คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 1 วางมวยนอกสังเวียน 3/3
ความมืดมิดเข้าครอบคลุมทั่วฟาร์มการุณย์กาญจ์ เวลาเกือบสองทุ่มในคืนเดือนแรมคืออุปสรรคของทัศนวิสัย หากแต่แสงไฟจากรถกระบะซึ่งมีภูตะวันเป็นคนขับทำให้พอมองเห็นเส้นทางเบื้องหน้าอยู่บ้าง เกือบเรียกได้ว่าเงียบสงัด มีเพียงแมลงกลางคืนส่งเสียงประชันกันเป็นท่วงทำนองน่าฟัง และเสียงเครื่องยนต์หลายแรงม้าดังเบาๆ เท่านั้น
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มทอดมองบรรยากาศฟาร์มยามค่ำคืนผ่านทางหน้าต่างรถยนต์ซึ่งลดกระจกลงจนสุดรับลมเย็นๆ ให้พัดเข้ามา แม้เห็นอะไรไม่มากนัก แต่อย่างน้อยก็เจริญตาเจริญใจมากกว่ามองคนที่กำลังขับรถอยู่เป็นไหนๆ
“เงียบเป็นเป่าสาก น่ากลัวว่าลืมปากไว้ที่บ้านใหญ่”
หญิงสาวหันขวับ พ่นลมหายใจออกจากปากหนึ่งครั้ง ก่อนจะกอดอกแล้วถามย้อนกลับไปบ้าง
“พูดจาเหมือนคนปกติไม่เป็นหรือ”
รถยนต์ถูกบังคับให้เคลื่อนด้วยอัตราเร็วคงที่ ฝั่งซ้ายคือคอกหมู มีแม่พันธุ์ในนั้นกว่าร้อยตัว ไร่แก้วมังกรหลายสิบไร่อยู่ทางขวามือ ติดกันนั้นคือบ้านตุ๊กตาซึ่งในอดีตเคยเป็นเรือนหอของพ่อแม่เขา ก่อนจะตกทอดมาถึงทะเลจันทร์ และกลายเป็นเรือนหอระหว่างน้องสาวกับปราบศึกเมื่อครึ่งปีที่ผ่านมา ไฟในตัวบ้านเปิดอยู่บ่งบอกว่าคนด้านในยังไม่หลับ ภูตะวันมองบ้านหลังกะทัดรัดนิดหนึ่งแล้วสนใจทางข้างหน้าต่อ
“ฉันก็เป็นของฉันแบบนี้” หนุ่มชาวไร่บอกด้วยโทนเสียงกวนๆ เขากับยุ้งทองไม่เคยคุยกันดีๆ ได้นาน หากถามว่าเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไร คงเป็นสมัยเรียนมัธยมศึกษาปีที่ห้า วันนั้น...วันที่เขาไม่มีวันลืม และถึงตอนนี้ก็หาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เช่นกันว่าทำไมถึงยังชอบหาเรื่องหญิงสาวอยู่เรื่อย รู้เพียงว่าตนชอบฟังเสียงแว้ดๆ ยามเธอเถียง มากกว่าจะทนมองเธอนิ่งเป็นรูปปั้นที่แม้แต่ปากก็ขยับไม่ได้
ภายในรถเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้งเมื่อยุ้งทองเป็นฝ่ายเปิดประเด็นด้วยใบหน้ายิ้มๆ อย่างเป็นต่อ
“เป็นห่วงฉันละสิถึงได้ขับรถมาส่ง”
“หืม ?”
“อ๊ะ ผู้หญิงเพอร์เฟกต์อย่างฉันใครๆ ก็อยากอยู่ใกล้กันทั้งนั้น” ใบหน้าสวยเฉี่ยวสะบัดแต่พองาม
“เอาความมั่นใจมาจากไหน” พวงมาลัยถูกบังคับให้เลี้ยวเข้าโค้ง อีกไม่กี่ร้อยเมตรจะถึงบ้านพักรับรอง ภูตะวันลดความเร็วในการขับลงอีกครึ่งหนึ่ง
...อยากต่อปากต่อคำกับหมอหมูเพิ่มก็เท่านั้น ไม่มีอะไรมากกว่านี้จริงๆ
“ก็มันจริงไหมล่ะ”
“อย่าเข้าใจผิด ฉันมาส่งเธอเพราะแม่ขอให้มาส่ง ทำเพื่อแม่ ไม่ได้ทำเพื่อเธอ”
ยุ้งทองอมลมจนแก้มป่อง ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมเธอกลายเป็นเด็กเอาแต่ใจทุกครั้งที่ถูกภูตะวันขัดใจ ไม่ว่าจะเมื่อก่อนหรือตอนนี้ก็เป็นเช่นนั้น
หึ ! คุณแม่กาญจนาให้มาส่งอย่างนั้นหรือ ถ้าเมื่อเย็นเธอขับรถไปบ้านใหญ่ก็ไม่มีทางขอร้องให้เขามาส่งหรอก ติดอยู่ที่บรรยากาศดีๆ ในยามเย็นทำให้เดินเล่นเพลินไปหน่อย จู่ๆ ก็ไปโผล่หน้าบ้านใหญ่ เจ้าของบ้านชวนกินข้าวด้วย จะปฏิเสธก็เป็นการเสียมารยาทอย่างใหญ่หลวง กินเสร็จคุยกันติดลมจนท้องฟ้ามืดค่ำ...ก็เท่านั้น ไม่ได้อยากจะยื้อเวลาให้ใครมาส่งสักหน่อย
“ไม่เต็มใจก็ไม่เห็นต้องฝืน”
“กลัวเธอจะหลงทางกลับบ้านพักไม่ถูกหรอกฉันถึงได้รับปากแม่ เกิดเดินเซ่อซ่าตกหลุมตกบ่อจะเดือดร้อนน้องสาวฉัน”
“ฉันไม่ได้เซ่อซ่า”
“ใครจะไปรู้”
“ถ้าฉันเซ่อซ่าแล้วตกบ่อตาย ฉันจะเป็นผีมาหักคอนายคนแรกเลยนายโย่ง” เอาซี่ ถ้าตานี่คิดว่าเธอจะเก็บปากเก็บคำ หงิมๆ ติ๋มๆ เช่นยามอยู่ต่อหน้าคุณการุณย์กับคุณกาญจนาแล้วละก็ถือว่าคิดผิด
“น่ากลัวจริงๆ เลย” ภูตะวันเบะปากล้อเลียน ใจแอบขำอยู่ภายใน แบบนี้สิถึงจะเป็นยายตัวยุ่งตัวจริง
“นาย !”
“เอ้าๆ จะด่าอะไรก็ด่ามา”
“ฉะ...” ทำไมแกเป็นแบบนี้ฮึยุ้ง ตานั่นหันมองตาแวบเดียวทำไมต้องหายใจไม่ทั่วท้องด้วย
“ติดอ่างหรือครับคุณหมอหมู”
ปึ๊ก !
หมัดหนักๆ ทุบลงบนไหล่ซ้าย ทำร้ายเขาด้วยคำพูดไม่ได้ ยุ้งทองจึงเปลี่ยนมาเป็นใช้กำลังแทน
“โอ๊ย ! ทุบลงมาได้ ขับรถอยู่นะเว้ย !”
“อย่ามาเว้ยนะ”
“ฉันมันคนห่าม พูดจาสวยหรูไม่เป็น”
“เพราะห่ามแบบนี้ไงถึงไม่มีผู้หญิงที่ไหนเขาสนใจ ฉันก็ไม่อยากจะร่วมทางด้วยนักหรอก”
เบรกถูกเหยียบกะทันหัน เสียงหวานแหลมกรีดร้องลั่นรถด้วยความตกใจ หากไม่คาดเข็มขัดนิรภัยหน้าผากเธอกระแทกกับคอนโซลรถยนต์ไปแล้ว
“ทำบ้าอะไรของนาย !”
“เชิญ” ภูตะวันบอกเสียงเรียบยิ่งกว่ารีดด้วยเตารีด ไม่แม้แต่มองหน้าอีกฝ่าย คำพูดของเธอกระแทกใจเขาเข้าอย่างจัง ใช่ ! ไม่มีผู้หญิงคนไหนชอบผู้ชายห่ามๆ ร้อยทั้งร้อยชอบประเภทปากหวานเอาใจเก่งกันทั้งนั้น หนึ่งในนั้นก็ผู้หญิงข้างๆ เขานี่ละ
“เชิญ ? เชิญอะไร”
“ไม่อยากร่วมทาง ถ้าอย่างนั้นเชิญ จากตรงนี้ไปบ้านพักไม่ไกลเท่าไร เดินไม่กี่นาทีก็ถึง”
สัตวแพทย์สาวกำหมัดแน่น กลีบปากบางเม้มกันจนน่ากลัวว่าจะช้ำ ยุ้งทองไม่พูดอะไรแม้แต่คำเดียว เธอสนองความต้องการเจ้าของรถด้วยการเปิดประตูแล้วก้าวขาออกมา ก่อนปิดประตูกระแทกเสียงดังลั่น
ภูตะวันหมุนรถกลับจนล้อบดถนนดินดำเกิดฝุ่นตลบ ทะยานกระบะคันโตมุ่งตรงยังทิศทางสู่บ้านใหญ่ เจ้าของร่างบางซึ่งถูกทิ้งอยู่ท่ามกลางความมืดได้แต่หวังว่าเขาแค่ล้อเล่น อีกประเดี๋ยวก็ต้องวกรถกลับมารับเธอไปส่งที่บ้านพักรับรอง แต่ความหวังนั้นริบหรี่จนไม่เหลือเสี้ยวเล็กๆ ให้เป็นปาฏิหาริย์เมื่อยืนรออยู่กว่าสิบนาทีก็ไม่มีวี่แววว่ารถคันใดจะวนกลับมารับ
“นายซัน...นายเลือกให้เป็นแบบนี้เองนะ แล้วเราจะได้เห็นดีกัน”
สุดท้ายแล้วยุ้งทองจึงต้องลากขาหนักๆ ที่เกิดจากความรู้สึกหลากหลายเดินตัดแนวต้นแก้วมังกรกลับบ้านพักเพียงลำพัง ไฟหลายดวงซึ่งสาดส่องแปลงเจ้าผลไม้ลูกสีบานเย็นพอจะให้ความสว่างได้บ้าง ทว่าสำหรับคนที่เพิ่งมาอยู่ที่นี่วันแรกนั้นประหวั่นพรั่นพรึงไม่น้อย ทะเลจันทร์บอกว่าที่นี่ไม่มีอะไรน่ากลัว คนงานทุกคนไว้ใจได้ แต่กับสัตว์เลื้อยคลานพิษร้ายแรงที่เธอกลัวเท่าชีวิตเล่า จะมีโผล่มากลางทางหรือเปล่า ระยะทางจากจุดถูกปล่อยถึงบ้านพักไม่ไกลนัก แต่กลับรู้สึกว่าช่างไกลเหลือเกิน
ห่างไกล...พอๆ กับความสัมพันธ์ของเธอกับนายโย่งนั่นละ
ความคิดเห็น