คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : Chapter : 8 ของโปรดของผม...?-///-
Chapter: 8
ณ สตูดิโอ
“เราจะมีโครงการทำหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เพื่อให้เข้ากับเทศกาลท่องเที่ยว โดยจะให้เรจิได้ถ่ายแบบร่วมกับนายแบบและนางแบบจากนิตยสารอื่นๆ เพื่อโปรโมตการท่องเที่ยวของประเทศญี่ปุ่นเรา โดยมีกำหนดการเดินทางวันพรุ่งนี้ เราจะไปค้างแรมนอกสถานที่ 1 อาทิตย์ มีใครอยากเสนออะไรเพิ่มเติมมั๊ย” ผู้จัดการใหญ่ของสำนักพิมพ์ประชุมกับเหล่าสมาชิก ซึ่งนานๆครั้งจะโผล่มาที่สตูดิโอครั้งนึง
“ เรจิ นายคงไม่มีปัญหานะ” ผู้จัดการร่างท้วมมองลอดแว่นตาสีชมพู ถามเรจิขึ้นด้วยสายตากระลิ้มกระเหลี่ย
“ ไม่ครับ” เรจิตอบอย่างสุภาพ แต่เขาไม่ชอบสายตาของผู้จัดการคนนี้เลย ผู้จัดการร่างท้วมหนุ่มแต่หัวใจไม่แมนเก็บเอกสารแล้วบอกลาลูกน้องทุกคน ก่อนจะเดินจากไปเขาหันหน้ามาขยิบตาให้เรจิปริบนึงแล้วจึงเดินจากไป ส่วนเรจิเองก็เดินออกมาจากห้องประชุมเหมือนกัน เขามุ่งหน้าไปยังห้องแต่งตัว เพื่อทำงานต่อแต่เมื่อเปิดประตูเข้าไป เขาก็เจอเด็กหนุ่มหน้าใสหวานใจของเขานอนหลับอยู่ ใบหน้ายามหลับน่าโดนลักหลับให้รู้แล้วรู้รอด
“ เฮ้อออออ นอนไม่ระวังเลยนะ มานอนตรงนี้เดี๋ยวก็ได้เป็นหวัดกันพอดี” เรจิบ่นพึมพำพลางเอาเสื้อแจ็กเก็ตที่สวมอยู่มาคลุมร่างบางซึ่งตกอยู่ในห้วงนิทรา จากนั้นเขาจึงเดินไปแต่งตัวโดยที่ฝากสัมผัสจูบอันอบอุ่นลงบนหน้าผากเนียน
“ อื้ม...กี่โมงแล้วเนี่ย” ผมลืมตาขึ้นมองห้องที่ว่างเปล่า บนตัวผมมีเสื้อที่มีกลิ่นจางๆของเรติดอยู่ ทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ได้ฝันไป ทั้งน้ำเสียงที่ห่วงใยและสัมผัสที่หน้าผาก ผมลุกขึ้นและเดินออกจากห้องแต่งตัวเพื่อไปยังห้องที่ใช้ทำงาน เรจิยังคงจริงจังกับงานเหมือนเคย ผมนั่งมองเขาด้วยความชื่นชม จนกระทั่งเรจิปรายตามามองที่ผม มันทำให้ผมนึกถึงครั้งแรกที่เราได้เจอกัน ซึ่งตอนนั้นผมไม่ค่อยชอบใบหน้าอันกวนประสาทของเขาเท่าไร แต่ทำไมนะ? ตอนนี้ผมกลับหลงรักเจ้าของใบหน้าอันกวนประสาทนี้สุดใจ เมื่อเขาถ่ายแบบเสร็จ สิ่งแรกที่ผมเห็นคือ เรจิเดินมาทางผม
“ เหนื่อยมั๊ย เร” ผมยื่นน้ำดื่มให้เขา เรจิรับมันไปแล้วยิ้มมาให้ผม เขาดื่มมันอึกใหญ่ ก่อนจะยื่นมาให้ผม ผมรับมาแล้วดื่มต่อจากเขา เรจิมองหน้าผมอย่างชอบใจ ซึ่งผมไม่เข้าใจจึงมองกลับไปอย่างงงๆ เรจิเอานิ้วแตะที่ปากตัวเองและขวด จากนั้นก็ชี้มาที่ปากผม ซึ่งความนัยน์ของเขาจะบอกผมว่า เราจูบกันทางอ้อม ผมถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที
“ คนบ้า คิดอะไรก็ไม่รู้” ผมบ่นงึมงำกับตัวเอง เรจิจึงได้แต่หัวเราะในลำคอ ถึงแม้ผมจะไม่ได้ถามว่าเขารักผมมั๊ย แต่ผมมั่นใจว่าการกระทำของเขามันบอกออกมาหมดแล้วล่ะ เรจิเอามือลูบศรีษะผมเล็กน้อย ก่อนจะเดินไปเปลี่ยนชุดที่ห้องแต่งตัว ส่วนผมก็ต้องกลับบ้านพร้อมกับแม่ เนื่องจากผมไม่ได้กลับบ้านหลายวัน แม่จึงทำท่างอนผมสุดฤทธิ์ วันนี้ผมคงต้องง้อแม่สักหน่อยแล้วล่ะ
“ ยู...พรุ่งนี้ทางสำนักพิมพ์ จะออกนอกสถานที่ จะไปกับแม่มั๊ย เพราะบ้านเราคงไม่มีใครอยู่สักอาทิตย์นึงล่ะ” ในที่สุดแม่ก็ยอมพูดกับผม เราสองคนแม่ลูกสนิทกันอย่างกับเป็นคนๆเดียวกันอย่างนั้นล่ะ เพียงแค่ผมเล่าให้แม่ฟังว่า ผมไปเที่ยวที่ไหนมา ไปทำอะไรกับใคร แม่ก็หายโกรธแล้วล่ะฮะ แต่ผมก็ไม่ได้ซื่อจนถึงกับต้องเล่าเรื่องระหว่างเรกับผมให้แม่ฟัง แม่ออกจะดีใจที่ผมมีเพื่อนสนิท แต่ความจริงแล้วผมเป็นคนอัธยาศัยดี เพื่อนในห้องเรียนผมจึงเยอะ แม่แทบไม่ต้องห่วงเลย แต่ที่สนิทสุดๆก็คงจะเป็นเรจิล่ะนะฮะ
“ เรไปมั๊ยฮะ?” ผมถามแม่ขณะทำขนมหวานอยู่
“ ไปสิลูก แล้วเขายังต้องถ่ายแบบกับคนอื่นด้วยนะ” แม่ตอบเหมือนรู้ใจผม ผมจึงพยักหน้าเป็นเชิงตกลง แม่จึงมาช่วยผมจัดกระเป๋า
รถบัสของสำนักพิมพ์เข้าจอดเทียบฟุตบาท ผู้ที่ส่วนเกี่ยวข้องต่างพากันขนของขึ้นรถ
...ฟุ่บ...
กระเป๋าของผมก็ถูกยกขึ้นรถเหมือนกันโดยมีเจ้าหนุ่มหุ่นดียกขึ้นไปให้ ผมยิ้มตามแผ่นหลังที่ผมคุ้นเคย เขาหันหน้ามายิ้มให้ผมเล็กน้อย ซึ่งเป็นรอยยิ้มของผมคนเดียว ผมได้ที่นั่งติดหน้าต่างซึ่งเรบอกว่าผมจะได้ชมวิวธรรมชาติข้างทาง ผู้จัดการบอกว่าพวกเราจะได้เจอกับนายแบบนางแบบหน้าใหม่เมื่อไปถึง ผมเองก็รู้สึกตื่นเต้นนะเพราะผมอยากรู้ว่า นายแบบคนอื่นๆจะหล่อเท่าเรจิของผมรึเปล่า
เรจิสามารถหลับได้ตลอดทาง แต่ผมก็ไม่ถือหรอกนะในเมื่อเขาต้องมาทำงาน ผมจึงปล่อยให้เขานอนอยู่อย่างนั้น แต่เมื่อมาถึงจุดพักรถกลับเป็นผมซะงั้นที่หลับเป็นตาย เมื่อผมลืมตาขึ้นมาผมก็เห็นหน้า เรจิเป็นคนแรก สงสัยเขาคงจะจ้องมองผมอยู่นาน
“ จ้องฉันทำไมล่ะ มีอะไรติดหน้าฉันเหรอ” ผมถามอย่างลนลานบวกกับความอายหน้าแดง ก็ผมไม่ชอบให้ใครมาจ้องหน้าผมนี่นา
“ ก็มองแฟนของผมน่ะสิ น่ารักอย่างนี้น่าจับกดชะมัด ถ้าไม่ติดว่ามีทีมงานนะ ยูเสร็จผมแน่” เรจิพูดด้วยสายตาหื่นกระหาย ซึ่งเสียงก็ไม่ได้ดังไปกว่าเสียงกระซิบ ผมจึงได้ยินคนเดียว ผมรู้สึกขอบคุณที่มีทีมงานติดรถมาด้วย และขอบคุณที่ทุกคนหลับหมด จึงไม่ได้ยินสิ่งที่เรจิพูดเมื่อกี้ ผมสังเกตเห็นเรจิผุดลุกผุดนั่งแต่ก็ไม่ได้ติดใจสงสัยอะไร ผมหยิบลูกอมรสโปรดขึ้นมากิน มันคือรสสตรอเบอร์รี่ ซึ่งผมนั่งกินมาตลอดทางและนี่ก็เหลือเม็ดสุดท้าย ขณะที่ผมกำลังจะแกะมันเข้าปาก เรจิก็มางับมันไป
“ อ๊ะ...เรจิ มันเหลือเม็ดเดียวแล้วด้วย เอาไปได้ไงง่ะ” ผมพูดพลางทำปากบู้งอนใส่เรจิ
“ อร่อยดีแฮะ รสโปรดซะด้วย” เรจิทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ แต่ผมเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าเรจิก็ชอบรสเดียวกันกับผม แต่ตอนนี้ผมงอนเค้าซะแล้วล่ะ ไม่มีกระจิตกระใจจะตื่นเต้นหรอก ผมงอนหันหน้าหนีเรจิ แต่ดูเหมือนเขาจะหลับไปแล้วพร้อมกับลูกอมของผม ผมจึงตัดใจจากมัน แต่ยังไม่ทันไร เรจิเอามือมาจับปลายคางผมให้ผมหันหน้าไปทางเขา
“ จะทำอะไรน่ะ อุ๊บ..” ผมถูกปิดปากด้วยริมฝีปากของเรจิ ซึ่งข้างในนั้นยังมีลูกอมอยู่ เรียวลิ้นร้อนนั้นผลักลูกอมเข้ามาในโพลงปากผม จากนั้นเรจิจึงผละออกไป
“ แฮกๆ...ทำบ้าไรเนี่ย คนอยู่เยอะแยะ ไม่รู้จักอาย” ผมมองค้อนเรจิ แต่เขาทำแค่ส่งยิ้มกลับมา
“ อยากกินไม่ใช่เหรอ ผมก็ป้อนแล้วไงล่ะ แต่จูบของผมคงหวานกว่าลูกอมร้อยเท่าใช่มะ?” เรจิยิ้มเจ้าเล่ห์ทำเอาผมถึงกับอายม้วนไปเลย
“ เรจิบ้า ถ้ามีคนเห็นจะว่าไงเล่า” ผมทุบไปบนต้นแขนของเขาเบาๆ เรจิรวบข้อมือผมไว้แล้วจุ๊บลงมาที่ปากผมอย่างรวดเร็วก่อนจะผละออกไปแล้วหลับตานอน ซึ่งมันไม่อาจคลาดสายตาผมไปได้หรอก คนอะไรจะหลับได้เร็วปานนั้น ผมจึงเอาคืนบ้างโดยการโน้มหน้าเข้าไปจุ๊บปากเค้าคืน เมื่อผมผละออกมา เรจิกอดผมไว้แน่นพลางส่งสายตาจริงจังมาให้
“ อย่าไปทำแบบนี้กับใครอีกนะ” พูดจบเรจิก็หอมแก้มผมก่อนจะนอนหลับไปจริงๆ
ป.ล. กรณีจูบกับจุ๊บไม่เหมือนกันนะจ๊ะ ถ้าจูบน่ะจะลึกซึ้งกว่าจุ๊บซึ่งเพียงแค่แตะเบาๆเป็นการหยอกล้อกันเล่นของตัวเอกทั้งสองจ๊ะ โปรดเข้าใจด้วย จะได้นึกภาพออก ^-3^…-////-
……………………………………………………………………………………………………
ความคิดเห็น