คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : 3 บังเอิญโลกกลม หรือพรหมลิขิต 3/6
ห้องปฏิบัติการขนาดพอ ๆ
กับบ้านหลังขนาดกลางหนึ่งหลัง ด้านในซอยย่อยออกเป็นห้องเล็ก ๆ อีกราวสองสามห้อง
หนึ่งในนั้นคือห้องที่มีป้ายไม้แปะอักษรภาษาอังกฤษตัวนูนน่ารัก ๆ เป็นคำว่า ‘The Chamber
of Secret at Lab Hinghoy’ แขวนไว้ มานิลาเรียกมันสั้น ๆ ว่า ‘แล็บหิ่งห้อย’ เธอใช้ห้องนี้ในการเลี้ยงหิ่งห้อยเพื่อทำการวิจัย
รวมทั้งทำวิทยานิพนธ์ระดับปริญญาโท
พอให้อาหารหิ่งห้อยทุกวัยเสร็จเรียบร้อย
ตัวตั้งเวลาการติดดับของหลอดไฟแบบอัตโนมัติก็ทำงานพอดี ความมืดมิดเข้าแทนที่
ขณะเดียวกันก็ทำให้เห็นแสงสีเขียวบ้าง
เหลืองอมเขียวบ้างจากเจ้าแมลงปีกแข็งกะพริบแข่งกันได้ชัดเจนขึ้น
เธอเก็บของใส่ตะกร้า ก่อนอมยิ้มให้ผลการทดลองที่เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมาเกินครึ่ง
มานิลาไม่ชอบอยู่กับคนเยอะ ๆ
เธอชอบแมลงและต้นไม้จึงเลือกเรียนกีฏวิทยา
วิชาที่ว่าด้วยสิ่งมีชีวิตหกขาซึ่งมีความหลากหลายมากที่สุดในโลก
ช่วงใกล้เรียนจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยในประเทศบ้านเกิดอย่างฟิลิปปินส์
เธอเริ่มหาทุนปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยในต่างประเทศ
เมื่อเจอทุนแบบได้เปล่าของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในกรุงเทพมหานครซึ่งมีสาขาที่รักจึงไม่ลังเลที่จะคว้าไว้
และอีกไม่กี่เดือนก็จะคว้าปริญญามหาบัณฑิตได้สำเร็จ
“โตไว ๆ นะเจ้าหิ่งห้อย”
ร่างผอมบางก้าวออกมาด้านนอก
เป็นจังหวะเดียวกับที่พลอยพิมพ์ออกจากห้องปฏิบัติการที่อยู่ติดกันพอดี
“มะลิจะกลับเลยหรือเปล่า
ออกไปพร้อมพี่เลยดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปส่ง”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่พลอย
วันนี้หนูมีงานค่ะ”
“ถ้าอย่างนั้นก็รีบไปเปลี่ยนชุดเลย
วันนี้งานที่ไหน โรงแรมหรือว่าร้านอาหาร”
“ร้านอาหารค่ะ”
“ทางเดียวกันไปด้วยกัน
ช่วยโลกร้อนนะมะลิ” เธอเรียนปริญญาเอกด้วยเงินบิดาจึงไม่ต้องดิ้นรนอะไรมากนัก
ต่างจากรุ่นน้องที่ได้ทุนมหาวิทยาลัยซึ่งต้องขยันเป็นพิเศษ และต้องรักษาผลการเรียนในแต่ละปีการศึกษาให้อยู่ในระดับที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนด
แม้ว่าทุนที่ได้จะมีเงินให้ในแต่ละเดือน รวมกับเงินเดือนผู้ช่วยนักวิจัย
และเงินจากการสอนพิเศษให้กับลูกสาวอาจารย์ตรีทิพย์จะทำให้คนซึ่งรู้จักการบริหารเงินอย่างมานิลาสามารถอยู่ได้โดยไม่ขัดสน
แต่รุ่นน้องของเธอก็ยังรับงานเล่นดนตรีเพิ่มอยู่ดี
“แต่ว่า...” ทางเดียวกันก็จริง ๆ
แต่ร้านอาหารที่เธอไปเล่นดนตรีไม่ได้อยู่ติดถนนใหญ่
และหากรุ่นพี่รับปากว่าจะไปส่งแล้ว พลอยพิมพ์ไม่มีทางส่งแค่ริมถนนใหญ่แน่นอน
“เถอะน่า พี่รอ รีบไปเปลี่ยนชุดไป”
พลอยพิมพ์โบกมือไล่แล้วผละไปเก็บของใส่กระเป๋า
มานิลารู้แล้วว่าถึงอย่างไรก็ขัดใจรุ่นพี่ไม่ได้จึงยอมไปเปลี่ยนชุดแต่โดยดี
ชั่วโมงต่อมาสาวร่างท้วมก็ขับรถญี่ปุ่นเข้ามาจอดหน้าร้านอาหารกลางสวนน่านั่ง
“ได้นอนวันละกี่ชั่วโมงเนี่ยมะลิ”
มือที่กำลังจะเปิดประตูลงจากรถต้องชะงัก
มานิลาหันมองหน้าคนถามและก็ตอบแบบไม่เต็มเสียงนัก
“ก็...เหมือนคนทั่วไปค่ะ”
“จริงหรือ แต่พี่ว่าไม่เหมือนนะ
ทั้งเรียน เข้าแล็บ ทำธีสิส อ่านเปเปอร์ เขียนความก้าวหน้าเปเปอร์ส่งมหา’ลัยทุกเดือน สอนพิเศษน้องบรีส ไหนจะงานเล่นดนตรีที่โรงแรมกับร้านอาหารอีก”
คนทำงานหนักรู้ดีว่ารุ่นพี่เป็นห่วงเรื่องสุขภาพ
แต่ที่เธอทำอะไรต่อมิอะไรหลายอย่างแบบนี้เพราะต้องการให้เวลาหมดไปจนไม่มีเหลือให้คิดฟุ้งซ่าน
“หนูทำได้ค่ะ มันไม่ได้หนักอะไรมากมาย”
“มะลิอย่าลืมสิ
ก่อนเรียนเอกพี่ผ่านโทมาก่อนนะ แค่ทำธีสิสอย่างเดียวหัวพี่ก็จะระเบิดอยู่แล้ว
พักเสียบ้าง พี่กลัวมะลิจะถูกความรู้ทับตาย
หรือไม่ก็เป็นลมเพราะต้องนั่งรถไปมาแบบนี้ แล้วกว่าจะเล่นดนตรีเสร็จก็ดึกดื่น”
“หนูไหวจริง ๆ ค่ะพี่พลอย
หนูเรียนในสิ่งที่รัก และหนูก็ชอบเล่นดนตรีด้วย” หญิงสาวยิ้มให้รุ่นพี่
“โอ๊ย ! พี่คงห้ามอะไรมะลิไม่ได้ใช่ไหมเนี่ย”
พลอยพิมพ์กุมศีรษะ นึกปวดหัวแทนรุ่นน้อง
เห็นทีที่เธอเตือนคราวนี้คงไม่ได้ผลอีกตามเคย
เพราะหากมานิลาคิดจะทำตามคำแนะนำสักนิดคงทำตามตั้งแต่ครั้งก่อน ๆ โน่นแล้ว “ถือว่าพี่ขอร้อง
หยุดรับงานเล่นดนตรีเถอะ มะลิเหนื่อยเกินไปแล้วนะ”
“ขอบคุณที่หวังดีกับหนูนะคะพี่พลอย”
เจอคำตอบแบบนี้พลอยพิมพ์ก็พอเดาได้ว่ามานิลาตัดสินใจอย่างไร
“จ้ะ !”
คนนั่งหลังพวงมาลัยเน้นเสียงหนัก “รู้ว่าพี่หวังดี แต่ก็ไม่เค้ยไม่เคย
ไม่เคยคิดจะรับความหวังดีของพี่ น่าน้อยใจไหมล่ะ”
มานิลาอมยิ้มกับท่าทางแสนงอนของรุ่นพี่สาว
ไม่ใช่แค่ธริษตรีที่ทำให้เธอผ่อนคลายลงได้ แต่พลอยพิมพ์ก็ทำให้เธอยิ้มได้เช่นกัน
“ไป ๆ
ใกล้ได้เวลาต้องขึ้นเวทีแล้วนี่ใช่ไหม รีบเถอะ เดี๋ยวเจ้าของร้านจะว่าเอา”
“ขอบคุณที่มาส่งค่ะพี่พลอย”
หญิงสาวยิ้มให้คนมาส่งไปอีกหนึ่งที ก่อนเปิดประตูรถและเดินออกมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลังใบเก่ง
ความคิดเห็น