คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : 2 เด็ดดอกหญ้า สะเทือนถึงดวงดาว 2/3
“มาฮั่นนงฮั่นแน่อะไรของเราฮึ”
“พูดแบบนี้ อยากมีโมเมนต์นั้นอีกละซี่”
“โมเมนต์ไหนกัน”
“เอ้า ก็โมเมนต์ให้นมลูกไงล่ะ” ชักอยากจะมีหลานเพิ่มอีกคนแล้ว เอาให้เต็มบ้านเต็มฟาร์มไปเลย เด็กวิ่งเล่นเยอะๆ ครื้นเครงดีออก
“เปรี้ยวหวานโตขนาดนี้ พี่ไม่มีนมให้ลูกดูดแล้ว”
“ก็ใครว่าให้เปรี้ยวหวานดูดล่ะ ซีหมายถึงให้พี่แซนท้องอีกสักคนต่างหาก พี่ธรณ์ไม่เกริ่นๆ เรื่องมีน้องให้เปรี้ยวหวานบ้างหรือ ถามจริง”
“ไม่เห็นพูดอะไร” ไม่มีความเป็นไปได้เลยที่ธรณ์จะเกริ่นเรื่องนี้ขึ้นมา หรือต่อให้อยากมีจริงๆ ก็เป็นไปไม่ได้เพราะเขากับเธอแยกกันอยู่มาสักพักแล้ว
“อืม สงสัยรอให้เปรี้ยวหวานเข้าโรงเรียนก่อนละมั้ง” ทะเลจันทร์คาดคะเน
“ซีว่าลูกของซันจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย” ทรายรุ้งพาออกเรื่องอื่นเสีย พูดถึงธรณ์ทีไรพานให้คิดถึงคำพูดและกิริยาเฉยชาทุกครั้งไป “ยุ้งดูมีน้ำมีนวล ดูสวยขึ้น พี่อาจจะได้หลานสาว”
“นั่นสิเนอะ พี่แซนก็สวยขึ้นตอนท้องเปรี้ยวหวาน พี่ซันนะพี่ซัน เป็นคนชอบเรื่องเซอร์ไพรส์ตั้งแต่เมื่อไรก็ไม่รู้ พี่ยุ้งท้องโตจนดูเพศลูกได้แล้วก็ไม่ยอมดู”
“น่าลุ้นดีออกนะ” ภูตะวันบอกไว้แต่แรกแล้วว่าต้องการลุ้นเพศลูกในวันคลอด ดังนั้นเวลาซื้อของให้หลาน ทุกคนในครอบครัวรวมถึงเธอจึงต้องเลือกสีที่เป็นกลาง อย่างสีเขียว สีส้ม หรือไม่ก็สีเหลือง
“แต่ว่าก็ว่าเถอะ ทั้งพี่แซนทั้งพี่ยุ้ง ตอนท้องน่ะสวยทั้งคู่ หุ่นก็ดี๊ดี ป่องแค่ท้อง แต่ทำไมตอนซีท้องไข่ตุ๋นไม่เห็นจะสวยสะพรั่งเลย นี่น้ำหนักก็ยังเหลืออีกตั้งเกือบสิบโล” หญิงสาวพูดพลางจับพุงตัวเองที่กลมขึ้นจากเดิม น้ำหนักตอนท้องไปถึงลูกไม่เท่าไร แต่ค้างอยู่ที่เธออีกมากมาย ถึงสามีบอกว่าอวบแบบนี้กำลังดีเพราะกอดอุ่น ถนัดไม้ถนัดมือ แต่เธอลำบากตอนใส่เสื้อผ้านี่สิ กางเกงตัวที่เคยใส่ก็ใส่ไม่ได้อีกเลย
“อืออออ”
หนอนน้อยดุ๊กดิ๊กเปลี่ยนท่านอนใต้ผ้าห่ม สองขาสองแขนกางออกแกว่งไปมากับเบาะนอนราวกับกำลังทำสโนว์แองเจิลกลางกองหิมะขาวโพลน เสียงอืออาดังอยู่อีกพักหนึ่งเจ้าตัวจึงค่อยๆ ลุกขึ้นนั่ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง คราบน้ำลายติดขอบปาก แต่ดูน่ารักในสายตาคนเป็นแม่
“แม่ขา”
“ตื่นแล้วหรือคะ” ทรายรุ้งถามเมื่อเปรี้ยวหวานปีนขึ้นมานั่งบนตัก สองแขนเล็กโอบกอดเธอไว้ ส่วนแก้มนิ่มๆ ซบลงบนอก ดูเหมือนยังง่วงงุนอยู่นิดๆ สาวน้อยหาวหวอดๆ แต่ท่าทางไม่อยากนอนต่อ
“เปรี้ยวหวานหิวค่ะ”
“แสบจริงๆ เลย ตื่นเพราะหิวหรอกหรือ”
ทะเลจันทร์ช่วยจัดผมเผ้าให้หลานสาว ยายตัวเล็กยิ้มให้เธอหน่อยหนึ่ง คงเขินที่ท้องเริ่มร้องโครกครากเป็นหลักฐานมัดตัวว่าตื่นขึ้นมาเพราะหิวจริงๆ
“ฝากดูน้องด้วยนะคะ เดี๋ยวน้าซีไปหาอะไรมาให้กิน พี่แซนกินพร้อมเปรี้ยวหวานเลยนะ”
“อืม พร้อมกันเลยก็ได้”
ทะเลจันทร์เดินหายเข้าไปในครัว เสียงก๊องๆ แก๊งๆ คล้ายหยิบจานชามดังขึ้นหลังจากนั้น ทว่าไม่มีเสียงจานแตกอย่างเมื่อก่อน โรคซุ่มซ่ามทำข้าวของพังหายเป็นปลิดทิ้งนับตั้งแต่หญิงสาวแต่งงานกับปราบศึก ทรายรุ้งอดขันไม่ได้เมื่อนึกถึงเรื่องในอดีต แม่ของพวกเธอค่อนข้างเป็นห่วงลูกคนเล็กเรื่องนี้จนเก็บไปเล่าให้หลวงพ่อที่วัดฟัง ท่านขอวันเดือนปีเกิดของทะเลจันทร์ ขีดๆ เขียนๆ อยู่พักหนึ่งก็บอกแม่กับเธอว่าไม่ต้องกังวล โรคนี้หายเองถ้าแต่งงาน และก็เป็นจริงตามนั้น
“ไข่ตุ๋นยังไม่ตื่นหรือคะ” ดวงตาแป๋วแหววมองน้องนิ่ง
“ยังค่ะ น้องนอนเยอะกว่าเปรี้ยวหวานเพราะน้องยังเล็ก”
“ตอนเปรี้ยวหวานตัวเล็กๆ เท่าไข่ตุ๋น เปรี้ยวหวานนอนเยอะไหมคะ”
“เยอะค่ะ”
“กินนมเยอะด้วยไหมคะ”
“เยอะค่ะ กินนมเยอะ กินข้าวก็เยอะ ถึงได้อ้วนแบบนี้ไง” นิ้วชี้ข้างซ้ายจิ้มไปที่พุงกะทิ นั่นทำให้คุณแม่ลูกหนึ่งชะงักเล็กน้อยเมื่อก้มมองพุงลูกสาวแต่สายตาปะทะเข้ากับแหวนเงินเกลี้ยงวงกระจุ๋มกระจิ๋มบนนิ้วนางของตน
แหวนที่ธรณ์สวมให้ในวันแต่งงานเป็นแหวนเพชรน้ำงาม แม้ไม่กี่กะรัตแต่มีความหมายมากมายเพราะเป็นแหวนที่ตกทอดกันมาตั้งแต่คุณปู่ใช้หมั้นคุณย่า ก่อนจะตกมาเป็นของคุณแม่ชายหนุ่มในวันแต่งงาน และปัจจุบันคนที่ครอบครองแหวนวงนั้นคือเธอ แต่ด้วยคุณค่าของแหวนทำให้ไม่กล้าสวมในชีวิตประจำวัน กลัวหายบ้าง กลัวบิ่นบ้าง ธรณ์จึงหาแหวนเงินเกลี้ยงวงที่สวมอยู่นี้มาให้ใส่เล่นแทน โดยที่นิ้วนางของเขาก็สวมแหวนแบบเดียวกันแต่วงใหญ่กว่าตามขนาดนิ้วที่แตกต่างกัน
“เปรี้ยวหวานไม่ได้อ้วนค่ะ แค่สัดส่วนอันพึงมีของคนน่ารัก”
การมีลูกสาวช่างพูดช่างจาทำให้ทรายรุ้งตกอยู่ในภวังค์ความคิดได้ไม่นานนัก
“หืม ใครบอกคะ” กลีบปากสีชมพูหวานบรรจงจูบบนกระหม่อมลูก ไม่เชื่อแน่ๆ ว่าเปรี้ยวหวานคิดประโยคพวกนี้เอง
“น้าซันบอกค่ะ น้าซันบอกว่าเปรี้ยวหวานไม่ต้องผอม แบบนี้น้าซันก็รัก”
“ค่ะ สัดส่วนอันพึงมีของคนน่ารัก” ภูตะวันสอนหลานแต่ละอย่างดีๆ ทั้งนั้น เธอหรืออุตส่าห์คุมน้ำหนักให้ลูกสาว งดพวกของกินจุกจิกระหว่างมื้อ แต่ไม่รู้ตอนอยู่กันสองคนน้าหลาน น้องชายเธอแอบตามใจเปรี้ยวหวานหรือเปล่า
“แม่แซนขา”
ความคิดเห็น