ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #48 : Last special : Family 3/3 ( Drunk Moment )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 699
      4
      27 ก.พ. 56


     


    Changsub Part

    8 pm.

    @ Night Club

    “ ผมทำงานอยู่สตูฯข้างๆนะครับ มีอะไรโทรหาผมเลยนะ” จีฮุนเมื่อจอดรถอยู่หน้าร้านเสร็จก็หันมาคุยกับผมอย่างเป็นห่วง ผมจึงพยักหน้าเป็นคำตอบ

    “ คืนนี้ผมให้ลิมิตคุณแค่สามแก้วนะครับ ถือว่าผมขอนะ เพราะผมไม่ได้อยู่ด้วยผมเลยไม่อยากให้คุณดื่มเยอะ” เขาเอื้อมมือมาจับผมไปทัดหูให้ผม น้ำเสียงเขาดูกังวลอย่างมากจริงๆ ผมจึงกุมมือข้างนั้นไว้

    “ ไม่ต้องห่วงนะครับ ทุกคนก็ในงานก็มีแต่เพื่อนๆผมทั้งนั้น ผมสัญญาว่าจะดื่มไม่เกินสามแก้วแน่นอน และถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ ผมจะโทรหาคุณเป็นคนแรกเลย โอเค๊?” ผมทำมือโอเคพลางยิ้มให้เขาอย่างน่ารัก เขาจึงค่อยๆโน้มตัวมาจูบหน้าผากผมอย่างแผ่วเบา

    “ ดูแลตัวเองดีๆนะครับ งานเลิกแล้วโทรหาผมนะ ผมรักคุณนะครับ ชางซอบ” หลังจากที่เขาถอนจุมพิตไปเขาก็สั่งผมราวกับเด็กๆ

    “ คร้าบบบบบ ผมจะดูแลตัวเองดีๆครับ ผมก็รักคุณครับ จีฮุน” นานๆทีผมถึงจะพูดคำนี้ที แต่วินาทีนี้ผมกลับอยากบอกเขาจับใจ ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ก่อนลงจากรถผมจึงโน้มตัวไปหอมแก้มเขาทีนึง เขายิ้มให้ผมอย่างอบอุ่นก่อนจะขับรถออกไป

     

    เฮ้อออออออออออ

    ผมถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง นี่ก็นานแล้วนะที่ผมไม่ได้ออกมาดื่มกับเพื่อนๆโดยไม่มีจีฮุน เพราะปกติผมมักจะฉลองอยู่ที่บ้านรึไม่ก็ถ้าออกมาเที่ยวจริงๆ ก็จะมีฮยอนชิคมาเป็นเพื่อน มันรู้สึกโหวงๆแปลกๆแฮะ แต่คงไม่เป็นไรหรอกก็ทุกคนที่มางานนี้ล้วนแล้วแต่เป็นเพื่อนกันทั้งนั้น ผมมองเค้กในมือพลางเดินเข้าไปในไนต์คลับ

     

        ถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นไนต์คลับ แต่ก็เป็นคลับของคนมีเงินพอสมควร เพราะที่นี่จะแบ่งเป็นโซน ถ้าใครอยากแดนซ์ก็ไปที่ฟลอด้านล่าง แต่ถ้าแค่อยากมานั่งดื่มเฉยๆฟังดนตรีชิวๆ ก็จะมีเลาจ์แยกออกมาอีกต่างหาก และยังมีห้องแยกส่วนตัวสำหรับจัดเลี้ยงอีกด้วย ถือว่าเป็นคลับที่หรูมากเลยทีเดียว ผมเดินไปยังห้องที่เพื่อนของผมจองเอาไว้สำหรับจัดเลี้ยง ผมสูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะเปิดประตูเข้าไป

    “ อ๊ะ...พี่ชางซอบมาแล้ว” หญิงสาวคนนึงผละออกจากกลุ่มเพื่อนเมื่อเห็นเพื่อนสนิทของตนเดินเข้ามา

    Happy Birthday นะ ฮยอนอา”  ผมอวยพรเธอพลางยื่นเค้กให้ เธอคือ คิมฮยอนอา เพื่อนที่มีอายุน้อยกว่าผมปีนึง จริงๆแล้วเธอเป็นเพื่อนกับฮยอนชิค แต่ในเมื่อฮยอนชิคเป็นเพื่อนสนิทผม ผมก็เลยสนิทกับเธอด้วย เธอยิ้มให้ผมอย่างน่ารัก ถึงภายนอกเธอจะแต่งตัวเซ็กซี่แต่จริงๆแล้วนิสัยเธอไม่ได้เซ็กซี่ตามเสื้อผ้าที่เธอสวมใส่เลย เธอออกจะเป็นเด็กที่น่ารักและโก๊ะๆเสียด้วยซ้ำ

    “ ขอบคุณนะคะ พี่ทำเองใช่มั๊ยเนี่ย” ที่เธอถามออกมาแบบนี้เพราะเธอรู้น่ะสิว่าจีฮุนต้องเป็นคนทำแน่นอน

    “ อื้ม...ฉันกับจีฮุนช่วยกันทำน่ะ” ผมตอบออกไปอย่างเขินๆ เพราะมีไม่กี่คนหรอกที่จะรู้ว่าผมมีแฟนเป็นไอดอล เจ้าหล่อนยิ้มกว้างพลางมองไปด้านหลังผมราวกับมองหาใครบางคน

    “ แล้วนี่พี่จีฮุนไม่มาเหรอคะ” ถึงจะบอกว่าเป็นเพื่อนสนิทแต่เธอก็มักจะใช้คำสุภาพกับผมเสมอ

    “ อ่อ ...เขาติดงานน่ะ มาด้วยไม่ได้ ขอโทษด้วยนะ”

    “ มิน่าล่ะ...ปกติเขาไม่ปล่อยให้พี่ออกมาคนเดียวแน่ เอาเถอะค่ะ ตามสบายเลยนะคะ” ฮยอนอาโค้งให้ผมพลางถือเค้กไปวางไว้บนโต๊ะ ผมจึงเดินไปหาร่างคุ้นตาก่อนจะเอาแขนกอดคอเพื่อนเอาไว้

    “ ไงฮยอนชิค วันนี้ฉายเดี่ยวเหรอ” ผมถามขึ้นเมื่อไม่เห็นอิลฮุลข้างกายเขา

    “ อืม...เขาติดงานน่ะ นายล่ะ? พี่จีฮุนไม่มาด้วยกันเหรอ” ฮยอนชิคหันมายิ้มตาหยีให้ผมพลางมองหาคนที่มักจะมากับผมเสมอ นี่...แสดงว่าผมกับจีฮุนตัวติดกันขนาดนั้นเลยใช่มั๊ย? ใครๆถึงได้ถามแบบนี้

    “ เขาติดงานน่ะ อ๊ะ!! ฮยอนชิค ไปเล่นพูลกันสักเกมส์มั๊ย” ผมถามเพื่อนรักเมื่อมองไปยังโต๊ะพูล( สนุ๊กเกอร์) ซึ่งตั้งอยู่กลางห้อง ว้าว....มีเรื่องสนุกๆให้ทำซะแล้วสิ

    “ ฉันขอบายล่ะ กีฬาอะไรที่นายถนัดฉันเล่นไม่เป็นสักอย่างเลย ชวนคนอื่นเถอะ” ฮยอนชิคปฏิเสธผมทันที ก็แหงล่ะ!! เล่นทีไรเขาก็แพ้ผมทุกที แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรก็ถึงเวลาเป่าเค้กวันเกิดของเจ้าภาพแล้ว เราทุกคนจึงไปรวมตัวกันที่โต๊ะมุมห้องพลางร้องเพลงให้กับฮยอนอา หลังจากตัดเค้กเรียบร้อยแล้วทุกคนก็ต่างมยืนคุยถามสารทุกข์สุขดิบกัน ผมจึงแยกออกมายืนมองโต๊ะพูลที่ไม่มีใครคิดจะเล่น เฮ้อออออ สงสัยคงอดอีกแล้วสินะ ถ้าไม่คิดจะเล่นจะจองห้องที่มีโต๊ะทำไมกันนะ รู้มั๊ย?มันยั่วกันอย่างมากเลยนะเนี่ย  แต่ก่อนที่ผมจะตัดใจ ก็มีมือเล็กๆมาจับไหล่ซะก่อน

    “ พี่ชางซอบคะ ฉันมีคนอยากให้พี่รู้จักน่ะ” เจ้าภาพนั่นเองที่เดินเข้ามาหาผม ผมมองผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆเธอ เอ๊ะ...รอยยิ้มแบบนี้เหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อนนะ

    “ พี่ชางซอบคะ นี่พี่แบคซึงฮอนค่ะ เป็นรุ่นพี่ที่ทำงานของฉันเอง” เขาแนะนำผู้ชายข้างๆให้ผมรู้จัก ส่วนสูงคุ้นๆแฮะ สูงแต่ไม่เท่าจีฮุน ใบหน้าเรียวยาว จมูกโด่งเป็นสัน แถมมีลักยิ้มแต่งแต้มอยู่บนรอยยิ้มอันบริสุทธิ์

    “ สวัสดีครับ คุณวิปครีม” เขาทักผมยิ้มๆพลางโค้งศีรษะให้ อ้อ...เขาน่ะเอง คนที่ผมเคยเจอที่ซูเปอร์นี่นา ผมจึงโค้งให้เขาอย่างเขินๆ

    “ ผมลีชางซอบครับ ขอโทษนะครับที่วันนั้นเราเสียมารยาทไปหน่อย”

    “ พี่สองคนรู้จักกันแล้วเหรอคะ” ฮยอนอามีสีหน้างุนงงกับการกระทำของทั้งคู่

    “ อ๋อ เราบังเอิญเคยเจอกันน่ะครับ แต่เพิ่งทักทายเป็นทางการก็วันนี้ล่ะ” ซึงฮอนหันไปตอบข้อสงสัยของรุ่นน้อง หล่อนจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ

    “ ว่าแต่ ฮยอนอา ทำไมถึงจองห้องที่มีโต๊ะพูลล่ะ ทั้งๆที่ไม่มีใครเล่นสักหน่อย” ผมจับไม้คิวขึ้นมาพลางพลิกไปมาในมือ

    “ ใครบอกว่าไม่มีคนเล่นล่ะคะ ก็พี่ไง ฉันรู้ว่าพี่ชอบเล่นก็เลยจองไว้ให้พี่โดยเฉพาะ”

    “ แล้วฉันจะเล่นกับใครล่ะ ก็ในเมื่อในที่นี้ไม่มีคนเล่นเป็นเลย” ชางซอบบู้ปากอย่างงอนๆ ทำเอาอีกคนที่ยืนมองอยู่ถึงกับนิ่งไปเลย

    “ ก็ฉันหามาให้พี่แล้วนี่ไง พี่ซึงฮอนเล่นกับพี่ชางซอบสักเกมส์นะคะ” เธอเขามือไปเขย่าแขนคนข้างตัว ทำให้ผมรู้ทันทีว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่ต้องไม่ธรรมดาแน่ๆ ชายหนุ่มยิ้มให้หญิงสาวข้างตัวก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ เขาเดินไปหยิบไม้คิวพลางมาหยุดอยู่ใกล้ๆผม

    “ ฝากตัวด้วยนะครับ เล่นเต็มที่เลยนะ ไม่ต้องออมมือ” มาแล้วสิครับ สารท้ารบของผม รอยยิ้มบริสุทธิ์เมื่อครู่เปลี่ยนเป็นเจ้าเล่ห์ในพริบตา เอ๊ะ!!!  เขาเป็นคนยังไงกันแน่นะ ผมชักอยากจะรู้ซะแล้วสิ

    “ ได้เลยครับ ผมไม่ออมมือแน่นอน” สายตาที่เขามองมาราวกับซ่อนอะไรบางอย่างซึ่งผมเองก็อ่านไม่ออกเหมือนกัน แต่มันคล้ายๆกับจีฮุนเวลาต้องการแกล้งอะไรผมสักอย่าง ไม่น่าไว้ใจเลยแฮะ แต่ช่างมันเถอะ ผมคงคิดมากไปเองล่ะมั้ง

    “ เอ...แต่ถ้าจะแข่งกันเฉยๆก็ดูจะไม่สนุกเลยแฮะ คุณว่ามั๊ย?” เขาหันมาถามความเห็นผมเมื่อเรายืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกันโดยมีโต๊ะพูลเป็นตัวกั้น

    “ งั้นผมขอเดิมพันด้วยวอดก้าเพียวๆขวดนั้นละกัน” เขาชี้ไปยังขวดวอดก้าที่วางเด่นอยู่กลางโต๊ะ นี่เขาจะดวลเหล้ากับผมรึไงนะ แต่คนอย่างชางซอบซะอย่าง ไม่กลัวอยู่แล้ว ผมยักคิ้วให้เขาก่อนจะตอบกลับไป

    “ ผมมีเหตุผลจำเป็นบางอย่างที่ดื่มได้แค่สามแก้วเท่านั้น คุณยังอยากจะเดิมพันมันอยู่มั๊ย” เขายิ้มก่อนจะพยักหน้าตอบมา

    “ งั้น แค่แก้วเดียวก็พอแล้วครับ แก้วเดียวก็เกินพอแล้วล่ะ” ถึงเขาจะยิ้มตอบกลับมาแต่ข้างในมันแฝงอะไรมากกว่านั้น แต่ตอนนี้ผมไม่สนแล้ว ทิฐิในตัวผมมันสูงกว่าน่ะสิ คนอย่างชางซอบฆ่าได้หยามไม่ได้โว้ยยยยย

    “ มาเลยครับ จะกี่แก้วผมก็สู้”

    “ คุณแน่ใจนะว่าจะแข่งกับชางซอบเพื่อนผมน่ะ เขาไม่ธรรมดานะครับ” ฮยอนชิคเดินมากอดคอผมพลางท้าฝั่งตรงข้ามไปด้วย เจ้าตัวทำได้แค่ยิ้มตอบกลับมา

     “ เดี๋ยวก็รู้กันครับ มาเสี่ยงทายกันเลยเถอะ” สิ้นสุดคำท้ารบเราก็เริ่มแข่งทันทีโดยผมเป็นคนแทงเปิด เพื่อนๆต่างกรูเข้ามายืนรอบโต๊ะเพื่อดูการแข่งขันอันน่าตื่นเต้นใกล้ๆ เพราะบางคนก็ยังไม่เคยเห็นผมเล่นกับตาตัวเองเหมือนกัน

        เวลาล่วงเลยเข้าช่วงสุดท้าย ตอนนี้แต้มเราสูสีกันมาก ผมไม่คิดว่าเขาจะมีฝีมือมากขนาดนี้ เขาเก่งพอๆกับพี่อึนกวังเลยก็ว่าได้ เอาล่ะ...ผมจะเสี่ยงทายกับลูกสุดท้ายนี้ล่ะ ผมเล็งไม้คิวไปยังลูกเป้าหมาย ผู้ชมต่างพากันกลั้นหายใจเพื่อดูลูกตัดสินนี้ ผมเองก็ใจเต้นรัวเหมือนกัน เพราะไม่ได้แข่งจนมาถึงแต้มนี้นานแล้ว แต่ดูเหมือนคู่แข่งผมเขาจะสบายๆไม่รู้สึกอะไรเลย เฮอะ...มั่นใจจริงนะ เดี๋ยวชางซอบจะโชว์ให้ดู

    ...................................

    .....................

    .........

    ...

    .

    ตึง!!!

    ทุกคนถอนหายใจออกมาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

    “ รู้มั๊ย? นักกีฬามักจะมาตกม้าตายเพียงเพราะกดดันตัวเองมากเกินไปน่ะ” คำพูดของเขาช่างเสียดแทงหัวใจผมจริงๆเลย มันพลาดไปนิดเดียวเองเท่านั้น เสียดายชะมัด ซึงฮอนยิ้มพลางส่งลูกลงหลุมอย่างสบายใจ

    “ เอาล่ะ...จะกี่แก้วก็มาเลย ผมไม่เกี่ยง” เมื่อรู้ว่าแพ้แล้วผมก็วางไม้คิวอย่างเซ็งๆ ก่อนจะยื่นมือไปจับกับคู่แข่ง เพื่อนๆต่างพากันแยกย้ายออกไปเมื่อการแข่งขันจบ บางคนก็ขอตัวกลับก่อน เจ้าเพื่อนตัวดีของผมก็เหมือนกัน อุตส่าหวังพึ่งมันสักหน่อย ตกลงผมต้องดื่มจริงๆสินะ

    “ อิลฮุลเพิ่งโทรมาบอกว่าเลิกงานแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะ เดี๋ยวเขาจะคอยนาน” นี่คือคำสุดท้ายที่เพื่อนรักผมทิ้งไว้แล้วก็จากไปอย่างรวดเร็ว  ผมจึงไปนั่งที่เคาเตอร์บาร์ติดกระจกซึ่งจะมองเห็นวิวของกรุงโซลยามค่ำคืนได้อย่างชัดเจน เจ้าภาพเองก็ทยอยส่งแขกทีละนิดๆ

    “ นี่ครับ ตามสัญญา” มือนึงยื่นแก้ววอดก้ามาให้ผม ก่อนจะยกแก้วตัวเองขึ้นชนแก้วผมเหมือนกัน

    “ ดื่มเป็นเพื่อนผมหน่อยนะ” เขายังคงยิ้มละมุนมาให้ ซึ่งมันแตกต่างกับเมื่อกี้ลิบลับเลยล่ะ

    “ อ่าว แล้วคุณปล่อยให้ฮยอนอาอยู่คนเดียวแบบนั้น เขาไม่เหงาแย่เหรอครับ” ผมถามพลางมองไปยังเจ้าภาพของงานที่ยังคงยิ้มแฉ่งบอกลาเพื่อนๆ

    “ อ๋อ...เราเป็นแค่พี่น้องกันน่ะครับ ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดหรอก” เขายกแก้วขึ้นจิบ ผมมองอย่างอึ้งๆ นี่เขาปัดความสัมพันธ์ได้อย่างหน้าตาเฉยเลยเหรอเนี่ย

    “ ว่าแต่....อะไรคือเหตุผลที่คุณดื่มได้แค่สามแก้วล่ะครับ บอกผมได้มั๊ย รึว่าคุณกลัวขับรถไม่ไหว ผมไปส่งคุณได้นะ ถ้าคุณไม่รังเกียจ” เขายื่นไมตรีมาให้ผม นี่เขาตั้งใจจะทำอะไรกันนะ จะจีบผมเหรอ? รึว่าจะมอมเหล้าผมกันนะ แต่เสียใจล่ะ คนอย่างผมคอทองแดง ไม่เมาง่ายๆหรอก

    “ คุณอยากรู้จริงๆน่ะเหรอ ข้อหนึ่ง ผมไม่ได้รังเกียจไมตรีของคุณนะ” เอาล่ะครับ นิสัยเสียของผมเริ่มออกแล้ว ผมวางแก้วพลางมองเข้าไปในแววตาของเขา ก่อนจะเอามือเท้าคางจ้องใบหน้านั้นนิ่ง นัยน์ตาเขาดูเป็นประกายเล็กน้อย

    “ ข้อสอง คืนนี้ ผมไม่ได้เอารถมา” ผมนั่งไขว่ห้าง ใช้นิ้วทัดผมที่ตกลงมาบริเวณหลังใบหูพลางส่งสายตาหยาดเยิ้มไปให้ ซึงฮอนดูจะสติหลุดไปนิด เขาขยับใบหน้าเข้ามาใกล้ผมเล็กน้อย แต่ผมรั้งไว้ก่อนโดยใช้มืออีกข้างดันหน้าอกเขาไว้ ผมกระดกเหล้าที่เหลือเข้าปากก่อนจะเลื่อนหน้าไปข้างหูพลางกระซิบเบาๆ

    “ และข้อสุดท้าย เพราะแฟนผมเขาสั่งห้ามน่ะสิ ขอบคุณนะครับสำหรับความหวังดีของคุณ แต่ผมขอรับมันไว้ด้วยใจก็พอ” เมื่อผมผละออกมาดูเหมือนเขาจะช็อคไปนิด นี่ล่ะครับ นิสัยเสียของผม ชอบยั่วเพื่อให้ความหวังแล้วก็พังทลายไปต่อหน้าต่อตา เขากระแอมเบาๆเพื่อเรียกสติกลับมา

    “ งั้นหรอกเหรอครับ แล้วถ้าไม่รังเกียจ ให้เกียรติเต้นรับผมสักเพลงนะครับ” พูดจบเขาก็ลากผมไปยังฟลอเต้นรำทันที อะไรกัน ผมไม่ได้อยากเต้นรำด้วยสักหน่อย หมอนี่ร้ายชะมัด มัดมือชกผมอยู่ได้ ผมนี่ก็งี่เง่าจัง ไม่น่าไปยั่วเขาเลยจริงๆ

      เขาขออนุญาตผมก่อนจะโอบเอวผมเข้าไปใกล้ ตอนนี้ใบหน้าของเราห่างกันไม่ถึงคืบ ทั้งๆที่ในห้องแอร์ออกจะเย็นแต่ทำไมผมกลับรู้สึกร้อนจังแฮะ ยิ่งฝ่ามือร้อนๆนั้นสัมผัสผ่านส่วนต่างๆของร่างกายมันยิ่งรู้สึกแปลกๆ เอ๊ะ!!! ผมเป็นอะไรไปเนี่ย นี่ผมเมาแล้วเหรอ แต่ผมเพิ่งดื่มไปได้แค่แก้วเดียวเองนะ ถึงมันจะเพียวๆแต่มันก็ไม่น่าจะทำอะไรผมได้นี่นา

    “ เป็นอะไรไปครับ ไม่สบายตรงไหนเหรอ” ซึงฮอนก้มลงกระซิบข้างหู เสียงทุ้มนุ่มนั้นทำเอาผมตาลาย ตอนนี้ขาผมชักจะไม่มีแรงซะแล้วสิ ผมจึงเกาะแขนแกร่งไว้มั่น

    “ เอ่อ ผมขอพักสักครู่นะครับ รู้สึกไม่ดีเลย” ผมพยายามทรงตัวไปนั่งเก้าอี้ตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด

    “ คุณเมาเหรอ ขอโทษนะครับที่ให้คุณดื่มเพียวๆแบบนี้ เพียงแค่ผมรู้มาจากฮยอนอาว่าคุณคอแข็ง ก็เลยว่าจะลองสักหน่อย ไม่คิดว่าจะทำให้คุณรู้สึกแย่ขนาดนี้” ซึงฮอนกล่าวขอโทษอย่างมรู้สึกผิด

    “ งั้นคุณรอผมก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหาผ้าเย็นมาให้ แล้วจะไปส่งคุณนะ” ตอนนี้ซึงฮอนพูดอะไร ผมได้ยินไม่ถนัดเลย หูมันอื้อไปหมด ผมชักจะวิงเวียนซะแล้วสิ เมื่อเขาผละออกไปผมล้วงหาโทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงทันที พลางกดเบอร์โทรออกฉุกเฉินซึ่งเป็นเพียงเบอร์เดียวที่ผมเมมไว้

    [ งานเลิกแล้วเหรอ เร็วจัง นี่เพิ่งสี่ทุ่มเองนะ ] เสียงปลายสายถามมาอย่างสงสัย

    “ จีฮุน...มารับผมหน่อย ผมรู้สึกไม่ดีเลย ผมจะลงไปรอคุณหน้าคลับนะ” แต่ละคำกว่าจะเปล่งออกจากปากผมได้นี่มันยากเย็นจริงๆ พูดจบผมวางสายทันทีก่อนจะคว้าเอาถังน้ำแข็งแถวนั้นมาราดหัวตัวเองให้มันเย็นลง ฮยอนอาดูตกใจอย่างมากพลางรีบวิ่งมาทางผม

    “ พี่ชางซอบเป็นอะไรไปคะ ทำไมทำแบบนั้น เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก” เธอพยายามจะเช็ดน้ำออกจากใบหน้าของผม ผมจึงจับมือนั้นไว้นิ่งก่อนจะมองลึกเข้าไปในดวงตาของหล่อน

    “ พี่ขอเตือนนะฮยอนอา ถ้าเป็นไปได้ เลิกยุ่งกับผู้ชายคนนั้นซะ สุขสันต์วันเกิด” ผมเตือนรุ่นน้องก่อนจะพยายามพาร่างที่แทบจะไร้เรี่ยวแรงออกจากห้องนั้นไป ผมไม่อยากจะนั่งตรงนั้นอีกสักวินาทีเดียว เมื่อรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับตัวผม ผมใช้กำแพงของคลับเป็นที่ยึดเหนี่ยว ผู้ชายรอบข้างต่างมองมาเป็นตาเดียว หลายคนอยากจะเข้ามาช่วยผมแต่กลับโดนสายตาเพชรฆาตของผมขู่ไว้ก่อน หึ!! มีแต่พวกไม่จริงใจทั้งนั้น โทรศัพท์ผมดังอีกครั้ง เร็วจังแฮะ เออ...จริงสิ เขาทำงานอยู่ตึกข้างๆนี่นา

    “ ผมกำลังลงไปครับ” เสียงของผมปกติจะยานคาง แต่ตอนนี้ยิ่งแต่แล้วใหญ่

    [ คุณอยู่ตรงไหน ตอนนี้ผมเข้ามาแล้ว ] จีฮุนตะโกนแข่งกับเสียงเพลง ทำไมกันนะพอผมได้ยินเสียงของเขา ผมกลับโล่งใจอย่างประหลาด

    “ ผมอยู่ตรงบันไดบริเวณชั้นสอง กำลังลงไปแล้วครับ คุณรอหน่อยนะ” ผมรู้สึกว่าตอนนี้ตัวเองเริ่มหายใจติดๆขัดๆ จริงๆแล้วเหล้าแค่แก้วเดียวทำอะไรผมไม่ได้หรอก ถ้าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอยู่ในนั้นน่ะ

    [ โอเคครับ ผมจะรีบไปหาคุณนะ คุณรอผมตรงนั้นล่ะ ] เมื่อพูดจบเขาก็วางสายทันที ผมจึงตัดสินใจยืนพิงกำแพงพลางหลับตาลง มือข้างนึงผมถูกจับ ผมจึงยิ้มออกมา ดีใจจังที่เขาหาผมเจอเร็วขนาดนี้ ผมอยากกอดเขาใจจะขาด

    “ อยู่ตรงนี้นี่เอง ผมหาคุณตั้งนานแน่ะ” ผมลืมตาขึ้นทันทีเมื่อได้ยินเสียงคุ้นหู

     

    เพี๊ยะ!!!

    ฝ่ามือผมมันเร็วกว่าความคิด ดันฟาดลงบนใบหน้าหล่อนั้นทันที เขาหันกลับมาแต่ยังคงยิ้มหน้าเป็นอยู่อย่างนั้น ซาตานชัดๆ

    “ คนสวยๆมักจะมือหนักอย่างนี้ทุกคนรึเปล่าครับ” เขาถามเสียงนุ่มมือคลึงแก้มป้อยๆ รู้สึกว่าปากจะแตกนิดๆด้วย แต่ผมไม่รู้สึกผิดหรอก

    “ คนเลว นายใส่อะไรให้ฉันดื่ม เจ้าเล่ห์ที่สุด” ถึงผมจะไม่มีแรงแต่ฝีปากผมยังถือว่าใช้ได้อยู่

    “ ก็ไม่มีอะไรนี่ครับ ก็แค่อะไรบางอย่างที่จะทำให้คุณรู้สึกดีเท่านั้นเอง” เขารวบเอวผมเข้าไปหาตัวซะแล้ว บ้าจริง!!!   

    ที่อโคจรแบบนี้ไม่มีใครเขาสนใจหรอกว่าใครจะทำอะไร เขาค่อยๆโน้มหน้ามาหาผม นี่ผมหลงไปกับไอ้รอยยิ้มจอมปลอมนั่นได้ไงนะ แต่ก่อนที่ปลายจมูกโด่งจะชนกับใบหน้าผม ร่างสูงของเขาก็โดนดึงออกอย่างรวดเร็ว

    “ นายไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับคนของฉันนะ” จีฮุนเหวี่ยงร่างสูงของอีกคนไปชนกับราวบันได ผู้คนที่ยืนอยู่แถวนั้นเริ่มกระจายตัวออกทันที

    “ อัศวินมาเร็วจัง ยังไม่ทันได้สนุกเลย แล้วเจอกันใหม่นะ คนสวย” เขาพูดยียวนก่อนจะพลิกตัวเดินจากไป แต่จีฮุนกลับคว้าแขนนั้นไว้เสียก่อน แต่ตอนนี้ผมเองก็ไม่ไหวแล้ว จึงรวบรวมแรงทั้งหมดที่มีกระโดดเข้ากอดจีฮุนก่อนจะหมดสติไป ร่างสูงทำอะไรไม่ได้จึงจำเป็นต้องปล่อยคู่กรณีไปแล้วหันมาสนใจร่างเล็กแทน

    “ ชางซอบ....ชางซอบ โถ่...ผมจะรีบพาคุณกลับบ้านนะ” พูดจบเขาก็ช้อนร่างของคนรักขึ้นแนบอกทันทีก่อนจะพาออกจากคลับไป




    ติดตามชมตอนต่อไป ( ยังไม่จบนะคะ)


     


     

    ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ ที่ให้รอกันนานขนาดนี้ สำหรับพาทนี้ต้องขอโทษแฟนคลับของหนุ่มแบคซึงฮอนเป็นอย่างสูงเลยค่ะ ที่ต้องให้เขามาเป็นแบดบอยขนาดนี้ เพื่ออรรถรสและความต่อเนื่องเนื้อเรื่องจึงเป็นเช่นนี้ แต่เรื่องหน้า ไรต์สัญญาว่าจะเขียนให้เขาออกมาเป็นคนดีแน่นอนค่ะ จริงๆแล้วตั้งใจจะเขียนให้จบในตอนเดียว แต่มันไม่เป็ยเช่นนั้นสิคะ โปรดรอตอนสุดท้ายที่กำลังจะมาถึงด้วยนะคะ เนื่องจากมันยาวมาก ไรต์จำเป็นต้องตัดเป็นสองตอนค่ะ ขออภัยในความไม่สะดวกด้วยค่ะ

    ใกล้จบแล้วรบกวนช่วยเม้นเพื่อเป็นแนวทางของเรื่องต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ


    _________________________________________________________________________________________________


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×