ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #38 : Last Floor : shy ( Hyunsik Part )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 896
      6
      29 ม.ค. 56


     

    “ อิลฮุล ทำอะไรน่ะ” ผมถามขึ้นหลังจากเห็นอิลฮุลนั่งอ่านใบปลิวอะไรบางอย่าง

    “ ผมกำลังหาทำเลย์น่ะ” อิลฮุลยุ่งอยู่กับกองกระดาษจึงไม่หันกลับมามองผมบ้างเลย

    “ ทำเลย์อะไรเหรอ ก็เราเพิ่งย้ายบ้านกันนี่นา” คุณได้ยินถูกแล้วล่ะครับ เราเพิ่งย้ายบ้านกัน โดยซื้อบ้านสองชั้นหลังเล็กๆในย่านใกล้เคียงกับหอพักขับรถไม่กี่นาทีก็ถึงแล้ว ผมทำงานเป็นโปรดิวเซอร์และเป็นครูใน Cube Ent. โรงเรียนศิลปะดนตรีและการแสดงของพี่อึนกวังกับพี่มินฮยอก รายได้ดีทีเดียวล่ะ เพราะทุกวันมีนักเรียนแน่นเอี๊ยด ครอสที่ผมเปิดสอนก็เต็มทุกครอสพวกเราจึงทำงานหนักกันมากขึ้น แต่คนที่ดูจะทำงานหนักกว่าผมก็คือคนตัวเล็กๆที่นั่งอยู่ข้างๆผมนี่แหละครับ ตั้งแต่เขาเรียนจบมาผมก็เห็นเขายุ่งตลอด ทั้งเขียนงานทั้งประสานงาน

    “ ผมอยากขยายกิจการน่ะครับ พอดีประชุมกับผู้ร่วมหุ้นคนอื่นๆแล้วเห็นสมควรว่าจะขยายสาขาออกไปอีกน่ะครับ” อิลฮุลกล่าวอย่างเป็นการเป็นงาน ผมรู้สึกว่าเขาดูโตขึ้นกว่าแต่ก่อนเยอะมาก ทำนู่นทำนี่ด้วยตัวเองและที่สำคัญเขาสามารถทำตามความฝันของตัวเองได้สำเร็จโดยเปิดร้านเสื้อผ้าเป็นแบรนด์ของตัวเองร่วมหุ้นกับเพื่อนๆในสาขาที่เรียนด้วยกันที่มหาลัย

    “ มีอะไรให้พี่ช่วยมั๊ย บอกได้นะครับ” ผมเดินเข้าไปนั่งกอดเขาทางด้านหลังพลางเกยคางลงบนไหล่มน ซึ่งอิลฮุลยอมละสายตาจากหน้ากระดาษมาส่งยิ้มให้ผม

    “ มีสิครับ ช่วยทำมื้อเย็นแทนผมทีนะ เพราะตอนนี้ผมไม่มีอารมณ์ทำอาหารเลย” อิลฮุลใช้มือบีบจมูกผมอย่างอ้อนๆ ยิ่งเอาหน้าเข้ามาใกล้ผมยิ่งใจเต้นนะเนี่ย

    “ ว้า...พี่ก็ไม่มีอารมณ์ทำอาหารแล้วอ่ะ แต่อยากทำอย่างอื่นมากกว่า”พูดจบก็ซุกจมูกลงบนแก้มเนียน อิลฮุลจึงโน้มตัวหนีพลางตีแขนคนรักเบาๆ

    “ ไม่ต้องมามั่วเลยนะครับ ผมทำงานอยู่นะ พี่นี่กวนจริงๆ” อิลฮุลดุคนรักขณะตัวเองก็อยู่ในอ้อมกอดเขา มันช่างไม่มีความหนักแน่นในคำดุนั้นเลยจริงๆ ฮยอนชิคยิ้มมุมปากก่อนจะผลักให้อิลฮุลนอนลงกับพื้นและส่งตัวเองไปคร่อมร่างนั้น อิลฮุลเหวอไปนิดก่อนจะหน้าขึ้นสีเรื่อ

    “ พี่ฮยอนชิคบ้า เล่นไม่ดูเวล่ำเวลา นี่มันได้เวลามื้อเย็นแล้วนะและผมก็หิวแล้วด้วย” อิลฮุลดุผมแต่กลับหันหน้าหนีไปอีกทาง เสื้อเชิ้ตที่ถูกปลดกระดุมเอาไว้เผยให้เห็นซอกคอขาว ผมอดใจไม่ไหวจึงก้มลงจูบซอกคอหอมกรุ่นนั้น อิลฮุลเอียงหน้าหลบพลางพยายามดันผมออกห่าง

    “ พี่ฮยอนชิค ปล่อยผมนะ พรุ่งนี้ต้องส่งแผนงานแล้ว เดี๋ยวจะไม่เสร็จ” ถึงเขาจะห้ามผมแต่น้ำเสียงกลับสั่นเครือ

    “ ก็พี่อยากกินอิลฮุลแทนมื้อเย็นนี่นา” อิลฮุลหันมาค้อนผมอย่างน่ารัก ก่อนจะดิ้นขลุกขลักเมื่อรู้ว่าถ้าอยู่อย่างนี้ต่อไปตัวเองต้องไม่รอดแน่

    “ พี่ไปอาบน้ำเถอะครับ มื้อเย็นผมทำเองก็ได้” อิลฮุลผุดลุกขึ้นมาทำเอาหน้าเราใกล้กันมากขึ้น

    “ ถอดเสื้อให้พี่ก่อนสิ แล้วพี่จะยอมไป” ผมนึกอยากแกล้งเขาอีกนิดจึงพูดไปแบบนั้น อิลฮุลกัดริมฝีปากล่างพลางหลุบตาลงอย่างชั่งใจก่อนจะตัดสินใจ ยกมือขึ้นปลดกระดุมให้ผม มือเล็กๆนั้นสั่นเทาใบหน้าขึ้นสีเรื่อ เขาหันหน้าหนีอย่างเขินอาย ผมจึงยิ้มมุมปากก่อนจะกุมมือเขาไว้ อิลฮุลเงยหน้าผมอย่างไม่เข้าใจ ผมเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมนะ ทั้งๆที่เราคบกันมาตั้งนานและมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งต่อกัน แต่เขากลับยังเขินอายทุกครั้งที่เห็นเรือนร่างผม (เป็นใครใครก็ต้องเขินล่ะ ก็หุ่นแกน่ากินขนาดนั้นอ่ะ ชิค...ไรต์) ผมค่อยๆสอดนิ้วเข้าไปหลังกกหูก่อนจะดึงร่างเล็กนั้นมาจูบ อิลฮุลกลั้นใจนิ่งมือยังคงกำเสื้อผมแน่น

    “ ทำไมกันนะ ทุกครั้งที่พี่กอดอิลฮุล อิลอูลจะเขินจนทำอะไรไม่ถูกทุกที” เสียงทุ้มนุ่มดังอยู่ข้างหูคนตัวเล็ก

    “ ก็....ผมแค่ไม่อยากจะเชื่อตัวเอง ว่าได้เป็นเจ้าของร่างกายนี้ และคิดมาเสมอว่าผมคู่ควรกับพี่รึเปล่า ผมไม่อยากจะเชื่อจริงๆว่าคนที่ผมเคยได้แต่แอบมองกลับเป็นของผมจริงๆ” อิลฮุลใช้สองมือกุมหน้าผมพลางกวาดสายตาไปทั่วใบหน้า ผมจึงจับมือนั้นมาวางบนหน้าอกอันเปล่าเปลือยนี้เพื่อให้เขาสัมผัสถึงความอุ่นและจังหวะการเต้นของหัวใจอันสั่นรัวของผม

    “ ไม่มีใครสามารถทำให้ใจพี่เต้นได้แบบนี้อีกแล้วล่ะครับ ครั้งแรกที่พี่เจออิลฮุลมันกระตุกอย่างแรงและเต้นแบบนี้ตลอด หลังจากนั้นมันก็ไม่เคยเปลี่ยนจังหวะอีกเลย คราวนี้อิลฮุลจะเชื่อรึยัง ว่าพี่เป็นของอิลฮุลจริงๆ” เขามองผมนิ่งก่อนจะผลักผมนอนลงและตัวเองก็ขึ้นมานั่งทับผมแทน

    “ ผมขอบคุณนะครับ ที่พี่รักและอดทนกับความเป็นเด็กของผม ต่อจากนี้ไปผมจะมั่นใจในตัวเองเพื่อพี่นะครับ” พูดจบเขาก็เป็นฝ่ายก้มลงมาจูบผมเอง ผมจึงกอดเอวบางนั้นแนบชิดกับตัว

     

    จุ๊บ...

    เขาปิดท้ายด้วยการจุ๊บเบาๆก่อนจะยืดตัวขึ้น

    “ ผมไปดีกว่า เดี๋ยวมื้อเย็นจะไม่เสร็จ แบร่” อิลฮุลแลบลิ้นให้ผมก่อนจะรีบกระโดดออกไปยังห้องครัว

    “ โธ่...อิลฮุลทำอย่างนี้กับพี่ได้ไง รู้มั๊ยว่าเครื่องมันติดแล้วดับยากนะ” ผมตะโกนออกไปหวังให้คนข้างนอกเห็นใจ แต่กลับได้รับคำตอบอันแสนเจ็บปวดกลับมา

    “ ก็เรื่องของพี่สิ จัดการตัวเองแล้วกัน” เมื่อได้รับคำตอบแบบนั้นผมจึงได้แต่นอนหัวเราะเพื่อให้ใจตัวเองเย็นลง ถ้าผมออกไปเห็นเขาในสภาพแบบนี้ รับรอง ข้าวเย็นก็ข้าวเย็นเถอะผมไม่สนอะไรทั้งนั้นล่ะ

     ผมเดินเข้าห้องน้ำพลางส่องกระจก เห็นคิสมาร์คสีเรื่อประทับอยู่บนอกข้างซ้ายทำเอาผมแทบคลั่งเลยทีเดียว

    “ แสบนักนะอิลฮุล ได้เจอดีแน่” ผมส่องกระจกพลางลูบรอยคิสมาร์คนั้นไปมา ผมไม่ได้โกรธนะครับแค่รู้สึกเสียศักดิ์ศรีของความเป็นชายที่ถูกอีกฝ่ายชิงฝากรอยไว้ก่อนซะงั้น

    “ อิลฮุลๆ หยิบผ้าเช็คตัวให้พี่หน่อยสิ” ผมตะโกนออกไปได้ยินเสียงเจ้าตัวเล็กบ่นมาแต่ไกล

    “ อะไรกัน ผมบอกกี่ครั้งแล้วว่าเวลาอาบน้ำให้เอาเข้าไปด้วย อ๊ะ!!” เมื่อเปิดประตูเข้ามาได้ก็บ่นงึมงำๆ ก่อนจะโดนผมซึ่งซ่อนอยู่หลังประตูกระโดดกอดเข้าอย่างจัง

    “ เล่นอะไรของพี่เนี่ย ผมทำกับข้าวอยู่นะ”

    “ จะรับผิดชอบยังไงบอกมาสิ” ผมชี้รอยคิสมาร์คให้เขาดู เจ้าตัวยักไหล่

    “ รับผิดชอบอะไร ผมไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย” เขาปฏิเสธเสียงแข็งแต่ไม่ยอมมองหน้าผมตรงๆ

    “ งั้น พี่คิดบัญชีเองแล้วกัน” ผมพูดจบก็ช้อนร่างนั้นขึ้นนั่งบนเคาเตอร์อ่างล้างหน้า ก่อนจะถอดเสื้อเชิ้ตนั้นออก ผมจะทำให้ซอกคอขาวๆนี้ไม่มีที่ว่างเลยคอยดู
     

    เหลือพาทฮุนซอบพาทสุดท้ายแล้วค่ะ ถ้าอยากให้เขียนสเปเชี่ยลคู่ไหนก็เม้นบอกกันได้นะคะ ไรต์จะเขียนตามคำขอเลยล่ะ รึว่าถ้ามีพอร์ทเรื่องดีๆเสนอได้เลยนะคะ ยังไงก็ฝากเผยแพร่ฟิคชั่นเรืิ่องนี้ต่อไปด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×