ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักคุณ...อย่างเป็นทางการ Officially Loving You

    ลำดับตอนที่ #4 : 1 วางมวยนอกสังเวียน 3/3

    • อัปเดตล่าสุด 12 มี.ค. 67




    ความมืดมิดเข้าครอบคลุมทั่วฟาร์มการุณย์กาญจ์ เวลาเกือบสองทุ่มในคืนเดือนแรมคืออุปสรรคของทัศนวิสัย หากแต่แสงไฟจากรถกระบะซึ่งมีภูตะวันเป็นคนขับทำให้พอมองเห็นเส้นทางเบื้องหน้าอยู่บ้าง เกือบเรียกได้ว่าเงียบสงัด มีเพียงแมลงกลางคืนส่งเสียงประชันกันเป็นท่วงทำนองน่าฟัง และเสียงเครื่องยนต์หลายแรงม้าดังเบาๆ เท่านั้น

    ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองบรรยากาศฟาร์มยามค่ำคืนผ่านทางหน้าต่างรถยนต์ซึ่งลดกระจกลงจนสุดรับลมเย็นๆ ให้พัดเข้ามา แม้เห็นอะไรไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็เจริญตาเจริญใจมากกว่ามองคนที่กำลังขับรถอยู่เป็นไหนๆ

    “เงียบเป็นเป่าสาก น่ากลัวว่าลืมปากไว้ที่บ้านใหญ่”

    หญิงสาวหันขวับ พ่นลมหายใจออกจากปากหนึ่งครั้ง ก่อนจะกอดอกแล้วถามย้อนกลับไปบ้าง

    “พูดจาเหมือนคนปกติไม่เป็นหรือ”

    รถยนต์ถูกบังคับให้เคลื่อนด้วยอัตราเร็วคงที่ ฝั่งซ้ายคือคอกหมู มีแม่พันธุ์ในนั้นกว่าร้อยตัว ไร่แก้วมังกรหลายสิบไร่อยู่ทางขวามือ ติดกันนั้นคือบ้านตุ๊กตาซึ่งในอดีตเคยเป็นเรือนหอของพ่อแม่เขา ก่อนจะตกทอดมาถึงทะเลจันทร์ และกลายเป็นเรือนหอระหว่างน้องสาวกับปราบศึกเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ไฟในตัวบ้านเปิดอยู่บ่งบอกว่าคนด้านในยังไม่หลับ ภูตะวันมองบ้านหลังกะทัดรัดนิดหนึ่งแล้วสนใจทางข้างหน้าต่อ

    “ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้” หนุ่มชาวไร่บอกด้วยโทนเสียงกวนๆ เขากับยุ้งทองไม่เคยคุยกันดีๆ ได้นาน หากถามว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร คงเป็นสมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ห้า วันนั้น...วันที่เขาไม่มีวันลืม และถึงตอนนี้ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงยังชอบหาเรื่องหญิงสาวอยู่เรื่อย รู้เพียงว่าตนชอบฟังเสียงแว้ดๆ ยามเธอเถียง มากกว่าจะทนมองเธอนิ่งเป็นรูปปั้นที่แม้แต่ปากก็ขยับไม่ได้

    ภายในรถเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งเมื่อยุ้งทองเป็นฝ่ายเปิดประเด็นด้วยใบหน้ายิ้มๆ อย่างเป็นต่อ

    “เป็นห่วงฉันละสิถึงได้ขับรถมาส่ง”

    “หืม ?”

    “อ๊ะ ผู้หญิงเพอร์เฟกต์อย่างฉันใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้กันทั้งนั้น” ใบหน้าสวยเฉี่ยวสะบัดแต่พองาม

    “เอาความมั่นใจมาจากไหน” พวงมาลัยถูกบังคับให้เลี้ยวเข้าโค้ง อีกไม่กี่ร้อยเมตรจะถึงบ้านพักรับรอง ภูตะวันลดความเร็วในการขับลงอีกครึ่งหนึ่ง

    ...อยากต่อปากต่อคำกับหมอหมูเพิ่มก็เท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆ

    “ก็มันจริงไหมล่ะ”

    “อย่าเข้าใจผิด ฉันมาส่งเธอเพราะแม่ขอให้มาส่ง ทำเพื่อแม่ ไม่ได้ทำเพื่อเธอ”

    ยุ้งทองอมลมจนแก้มป่อง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเธอกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจทุกครั้งที่ถูกภูตะวันขัดใจ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น

    หึ ! คุณแม่กาญจนาให้มาส่งอย่างนั้นหรือ ถ้าเมื่อเย็นเธอขับรถไปบ้านใหญ่ก็ไม่มีทางขอร้องให้เขามาส่งหรอก ติดอยู่ที่บรรยากาศดีๆ ในยามเย็นทำให้เดินเล่นเพลินไปหน่อย จู่ๆ ก็ไปโผล่หน้าบ้านใหญ่ เจ้าของบ้านชวนกินข้าวด้วย จะปฏิเสธก็เป็นการเสียมารยาทอย่างใหญ่หลวง กินเสร็จคุยกันติดลมจนท้องฟ้ามืดค่ำ...ก็เท่านั้น ไม่ได้อยากจะยื้อเวลาให้ใครมาส่งสักหน่อย

    “ไม่เต็มใจก็ไม่เห็นต้องฝืน”

    “กลัวเธอจะหลงทางกลับบ้านพักไม่ถูกหรอกฉันถึงได้รับปากแม่ เกิดเดินเซ่อซ่าตกหลุมตกบ่อจะเดือดร้อนน้องสาวฉัน”

    “ฉันไม่ได้เซ่อซ่า”

    “ใครจะไปรู้”

    “ถ้าฉันเซ่อซ่าแล้วตกบ่อตาย ฉันจะเป็นผีมาหักคอนายคนแรกเลยนายโย่ง” เอาซี่ ถ้าตานี่คิดว่าเธอจะเก็บปากเก็บคำ หงิมๆ ติ๋มๆ เช่นยามอยู่ต่อหน้าคุณการุณย์กับคุณกาญจนาแล้วละก็ถือว่าคิดผิด

    “น่ากลัวจริงๆ เลย” ภูตะวันเบะปากล้อเลียน ใจแอบขำอยู่ภายใน แบบนี้สิถึงจะเป็นยายตัวยุ่งตัวจริง

    “นาย !

    “เอ้าๆ จะด่าอะไรก็ด่ามา”

    “ฉะ...” ทำไมแกเป็นแบบนี้ฮึยุ้ง ตานั่นหันมองตาแวบเดียวทำไมต้องหายใจไม่ทั่วท้องด้วย

    “ติดอ่างหรือครับคุณหมอหมู”

    ปึ๊ก !

    หมัดหนักๆ ทุบลงบนไหล่ซ้าย ทำร้ายเขาด้วยคำพูดไม่ได้ ยุ้งทองจึงเปลี่ยนมาเป็นใช้กำลังแทน

    “โอ๊ย ! ทุบลงมาได้ ขับรถอยู่นะเว้ย !

    “อย่ามาเว้ยนะ”

    “ฉันมันคนห่าม พูดจาสวยหรูไม่เป็น”

    “เพราะห่ามแบบนี้ไงถึงไม่มีผู้หญิงที่ไหนเขาสนใจ ฉันก็ไม่อยากจะร่วมทางด้วยนักหรอก”

    เบรกถูกเหยียบกะทันหัน เสียงหวานแหลมกรีดร้องลั่นรถด้วยความตกใจ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหน้าผากเธอกระแทกกับคอนโซลรถยนต์ไปแล้ว

    “ทำบ้าอะไรของนาย !”

    “เชิญ” ภูตะวันบอกเสียงเรียบยิ่งกว่ารีดด้วยเตารีด ไม่แม้แต่มองหน้าอีกฝ่าย คำพูดของเธอกระแทกใจเขาเข้าอย่างจัง ใช่ ! ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบผู้ชายห่ามๆ ร้อยทั้งร้อยชอบประเภทปากหวานเอาใจเก่งกันทั้งนั้น หนึ่งในนั้นก็ผู้หญิงข้างๆ เขานี่ละ

    “เชิญ ? เชิญอะไร”

    “ไม่อยากร่วมทาง ถ้าอย่างนั้นเชิญ จากตรงนี้ไปบ้านพักไม่ไกลเท่าไร เดินไม่กี่นาทีก็ถึง”

    สัตวแพทย์สาวกำหมัดแน่น กลีบปากบางเม้มกันจนน่ากลัวว่าจะช้ำ ยุ้งทองไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอสนองความต้องการเจ้าของรถด้วยการเปิดประตูแล้วก้าวขาออกมา ก่อนปิดประตูกระแทกเสียงดังลั่น

    ภูตะวันหมุนรถกลับจนล้อบดถนนดินดำเกิดฝุ่นตลบ ทะยานกระบะคันโตมุ่งตรงยังทิศทางสู่บ้านใหญ่ เจ้าของร่างบางซึ่งถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางความมืดได้แต่หวังว่าเขาแค่ล้อเล่น อีกประเดี๋ยวก็ต้องวกรถกลับมารับเธอไปส่งที่บ้านพักรับรอง แต่ความหวังนั้นริบหรี่จนไม่เหลือเสี้ยวเล็กๆ ให้เป็นปาฏิหาริย์เมื่อยืนรออยู่กว่าสิบนาทีก็ไม่มีวี่แววว่ารถคันใดจะวนกลับมารับ

    “นายซัน...นายเลือกให้เป็นแบบนี้เองนะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”

    สุดท้ายแล้วยุ้งทองจึงต้องลากขาหนักๆ ที่เกิดจากความรู้สึกหลากหลายเดินตัดแนวต้นแก้วมังกรกลับบ้านพักเพียงลำพัง ไฟหลายดวงซึ่งสาดส่องแปลงเจ้าผลไม้ลูกสีบานเย็นพอจะให้ความสว่างได้บ้าง ทว่าสำหรับคนที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่วันแรกนั้นประหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อย ทะเลจันทร์บอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัว คนงานทุกคนไว้ใจได้ แต่กับสัตว์เลื้อยคลานพิษร้ายแรงที่เธอกลัวเท่าชีวิตเล่า จะมีโผล่มากลางทางหรือเปล่า ระยะทางจากจุดถูกปล่อยถึงบ้านพักไม่ไกลนัก แต่กลับรู้สึกว่าช่างไกลเหลือเกิน

    ห่างไกล...พอๆ กับความสัมพันธ์ของเธอกับนายโย่งนั่นละ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×