ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] Memory of Heart จะรักกันได้ไหม?ถ้าหัวใจยังไม่ลืม...

    ลำดับตอนที่ #33 : MEMO 32 : Hamberger

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 217
      2
      7 ต.ค. 56


     

    MEMO 32 : Hamberger

    Seunghoen Part

    “ เย็นนี้เรามีนัดกันนะชางซอบ อย่าลืมซะล่ะ” ร่างสูงกล่าวเตือนความจำเพื่อนใหม่ซึ่งนี่ก็ผ่านมาได้อาทิตย์นึงแล้วที่ร่างเล็กนั้นได้กลับมาเรียนอีกครั้งหลังจากที่หายไปนาน

    “ รู้แล้วน่า นายนี่จู้จี้ชะมัด” ชางซอบบ่นออกมาพลางส่งยิ้มขี้เล่นมาให้ เนื่องจากทั้งคู่มีอายุที่เท่ากันและด้วยความเป็นมิตรของซึงฮอน จึงทำให้ทั้งคู่นั้นสนิทกันได้ไม่ยาก ซึงฮอนยิ้มก่อนจะเอื้อมมือไปขยี้ผมชางซอบเบาๆแล้วจึงเดินเข้าคลาสเรียนของตัวเองไป เฮ้อ...ลีชางซอบเขาจะรู้มั๊ยนะว่ารอยยิ้มของเขาเมื่อสักครู่ มันทำเอาใจคนมองอย่างผมถึงกับละลายเลยล่ะ

                    ตอนนี้ผมให้เขาย้ายเข้ามาอยู่ที่บ้านเราอย่างถาวร ไม่ใช่ว่าผมรู้สึกผิดรึว่าสงสารเขาหรอกนะ แต่ตอนนี้ผมดันหลงรักเขาหมดหัวใจเลยน่ะสิ จะเปรียบเสมือนว่าเป็นรักแรกพบได้มั๊ยนะ ถึงตอนแรกผมจะรู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องกลายเป็นเจ้าชายนิทราและเกือบเอาชีวิตไม่รอด แต่พอผมได้ใกล้ชิด ได้ดูแลเขา มันก็เกิดเป็นความรักเข้าอย่างเต็มเปา นี่ผมใจง่ายไปรึเปล่านะ?

     

    ตกเย็น

    “ เฮ้...ชางซอบ หลับอยู่เหรอ ฉันมาแล้วนะ” ผมตะโกนเรียกชางซอบมาแต่ไกลแต่ก็ไม่มีสัญญาณตอบรับจากร่างเล็กนี้ คนอะไรหลับได้หลับดี ผมล่ะแปลกใจจริงๆเขาเรียนรู้เรื่องได้ยังไงกัน ก็ในเมื่อเขาขี้เซาขนาดนี้ ร่างสูงทิ้งตัวลงนั่งข้างๆพลางมองใบหน้าขาวใสที่หลับไม่รู้เรื่องรู้ราว

    “ ใบหน้าแบบนี้อันตรายชะมัด ถ้าคนที่มาเห็นไม่ใช่ฉันจะเป็นยังไงกันนะ” เมื่อบ่นจนพอใจนิ้วเรียวยาวจึงเอื้อมไปสะกิดคนขี้เซาให้ตื่นขึ้น นัยน์ตาหวานค่อยๆปรือขึ้นมามองพลางขมวดคิ้วมุ่นอย่างขัดใจที่ถูกรบกวนเวลานอน

    “ มาตั้งแต่เมื่อไร” ชางซอบไม่ได้ลุกขึ้นทันที เขาทำเพียงแค่ใช้แขนที่หนุนต่างหมอนมาท้าวศีรษะกับโต๊ะเท่านั้น นัยน์ตาปรือเขม่นมองอย่างไม่สบอารมณ์ นี่นายจะยั่วฉันใช่มั๊ยลีชางซอบ ผมจ้องหน้าเจ้าเพื่อนใหม่เขม็งแต่เจ้าตัวหาได้เดือดร้อนไม่ ยังคงทำเพียงยกมือขึ้นมาป้องปากพลางหาวหวอดๆ

    “ จ้องฉันทำไม มีอะไรเหรอ” พูดไม่พูดเปล่าเจ้าตัวดียังยื่นหน้าเข้ามาใกล้พลางสบเข้ามาในนัยน์ตาผม ทำเอาผมหน้าร้อนผ่าว มันจะใกล้ไปแล้วนะ!!!

    “ คราวหลังอย่ามาหลับในที่แบบนี้นะ เข้าใจมั๊ย มันอันตราย” ผมดุด้วยน้ำเสียงกดต่ำเพื่อให้เขารู้ว่าผมพูดจริง แต่เจ้าตัวกลับทำเพียงเลิกคิ้วเป็นคำถาม

    “ นี่มันสถานศึกษา ไม่เห็นมีอะไรให้กลัวสักหน่อย ฉันหลับแบบนี้ตั้งแต่ปีหนี่งจนตอนนี้จะจบปีสี่อยู่แล้ว ยังไม่เห็นเป็นไรเลย” ชางซอบยังคงเถียงอย่างไม่ยี่หระ ผมถอนหายใจพรืดพลางพูดสิ่งที่ผมคิดออกไป

    “ ก็นายน่ารักนี่ เกิดใครมาลักนายไป จะทำยังไงล่ะ”

    “ น่ารัก(ลัก)เหรอ หึหึ พูดอะไรตลกไปได้ อย่างฉันน่ะห่างไกลจากคำนั้นมากเลยล่ะ แบคซึงฮอน” เมื่อโต้เพื่อนกลับได้ชางซอบก็ทำเพียงหยิบแว่นตาอันใหญ่เทอะทะขึ้นมาสวมพร้อมกับบิดขี้เกียจไปมา

    “ นั่นนายจะไปไหนน่ะ” เมื่อเห็นว่าเพื่อนกำลังจะเดินออกไปจากตึกแล้ว ซึงฮอนจึงรีบลุกออกไปบ้าง

    “ ก็ไหนบอกว่าวันนี้เรามีนัดกันไง ลืมแล้วเหรอ ตอนนี้ฉันหิวชะมัด รีบไปเถอะ” ชางซอบพูดด้วยเสียงราวกับละเมอพลางเดินนำหน้าผมไป ผมจึงวิ่งไปพร้อมกับกอดคอเดินไปด้วยกัน

    “ อะแฮ่ม...” ผมได้ยินเสียงคุ้นหูกระแอมไอดังมาแต่ไกล จึงหันไปมองทางหน้าประตูมหาลัย

    “ อ๊ะ...พี่จีฮุนมาได้ยังไง” ผมทักอย่างตกใจเมื่อรู้ว่าเจ้าของเสียงกระแอมคือใคร

    “ ก็มารับพวกนายไง ว่าไงจะกลับกันแล้วใช่มั๊ย” ร่างสูงของคนเป็นน้องขมวดคิ้วสงสัย ร้อยวันพันปีพี่ชายเขาไม่เคยคิดที่จะไปรับไปส่งเขาสักนิด แล้ววันนี้คิดยังไงกันนะถึงมารอรับถึงที่ แต่จะว่าไปแล้วตั้งแต่ชางซอบฟื้นขึ้นมา พี่จีฮุนก็มีอะไรๆเปลี่ยนไปหลายอย่าง ทำอะไรที่ไม่เคยทำก็เยอะจนผมเองยังจับความผิดปกตินี้ได้

    “ ครับ แต่เรากำลังจะไปกินแฮมเบอร์เกอร์กัน” ชางซอบซึ่งเงียบมานานกล่าวขึ้น จีฮุนจึงเปลี่ยนความสนใจจากน้องชายไปยังอีกคน

    “ อ่าว แล้วไม่กลับไปกินข้าวที่บ้านเหรอ” จีฮุนถามพลางมองหน้าน้องสลับไปมา

    “ ข้าวก็ส่วนข้าวสิครับ นี่มันแฮมเบอร์เกอร์ต่างหาก” ผมล่ะอยากมอบรางวัลความกล้าหาญแก่ชางซอบจริงๆเลย นานมากแล้วที่ไม่มีคนกล้าพูดจากวนประสาทพี่จีฮุน เพราะพี่จีฮุนเป็นคนนิ่งๆจึงไม่มีใครกล้าเล่นๆด้วย แต่หมอนี่เกินคาดเลยแฮะ หวาๆ...มาแล้วๆสายตาพิฆาตของพี่จีฮุน แต่เอ๊ะ...ทำไมมันไม่เหมือนทุกทีแฮะ มันไม่ใช่สายที่พร้อมจะเอาเรื่องคนตรงหน้าแต่กลับแปลกออกไป ไม่นานจีฮุนก็หลบสายตาไปแต่หารู้ไม่ว่าไม่สามารถคลาดสายตาจับผิดของน้องชายไปได้หรอก ซึงฮอนจึงทำได้เพียงเก็บงำความสงสัยไว้ในใจก่อนจะก้าวขาขึ้นรถไป

    ทั้งสามมาถึงร้านแฮมเบอร์เกอร์โดยใช้เวลาไม่นาน

    “ ทำไมพี่ถึงรู้ล่ะว่าเราจะมาที่นี่” ผมถามขึ้นเมื่อพี่จีฮุนขับรถมายังร้านโดยที่ผมไม่ได้บอกด้วยซ้ำว่าร้านไหน

    “ ก็ ชาง...เอ่อ ฉันชอบร้านนี้นี่นา” จีฮุนสะดุดไปนิดแต่ก็ตอบกลับโดยไม่มีพิรุธใดๆ ซึงฮอนจึงทำเพียงยักไหล่พลางกอดคอชางซอบเดินเข้าร้านไป นัยน์ตาง่วงๆนั้นไม่แม้แต่จะหันมามองร่างสูงของอีกคนด้วยซ้ำ จีฮุนจึงได้แต่ถอนหายใจเฮือกรู้สึกเจ็บแปลบลึกๆในใจ

    “ ขอดับเบิ้ลชีสเบอร์เกอร์สองที่ครับ ” ร่างเล็กกำลังจะเอ่ยปากสั่งแต่โดนคนที่ก้าวเข้ามาทีหลังพูดแทรกซะก่อน จึงได้แต่หันไปทำสายตาดุๆใส่อีกคน แต่จีฮุนกลับทำเพียงยิ้มให้พลางหันไปทางน้องชาย

    “ นายล่ะ เอาอะไร” ซึงฮอนเอ๋อนิดๆที่อยู่ดีๆพี่ชายผู้สุภาพของเขากลับพูดแทรกคนอื่น

    “ เอ่อ พี่กินหมดเหรอครับ อันเดียวก็แน่นแล้วนะ ชีสเบอร์เกอร์น่ะ” ซึงฮอนถามพลางขมวดคิ้วมุ่นไม่ยักรู้ว่าพี่ชายของเขาจะชอบอาหารฟาสฟู๊ดพวกนี้ด้วย

    “ เปล่า ของสองคนน่ะ จริงมั๊ย ชางซอบ” จีฮุนตอบพลางถามคนข้างๆตัวซึ่งทำเพียงถอนหายใจก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ ผมล่ะอึ้งเลย นี่พี่เขารู้ได้ยังไงกันว่าชางซอบจะสั่งอะไร เฮ้อออ ชักจะมีอะไรแปลกๆแล้วแฮะ ผมจัดการสั่งของตัวเองพลางเดินไปหาที่นั่งกัน ผมกับพี่จีฮุนนั่งข้างกันส่วนชางซอบนั่งฝั่งตรงกันข้าม

    “ ได้ไปเรียนแล้วรู้สึกไงบ้าง” หลังจากที่ความเงียบเข้าครอบงำ พี่จีฮุนก็เลือกที่จะทำลายมันด้วยคำถามนี้ ร่างบางกัดเบอร์เกอร์เข้าไปหนึ่งคำพลางมองพี่ชายผมนิ่งราวกับคิดอะไรบางอย่าง

    “ ก็ดีครับ สนุกดี ไม่ได้เจอเพื่อนๆนานแล้ว” พูดไปก็กัดอีกคำ เขากินมันด้วยท่าทางเอร็ดอร่อยโดยไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่ามีคราบซอสก้อนเบ้อเร่อติดอยู่ข้างแก้ม จีฮุนลอบถอนหายใจในความเป็นเด็กของคนตรงหน้า

    “ ชางซอบ!!!” สองพี่น้องเรียกชื่อนี้ออกมาพร้อมๆกัน เรียกให้คนที่กำลังสนุกกับการกินถึงกับชะงักพลางมองมาด้วยสายตามึนงง จีฮุนสบตานั้นนิ่งพลางจิ้มข้างแก้มอย่างที่เคยทำแต่ชางซอบหาได้เข้าใจไม่ ซึงฮอนจึงหยิบกระดาษพลางยื่นมือไปเพื่อจะเช็ดคราบนั้นออกให้แต่กลับโดนมือของพี่ชายปัดออกเสียก่อน ซึงฮอนมองการกระทำนั้นอย่างไม่เข้าใจ จีฮุนทำเพียงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นพลางเปิดกล้องหน้าแล้วส่องไปยังร่างบาง ชางซอบดูตกใจเล็กน้อยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วโดยไม่ทันตั้งตัวนี้ เขามองใบหน้าตัวเองผ่านกล้องหน้าของโทรศัพท์มือถือก่อนจะหยิบกระดาษขึ้นมาเช็ดคราบที่มันติดอยู่ข้างแก้มออก ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าพี่จีฮุนทำแบบนั้นทำไม จึงได้แต่ส่งสายตาเป็นคำถาม

    “ อยู่ในที่สาธารณะ ผู้ชายสองคนเช็ดปากให้กันมันคงดูไม่เหมาะสักเท่าไรนะ” พี่จีฮุนกระซิบผมอย่างแผ่วเบาเล่นเอานัยน์ตาผมเบิกโพลง ผมไม่เคยเห็นเขาแคร์เรื่องเล็กๆน้อยๆขนาดนี้มาก่อนแต่ก็ยอมตัดรำคาญโดยการนั่งกินต่อไป เราจัดการมือนี้ไปอย่างเงียบๆ ชางซอบดูจะระมัดระวังมากขึ้นในการกัดแต่ละคำ กัดไปคำนึงก็เหลือบตามองพี่จีฮุนไปพลาง มันอะไรกันนะบรรยากาศแบบนี้น่ะ ผมรู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้อย่างนั้นล่ะ ราวกับว่าคนทั้งคู่คุยการผ่านสายตาก็ไม่ปาน ไม่มีช่องว่างให้ผมได้แทรกเข้าไปเลยทั้งๆที่ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกมาเลยด้วยซ้ำ มันช่างน่าอึดอัดเสียจริง

    “ เป็นไงชางซอบ อิ่มมั๊ย จะกินข้าวเย็นได้มั๊ยเนี่ย” ผมกล่าวแซวเจ้าเพื่อนตัวดีที่เริ่มจะหาวอีกครั้งหลังจากกินอิ่ม ชางซอบลูบพุงตัวเองไปมาพลางยิ้มแหยๆ

    “ สงสัยจะกินไม่ได้แล้วล่ะซึงฮอน มันแน่นไปหมดเลยอ่ะ” ผมหัวเราะออกมาพลางลูบศีรษะชางซอบอย่างหมั่นเขี้ยว

    “ แล้วใครกันนะบอกว่า ข้าวก็ส่วนข้าวน่ะ นายนี่จริงๆเลยนะ แล้วจะแก้ตัวกับแม่บ้านยังไงล่ะเนี่ย” ซึงฮอนกล่าวแซวพร้อมกับเปิดประตูรถด้านหลังเพื่อให้ชางซอบได้ขึ้นไปนั่งก่อนจะส่งตัวเองไปนั่งด้วยถ้าไม่ติดว่ามีมือนึงมาจับไหล่เขาเอาไว้

    “ นายน่ะมานั่งข้างๆพี่ พี่ไม่ใช่คนขับรถของนายนะซึงฮอน” พี่จีฮุนกล่าวอย่างไม่จริงจังนักแต่ความรู้สึกหนักอึ้งบนไหล่นี่มันอะไรกัน ผมได้แต่มองหน้าพี่ชายต่างสายเลือดพลางพยักหน้าพร้อมกับปิดประตูรถแล้วย้ายตัวเองไปนั่งข้างคนขับ ตลอดทางเราทั้งคู่ไม่ได้พูดอะไรกัน ส่วนอีกคนก็หลับไปแล้วตามนิสัยของเจ้าตัว เมื่อมาถึงบ้านหลังจากที่ชางซอบขอแยกตัวไปยังห้องนอนของตัวเองแล้ว ผมเองก็จะไปบ้าง แต่ความข้องใจของผมมันกลับพาเท้าก้าวยาวๆไปยังห้องสุดทางเดิน

    ก๊อกๆๆ

    ร่างสูงเคาะประตูสักพักเจ้าของห้องก็เปิดออกมา

    “ มีอะไรเหรอซึงฮอน ยังไม่กลับเข้าห้องอีก” พี่ชายของผมอยู่ในสภาพเปลือยท่อนบนถามขึ้นอย่างสงสัย

    “ คือผมมีเรื่องอยากจะถามพี่สักหน่อย” ซึงฮอนดูไม่แน่ใจว่าควรจะพูดมันออกไปดีมั๊ย ถ้ามันไม่เป็นอย่างที่เขาคิด พี่ชายเขาจะรู้สึกยังไงกันนะที่น้องชายมาสงสัยอะไรแบบนี้

    “ ว่ามาสิ มีอะไรล่ะ” จีฮุนยืนเอาแขนท้าวกรอบประตูห้องนอนอย่างสบายๆ ผมรู้ว่าพี่ชายของผมเป็นผู้ชายที่เจ๋งขนาดไหน ไม่ว่าจะเป็นสาวหรือไม่สาวคนไหนถ้าได้เข้าใกล้เขาเป็นติดกับทุกราย ทั้งรูปร่างหน้าตาและบุคลิกภาพที่โดดเด่น เป็นใครเห็นก็คงหลงกันทั้งนั้น ซึ่งครั้งนี้ถ้ามันเป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ ไม่วายผมคงได้เจอศึกหนักแน่ พี่จีฮุนทำเพียงเลิกคิ้วเป็นคำถาม

    “ พี่รู้สึกยังไงกับชางซอบเหรอครับ” ผมกลั้นใจถามในสิ่งที่สงสัยออกไป ถ้าไม่สังเกตดีๆก็คงไม่เห็นแวววูบไหวในตาของร่างสูงอีกคน จีฮุนทำเพียงยิ้มมุมปากพลางพ่นลมหายใจออกมาช้าๆ

    “ นึกว่าเรื่องอะไร แค่นี้เองเรอะ? มาถามพี่น่ะ แล้วนายล่ะรู้สึกยังไง” จีฮุนเลือกที่จะถามกลับแทนคำตอบ ซึงฮอนดูขัดใจเล็กน้อยที่ไม่ได้คำตอบตามต้องการ

    “ ผมก็ชอบเขาน่ะสิครับ ไม่สิ....เรียกว่ารักได้รึเปล่านะ” ซึงฮอนดูลังเลเล็กน้อยแต่มันกลับทำให้คนฟังถึงกับเจ็บปวด จีฮุนรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาทันทีแต่ก็เก็บอาการนั้นไว้

    “ เพราะเป็นพี่หรอกนะครับผมถึงยอมบอกออกมาตรงๆน่ะ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตั้งแต่เมื่อไร แต่กับชางซอบเท่านั้นที่ผมรู้สึกแบบนี้” ซึงฮอนยังคงพ่นความในใจออกมา จีฮุนถอนหายใจหนักๆ

    “ นั่นเรียกว่ารักจริงเหรอ ว่าแต่มีแค่นี้ใช่มั๊ย งั้นฉันขอตัวนะ” ไม่รอคำตอบจากน้อง คนเป็นพี่ก็ปิดประตูห้องนอนทันที

    “ โธ่...อะไรกันน่ะพี่ ผมยังไม่ได้คำตอบจากพี่เลยนะว่ารู้สึกยังไงกันแน่” ซึงฮอนกล่าวอย่างอารมณ์เสียพลางเดินห่างออกไป ชายในห้องทิ้งตัวลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง

    “ ฉันรู้สึกยังไงน่ะหรอ ถ้าฉันบอกนาย นายจะเชื่อฉันมั๊ยล่ะซึงฮอน ว่าฉันยินดีจะเป็นคนที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราเมื่อหกเดือนก่อนนั้นแทนเขาได้น่ะ อย่างนี้นายจะเรียกความรู้สึกนี้ว่าอะไร” จีฮุนใช้มือลูบใบหน้าพลางเสยผมอย่างลำบากใจ การจะเอาคนรักกลับมานั้นมันไม่ได้ง่ายอย่างที่เขาคิดซะแล้ว ในเมื่อศัตรูหัวใจเป็นคนใกล้ตัวและเป็นคนที่เขารักคนนึงเหมือนกัน แล้วอย่างนี้เขาจะทำลายหัวใจตัวเองได้ยังไงกันนะ

     



     

    __________________________________________________________________________________________________
    ขออภัยด้วยนะคะที่ไรต์หายไปนานเลย พอดีเพิ่งเปิดเทอมก็เลยยุ่งหลายๆอย่าง หลายคนคงงงล่ะสิ คนอื่นเขาสอบกัน แต่ไรต์กลับเปิดเทอม มหาลัยไรต์เป็นระบบสามเทอมน่ะค่ะ เลยเปิดปิดไม่เหมือนคนอื่นสักเท่าไร ยังไงก็จะพยายามมาอัพบ่อยๆนะคะ ขอบคุณที่ติดตามค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×