คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : 2 พรากเพื่อเจอ 4/6
เมื่ออาการอึ้งๆ เริ่มจางหาย
มานิลาจึงยิ้มให้ผู้มาใหม่อย่างเป็นมิตร ทว่าเขากลับไม่ยิ้มตอบ
ซ้ำยังทำหน้ามึนตึงต่างกับวันที่เจอกันครั้งแรกลิบลับ
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวยกมือไหว้
“อืม” ธตรัฐตอบสั้น ๆ
และรับไหว้อย่างขอไปที รอยยิ้มที่เธอส่งมาให้คงเป็นแค่รอยยิ้มจากการปั้นแต่งเท่านั้น
“พี่บอมนั่งรอตรงโต๊ะตัวโน้นหรือจะเดินเล่นก่อนก็ได้นะ
พี่มะลิยังต้องสอนบรีสอีกนิด แม่ก็ยังไม่ลงมาเลย” ธริษตรีบอกพี่ชาย แต่สายตาจดจ้องกระดาษแบบฝึกหัด
“พี่เดินเล่นรอแล้วกัน
เสร็จแล้วก็โทรมา” ไม่ต้องตัดสินใจนานธตรัฐก็เลือกอย่างหลัง เพราะหากเลือกนั่งรอน้องสาวและได้นั่งมองผู้หญิงที่ชื่อ
‘มะลิ’ ไปด้วย
ความผิดหวังที่มีต่อเจ้าของชื่อคงทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
“เรามาติวกันต่อดีกว่าค่ะพี่มะลิ”
มานิลากับธริษตรีกำลังช่วยกันเก็บของรวมทั้งอุปกรณ์การเรียนการสอน
อาจารย์ตรีทิพย์ก็เดินจากชั้นสองของตึกภาควิชามายังด้านล่างพอดี
“เป็นไงมะลิ
ลูกสาวอาจารย์ดื้อหรือเปล่า”
“ไม่ดื้อค่ะ
น้องบรีสตั้งใจเรียนค่ะอาจารย์”
“เห็นไหมคะแม่ บรีสเป็นเด็กดี
ตั้งใจเรียนสุด ๆ พี่มะลิยังชมเลยว่าบรีสเป็นลูกศิษย์ที่น่ารัก”
“ยกยอตัวเองก็เป็นนะเรา”
อาจารย์ตรีทิพย์ส่ายหน้าน้อย ๆ “พี่บอมมาหรือยังลูก”
“มาแล้วค่ะ เดินเล่นอยู่แถว ๆ นี้แหละ
เดี๋ยวบรีสโทรตามเองค่ะ”
ธริษตรีหยิบโทรศัพท์เคลื่อนที่ออกจากกระเป๋าแล้วเดินออกไปคุยยังอีกมุม
“มะลิไปกินข้าวเย็นกับอาจารย์นะ
ห้ามตอบว่าไม่ว่าง”
“ค่ะ” หญิงสาวลอบหัวเราะ
แม่กับลูกไม่ต่างกันเลยแม้นิดเดียว “น้องบรีสชวนไว้แล้วเหมือนกันค่ะ”
“บรีสบอกว่าบอมมาแล้ว
แสดงว่าเจอกับมะลิแล้วสิ”
“ค่ะ เจอกันแล้ว”
ใจจริงเธออยากบอกท่านด้วยซ้ำว่าเคยเจอกันก่อนหน้านี้เสียอีก
สิบห้านาทีต่อมารถยนต์ของธตรัฐก็แล่นเข้ามาจอดบริเวณลานจอดรถร้านอาหารใกล้มหาวิทยาลัย
เมื่อเดินเข้ามาในร้านบริกรจึงนำลูกค้ากลุ่มใหม่มายังโต๊ะซึ่งจัดแจงไว้สำหรับสี่คน
อาจารย์ตรีทิพย์หยิบเมนูมาเปิดดู
สรุปว่ามื้อนี้คนที่ผูกขาดกับการสั่งอาหารคือท่านและลูกสาว
“บอมจะสั่งอะไรเพิ่มอีกไหม”
“ไม่ครับแม่” เขาตอบมารดา
แต่สายตากลับมองอีกคนที่นั่งก้มหน้าอยู่ข้าง ๆ ท่าน และเพราะคนอื่น ๆ
มัวแต่ก้มหน้ามองเมนู จึงไม่มีใครเห็นว่าเขากับมานิลาสบตากันอยู่แวบหนึ่ง
ก่อนหญิงสาวจะเป็นฝ่ายก้มหน้าหลบไปก่อน
อาหารมื้อนี้อาจารย์ตรีทิพย์และธริษตรีดูจะอิ่มอร่อยกับการกิน
ทั้งตักอาหารให้กันและคุยสัพเพเหระตามประสาแม่ลูก ต่างจากอีกสองคนที่รู้สึกว่าอาหารทุกอย่างฝืดคอไปหมด
มานิลาเริ่มกลัวสายตาที่มองเธออย่างกับโกรธเกลียดกันมานานแสนนาน
ส่วนธตรัฐก็มองหญิงสาวอย่างจับผิด
ดังนั้นเมื่อกินอาหารเสร็จ
ลูกศิษย์คนโปรดจึงบอกปัดอาจารย์ที่ตั้งใจจะให้ลูกชายไปส่งเธอที่อะพาร์ตเมนต์แบบบัวไม่ให้ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่น
“อะพาร์ตเมนต์หนูอยู่ถัดไปอีกสองซอยค่ะ
เดินนิดเดียวก็ถึง”
เช้าวันรุ่งขึ้นมานิลาเดินเหม่อลอยจูงจักรยานคันเก่ามาจอดด้านข้างห้องปฏิบัติการ
เมื่อเอาขาตั้งจักรยานลงเรียบร้อยหญิงสาวจึงเดินเลี้ยวมาทางด้านหน้า
มือก็ตวัดกระเป๋าสะพายมาเพื่อล้วงหากุญแจเปิดประตูไปด้วย
และด้วยความไม่ทันระวังจึงปะทะเข้ากับกำแพงมีชีวิตจนล้มลงไปนั่งแบ็บกับพื้นซีเมนต์จนได้
“อ๊ะ !” ความเจ็บแปลบเข้าเล่นงานอย่างจัง มือบางลูบป้อย ๆ ตรงหัวเข่าโดยอัตโนมัติ
และตอนนี้เองที่เธอเห็นว่ามีเลือดออกซิบ ๆ คงครูดกับพื้นแข็ง ๆ ตอนล้มลงมาแน่แล้ว
“โทษที ผมไม่ทันมอง”
ราวกับว่าชายหนุ่มพูดไปตามมารยาทมากกว่าจะรู้สึกผิดจริงจัง
มานิลาเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นสาเหตุที่ทำให้เธอต้องได้เลือด เขามองเธอตาไม่กะพริบ
และเป็นเธอที่เป็นฝ่ายหลบสายตาคู่นั้นก่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ
มันเป็นอุบัติเหตุ”
“แล้วที่โชว์ขาอ่อนให้ผมดู...อุบัติเหตุด้วยหรือเปล่า” ขาเนียน ๆ นี้คงถูกมือบรรดาผู้ชายลูบมานักต่อนัก เสี่ยอ้วนนั่นละคนหนึ่ง
คนฟังถึงกับสะอึก
เงยหน้าขึ้นมองเจ้าของคำพูดอย่างผิดหวัง
เขาเหมือนเป็นคนละคนกับที่เธอเคยช่วยไว้เมื่อวันก่อน ไม่เหมือนกันเลย
ความคิดเห็น