ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] Memory of Heart จะรักกันได้ไหม?ถ้าหัวใจยังไม่ลืม...

    ลำดับตอนที่ #29 : MEMO 28 : Heart broken

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 219
      2
      16 ก.ย. 56



    MEMO 28 : Heartbroken

    Changsub Part

    ตรู๊ดดดด ตรู๊ดดดด

    เสียงโทรศัพท์ดังเข้ามาช่วงนี้ผมบอกได้คำเดียวว่าเป็นเขาแน่ๆ ร่างบางเดินไปหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูเบอร์แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่อมันไม่ใช่เบอร์คนที่คุ้นเคย

    “ สวัสดีครับ” เสียงเนิบๆกรอกไปอย่างสุภาพเนื่องจากเริ่มใกล้เวลาเข้านอนของผมแล้ว น้ำเสียงจึงดูง่วงงุน

    “ ชางซอบเหรอ พี่เป็นเพื่อนของจีฮุนนะ” น้ำเสียงผู้ชายที่ผมไม่คุ้นหูทักขึ้นอย่างร้อนรน

    “ ครับ พี่จีฮุนเป็นอะไรเหรอครับ” เนื่องจากพักหลังๆพี่จีฮุนไม่ค่อยออกไปดื่มแล้ว ผมจึงค่อนข้างจะแปลกใจเล็กน้อยที่เพื่อนของเขาโทรมาหาผมแบบนี้

    “ จีฮุนน่ะสิ เมาหลับอยู่ที่คลับเนี่ย ชางซอบมารับมันกลับหน่อยได้มั๊ย” น้ำเสียงที่ส่งมาดูลำบากใจ แต่มันยิ่งทำให้คนฟังขมวดคิ้วมุ่น ก็วันนี้พี่จีฮุนบอกว่าจะไปงานแทนคุณพ่อแล้วเขาจะไปดื่มได้ยังไงกัน หลังจากที่เรากลับมาจากเกาะเชจูครั้งนั้น พี่จีฮุนก็เป็นห่วงผมยิ่งกว่าอะไร จะไปไหนมาไหนเราสองคนต้องรู้ความเคลื่อนไหวของกันและกันตลอด และที่สำคัญผมเพิ่งวางสายจากพี่จีฮุนเมื่อตอนหัวค่ำของวันนี้ พี่จีฮุนยังยืนยันว่าจะไม่ดื่มเด็ดขาดเพราะต้องขับรถนี่นา ถ้าเขาไปคลับจริงเขาก็ต้องบอกผมด้วยสิ

    “ ชางซอบๆ ยังฟังอยู่รึเปล่า” เมื่อปลายสายเงียบไป คนโทรมาก็เริ่มอยู่ไม่สุข

    “ อ่อครับๆ พี่จีฮุนไปดื่มจริงๆเหรอครับ ก็วันนี้เขามีธุระนี่นา” ชางซอบยังคงคัดค้าน

    “ ใช่ มันมีธุระ แต่มันก็ออกมาจากที่นั่นแล้ว มันเบื่อๆก็เลยมานั่งดื่มกับพวกพี่เนี่ยแหละ เอาเป็นว่ารีบมาหน่อยแล้วกันนะ พี่เองก็จะไปต่อกันเลยไปส่งมันไม่ได้” รุ่นพี่คนนั้นยังคงยืนยันคำเดิม ผมคงต้องไปสินะ

    “ โอเคครับ แล้วผมจะรีบไป” เมื่อพูดจบก็วางสายทันทีก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อคลุมมาสวม ชางซอบสวมเพียงเสื้อยืดคลุมด้วยแจ็กเก็ตกับกางเกงยีนส์เดินออกจากบ้าน สมัยก่อนที่เราจะคบกันผมเป็นฝ่ายที่ต้องไปรับพี่จีฮุนบ่อยๆมันจึงไม่ลำบากเลยถ้าผมจะทำมันอีกครั้ง แต่ที่ผมแปลกใจคือ พี่จีฮุนแทบจะไม่ได้ดื่มแล้วนะ เพราะช่วงนี้เขาทำแต่งาน เอ...รึว่าเขาอาจจะดื่มคลายเครียดก็ได้

    ร่างบางเดินฝ่าฝูงชนจำนวนไม่มากแล้วเนื่องจากเวลานี้ก็ดึกพอสมควร ชางซอบเดินทางด้วยรถไฟใต้ดินเพราะยังไงก็ต้องขับรถพี่จีฮุนกลับอยู่ดี เมื่อมาถึงหน้าคลับ นักท่องราตรีหลายคนมองมายังหนุ่มหน้าหวานคนนี้เป็นตาเดียว อาจจะเป็นเพราะอากาศเย็นจึงทำให้ผิวขาวๆค่อนข้างซีดแต่กลับตัดกับริมฝีปากแดงฉ่ำ ชางซอบหลบสายตาผู้คนก่อนจะพาตัวเองเดินไปยังโซนวีไอพีที่พวกของจีฮุนชอบไปเที่ยวกัน

     

    แอ๊ดดดดด

    เพียงแค่เสียงเปิดประตูก็ทำเอากลุ่มคนในห้องหันมามอง ถึงเสียงภายนอกจะดังเพียงใดก็ไม่สามารถเล็ดลอดเข้ามาในห้องนี้ได้เช่นเดียวกับเสียงในห้องที่ไม่สามารถดังออกไปข้างนอกได้เหมือนกัน ชางซอบโค้งให้กับคนที่เขาจำได้ดีว่าเป็นเพื่อนๆของจีฮุน สายตาหวาดๆกวาดมองไปทั่วห้องเพื่อมองหาคนรักของตัวเอง ถึงจะเคยมาที่นี่บ่อยๆแต่ก็รู้สึกไม่ชอบเอาเสียเลย ทั้งสายตาของคนที่มองมาและกลุ่มเพื่อนๆของจีฮุน

    “ เอ่อ...พี่จีฮุนล่ะครับ” น้ำเสียงเนิบๆถามอย่างเกรงๆ

    “ อ่อ....มันคงจะไปเข้าห้องน้ำน่ะ ชางซอบนั่งก่อนสิ จะดื่มอะไรมั๊ย” ผู้ชายคนนึงคาดว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทของพี่จีฮุนและเป็นคนที่โทรหาผมกล่าวเชิญขึ้น

    “ ไม่ดีกว่าครับ ผมมารับพี่จีฮุน ผมจะดื่มได้ยังไง” ผมปฏิเสธพลางถดตัวออกจากชายคนนั้นมากขึ้น ให้ตายสิผมไม่ชอบสายตาที่เขามองมาที่ผมเลย มันดูไม่น่าไว้ใจ ตั้งแต่ที่ผมรู้จักกลุ่มเพื่อนของพี่จีฮุนก็มีคนนี้ล่ะที่มักจะมองผมด้วยสายตาแปลกๆ

    หมับ...พลั่ก

    ยังไม่ทันที่ผมจะได้ขยับไปไหน ชายคนเดิมก็ดึงมือผมให้นั่งลงบนโซฟาข้างๆตัวเขา เพื่อนๆในกลุ่มต่างหัวเราะชอบใจที่เขาสามารถบังคับผมได้ ดูก็รู้ว่าทุกคนเริ่มที่จะเมากันแล้ว ในกลุ่มเพื่อนของพี่จีฮุนมีกันทั้งหมดสี่คนรวมพี่จีฮุนก็เป็นห้า แต่ตอนนี้ผมไม่เห็นวี่แววของพี่จีฮุนสักนิดแถมไม่มีสิ่งของที่บ่งบอกว่าเจ้าตัวอยู่ที่นี่ด้วย ชักจะเริ่มแปลกๆแล้วแฮะ ชายคนที่นั่งอยู่ข้างๆเริ่มเอามือมาโอบใหล่ทำให้ร่างบางถึงกับสะดุ้ง ชางซอบพยายามขืนตัวออกมา เมื่อลุกขึ้นยืนได้สำเร็จเอวบางกลับโดนคว้าให้นั่งลงบนตักซะงั้น คราวนี้ผมเข้าใจเจตนารมณ์ของเขาแล้วล่ะ

    “ ปล่อยผมเดี๋ยวนี้นะครับ พี่จีฮุนไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่มั๊ย พวกพี่รวมหัวกันโกหกผม” ผมเริ่มจะโมโหซะแล้วแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เนื่องจากโดนกอดรัดซะแน่น

    “ ผมบอกให้ปล่อยไง ผมจะกลับแล้ว พี่ทำแบบนี้กับผมไม่ได้นะ พวกพี่เป็นเพื่อนพี่จีฮุนไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมทำกับผมแบบนี้ล่ะ” ตอนนี้ผมขืนตัวออกมาได้สำเร็จแต่กระเป๋าสตางค์กับโทรศัพท์มือถือโดนล้วงไปตอนไหนไม่อาจทราบได้

    “ ใช่ ฉันเป็นเพื่อนกับจีฮุนแต่ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับนาย และที่สำคัญในเมื่อมันทำไม่สำเร็จ ฉันก็จะทำด้วยตัวของฉันเอง” ผู้ชายคนที่ล้วงกระเป๋าผมพูดพลางชูสิ่งของขึ้นอย่างเยาะเย้ย ถ้าไม่มีสองอย่างนั้นผมก็ไปไหนไม่ได้แล้ว เขาพูดแบบนี้แสดงว่าพี่จีฮุนไม่ได้บอกเพื่อนสินะเรื่องที่เราสองคนคบกัน

    “ พี่พูดเรื่องอะไร ผมไม่เข้าใจ ใครทำอะไรไม่สำเร็จ” ผมถามอย่างแปลกใจตาก็มองหาทางหนีทีไล่เพราะประตูก็โดนชายร่างใหญ่อีกคนยืนกันเอาไว้หมดแล้ว จะร้องให้คนช่วยก็ไม่ได้ผลเพราะยังไงก็ไม่มีใครได้ยินอยู่แล้ว

    “ นี่นายซื่อรึโง่กันแน่ จีฮุนมันไม่เคยบอกเลยเหรอว่าที่มันยอมไปคุย ยอมรับของจากนาย ก็เพราะพนันกับพวกฉัน” นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินอะไรแบบนี้ คนอย่างพี่จีฮุนไม่ใช่คนแบบนั้นสักหน่อย ไม่งั้นเขาจะรักและเป็นห่วงผมขนาดนั้นได้ยังไงกันถ้ามันเป็นแค่การเล่นเกมส์ ผมส่ายหน้าไปมาอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

    “ งั้นฉันจะพิสูจน์ให้ดู” พูดจบชายคนนั้นก็หยิบโทรศัพท์ของตัวเองออกมาพลางต่อสายหาพี่จีฮุน

    [ ว่าไง ตอนนี้ฉันมาธุระน่ะ] เสียงที่ผมจำได้ดีว่าเป็นใครตอบกลับมาอย่างสบายๆ ผมอยากจะพูดแต่ติดที่มือใหญ่ๆดันมาล็อคตัวผมและปิดปากผมจากทางด้านหลังทำให้ผมไม่สามารถขยับและพูดได้ดังใจ

    “ นายจำเรื่องที่เราพนันกันได้มั๊ย” เจ้าของโทรศัพท์ถามขึ้นพลางปลายตามามองผม ส่วนผมเองก็นิ่งฟัง

    [ อยู่ดีๆทำไมมาถามเรื่องนี้ตอนนี้วะ ฉันไม่มีอารมณ์มาพูดเล่นนะเว้ย ] จีฮุนตอบกลับอย่างเซ็งๆ

    “ เออเถอะน่า ตกลงจำได้รึเปล่า” เพื่อนเริ่มอึดอัดใจบ้างแล้ว

    [ เออๆ จำได้ เรื่องที่นายให้ฉันไปจีบชางซอบใช่มั๊ย] แค่คำตอบก็ทำเอาผมถึงกับตาโต นี่มันเรื่องจริงเหรอเนี่ย

    [ ฉันว่านายเลิกล้มความคิดนี้เถอะว่ะ คนอย่างชางซอบไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลยสักนิด น่ารำคาญจะตายไป แกก็ยังจะยัดเยียดให้ฉันยุ่งกับชางซอบอีกและอีกอย่างฉันก็ไม่สนใจดาวคณะแกแล้ว เพราะฉะนั้นถือว่าเป็นโมฆะต่อกัน โอเคมั๊ย ] จีฮุนเริ่มรู้สึกเอือมๆจึงไม่อยากที่จะคุยกับเพื่อนต่อแล้ว ใครมันจะบ้ายกแฟนตัวเองให้กับคนอื่นกันล่ะ ตอนนี้สมองของชางซอบมันตีกันรวนไปหมด ตกลงพี่จีฮุนเป็นคนยังไงกันแน่เขารักผมจริงๆรึว่ามันเป็นแค่เกมส์

    “ ตกลงแกไม่ได้สนใจชางซอบใช่มั๊ย” ชายคนเดิมยังคงขอคำยืนยัน

    [ เออ...ฉันไม่ได้ชอบและไม่คิดจะชอบด้วยเว้ย เพราะฉะนั้นแกเลิกเซ้าซี้เรื่องนี้กับฉันสักทีและก็เลิกยุ่งกับน้องเขาได้แล้ว ไม่งั้นฉันจะบอกแฟนแกว่าแกสนใจผู้ชาย” ตอนนี้หัวใจผมมันรู้สึกเจ็บไปหมด น้ำตาเม็ดเล็กๆเริ่มไหลริน

    “ เอางั้นก็ได้ ในเมื่อแกไม่สนใจ งั้นฉันจะลุยเอง ไหนๆเจ้าตัวก็มาหาถึงที่แล้วนี่นะ” ชายคนนั้นยิ้มกรุ้มกริ่มมาทางผม สายตาที่มองมานั้นมีแต่ความหื่นกระหายผมเริ่มรู้ชะตากรรมตัวเองจึงพยายามดิ้นรนเพื่อที่จะหนี

    [ หมายความว่าไง ชางซอบอยู่กับนายเหรอ] คราวนี้เสียงของจีฮุนมีแววร้อนรน

    “ อ่าว ไหนบอกไม่สนใจ แต่ก็ช่างเถอะเพื่อความแน่ใจ อ่ะ...อื้ม” โดยไม่ทันตั้งตัวร่างบางก็โดนดึงไปกอดและขโมยจูบอย่างจาบจ้วง เสียงขัดขืนยิ่งแต่ทำให้ปลายสายกระวนกระวายมากขึ้น

    “ เอาเป็นว่า ถ้านายสนใจก็ออกจากงานนั่นแล้วมาสนุกกับพวกเราซะ มาช้าได้เป็นคนสุดท้ายไม่รู้ด้วยนะ” พูดจบก็ตัดสายทันทีก่อนจะเอามืออีกข้างมารวบร่างบางเข้าหาตัว

    “ อื้ออออ ไม่...ปล่อยนะ คนเลว” ชางซอบเอามือทุบลงบนไหล่หนาแต่ก็ดูจะไม่สะทกสะท้านใดๆทั้งสิ้น ริมฝีปากหยักกดจูบพลางดูดดุนอย่างหยอกล้อ แต่ชางซอบไม่มีอารมณ์จะร่วมด้วย ความรู้สึกเดียวที่มีตอนนี้คือขยะแขยงและอยากจะออกไปจากที่นี่เต็มทน สิ่งที่ชางซอบเกลียดคือคนที่เมาแล้วทำลุ่มล่ามกับคนอื่นแบบนี้

    “ ก็ในเมื่อจีฮุนมันยกเลิกแล้ว ฉันก็จะสานต่อเอง” พูดไม่พูดเปล่ากลับดันตัวของร่างเล็กให้นอนลงบนโซฟาพลางส่งตัวเองมาคร่อมเอาไว้ เพื่อนคนอื่นๆต่างหัวเราะและส่งเสียงเชียร์อย่างบ้าคลั่ง ความแดงของใบหน้าจากอารมณ์โกรธกลับทำให้มันดูน่ารักในสายตาของคนมอง

    “ เฮ้ย!!! แค่จูบแค่นี้ก็หน้าแดงแล้วว่ะ ไร้เดียงสาจริงนะ เชื่อละว่าจีฮุนมันไม่แตะจริงๆ” คนหยาบช้ายังไงก็เป็นคนหยาบช้าอยู่วันยังค่ำ มันมองร่างบางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความต้องการ

    “ ขนาดใบหน้ายังขาวแบบนี้ แล้วทั้งตัวจะขนาดไหนวะเนี่ย” ด้วยความต้องการที่เก็บสะสมมานานทำให้ถึงกับอดใจไม่อยู่เลิกเสื้อยืดขึ้นเผยให้เห็นยอดอกที่ไม่เคยมีใครแทบจะได้เห็นแม้แต่จีฮุนเองก็ตาม

    “ ม่ายยยยย ปล่อยฉันนะ ฮือออออ ไอ้คนสารเลว อย่าทำฉัน ปล่อยยยย” ชางซอบดิ้นพล่านมือไม้เปะปะไปหมด เพื่อนๆของชายหนุ่มทำเพียงยืนมองการกระทำตรงหน้าอยู่ห่างๆ ริมฝีปากอุ่นเริ่มประทับลงบนผิวเนียนทีละจุด

    “ ซี๊ดดด ผิวลื่นมือชะมัด จีฮุนมันพลาดไปได้ไงวะ” คำสบถอย่างหื่นกระหายก็ยังคงดังไม่ขาดปาก ตอนนี้น้ำตาผมไหลเป็นสาย ผมจะทำยังไงดีถึงจะหลุดออกไปจากตรงนี้ได้ สัมผัสที่ได้รับมันทำให้ผมรู้สึกขยะแขยงไม่ได้มีอารมณคล้อยตามเลยสักนิด เพราะพวกนี้ไม่รู้สินะว่าผมกับพี่จีฮุนคบกันแล้ว มันถึงกล้าทำแบบนี้ แต่จากที่คุยกันเมื่อกี้ผมชักจะไม่มั่นใจซะแล้ว ว่าพี่จีฮุนเขาคิดยังไงกับผมกันแน่

    “ เฮ้ย พวกฉันจะออกไปรอข้างนอก แกเองก็เบาๆแล้วกันนะเว้ย กว่าจะถึงพวกฉันเดี๋ยวน้องเขาจะช้ำซะก่อน” พูดจบกลุ่มเพื่อนก็เดินออกไปเหลือไว้แต่เพียงตัวต้นเหตุกับผมสองคน

    “ คราวนี้ก็ไม่มีใครรบกวนแล้วสินะ มา...มาให้ฉันลองหน่อยว่ากับผู้ชายมันจะรู้สึกยังไง”

    “ ม่ายยยยยยย ไอ้เลววว ปล่อย” ร่างบางโดนไซร้คอพร้อมกับรู้สึกเจ็บแปลบเมื่อโดนกัด ริมฝีปากฉ่ำถูกลุกล้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่า ข้อมือบางถูกตรึงไว้เหนือศีรษะด้วยมือเพียงข้างเดียว ส่วนลำตัวก็ถูกคร่อมทับและล็อกไว้อย่างสบบูรณ์แบบ ความรู้สึกกลัวบางอย่างถูกเข้ามาแทนที่ ตอนนี้ในสมองนั้นขาวโพลนไปหมด ชางซอบทำได้เพียงดิ้นรนอย่างน่าสงสาร

    อุ๊ก...

    ความจุกเข้ามาแทนที่ความกลัวเมื่อร่างบางโดนชกเข้าที่หน้าท้องทำเอาถึงกับตัวงอแรงที่มีนั้นหายไปในบัดดล กางเกงยีนส์ตัวหนากำลังจะถูกถอดออก สัญชาตญาณบ่งบอกว่าต้องเอาตัวรอดให้ได้ สายตากวาดไปรอบตัวอีกครั้ง

    “ พี่ปล่อยมือผมนะครับ มันเจ็บนะ แบบนี้พี่ก็ทำไม่สะดวกน่ะสิ ผมยอมแล้วๆ พี่ปล่อยมือผมก่อนนะ” อยู่ดีๆร่างเล็กก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวานทำเอาคนฟังประหลาดใจแต่ก็ยอมปล่อยมือแต่โดยดีพลางยิ้มมุมปากเยาะๆ

    “ ยอมตั้งแต่แรกก็สิ้นเรื่อง ไม่เห็นต้องให้ใช้กำลังเลย ของมันก็น่าจะเคยๆกันอยู่แล้ว ไม่ต้องกระแดะหวงตัวหรอกน่ะ” คำพูดดูถูกเปล่งออกมาถึงมันจะรู้สึกเจ็บจี๊ดแต่ร่างเล็กก็ยกแขนขึ้นโอบรอบคอของชายคนนั้น พลางรั้งให้ลงมาจุมพิตตน คราวนี้สัมผัสไม่เหมือนกับครั้งแรกเนื่องจากร่างเล็กเริ่มตอบสนองต่อลิ้นร้อน มุมปากชายหนุ่มยิ้มอย่างมีชัยที่สามารถเอาชนะคนตัวเล็กได้ ริมฝีปากแดงช้ำกับดวงตาฉ่ำเยิ้มนั่นยิ่งเรียกความต้องการของฝ่ายตรงข้ามมากขึ้น เมื่อผละออกจากริมฝีปากก็เริ่มมาซุกไซร้ที่ลำคอ ชางซอบเริดหน้าขึ้นพลางโอบกอดร่างนั้นแน่น

     

    เพล้ง....

    ร่างสูงมึนงงไปชั่วขณะ ชางซอบถีบร่างนั้นออกจากตัวทันที ในมือถือขวดแก้วที่แตกเนื่องจากฟาดลงบนศีรษะของชายหนุ่ม มือเล็กรีบจัดการสวมกางเกงกลับเข้าที่พลางวิ่งออกจากห้องโดยเร็วถึงจะยังสั่นๆกับเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นแต่เขาก็คงรอช้าไม่ได้ เพื่อนๆของชายหนุ่มที่ดื่มกินกันอยู่ข้างนอกต่างมองมาอย่างงงๆที่เห็นร่างเล็กวิ่งผ่านหน้าตัวเองไปโดยมีเพื่อนซึ่งกุมศีรษะตัวเองเดินออกมาจากห้องนั้น

    “ ตามมันไป จับมันมาให้ได้ มันตีหัวฉัน” เมื่อรู้ว่าตัวเองตามไม่ทันแน่ๆก็สั่งเพื่อนที่อยู่ใกล้ที่สุดให้ตามไป ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าตัวเองออกมาในสภาพไหน รู้อย่างเดียวคือหนีให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้

    “ เฮ้ยยยย อย่าหนีนะ คิดว่าจะรอดไปได้เหรอ” ชายร่างใหญ่สามคนวิ่งตามผมมา ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าจะไปทางไหนต่อดี เงินก็ไม่มีโทรศัพท์ก็โดนยึด ร่างบางวิ่งออกมาสู่ถนนใหญ่เบื้องหน้า ไม่มีเวลาให้คิดนานชางซอบจึงต้องเลือกสักทางเพื่อเอาตัวรอด

     


     

    _________________________________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×