ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] The Dormitory หอพักนี้มีแต่คน(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #5 : 4th Floor : Morning Together

    • อัปเดตล่าสุด 13 พ.ย. 55








    จิ๊บๆ ๆ

    เสียงนกร้องข้างหน้าต่างยามเช้าปลุกฮยอนชิคให้ลุกจากที่นอน ปกติเขาเป็นคนตื่นง่ายอยู่แล้ว แสงอาทิตย์จึงไม่เป็นอุปสรรคต่อการนอนหลับของเขา ฮยอนชิคเปิดประตูห้องนอนโดยที่ยังไม่ได้อาบน้ำ เขาเดินไปยังห้องสุดทางเดินก่อนจะเคาะประตูทั้งๆที่รู้ว่ามันคงไร้ประโยชน์

    “ ชางซอบ ตื่นได้แล้ว เช้าแล้วนะ” ฮยอนชิคพูดงัวเงียๆ แต่ไม่มีเสียงตอบรับจากคนในห้อง ซึ่งเขาเองก็รู้ดีว่ามันต้องเป็นแบบนี้แน่นอน ฮยอนชิคจึงเปิดประตูเข้าไปโดยพลการและก็เป็นไปดังคาด ประตูไม่ได้ล็อก!!

    “ เฮ้ออออ นายนี่จริงๆเลยนะ นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะที่จะไม่ล็อกประตูห้องนอนได้น่ะ” ชางซอบเป็นบุคคลเดียวที่สามารถทำให้คนอารมณ์ดีอย่างฮยอนชิคบ่นเป็นหมีกินผึ้งได้แต่เช้า  มันกลายเป็นกิจวัตรประจำวันไปแล้วที่ฮยอนชิคจะต้องเป็นคนปลุกเพื่อนคนนี้ เพราะทั้งสองบ้านอยู่ใกล้กันและเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ทำให้สามารถเข้านอกออกในบ้านของกันและกันได้ตลอดมา ฮยอนชิคจัดการเลิกผ้าห่มที่คลุมตัวเพื่อนออก แต่ชางซอบหาได้ตื่นไม่ เขายังคงทำเพียงนอนขดตัวอยู่อย่างนั้น ฮยอนชิคจึงใช้มาตรการขั้นที่สองคือ ลากขาของเพื่อนลงมาจากเตียง เมื่อเห็นว่าชางซอบนอนอยู่บนพื้นเย็นๆแล้วฮยอนชิคก็ยิ้มออกมาอย่างพอใจ ความเย็นของพื้นทำให้คนที่นอนอยู่เริ่มรู้สึกตัว ก่อนจะพยายามตะเกียกตะกายขึ้นไปบนที่นอนอีกครั้ง แต่คนที่ตื่นก่อนย่อมมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนมากกว่า ฮยอนชิคจับคอเสื้อของชางซอบพลางลากเพื่อนไปยังห้องน้ำ ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงเพื่อนคนนี้ย่อมตื่นเองแน่ๆ แต่เขาก็ไม่อยากให้เพื่อนอดข้าวเช้าเนื่องจากต้องรีบไปโรงเรียนเพราะตื่นสาย เมื่อจัดการภารกิจตอนเช้าเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวจึงเดินออกมาจากห้องนอนของเพื่อน ประตูห้องข้างๆถูกเปิดออกโดยเด็กหนุ่มน่ารัก อิลฮุลโผล่หน้าออกมาเจอฮยอนชิคก็ชะงักไปเล็กน้อย ก่อนหน้าจะขึ้นสีเรื่อพลางทักออกไปอย่างเขินอาย

    “ อรุณสวัสดิ์ครับ ตื่นเช้าจังเลยนะครับ” อิลฮุลหลบสายตาไปด้านข้างไม่กล้ามองหน้าตรงๆ

    “ อรุณสวัสดิ์ ฮุลลี่ นายต่างหากล่ะที่ตื่นเช้า แต่งตัวเสร็จแล้วด้วย” ฮยอนชิคทักอิลฮุลด้วยสรรพนามที่คิดขึ้นเอง ก่อนจะมองสำรวจชุดนักเรียนมัธยมปลายซึ่งรีดซะเรียบกริบ

    “ เอ่อ...เจอกันที่โต๊ะอาหารนะครับ”  อิลฮุลตัดบทก่อนจะหน้าแดงไปกว่านี้ แต่ฮยอนชิคกลับเดินเข้ามาใกล้พลางเอามือจับไหล่คนตัวเล็กกว่า

    “ เป็นอะไรไป ไม่สบายรึเปล่า หน้าแดงเชียวไหนดูซิ” พูดจบก็เอามืออังหน้าผากเพื่อวัดอุณหภูมิ แต่อิลฮุลกลับสะดุ้งและถอยตัวออกห่าง

    “ แล้วเจอกันครับ” อิลฮุลพูดพลางหลบสายตาก่อนจะรีบจ้ำพรวดออกไป

    “ อะไรของเค้ากันนะ ทำอย่างกับเห็นผี” ฮยอนชิคบ่นพลางเกาท้ายทอยอย่างงงๆ เดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป เขาเดินมาที่เตียงเพื่อพับผ้าห่ม ก่อนจะช็อคสุดๆเมื่อรู้ว่ากางเกงยางยืดเก่าๆที่เขาใส่นอนกองอยู่บนเตียง แล้วที่เขาออกไปจากห้องเมื่อกี้นั่นหมายความว่า.....ฮยอนชิคก้มมองท่อนล่างของตัวเองก่อนจะร้องจ๊ากกออกมา

    ให้ตายเถอะ เขานี่บ้าชะมัด เดินออกจากห้องนอนโดยใส่กางเกงในตัวเดียวแถมยังไม่รู้ตัวอีก งั้นสาเหตุที่อิลฮุลหน้าแดงก็เพราะเขาน่ะสิ ฮยอนชิคเดินวนไปวนมาอย่างบ้าคลั่ง

    “ โถ่เอ๊ย!!! ไอ้งี่เง่าเอ๊ยยยย ใครเห็นไม่เห็นดันเป็นอิลฮุลน้อยอีก โถ...เด็กไร้เดียงสาผู้น่าสงสาร แล้วฉันจะเอาหน้าไปเจอเค้ายังไงล่ะเนี่ย โอ๊ย!!!! อยากจะบ้า”    

     

    “ อรุณสวัสดิ์ อิลฮุล เป็นอะไรน่ะ ไม่สบายเหรอหน้าแดงมาเชียว” อึนกวังซึ่งอยู่ในชุดผ้ากันเปื้อนสีสดใส เอ่ยทักคนน่ารัก ซึ่งตอนนี้ดูใจลอยไปถึงไหนต่อไหนแล้ว

    Good Morning Ilhoon” เสียงทักสดใสดังมาจากอีกคนที่กำลังนั่งโซ้ยซีเรียลธัญพืชอยู่

    “ อรุณสวัสดิ์ฮะทุกคน” อิลฮุลทิ้งตัวลงนั่งฝั่งตรงข้ามพีเนียล ซึ่งตอนนี้มองมายังหน้าเขาแบบไม่รู้ว่าควรจะทำยังไงดี

    “ อ้อ คนอื่นๆตื่นกันรึยังน่ะ เดี๋ยวไปโรงเรียนสายกันหรอก” อึนกวังเดินมารินนมให้กับอิลฮุลพลางถามพาดพิงไปถึงเพื่อนร่วมบ้านคนอื่นๆ

    “ เมื่อกี้ผมเดินสวนกับซองเจ เค้ายังไม่ได้อาบน้ำเลยครับ” เสียงตอบสดใสกลับเป็นของพีเนียล อึนกวังพยักหน้ารับรู้ก่อนจะมองไปยังอิลฮุล ซึ่งตอนนี้นั่งเหม่อราวกับไร้ตัวตนอยู่ตรงนั้น

    “ แล้วฮยอนชิคกับชางซอบล่ะ นายเห็นบ้างมั๊ย” อึนกวังถามพลางวางมือลงบนไหล่ทำเอาอิลฮุลสะดุ้งโหยงพลอยทำให้อึนกวังสะดุ้งตามไปด้วย

    “ ผะ...ผมเห็น พี่ฮยอนชิค ออกมาจากห้องพี่ชางซอบครับ” อิลฮุลพูดตะกุกตะกัก

    “ แปลกคน...ห้องตัวเองมีไม่นอน แต่ก็นะ เค้าเป็นเพื่อนกันนี่เนอะ” อึนกวังบ่นงึมงำๆพลางเดินไปจัดการซุปที่หน้าเตาต่อไป

     

    “ อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน” เสียงทักสดใสมาจากชายร่างสูงที่สุดในบ้าน

    “ พี่อึนกวัง ทำไมผมไม่เห็นพี่มินฮยอกอยู่ในห้องเลย” ยุก ซองเจ เมื่อกล่าวทักทุกคนก็พุ่งความสนใจไปหาแฟนของพี่ชายทันที

    “ เค้าไปมหาลัยแล้วน่ะสิ  วันนี้มีสอบร้องเพลง สงสัยคงไปเตรียมตัว มีธุระอะไรรึเปล่า เดี๋ยวบอกให้ นายเองก็รีบมากินข้าวได้แล้ว  เดี๋ยวก็สายหรอก” อึนกวังถอดผ้ากันเปื้อนออกเผยให้เห็นชุดนักศึกษาขาวสะอาด ตัดกับเน็กไทซึ่งบ่งบอกชั้นปี ปีนี้อึนกวังอยู่ปีสี่ เน็กไทของเขาจึงเป็นสีทอง

    “ ก็พักนี้ผมเห็นพี่มินฮยอนตั้งใจเรียนภาษาอังกฤษ  ก็เลยกะว่าจะให้ช่วยติวหนังสือให้หน่อย ผมมีสอบอาทิตย์หน้าน่ะ” ซองเจเดินมานั่งลงข้างพีเนียลซึ่งกำลังกินแซนวิชไข่ดาวอยู่

    Good Morning Sungjae พีเนียลทักทั้งๆที่ยังมีแซนวิชอยู่ในปาก

    Hi!!” ซองเจโบกมือทักคนข้างตัวก่อนจะนึกขึ้นมาได้

    “ อ๊ะ...พีเนียล นายอยู่ชิคาโกนี่นา งั้นนายก็สอนฉันได้ใช่มั๊ย” ซองเจถามขึ้นอย่างมีความหวัง

    Of Course!!” พีเนียลตอบอย่างมั่นใจ

    “ อ๊ะ... นายอยู่โรงเรียนเดียวกับฉันนี่  แต่เอ๊ะ!! พวกนายอยู่ปีสามเหรอ  โถ่...เซ็งเลย ผมอุตส่าห์นึกว่าจะมีเพื่อนรุ่นเดียวกันซะอีก” ซองเจบ่นอย่างเสียดาย  เมื่อมองแถบผ้าที่ติดอยู่บนปกเสื้อของทั้งคู่ ซึ่งมันมีสามขีด เมื่อเทียบกับของเขาที่มีแค่สอง ขีดนั่นเอง

    “ จริงๆแล้วผม  ต้องอยู่มหาลัยปีหนึ่งแล้ว แต่ว่าพอย้ายเข้ามาเขาเลยให้เรียนซ้ำชั้นม.ปลายปีสามก่อนน่ะ” พีเนียลอธิบาย ถึงสถานะของตน

    “ เฮ้ออออ แต่ยังไงผมก็ต้องเรียกพวกพี่ว่าพี่ล่ะครับ” เมื่อพูดอย่างเสียดายจบก็เริ่มตักข้าวเข้าปาก

     

    “ เร็วหน่อยได้มั๊ย!!! เป็นเพราะนายฉันถึงสายไปด้วยเลย”

    “ แล้วใครบอกให้นายมารอฉันล่ะ แค่นี้ทำเป็นบ่น ทีเมื่อก่อนไล่บี้ฉันเช้าเย็นยังไม่เห็นเคยบ่น” เสียงของคนสองคนเถียงกันดังมาจากบันได ทำให้คนในห้องครัวหันไปมองเป็นตาเดียวกัน เสียงนึงดูรีบร้อนอีกเสียงกลับเนิบนาบ ช่างไม่เข้ากันซะเลย

    “ อรุณสวัสดิ์ครับทุกคน เช้านี้มีอะไรกินบ้างเอ่ย”   เสียงทักเนิบนาบดังมาจากคนที่ลงบันไดมาก่อน

    “ อ่า....นั่งเลยๆ ฉันเตรียมไว้ให้แล้ว รีบๆกินล่ะเดี๋ยวไปสายกันนะ” อึนกวังหยิบเหยือกนมให้ฮยอนชิคซึ่งตามมานั่งทีหลัง

    “ งั้นวันนี้ อิลฮุลกับพีเนียล ไปกับซองเจนะ พวกนายอยู่โรงเรียนเดียวกันนี่ ส่วนฮยอนชิคกับชางซอบไปกับฉัน” เมื่อพูดจบอึนกวังก็เริ่มเก็บจานส่วนของตัวเองกับอีกสองคนที่กินเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    “ พี่ชางซอบแก่กว่าพี่ฮยอนชิคเหรอครับ ผมนึกว่าพวกพี่อยู่ปีเดียวกันซะอีก” ซองเจถามขึ้นเมื่อมองเน็กไทของทั้งคู่ ซึ่งของฮยอนชิคเป็นสีน้ำเงิน เพราะอยู่ปีสอง ส่วนชางซอบเป็นสีเงิน เพราะอยู่ปีสามนั่นเอง

    “ อืม...เราเป็นเพื่อนห่างกันปีนึงน่ะ อ้อ อิลฮุล เมื่อเช้าฉันขอโทษด้วยนะ ฉันไม่ได้ตั้งใจให้เป็นแบบนั้นจริงๆ” ฮยอนชิคเมื่อตอบคำถามซองเจเสร็จก็หันไปขอโทษอิลฮุลที่ตอนนี้กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ ทำเอาเจ้าตัวหน้าขึ้นสีเรื่อขึ้นมาทันที

    “ เมื่อเช้ามีอะไรกันเหรอ ฉันเห็นอิลฮุลเดินลงมาหน้าแดงแปร๊ดเชียว” อึนกวังเดินมาหยุดยืนข้างๆอิลฮุลพลางเอาหลังมือตัวเองลูบแก้มอิลฮุลน้อยเบาๆ

    “ ไม่มีอะไรหรอกฮะ มันแค่อุบัติเหตุน่ะ” อิลฮุลตอบเลี่ยงๆพลางเบี่ยงตัวหลบออกจากโต๊ะกินข้าว

    “ งั้นพวกผมไปก่อนนะครับ พี่อิลฮุล พี่พีเนียลไปกันเถอะครับ” ซองเจคว้ากระเป๋ากับกุญแจรถเดินนำหน้าทั้งสองคนออกไป

    “ งั้นเราต้องรีบแล้วล่ะ ชางซอบ พี่อึนกวังรออยู่”

    “ ฉันเสร็จแล้วล่ะ มีแต่นายนั่นล่ะมัวแต่พูดไม่กินสักที” ชางซอบว่าพลางคว้ากระเป๋ามาสะพาย

    “ โถ่...แล้วมันเพราะใครกันล่ะ ทำให้ฉันสายเลย” ฮยอนชิคจึงทำได้แต่หยิบแซนวิชกับนมขวดติดมือออกมาขึ้นรถ ซึ่งอึนกวังสตาร์ทรถรออยู่ก่อนแล้ว

     

     

     

    __________________________________________________________________________________________________

     




     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×