ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักคุณ...อย่างเป็นทางการ Officially Loving You

    ลำดับตอนที่ #11 : 4 สุนัขลอบกัด 2/3

    • อัปเดตล่าสุด 21 มี.ค. 67


    เผือกคิดตามข้อสันนิษฐานของเจ้านาย จากครั้งก่อนๆ ที่เจอมา เทียบกับครั้งนี้แล้วไม่แปลกหากสภาพไร่ข้าวโพดวอดยับเยินเป็นฝีมือรัชตะ ฝ่ายนั้นเล่นงานภูตะวันแบบหลบในซอกบ้าง เปิดเผยบ้างมาเป็นปี แต่เจ้านายเขาแก้ปัญหาได้ทุกครั้ง รัชตะทำไปเพื่อก่อกวนให้นายซันหัวปั่นเล่น ทั้งหมดทั้งมวลล้วนมาจากถูกปฏิเสธการร่วมงานนับครั้งไม่ถ้วน นักธุรกิจค้าอาหารสัตว์ซึ่งพ่วงรวมไปถึงกิจการด้านมืดอีกมากมายคงไม่เป็นเดือดเป็นร้อนมากนักหากคุณการุณย์ไม่ใช่บุคคลที่คนทั้งจังหวัดหรืออาจทั้งภูมิภาครู้จัก เพราะเมื่อไร่กาญจ์การุณย์ไม่จับมือผูกสัมพันธ์ทางการค้า รวมทั้งยังขึ้นบัญชีดำร้านขายอาหารสัตว์ของรัชตะ ไร่ข้าวโพดและโรงงานแปรรูปอาหารสัตว์อื่นๆ ก็ไม่มีใครตกลงร่วมค้าขายด้วย

    แน่นอนว่าการตามก่อความวุ่นวายโดยรัชตะมีเพียงภูตะวันและเผือกเท่านั้นที่รู้ เนื่องจากทายาทคนกลางของการุณย์กาญจ์ไม่ต้องการให้ใครต้องเป็นกังวลหรือห่วงใย ชายหนุ่มแบกรับปัญหานี้ไว้กับตัวตลอดมาด้วยบ่าสองข้าง  คุณการุณย์ คุณกาญจนา และคนอื่นๆ ในครอบครัวไม่มีใครรู้ถึงแก่นลึก ทุกคนทราบเพียงว่าลายเซ็นภูตะวันไม่ได้ปรากฏในเอกสารสัญญาซื้อขายและร่วมลงทุนเท่านั้น

    “มันกัดกูไม่ปล่อย”

    “แต่ดันพลาดตรงมาเลือกแปลงนี้เล่นงานนายซัน” เผือกว่าไปตามสิ่งที่เห็น หากต้องการทำให้ไร่วุ่นวายจริงๆ เลือกเล่นงานในส่วนโรงงานหรือแปลงเก็บเกี่ยวผลิตผลไม่ดีกว่าหรือ

    “มันไม่ได้โง่ ตรงกันข้าม ไอ้รามมันฉลาดพอตัว”

    “ฉลาด ? หรือครับ”

    “มันไม่ได้ตั้งใจเผาไร่กูให้วอดทั้งไร่” เผือกยังไม่เข้าใจ เขาจึงอธิบายต่อ “เงินหนาอย่างมัน จะเผาทั้งโรงงานเลยก็ได้ แต่ที่มึงเห็นแค่นี้ ไอ้รามแค่ขู่ให้กูยอมเซ็นอะไรๆ ให้มันง่ายขึ้น”

    แปลงข้าวโพดแนวกันชนคือแปลงที่เป็นประโยชน์ในเรื่องการเขตกรรม แต่หากตีเป็นมูลค่าทางเม็ดเงิน พื้นที่ส่วนนี้ไม่ได้สร้างรายได้ใดๆ ให้ไร่ แถมยังอยู่ใกล้อ่างเก็บน้ำ โชคจึงเป็นของคนงานที่สูบน้ำขึ้นมาดับไฟได้ทัน นี่จึงเป็นเครื่องยืนยันให้เขามั่นใจว่ารัชตะเพียงแค่ขู่ นับว่าหมอนี่ฉลาดเป็นกรดซัลฟิวริก แต่ใช้ความฉลาดผิดที่ผิดทางอยู่มากโข

    วันนี้ไอ้รามจงใจเขียนเสือให้วัวกลัว แต่ขอโทษเถอะ วัวอย่างเขาไม่ได้ขี้ขลาด ต่อให้เสือตัวนั้นมาในรูปของพญาเสือโคร่งก็ตาม

    “เอายังไงต่อดีครับนายซัน”

    “กูจัดการได้” เครือข่ายของเขาไม่ใช่เล็กๆ มันเป็นเครือข่ายใหญ่เกินกว่าที่รัชตะคาดคิด เขาไม่ใช่พวกลอบกัด หากเอาคืนหรือสั่งสอนก็ทำกันซึ่งๆ หน้า ด้วยวิธีมือสะอาด ไม่เล่นสกปรกอย่างไอ้นั่น

     

     

    “ลูกหมูโตขึ้นจะเป็นสีฟ้านะคะ”

    ดวงตาหนูน้อยแป๋วแหวว เสียงแจ้วๆ ยามเล่าเรื่องฟังแล้วน่าตื่นเต้น ทว่าสัตวแพทย์สาวผู้ซึ่งคลุกคลีกับสัตว์มาแล้วหลากหลายชนิดรู้ดีว่าโลกนี้ไม่มีหมูสีฟ้าอย่างที่ลูกสาวรุ่นพี่ว่า หากก็อดเอ็นดูในความช่างพูดช่างเจรจาไม่ได้

    “หูววว จริงหรือคะ” ยุ้งทองไม่วายเออออตาม เด็กวัยนี้ช่างจินตนาการ และคงไม่ดีแน่หากเธอทำลายความคิดสร้างสรรค์นั้นด้วยการบอกว่าหมูสีฟ้าไม่มีจริง หรือถามกลับไปว่าเปรี้ยวหวานไปเอานิทานหลอกเด็กเรื่องนี้มาจากไหน

    “ใช่ค่ะ น้าซีบอกว่าถ้าเปรี้ยวหวานเป็นเด็กดี จะยกหมูสีฟ้าให้ตัวหนึ่งค่ะ”

    “เอ แล้วเปรี้ยวหวานเป็นเด็กดีไหมคะ”

    “เอ่อ...”

    คราวนี้เด็กหญิงปั้นดาวคิดหนัก ท่อนแขนกลมป้อมยกขึ้นกอดอก จ้องมองลูกหมูพันธุ์ลาร์จไวท์สิบกว่าตัวกำลังดูดนมแม่จ๊วบๆ

    “เมื่อวานเป็นเด็กดี แต่วันนี้เปรี้ยวหวานซนค่ะ ทำแก้วแตกด้วย”

    สาวน้อยแก้มกระติกเขี่ยหูหมูเกิดใหม่เล่น ยุ้งทองพินิจทั้งใบหน้าและกิริยาอาการก็อดหลงรักไม่ได้ ลูกสาวของรุ่นพี่ไม่ได้ซนถึงขนาดที่พูดจากันไม่รู้เรื่อง แต่เป็นการเล่นซนตามวัยมากกว่า ซึ่งเธอมองว่าเป็นเรื่องดี เปรี้ยวหวานดูท่าจะชอบงานไร่งานฟาร์ม เจ้าซาลาเปาเดินได้ย้ายร่างในชุดเอี๊ยมยีนคลุมทับเสื้อยืดแขนยาวสีชมพูกลีบบัวกับรองเท้าผ้าใบสีเดียวกันนั่งจุมปุกลงบนพื้นข้างคอกหมูโน้นทีนี้ที ทักทายแม่หมูลูกหมูทุกตัวอย่างไม่เลือกที่รักมักที่ชัง

    “กวนอะไรน้ายุ้งคะลูก”

    ยุ้งทองเอี้ยวตัวมองตามเสียงทุ้มซึ่งดังจากด้านหลัง ธรณ์ยืนกอดอกส่งยิ้มให้ ข้างๆ กันคือทรายรุ้ง หมอหมูประจำฟาร์มยิ้มตอบกลับอย่างเป็นกันเอง เธอเพิ่งเจอธรณ์เมื่อเย็นวาน ชายหนุ่มขอโทษขอโพยยกใหญ่ที่ไม่ได้มาเจอตั้งแต่วันแรกที่เธอมาที่นี่เนื่องจากงานที่โรงพยาบาลสัตว์ค่อนข้างพันตัว พี่ธรณ์ยังคงเป็นผู้ชายอบอุ่นไม่ต่างจากวันวาน อบอุ่นมากกว่าเดิมด้วยซ้ำเมื่อมีลูกสาวน่ารักน่าชังอย่างปั้นดาว

    “ไม่ได้กวนเลยค่ะ ดีเสียอีก ยุ้งจะได้มีเพื่อน”

    “พ่อขา เปรี้ยวหวานไม่ซนเลย” เปรี้ยวหวานวิ่งฉิวเกาะมือพ่อแล้วหมุนไปรอบๆ ตัว ตรงข้ามกับคำว่า ‘ไม่ซน’ ลิบลับ

    “ถ้าอย่างนั้นพ่อต้องให้รางวัลหน่อยแล้ว” ท่อนแขนแกร่งยกยอดดวงใจขึ้นอุ้ม หอมแก้มซ้ายแก้มขวานุ่มๆ หายเหนื่อยเป็นปลิดทิ้งยามได้กอดได้หอมลูก ยิ่งเป็นลูกสาวที่ขี้อ้อนด้วยแล้ว พ่อเช่นเขาหลงหัวปักหัวปำเลยทีเดียว


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×