คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : 6 พี่ชายดีเด่นแห่งปี 1/3
ประตูบ้านพักรับรองถูกเคาะสองสามครั้ง นักวิจัยหนุ่มที่เพิ่งอาบน้ำชำระล้างเอามูลสุกรออกไปจากกายจนหมดสิ้นแล้วแทนที่ด้วยกลิ่นสบู่หอมฟุ้งเลิกคิ้วเล็กน้อย ก่อนเดินเช็ดผมพาร่างตนที่สวมเสื้อเชิ้ตลายสก็อตสีเทาดำพับแขนขึ้นถึงข้อศอกกับกางเกงยีนตัวเก่งมายังบานประตู ปราบศึกหมุนลูกบิดจากนั้นจึงเปิดเข้ามาด้านใน เบื้องหน้าเขาคือชายหนุ่มหน้าตาละม้ายคล้ายทะเลจันทร์
“สวัสดีครับคุณปราบ ผมซัน” ภูตะวันยิ้มสร้างมิตร
“สวัสดีครับคุณซัน เชิญครับ”
“ขอบคุณครับ” ทายาทคนที่สองของฟาร์มสุกรการุณย์กาญจ์สาวเท้าเข้ามายังตัวบ้านพักแล้วนั่งลงบนโซฟากลางห้องรับแขกตามที่เจ้าของชั่วคราวผายมือเชื้อเชิญ
“เคาะประตูนานหรือเปล่าครับ โทษที เมื่อกี้ผมอาบน้ำอยู่”
“ไม่ครับ เพิ่งมาถึง” เขามาถึงหลังจากปราบศึกแยกกับทะเลจันทร์ได้ไม่กี่นาที สภาพน้องสาวบ่งบอกว่าผ่านสมรภูมิสิ่งปฏิกูลมาอย่างหนักหน่วง และแม้ไม่ได้เห็นดอกเตอร์หนุ่มในสภาพพอกขี้หมูทั้งตัวอย่างทะเลจันทร์ ภูตะวันก็ประเมินความเป็นไปได้ว่าคงเละไม่แพ้กัน “ขอโทษด้วยนะครับ อยู่ฟาร์มได้วันเดียวก็โดนไอ้ซีมันรับน้องโหดเสียแล้ว”
“นิดหน่อยครับ”
“ผมอยู่ฟาร์มหมูมาทั้งชีวิต แต่บอกตรงๆ ว่าไม่เคยเลอะอย่างที่คุณปราบโดนวันนี้เลยครับ”
“เหตุสุดวิสัย คงไม่มีใครอยากให้เกิด”
“เปรี้ยวหวานก็ซน ถ่ายทอดยีนซนมาจากไอ้ซีเต็มๆ”
เด็กวัยปั้นดาวกำลังอยากรู้อยากเห็น ปราบศึกเข้าใจจึงไม่ติดใจอะไร หรือเพราะชินกับทะเลจันทร์แล้วก็ไม่รู้ พอมาเจอรุ่นจูเนียร์จึงกลายเป็นขนมๆ ไป
“เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่าครับ” ภูตะวันพักเรื่องกวนใจไว้ชั่วคราว เปลี่ยนมาถามไถ่เรื่องความเป็นอยู่ของปราบศึกแทน
“ครับ ขอบคุณคุณซันมาก” ชายหนุ่มลดผ้าขนหนูผืนเล็กที่ใช้เช็ดผมลง มือหนาเสยเส้นผมชื้นหมาดให้พอเป็นทรงตามเฉกเช่นผู้ที่ไม่ใคร่จะสนใจภาพลักษณ์ภายนอกของตัวเองสักเท่าใด
“ถ้าไอ้ซีก่อเรื่องอะไรให้ปวดหัวอีกคุณปราบบอกผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ ผมจะรีบบึ่งรถมาจัดการให้ รายนั้นอยู่ที่ไหนต้องมีอะไรสักอย่างเสียหาย กับมัน ผมระอาจนกลายเป็นชินไปแล้ว”
“ซีเป็นไงบ้างครับ”
“โอยยยย”
เสียงทุ้มลากยาวราวต้องการบอกกลายๆ ว่าปราบศึกห่วงผิดคน
“ไม่ต้องห่วงมันหรอกครับ คลุกขี้หมูจนชิน ป่านนี้อาบน้ำอาบท่าเสร็จแล้วมั้ง” ชายหนุ่มพูดกลั้วหัวเราะ ในบรรดาลูกพ่อกับแม่ทั้งสามคน ฟาร์มหมูการุณย์กาญจ์ไม่เหมาะสมจะอยู่ในกำมือใครมากเท่าทะเลจันทร์อีกแล้ว หาดทรายคู่กับทะเลฉันใด หมูกับไอ้ซีก็เกิดมาเพื่อกันและกันฉันนั้น “ผมยกมื้อเที่ยงมาไว้ที่บ้านตุ๊กตาแล้ว ถ้ายังไงเชิญคุณปราบเลยนะครับ นี่ก็เกือบบ่ายเข้าไปแล้ว ทั้งคุณปราบทั้งไอ้ซียังไม่มีอะไรตกถึงท้อง”
“ถ้าอย่างนั้นไปกันเลยครับ ผมเรียบร้อยแล้ว”
แดดจ้าในช่วงบ่ายโมงไม่ใช่อุปสรรคสำหรับสองหนุ่ม ทั้งภูตะวันและปราบศึกเลี่ยงเดินอ้อมตามขอบแปลงแก้วมังกรซึ่งมีต้นมะม่วงเขียวเสวยปลูกไว้เป็นแนวยาว แต่เลือกที่จะเดินตรงตามแนวปลูกเจ้าผลไม้รสอร่อยแทน ผลสีบานเย็นตัดกับลำต้นเขียวอวบชัดเจน มองปราดเดียวปราบศึกก็รู้แล้วว่าแก้วมังกรแปลงนี้ได้รับการดูแลเอาใจใส่เป็นอย่างดี
“อยากลองชิมหรือเปล่าครับ ไม่มีสารเร่งโต ไม่มีสารกำจัดศัตรูพืชให้ต้องกังวล ไอ้ซีมันตั้งใจนักตั้งใจหนาว่าจะทำแปลงนี้ให้เป็นออแกนิกเหมือนๆ กับฟาร์มหมู”
“ดูแลยากพอตัวเลยนะครับ” เพิ่งรู้ก็ตอนนี้เองว่าทะเลจันทร์ทำไร่แก้วมังกรแบบอินทรีย์ การเลือกเดินทางสายนี้ต้องทุ่มเทแรงกายเพิ่มจากฟาร์มปกติหลายเท่า รายละเอียดค่อนข้างจุกจิกและต้องการแรงงานดูแลเอาใจใส่มากกว่าการทำไร่แบบผสมผสานหรือแบบใช้สารเคมีเต็มขั้น แต่ในปัจจุบันผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับสุขภาพมากขึ้น เม็ดเหงื่อที่เสียไปจึงนับว่าให้ผลตอบแทนคุ้มค่า
“ซีมันตั้งเป้าไว้ตั้งแต่เรียนปีหนึ่งแล้วครับ อยู่ๆ ก็มาอ้อนขอที่ดินตรงนี้จากพ่อ จะปลูกแก้วมังกรให้ได้ทั้งๆ ที่ตอนนั้นไม่ได้มีความรู้อะไรด้านนี้เลย ผมละนึกภาพไม่ออกว่าที่ที่มีหญ้าขึ้นรกๆ จะกลายเป็นไร่ได้ยังไง แต่ก็นั่นแหละครับ ไอ้ซีมันทำได้”
น้ำเสียงและแววตาคนพูดสื่อชัดเจนว่าภูมิใจในตัวน้องสาวคนเดียวอยู่ไม่น้อย และไม่ใช่แค่ภูตะวันที่ภูมิใจ ทว่าปราบศึกก็รู้สึกเช่นนั้น งานไร่งานฟาร์มไม่ใช่งานง่ายๆ เป็นงานที่ต้องดูแลทุกวัน หากใจไม่รัก ไม่มีทางอยู่กับของพวกนี้ได้นาน
“ไอ้ซีเกลียดแมงลักเพราะตอนเด็กเคยโดนเพื่อนแกล้งเอาแมงลักพองๆ เทใส่หัว โตขึ้นเลยไม่ชอบแก้วมังกรไปด้วย มันบอกว่าคล้ายๆ กัน แต่เจ้านั่นกลับปลูกเป็นสิบๆ ไร่ทั้งที่เบะปากทุกครั้งเวลาแม่ยกแก้วมังกรขึ้นโต๊ะอาหาร” ภูตะวันจับพิรุธอีกฝ่าย หากก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ใบหน้าปราบศึกยังเรียบนิ่ง ไม่แสดงอาการผิดแปลกใดๆ ออกมา
...หากไม่ใช่เพราะคุณปราบเก็บอาการเก่ง ก็อาจเป็นเพราะไม่ได้รู้สึกอะไรกับไอ้ซี
“มันทำอย่างกับปลูกไว้เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักอย่างไรอย่างนั้น”
“ครับ”
แม้จะขัดใจกับคำตอบซึ่งสั้นกว่าหางลูกหมูที่ถูกตัดแล้ว หากแต่ภูตะวันก็ไม่ดึงดันเซ้าซี้ต่อ เรื่องลับๆ ที่เขาเก็บไว้ในใจมานานกว่าสองปีนับตั้งแต่วันที่ทะเลจันทร์ไปหาที่ไร่ข้าวโพดแล้วช่วยชิมไวน์หมักสูตรพื้นบ้านพื้นเรือนของไอ้เผือกจนเมามายยังค้างคาในหัว ยายม้าป่าคออ่อนปวกเปียก ดื่มไม่ถึงครึ่งชั่วโมงก็พรั่งพรูความในใจออกมามากมาย เขาหลอกถามอะไรก็ตอบแบบไม่นึกหวงคำตอบ และไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ตื่นมาตอนเช้ากลับไม่รู้ตัวว่าเมื่อคืนพูดอะไรไปบ้าง
และหากในชีวิตน้องสาวมีคนรู้จักชื่อ ‘พี่ปราบ’ คนนี้คนเดียว สิ่งที่เขาคิดไว้ก็มีความเป็นไปได้มากกว่าร้อยละเก้าสิบเก้า
ความคิดเห็น