ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #20 : 19th Floor : Alcohol

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 931
      5
      8 ม.ค. 56


     

    Peniel Part

    “ พีเนียล” เสียงของทั้งสองเปล่งออกมาพร้อมกัน แต่ต่างกันตรงที่อินกุกเพียงแค่เรียกเฉยๆ แต่ซองเจนั้นตกใจ

    “ จูบเหรอ!!!  อย่างนี้สินะ” ผมรู้สึกว่าทุกอย่างดับวูบไปหมดเพียงแค่ได้ยินเสียงผู้ชายคนอื่นในห้องของซองเจ แล้วนี่ยังได้ยินว่าพวกเขาจูบกันอีก ทั้งๆที่ผมเฝ้าถนอมมาตลอด แต่ที่น่าเจ็บใจคือ ก่อนไปซองเจให้สัญญาว่าจะเอาตัวออกห่างเขา สงสัยคงทำไม่ได้สินะ หึ ก็เขาเคยเป็นคนรักกันมาก่อนนี่นา ขณะที่ผมไปค่ายอาสาผมแทบไม่ได้ติดต่อกลับมาเลย พี่อินกุกคงฉวยโอกาสนี้เข้าใกล้ซองเจแต่ตบมือข้างเดียวมันคงไม่ดังหรอก ผมขับรถออกไปสมองก็คิดทบทวนสิ่งที่ได้ยินกลับไปกลับมา เหตุผลเดียวที่เขาจูบซองเจก็เพราะรักสินะ แล้วซองเจคิดยังไงกับเขานะ? น้ำตาผมไหลออกมาตอนไหนไม่รู้ ผมรู้แค่ว่าผมอยากอยู่คนเดียว

    วันนี้งานที่ค่ายเสร็จเร็วกว่ากำหนด ผมจึงขอกลับก่อนโดยไม่ได้อยู่ร่วมฉลองกับเพื่อนๆเพียงเพื่ออยากจะมาเจอซองเจเร็วๆ ผมตั้งใจเซอร์ไพรโดยไม่โทรมาบอกล่วงหน้า รู้สึกว่าที่บ้านจะมีปาร์ตี้แฮะ ทุกคนดูสนุกกันจังแต่ซองเจไปไหนซะล่ะ พี่อึนกวังบอกผมว่าลองไปดูในห้องเผื่อเขาจะหลับแล้ว ผมก็นึกเป็นห่วงว่าเขาจะป่วยรึเปล่า เพราะพี่อึนกวังบอกว่าเห็นซองเจซึมๆตั้งแต่วันที่ผมไป แต่ขณะที่ผมจะเคาะประตูกลับได้ยินเสียงผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ซองเจและคนอื่นๆก็อยู่ข้างล่างกันหมด แล้วใครอยู่ในห้องเขากันล่ะ? ผมยืนฟังนิ่งจับใจความจนรู้ว่าพวกเขาจูบกัน เท่านั้นล่ะความตั้งใจของผมก็หายไปในพริบตา

    ซองเจโทรหาผมนับครั้งไม่ถ้วน แต่ผมยังไม่มีอารมณ์จะรับตอนนี้ มันทั้งเหนื่อยทั้งเสียใจ ผมจึงเลี้ยวรถไปจอดยังร้านเหล้าแห่งหนึ่งเพื่อดื่มให้อารมณ์เย็นลง

     

     

     

    Sungjae Part

     

    เพียงแค่ผมเห็นพีเนียลพลิกตัวกลับไป ใจผมก็หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว ผมรู้ว่าเขาต้องเสียใจมากแน่ๆ เขากำลังเข้าใจผิด ผมต้องไปอธิบาย ขณะที่กำลังจะลุกขึ้นหัวผมก็ปวดแปลบทันที ทำเอาขาที่กำลังก้าวต้องทรุดลง ผมนั่งกองอยู่กับพื้น พี่อินกุกจึงรีบวิ่งเข้ามาพยุงผม

    “ เป็นอะไรมากมั๊ย ซองเจ”

    “ ความเจ็บปวดของผมตอนนี้ มันยังไม่เท่าพีเนียลหรอกครับ” ผมกัดฟันข่มตัวเองพลางลุกขึ้น

    “ แล้วนี่เราจะไปไหน มันดึกแล้วนะ” อินกุกรั้งแขนบางเอาไว้ แต่กลับโดนสะบัดออกอย่างไม่ใยดี

    “ พีเนียลกำลังเข้าใจผิด ผมต้องไปอธิบายให้เค้าเข้าใจ” ผมดื้อดึงจะไปให้ได้ ขณะนี้อาการเมาเริ่มหายไปบ้างแต่ก็ยังคงมึนๆอยู่

    “ จะไปได้ยังไง ซองเจเมานะ เดินยังจะไม่ตรงทางเลย” อินกุกเดินเข้ามาพยุงเมื่อเห็นท่าทางจะล้ม

    “ ปล่อยผมครับ ยังไงผมก็ต้องไป” ผมสะบัดตัวออกพลางใช้ผนังและบันไดเป็นเครื่องช่วยพยุง สายตาเหลือบไปเห็นพี่ชางซอบนั่งอยู่คนดียว

    “ พี่ชางซอบ ช่วยขับรถให้ผมหน่อยได้มั๊ยครับ ผมมีเรื่องด่วนที่ต้องทำ” ผมขอร้องอย่างร้อนรน แต่พี่ชางซอบมองอาการตกใจของผมอย่างสะลึมสะลือ

    “ มีเรื่องอะไรเหรอ” เสียงเหมือนละเมอถามกลับ

    “ ผมทะเลาะกับพีเนียลและเค้าก็เอารถผมออกไปแล้ว ไม่รู้จะไปเป็นอะไรรึเปล่า” ความร้อนรนของผมไม่ได้ทำให้พี่ชางซอบกระตือรือร้นขึ้นมาบ้างเลย ผมล่ะเกลียดความเฉื่อยของพี่ชางซอบตอนนี้จริงๆเลย ให้ตายสิ

    “ อิลฮุลๆ นายช่วยขับรถให้ชางซอบหน่อยสิ นายเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ดื่มนี่นา พี่ขับไม่ได้หรอก ยิ่งฮยอนชิค พี่อึนกวัง พี่มินฮยอกยิ่งแล้วใหญ่ เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ช่วยหน่อยนะ” ชางซอบตะโกนเรียกอิลฮุลซึ่งอยู่อีกฟากของห้องพลางอธิบายทุกอย่างเสร็จสรรพ พี่อิลฮุลเดินมาทางผม

    “ มีอะไรเหรอซองเจ” เขาถามอย่างงงๆ

    “ เดี๋ยวผมเล่าให้ฟังครับ พี่ไปขับรถให้ผมก่อน ผมขับไม่ไหว เมื่อกี้เผลอดื่มเข้าไปน่ะ” ผมพูดพลางลากมือพี่อิลฮุลออกมาโดยไม่รอคำตอบ พี่ๆทุกคนในบ้านดูเป็นห่วงแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ จึงได้แต่รอข่าวอยู่ที่บ้าน

    ตอนนี้ผมไม่รู้แล้วว่าพี่อินกุกที่ผมทิ้งไว้ข้างหลังจะเป็นยังไง แต่สิ่งหนึ่งที่ผมห่วงคือ พีเนียลอยู่ที่ไหน ผมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่อิลฮุลฟังเขามีสีหน้าเคร่งเครียดทันที ทันใดนั้น เหมือนโชคเข้าข้าง ผมเห็นรถของตัวเองจอดอยู่หน้าบาร์แห่งหนึ่ง พี่อิลฮุลจอดรถ ผมรีบนำร่างอันไร้เรี่ยวแรงกระโดดลงจากรถทันที ผมเดินเข้าไปในร้านเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งดื่มอยู่คนเดียว ซึ่งเห็นครั้งแรกผมก็จำได้เลย ผมรีบเดินไปหยุดยืนข้างโต๊ะโดยที่เจ้าของกำลังดื่มมันอย่างกับน้ำเปล่า เขาหันมามองผมด้วยสายตาที่เจ็บปวด

    Why are you here?” เขาพูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆทำเอาผมกลัว

    “ ผมมาอธิบายให้ฟัง ว่าที่พี่เห็นหรือได้ยินนั้นเป็นเรื่องเข้าใจผิด” ผมพูดออกไปเสียงสั่นๆ มันยากจริงๆที่จะคอนโทรลให้เป็นปกติ

    I don’t want to talk with you now. Go away” เขาไล่ผมอย่างเย็นชา ตอนนี้หัวใจผมมันบีบรัดไปหมด

    “ ผมจะไม่ไปถ้าไม่ได้พูด ถึงพี่จะไม่อยากฟังพี่ก็ต้องฟังครับ” ผมยังคงดื้อรั้นต่อไป

    “ มันเป็นอุบัติเหตุ วันนี้พี่มินฮยอกจัดปาร์ตี้แต่ผมไม่ได้ไปร่วมด้วย ผมเดินลงดื่มน้ำแต่ในแก้วนั้นเป็นวอดก้า ผมจึงหมดสติไป ตื่นมาอีกทีก็เจอเขาอยู่ในห้องของผมแล้ว ผมพยายามหลีกเลี่ยงเขาทุกวิถีทางแล้ว แต่มันยากเหลือเกินเพราะเขาสนิทกับครอบครัวเรามาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว”

    “ แล้วเรื่องจูบล่ะ ซองเจยอมได้ยังไงกัน ไหนสัญญากับผมแล้วไง” พีเนียลยังไม่หันมามองหน้าผม

    “ พี่อินกุกเมาแล้วเค้าก็.... พี่คิดว่าผมง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับ พี่คิดว่าผมจะยอมเขาเหรอครับ” ยิ่งพูดน้ำตาก็ยิ่งไหลออกมา ตอนนี้ผมรู้สึกมึนหัวไปหมด ตาก็เริ่มลายแล้วด้วย แข็งใจไว้ซองเจนายต้องเคลียเรื่องนี้ให้จบก่อน เมื่อพีเนียลได้ยินเสียงสั่นๆของคนรักจึงยองมองสบตาเป็นครั้งแรก ใบหน้าที่ขาวอยู่แล้วซีดเผือดจนไร้สีเลือด เพียงแค่เห็นคนรักทรุดตัวลงนั่งร้องไห้อยู่กับพื้น เขาก็ไม่สามารถใจแข็งได้อีกต่อไป ความโกรธมลายหายไปในพริบตา เขาถลาลงจากเก้าอี้มาประคองซองเจทันที

    “ ผมขอโทษครับ ผมผิดสัญญา ผมทำให้พี่เสียใจ” เมื่ออีกคนมากอดซองเจก็กอดคอแน่นร้องไห้โฮราวกับเด็กๆ

    I’m sorry my Sungjae. I’m wrong. I don’t believe you. I’m so sorry” พีเนียลพ่นคำขอโทษเป็นระลอก เขากอดผมแน่น นี่เขาไม่โกรธผมแล้วใช่มั๊ย ผมยิ้มทั้งน้ำตาก่อนทุกอย่างจะดับวูบไป
     



     

    _________________________________________________________________________________________________

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×