรู้สึกลังเลไว้ไม่น้อย
ใจหนึ่งบอกว่าไม่ต้องการให้ธริษตรีเรียนพิเศษกับคนที่เล่นดนตรีบดบังการหาเงินด้วยวิธีพิเศษที่แม้แต่คนยุคโลกาภิวัตน์อย่างเขายังทำใจให้ยอมรับไม่ได้เต็มร้อย
แต่อีกใจกลับบอกว่าหากมานิลาไม่สอนพิเศษให้ธริษตรี เขาจะเจอเธอได้น้อยลง
“คะ ?”
“นับจากพรุ่งนี้คุณไม่ต้องไปที่บ้านผม
ผมจะอธิบายเรื่องนี้กับแม่และก็บรีสเอง”
“อาจารย์ตรีทิพย์เป็นคนจ้างหนู
ส่วนน้องบรีสก็เป็นคนเรียน
เพราะฉะนั้นหนูจะเลิกสอนก็ต่อเมื่อแม่หรือน้องสาวคุณบอมเป็นคนบอกค่ะ”
ดวงตาที่มองมาแม้ดูแข็งกร้าวไม่ยอมแพ้
ทว่าธตรัฐเห็นถึงความเศร้าที่ซ่อนอยู่ในทุกอณูความแข็งกร้าวนั้น
นัยน์ตาคู่นี้ไม่เคยห่างหายจากคำว่าหม่นจนบางครั้งเขาอยากจะรู้ว่าดวงตาของเธอเคย ‘ยิ้ม’ บ้างหรือเปล่า
หากแต่เมื่อยิ่งมองลึกลงไปแล้วกลับรู้สึกว่าดวงตาเศร้าหม่นของคนหน้าหวานช่างคล้ายใครสักคนที่เขาเคยเห็นมาก่อน
ไม่...ไม่ใช่แค่คล้ายและไม่ใช่แค่เคยเห็นมาก่อน
หากแต่มันเป็นนัยน์ตาที่เหมือนกับนัยน์ตาคู่หนึ่งที่เขา ‘คุ้นเคย’ มานานแสนนาน เพียงแต่นึกไม่ออกว่าดวงตาคู่หม่นของมานิลาซ้อนทับกับใคร
ความคิดเห็น