ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ซัมปากีตา...สีหม่น : The Gray Jasmine

    ลำดับตอนที่ #2 : 1 พบเพื่อจาก 1/6

    • อัปเดตล่าสุด 1 ก.พ. 65



    ประตูห้องประชุมของคณะถูกกระชากให้เปิดออกอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ผู้มาใหม่จะแทรกตัวเข้ามา มานิลายิ้มเจื่อน ๆ ให้ทุกคนที่มองเธอเป็นตาเดียว รู้สึกว่าตอนนี้มีขนาดตัวไม่ต่างจากหิ่งห้อยที่ตนทำวิจัยอยู่ เมื่อเห็นสายตาคาดโทษส่งมาหญิงสาวจึงไหว้ขอโทษคณาจารย์ที่นั่งอยู่แถวหน้าสุด แล้วก้มหน้าขอโทษเพื่อน ๆ อีกหลายชีวิต

    “นิสิตเริ่มพรีเซนต์งานได้เลย” ศาสตราจารย์ดอกเตอร์ตรีทิพย์ไม่ได้ถามเหตุผลในการมาสายไปห้านาที แต่ยิ้มให้กำลังใจและผายมือไปทางเวทีเตี้ย ๆ แทน

    “ขอบคุณค่ะอาจารย์” คนมาสายประนมมือขึ้นอีกครั้ง ก่อนเดินเร็ว ๆ มายังโต๊ะซึ่งมีคอมพิวเตอร์เชื่อมต่อกับโปรเจกเตอร์ไว้เรียบร้อยแล้ว มือสั่นค่อย ๆ เปิดกระเป๋าสะพายหลัง จากนั้นจึงหยิบแผ่นซีดีขึ้นมาเปิดหลังจากนั่งลงบนเก้าอี้แล้ว

    สู้ ๆ มะลิ เธอจับฉลากได้พรีเซนต์คนแรกเองนะ

    มานิลาสลัดความกังวลออกไป ก่อนสูดหายใจให้กำลังใจตัวเองแล้วเริ่มนำเสนอความคืบหน้าวิทยานิพนธ์แก่อาจารย์และนิสิตปริญญาโทร่วมภาควิชา ถ้อยคำฉะฉานเปล่งออกเป็นภาษาอังกฤษอย่างคล่องแคล่วตามที่ได้ตระเตรียมมา แตกต่างจากผู้หญิงหน้าตาตื่นเมื่อครู่โดยสิ้นเชิง

    สิ้นสุดการนำเสนอและทุกคนในห้องประชุมหมดคำถาม มานิลาก็ได้เสียงปรบมือแทนคำชื่นชมทั้งหมด หญิงสาวลงจากเวทีส่งมอบพื้นที่ให้กับเพื่อนร่วมภาควิชาคนต่อไป จากนั้นจึงเดินมานั่งตรงที่ว่างในแถวเกือบท้ายสุดของห้องประชุม แต่พอจะหยิบสมุดบันทึกที่พกติดตัวตลอดเวลาขึ้นมาจดรายละเอียดที่เพื่อนนำเสนออยู่เธอกลับไม่พบมัน

    หายไปไหนกัน

    ทว่าสิ่งที่ฉายอยู่บนจอโปรเจกเตอร์สำคัญกว่า หญิงสาวจึงกลับมาตั้งใจฟังเพื่อนแทน นิสิตคนที่สองนำเสนอจนจบ นิสิตคนอื่น ๆ ก็เริ่มรับช่วงต่อตามลำดับที่จับฉลากได้จนครบถ้วนทุกคน

    “ปกติมะลิไม่เคยมาสาย มีอะไรจะเล่าให้อาจารย์ฟังหรือเปล่า” อาจารย์ตรีทิพย์ถามนิสิตซึ่งท่านเป็นที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ขณะเดินเคียงกันออกจากห้องประชุม

    “มีเรื่องนิดหน่อยค่ะ แต่ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วค่ะ”

    “แน่ใจนะ”

    “ค่ะอาจารย์”

    “ไม่มีก็ไม่มี” คนฟังส่ายหน้าให้พร้อมกับยิ้มน้อย ๆ ลูกศิษย์คนนี้อาจเรียกได้ว่าพูดน้อยที่สุดในบรรดาลูกศิษย์ที่เธอเคยสอนมา ต่างจากเรื่องเรียน เรื่องช่วยงาน หรือเรื่องสอนพิเศษที่มานิลาทำได้ดีกว่า “อ้อ อย่าลืมล่ะ สัมมนาวิชาการอาทิตย์หน้า มะลิต้องไปกับอาจารย์นะ”

    “ค่ะ ไม่ลืมค่ะ”

    “แล้วพรีเซนต์เทชัน ?”

    “เสร็จแล้วค่ะ เย็นนี้หนูส่งให้อาจารย์ตรวจความเรียบร้อยอีกรอบนะคะ”

    อาจารย์ตรีทิพย์ลูบหลังลูกศิษย์อย่างเอ็นดู ไม่รู้ว่าท่านคิดไปเองหรือเปล่าว่ามานิลามีอะไรบางอย่างในใจที่ไม่สามารถบอกใครได้ อาจารย์คนนี้เลยทำได้เพียงเฝ้ามองอยู่ห่าง ๆ

     

    “พี่บอมเป็นอะไร นั่งยิ้มตั้งแต่ขึ้นรถมาแล้วนะ ไม่เห็นเหมือนคนเมาเลือดแล้วเพิ่งจะอ้วกหมดไส้หมดพุงเลย”

    “ไม่ใช่เรื่องของเด็ก” ธตรัฐตัดบท สายตายังคงเพ่งไปที่สมุดบันทึกปกแข็งสีเขียวเข้มในมือ

    “ยี่สิบไม่เรียกว่าเด็กแล้ว พี่บอมรู้ไหมว่าผู้หญิงส่วนใหญ่น่ะถ้ารู้อะไรแค่ครึ่ง ๆ กลาง ๆ มักจะนอนไม่หลับ และบรีสก็คือผู้หญิงกลุ่มนั้น” ธริษตรีชี้แจงขณะหักพวงมาลัยบังคับรถออกสู่ถนนใหญ่ เธอหรือก็ลงทุนยกเลิกนัดกับเพื่อนที่ตั้งใจว่าจะไปเดินเล่นในห้างสรรพสินค้าด้วยกัน แล้วพอมาเจอคนที่เรียกตัวเธอมา เขากลับทำตัวมีลับลมคมใน “รู้แบบนี้ไม่เสียเวลามาดูใจหรอก”

    “เฮ้ย ๆๆ ดูใจบ้าบออะไรของเรายายบรีส พูดอย่างกับว่าพี่จะตาย” คราวนี้ใบหน้าที่เริ่มซับสีเลือดหันขวับมองสารถีเฉพาะกิจทันที

    “มีอย่างที่ไหน ไปบริจาคเลือดทั้งที่ช่วงนี้นอนดึกทุกคืน แล้วเป็นไงล่ะ บริจาคเสร็จก็อ้วกจนเสียหล่อหมด บรีสละอยากให้นิสิตที่กรี๊ดกร๊าดพี่บอมได้เห็นตอนพี่สุดหล่ออ้วกอยู่ข้างทางจริง ๆ เลย”

    “ก็เจาะเลือดแล้วเลือดไม่ลอย ใครคิดล่ะว่าจะอ้วก” ชายหนุ่มเองก็นึกภาพไม่ออกว่าหากบรรดานิสิตที่เขาไปเป็นวิทยากรพิเศษในวันนี้มาเห็นเข้า เขาจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน...จะมีก็แต่สาวหน้าหวานคนนั้นที่ได้เห็นมาดหลุด ๆ ของเขา “บรีสเลี้ยวเข้าร้านอาหารด้านหน้าหน่อย อ้วกไปหมดท้อง ตอนนี้พี่เริ่มหิวอีกแล้วที่รัก”

    คนเป็นน้องส่ายหน้าให้กับคำว่า ที่รักพี่ชายเรียกด้วยคำนี้ทีไรงานเข้าตลอด อย่างเช่นวันนี้ที่ธตรัฐเรียกเธอครั้งแรกให้ไปรับ และก็ครั้งนี้ซึ่งจะให้พาเข้าร้านอาหาร

    ธริษตรีเบี่ยงเข้าเลนซ้ายทันทีเพราะเธอเองก็ยังไม่ได้กินมื้อเที่ยง หญิงสาวจอดรถหน้าร้านแล้วช่วยประคองพี่ชายเข้าไปด้านใน เพลียขนาดนี้ยังมีแรงต่อล้อต่อเถียงกับเธอ ขนาดเดินยังเดินเซอย่างกับแม่ปู แถมสมุดเก่า ๆ นี่สำคัญอะไรนักหนาก็ไม่รู้ ประคบประหงมอย่างกับเป็นลูกรักตัวน้อยตั้งแต่อยู่บนรถนั่นแล้ว

    “จะบอกได้หรือยังว่าทำไมต้องเอาแต่ยิ้มเวลาจ้องสมุดนี่ด้วย” พอได้ที่นั่งเธอก็เปิดประเด็น นิ้วเรียวชี้ไปที่สมุดต้นเหตุทำให้พี่ชายยิ้มไม่หุบ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×