ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    คิดถึงคุณ...อย่างเป็นทางการ : Officially Missing You

    ลำดับตอนที่ #15 : 5 หมูสี่ตัว อยู่ในคอกเดียวกันไม่ได้ 2/3

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.44K
      4
      24 มี.ค. 67

    “น้ำในแก้วของปราบเจ้าซีเขาดื่มไปหมดเกลี้ยงแล้ว เดี๋ยวพี่ไปเอาแก้วใหม่มารินให้ดีกว่าจ้ะ”

    เดี๋ยวๆ น้ำที่เธอดื่มเมื่อกี้ของพี่ปราบอย่างนั้นหรือ แล้วยังไงล่ะ เขาซดแก้วนี้ เธอก็ซดแก้วนี้ แล้วไม่เท่ากับว่า เอ่อ จูบกันทางอ้อมหรอกหรือ

    ทะเลจันทร์คิดวิเคราะห์ไปเรื่อย แต่ยังขาดการแยกแยะ และคงลืมไปว่าสมัยก่อนที่ยังใช้ชีวิตอยู่ในมหาวิทยาลัย น้ำแก้วเดียวก็ดื่มเวียนกันทั้งชมรมโดยไม่กลัวว่าใครคนใดคนหนึ่งจะเป็นไวรัสตับอักเสบเสียด้วยซ้ำ ทว่าความรู้สึกที่มีต่อปราบศึกซึ่งชัดเจนขึ้นทุกวันทำให้หญิงสาวคิดเล็กคิดน้อยไปเสียหมด

    “ไม่เป็นไรครับพี่แซน อย่าลำบากเลย รินใส่แก้วเดิมดีกว่าครับ ผมกินแก้วเดียวกับซีได้ ใช่ไหมซี”

    เขาคิดเองเออเองไปจนครบถ้วนกระบวนความแล้วเธอจะปฏิเสธอะไรได้อีก ทะเลจันทร์ได้แต่ตัดพ้ออยู่ภายใน อารมณ์ไม่จัดว่าเดือดหากก็เข้าขั้นอุ่น ไม่กล้าแสดงออกแม้แต่น้อยเพราะถ้าทำเช่นนั้นอาจเสี่ยงต่อการถูกพี่สาวดุหรือไม่ก็โดนหยิกสักทีสองที สำหรับเธอ ทรายรุ้งคือตัวแทนของแม่ ถึงระดับความเจ้าระเบียบและการบ่นจะน้อยกว่า แต่ความฝันอันสูงสุดที่หวังไว้กับเธอคือต้องการให้น้องสาวคนเดียวมีความเป็นผู้หญิงในตัวบ้าง

    เจ้าพลูโตก็เป็นไปด้วย เมื่อเช้าไม่มาวิ่งเล่นในคอกหมู ทะเลจันทร์ก็คิดว่าจะเล่นกับคนงานอยู่ที่ไร่แก้วมังกร แต่ดูจากลักษณะและคนที่หมูแคระติดแจก็พอจะคาดคะเนได้ว่าปราบศึกได้ผู้ช่วย (ป่วน) ในการทำวิจัยแล้ว ขนาดเข้ามาในออฟฟิศ หมูที่หญิงสาวอยากเรียกว่าข้าสองเจ้าบ่าวสองนายยังกล้านอนผึ่งพุงซุกหัวกับตักเจ้านายใหม่

    งั้นก็ได้จ้ะ ตามสบายเลยนะปราบ เก็บตัวอย่างมาเหนื่อยๆ พี่ว่าพักให้เหงื่อแห้งก่อนดีกว่าทรายรุ้งยิ้มให้ ก่อนความสนใจทั้งหมดจะทุ่มให้กับลูกสาวในวินาทีถัดมา เอ หมูของเปรี้ยวหวานทำไมเป็นสีฟ้าล่ะคะ

    เปรี้ยวหวานอยากเลี้ยงหมูสีฟ้าค่ะ น้าซีบอกว่าจะหามาให้ แต่ให้เปรี้ยวหวานโตก่อน”

    คุณแม่หน้าหวานคลี่ยิ้มกับคำตอบที่ได้รับ จากนั้นจึงเปลี่ยนโหมดเป็นดุ มองน้องสาวตาขุ่น

    “หลอกอะไรหลานอีกฮึซี”

    “เดี๋ยวพอโตขึ้น เปรี้ยวหวานก็รู้เองแหละว่าโลกนี้ไม่มีหมูสีฟ้า แต่ถ้าอยากได้จริงๆ ซีจะเอาพลูโตไปจุ่มลงถังสีให้”

    “จริงๆ เลยนะเรา” เป็นห่วงก็แต่ปราบศึกที่ต้องทำงานกับยายขี้ตู่มากกว่าใคร “ห้าเดือนที่อยู่ที่ฟาร์มปราบอาจจะปวดหัวสักหน่อยนะจ๊ะ”

    “ครับ” ชายหนุ่มรับคำสั้นๆ อดลอบมองตัวปัญหาที่ทรายรุ้งอ้างถึงไม่ได้

    “ไปดูแม่หมูดีกว่า” ร่างเล็กลุกขึ้นยืนโดยไม่ลืมเขี่ยพลูโตให้ลุกตาม เจ้าหมูอ้วนผุดลุกขึ้นฉับเมื่อรู้ว่าจะได้ตามเจ้านายสำรวจคอกหมู

    “เพิ่งมาได้ไม่นาน จะออกไปแล้วหรือ” น้ำเสียงเป็นห่วงเอ่ยถาม เธอคิดว่าทะเลจันทร์ทำงานเกินคุ้มเงินเดือนที่พ่อตั้งไว้เป็นบรรทัดฐานด้วยซ้ำไป หากเจ้าตัวก็ไม่เคยงอแงขอขึ้นเงินเดือนหรือขอโบนัสปลายปี

    “ไว้ซีจะกลับมากินข้าวเที่ยงด้วย แม่หมูใกล้คลอดตั้งหลายตัวแน่ะ ยังกลัวอยู่เลยว่าจะออกลูกวันเดียวกันจนช่วยทำคลอดไม่ทัน”

    “งั้นพี่จะรอกินข้าว ปราบกินด้วยกันนะ”

    “ครับ” ยามอยู่กับครอบครัวทะเลจันทร์ ปราบศึกชอบเป็นฝ่ายรับฟังมากกว่า คอยฟังและแอบเก็บข้อมูลของหญิงสาวก็สนุกดีเหมือนกัน

    “แม่ขา เปรี้ยวหวานไปกับน้าซีด้วยได้ไหมคะ ไปจวดงานค่ะ”

    “อย่าซนนะลูก”

    “ไม่ซนค่า” ไม่ทันจะรับคำเสร็จ สาวน้อยก็กระโดดดึ๋งไปจับมือน้าสาวเพราะกลัวว่ามารดาจะเปลี่ยนใจ

    คนที่จะพาหนูปั้นดาวไป จวดงาน โยกคันเปิดประตูไปได้ครึ่งหนึ่งก็ต้องเบี่ยงหน้ากลับมายังกลางห้อง คิดไปคิดมาเธอก็เป็นเจ้าบ้านที่ไม่ดีสักเท่าไรนักที่เอาแต่หลบหน้าปราบศึก แต่ในเมื่อหลบอย่างไรก็ไม่มีทางหลบพ้น ถ้าอย่างนั้นเผชิญหน้ากันไปเลยนี่แหละ

    “พี่ปราบไปด้วยกันไหม”

     

     

    ร่างกลมป๊อกนั่งยองลงใกล้คอกซึ่งมีหมูแม่พันธุ์นอนตะแคงข้างหลับตาพริ้มสบายใจเฉิบ มือป้อมๆ เคลื่อนไปลูบหัวแม่หมูเบาๆ ผ่านทางซี่เหล็ก ทะเลจันทร์นั่งลงข้างๆ บ้าง มองหลานคนเดียวที่ตนช่วยพี่สาวอุ้มชูมากับมือด้วยความรักเต็มเปี่ยม เปรี้ยวหวานเป็นเด็กที่ไม่กลัวอะไรสักอย่าง ชอบลอง ชอบเรียนรู้ไปเสียหมด ซึ่งบางครั้งเธอก็อยากให้หลานหัดกลัวอะไรเสียบ้าง

    “แม่หมูตัวนี้ใจดี เขาเลยให้เปรี้ยวหวานลูบหัวได้ แต่แม่หมูไม่ได้ใจดีทุกตัว” ใบหน้าแสบเล็กปรากฏเครื่องหมายปรัศนี แสบใหญ่จึงอธิบายต่อ “เปรี้ยวหวานต้องระวังบ้างนะคะ หมูบางตัวอาจจะดุ”

    “ค่ะ เปรี้ยวหวานระวัง” สาวน้อยพยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะรีบหดมือเข้ามากอดอก

    “ดีมากค่ะ”

    “น้าปราบมาดูแม่หมูของน้าซีสิคะ” หนูน้อยขยับตัวชิดน้าสาวให้เหลือที่ว่างพอที่อีกคนจะนั่งลงได้ แล้วกวักมือเรียกให้ปราบศึกนั่งลงข้างๆ “ที่บ้านน้าปราบมีหมูไหมคะ บ้านเปรี้ยวหวานมีหมูเยอะเลย”

    “ไม่มีครับ สงสัยน้าต้องขอเล่นหมูของเปรี้ยวหวานบ้างแล้ว”

    “แล้ว...”

    คำถามมากมายพรั่งพรูจากปากจิ้มลิ้ม สองน้าหลานต่างสายเลือดถามตอบกันไปกันมาดูน่ารักดีในสายตาทะเลจันทร์ จากเรื่องหมูๆ ก็พากันลากยาวไปถึงเรื่องการ์ตูนบ้าง เรื่องวาดภาพระบายสีบ้าง ปั้นดาวคือเจ้าหนูจำไม ส่วนปราบศึกก็ไม่เบื่อที่จะให้คำตอบ ทว่าคนที่ยิ้มกว้างที่สุดกลับไม่ใช่ทะเลจันทร์ แต่เป็นพะยอมที่แอบหลบอยู่หลังเสาตั้งแต่เมื่อไรแล้วก็ไม่รู้ ยืนบิดไปปิดมาด้วยขวยเขินเมื่อเห็นหนุ่มที่ตนพิจารณาแล้วว่าหล่อระดับพระเอกในระยะใกล้

    “มองแบบนั้น เดินมามองใกล้ๆ ก็ได้มั้งพะยอม”

    นายซีของพะยอมขำมากกว่าจะกันท่า ส่วนหนุ่มที่ถูกแอบมองก็ส่งยิ้มเป็นมิตรให้พะยอม เล่นเอาเจ้าตัวเขินหนักเท่าทวี

    “นายซีก็ เดี๋ยวคุณปราบสุดหล่อก็กลัวพะยอมกันพอดีสิคะ” เขินก็ส่วนเขิน แต่สาวที่มีแต่นอก ไม่มีในก็ไม่คิดหมกเม็ดความคิด “ไม่เอาแล้ว พะยอมไปดูลูกหมูเกิดใหม่ดีกว่า นายน้อยไปดูลูกหมูกับพี่พะยอมไหมคะ”

    “ไปค่ะ” เด็กหญิงปั้นดาวตาวาว รีบตกลงอย่างไม่มีอิดออดเพราะรู้ว่าการไปดูลูกหมูกับพี่พะยอมเธอจะได้อุ้มลูกหมูด้วย

    ทะเลจันทร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่นปะไร ! ทั้งหลาน ทั้งลูกน้องทิ้งเธอไปหมด พลูโตด้วยอีกตัว พี่ปราบก็มองหน้าเธออยู่นั่นแหละ

    “มองอะไรนักหนาฮึพี่ปราบ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×