ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [BTOB Fiction] Memory of Heart จะรักกันได้ไหม?ถ้าหัวใจยังไม่ลืม...

    ลำดับตอนที่ #2 : MEMO 1 : Accident

    • อัปเดตล่าสุด 9 ส.ค. 56




     



    MEMO 1 : Accident

    ณ ใจกลางกรุงโซล

    ถึงแม้เวลานี้จะเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนของใครหลายๆคนแล้ว แต่ก็ยังคงมีนักท่องราตรีออกมาเที่ยวดื่มกินกันไม่ขาดสาย ผมเองก็เป็นหนึ่งในนั้นเหมือนกัน คืนนี้ผมต้องออกงานพบปะสังสรรค์กับผู้ใหญ่ทางธุรกิจของคุณพ่อแทนพี่ชายตัวดีที่หนีเที่ยวไปก่อนแล้ว มันช่างน่าเบื่อมากๆที่จะต้องใส่หน้ากากและปั้นยิ้มตลอดเวลา ไหนจะลูกสาวของคนใหญ่คนโตที่พยายามจะเกาะแกะผมอีก น่ารำคาญชะมัด ผมอยู่ในงานได้สักพักก่อนจะตัดสินใจพาตัวเองออกมาจากดงปลิงเหล่านั้น ปลิงที่พยายามตีสนิทเพื่อหวังผลประโยชน์ทางธุรกิจและทรัพย์สินของที่บ้านผม น่าสมเพชจริงๆ

                    ผมเหยียบคันเร่งเบนซ์สปอร์ตคู่ใจไปตามท้องถนนโล่งๆ เท่าที่ผมจำได้ผมไม่เคยขับรถบนถนนเส้นนี้ด้วยความเร็วต่ำกว่า 120 Km/Hr  สัญญาณไฟจราจรตรงมุมถนนข้างหน้าขึ้นเป็นสีเขียว ผมจึงเร่งเต็มสปีดเพื่อไปให้ทันก่อนที่มันจะเปลี่ยนเป็นสีแดง

     

    เอี๊ยดดดดดดดดดด

    เสียงล้อเบียดกับถนนดังลั่น ควันขโมงมาพร้อมกับกลิ่นไหม้ของยางล้อรถ ตัวรถสะบัดไปด้านข้างอย่างแรงเมื่อคนขับพยายามหักหลบอะไรบางอย่าง โชคดีที่เวลานี้ไม่มีรถคันอื่นๆใช้ถนนร่วมกัน ไม่งั้นคงเป็นอุบัติเหตุใหญ่แน่ แต่โชคร้ายที่ห่างออกไปจากตัวรถราวๆ 5 เมตร ปรากฎร่างๆหนึ่งนอนนิ่งไม่ไหวติง เรือนกายนั้นท่วมไปด้วยโลหิตสีแดงฉาน ผมพยายามสะบัดศรีษะเพื่อไล่ความมึนงงออกไปเนื่องจากเมื่อสักครู่หัวของผมกระแทกเข้ากับพวงมาลัยอย่างจัง ดีนะที่ผมรัดเซฟตี้เบล ไม่งั้นคงคอหักไปแล้ว ผมหรี่ตามองสิ่งที่อยู่บนถนนเบื้องหน้า ตายล่ะ!!! ผมหักหลบไม่พ้นเหรอเนี่ย? ผมหรี่ตาลงข้างนึงเมื่อรู้สึกถึงน้ำอะไรบางอย่างไหลเข้าตา แต่ผมไม่ค่อยใส่ใจมันสักเท่าไร ผมรีบเปิดประตูรถลงไปดู ใจผมหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มทันทีเมื่อเห็นว่าสิ่งที่ผมเพิ่งชนไปเมื่อสักครู่คืออะไร

    “ พี่ครับ ผมขับรถชนคน” ผมไม่รู้จะทำยังไงจึงตัดสินใจโทรหาพี่ชายต่างสายเลือดเป็นอันดับแรก ปลายสายนิ่งไปสักพักก่อนจะตอบกลับมาเสียงเครียด

    [ โทรเรียกรถพยาบาลรึยัง นายอยู่ที่ไหน ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ล่ะ ] พี่ชายคนนี้เป็นคนที่ผมพึ่งได้เสมอ แม้ว่าเขาจะติดพันธุระกับเพื่อนยังไงแต่ถ้าผมมีเรื่องด่วนเมื่อไร เขาจะมาช่วยทันที ผมวางสายพลางทำตามคำแนะนำของเขา ตอนนี้ผมไม่สามารถขยับร่างของคู่กรณีคนนี้ได้แต่สิ่งนึงที่ผมรู้คือ เขายังไม่ตาย ขอร้องล่ะ ผมยังไม่อยากเป็นฆาตกรนะ ใครจะไปคิดล่ะว่าจะมีคนข้ามถนนตอนสัญญาณไฟคนข้ามยังไม่ขึ้น มันไม่ใช่ความผิดของผมคนเดียวสักหน่อย  ร่างที่ผมคาดว่าน่าจะเป็นผู้ชายนอนหายใจรวยริน เลือดที่ออกมาทางปากและจมูกบ่งบอกอาการช้ำในได้เป็นอย่างดี รวมทั้งบริเวณศีรษะของเขาด้วย ผิวขาวๆนั้นผมชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าผิวขาวธรรมชาติหรือเพราะเสียเลือด เจ้าหน้าที่กู้ภัยและรถพยาบาลมาถึงในเวลาอันรวดเร็ว ทำให้ผมใจชื้นไปได้บ้างว่าเขายังมีโอกาสรอด ผมถอนหายใจออกมาพลางขับรถตามรถพยาบาลไป เมื่อมาถึงผมก็โทรรายงายจุดหมายปลายทางกับพี่ชายอีกครั้ง

     

    “ ซึงฮอน...นายเป็นไงบ้าง ทำไมถึงขับรถชนคน นายเมาเหรอ” หลังจากวางสายไปไม่นานพี่ชายผมก็มาถึงพอดี ถึงแม้เขาจะดูตกใจแต่กลับข่มเสียงให้เป็นปกติได้อย่างเหลือเชื่อ

    “ พี่จีฮุน ผมไม่ได้เมานะครับ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ เขาวิ่งตัดหน้ารถผม พี่ก็รู้ว่าผมขับรถเร็วแค่ไหน ความเร็วกับระยะประชิดขนาดนั้น เป็นใครก็เบรคไม่ทันหรอกถึงแม้ว่าผมจะสามารถหักหลบได้ทันก็เถอะ แต่มันก็ยังไม่พ้นอยู่ดี” ผมเขย่าแขนเขาพลางเล่าเรื่องราวให้ฟังไปด้วย พี่จีฮุนเพียงแค่พยักหน้าพลางจับมือผมนิ่ง

    “ แล้วอาการเขาเป็นยังไงบ้าง จะรอดรึเปล่า” จีฮุนถามเสียงนิ่ง วินาทีนี้เขาต้องสงบไว้ก่อนเพราะถ้าเขาแตกตื่นน้องชายของเขาก็จะตกใจไปด้วย

    “ ผมคิดว่า 50/50 ครับ เพราะผมชนแรงเหมือนกันและเขาก็กระเด็นไปตั้งไกล เลือดนี่ท่วมตัวไปหมด ถ้าเขาตายผมจะทำยังไงดีครับ ผมต้องติดคุกใช่มั๊ย?” ตอนนี้ผมกลัวไปหมด น้ำเสียงผมมันสั่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน พี่จีฮุนจับไหล่สองข้างผมไว้มั่นพลางจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของผม

    “ ตั้งสติซึงฮอน อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิด เราจะค่อยๆแก้ปัญหามันไปด้วยกัน แต่ก่อนอื่นฉันว่านายควรไปทำแผลก่อนดีกว่านะ ไม่งั้นนายเองนั่นล่ะที่จะแย่” พี่จีฮุนเหลือบตาไปมองบริเวณหางคิ้วข้างซ้าย มิน่าล่ะมันถึงปวดตุบๆมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว เพราะผมมัวแต่ห่วงคู่กรณีเลยไม่ได้สนใจตัวเอง

    “ ขอบคุณครับพี่ งั้นผมขอตัวไปทำแผลก่อนนะ ฝากทางนี้ด้วย” พูดจบผมก็ปลีกตัวไปยังห้องฉุกเฉิน ผู้เป็นพี่ชายจึงได้แต่ส่ายหน้าเบาๆพลางหย่อนก้นลงบนม้านั่งหน้าห้องผ่าตัด ความจริงแล้วเขาเองก็เตือนน้องชายคนนี้บ่อยๆเหมือนกันเรื่องขับรถเร็ว แต่ที่ผ่านมามันไม่เคยเกิดเรื่องและด้วยนิสัยของนักแข่ง ซึงฮอนมักจะควบคุมสถานการณ์ได้เสมอ ครั้งนี้คงเป็นเหตุสุดวิสัยจริงๆสินะ

                    โนจีฮุน พี่ชายต่างสายเลือดของผม ตั้งแต่แม่ของผมเสียชีวิตไป คุณพ่อก็แต่งงานใหม่โดยแม่เลี้ยงมีลูกติดมาด้วยแต่เขาอายุมากกว่าผมปีนึงจึงเป็นพี่ชายของผมตั้งแต่นั้นมา พี่จีฮุนเป็นคนที่พึ่งพาได้เสมอเวลาผมมีเรื่องเดือดร้อนอะไร ผมจึงนับถือเขาแบบพี่ชายแท้ๆคนหนึ่ง ครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน ผมสร้างความเดือดร้อนให้เขาอีกแล้วสินะ พี่จีฮุนอาจจะต้องช่วยผมอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับผู้เป็นพ่อ เกิดเรื่องครั้งนี้คุณพ่อผมคงห้ามผมขับรถแข่งอีกต่อไป ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงผมต้องแย่แน่ๆ ก็รถแข่งน่ะเปรียบเสมือนชีวิตของผมเลยล่ะ

     

    “ เอ่อ...ไม่ทราบว่าญาติคนไข้คนไหนคะ” พยาบาลเดินออกมาจากห้องผ่าตัดพลางมองหาผู้ที่มาด้วยกันกับคนป่วย ร่างสูงจึงลุกจากม้านั่งทันที

    “ คือ คนไข้เสียเลือดมากน่ะค่ะ เราต้องการเลือดด่วน” พยาบาลอธิบายจุดประสงค์ โนจีฮุนจึงเดินตามไปเพื่อบริจาคเลือดของเขา จะทำยังไงก็ได้ขอแค่คนป่วยคนนี้รอดก็พอเพื่อไม่ให้น้องชายของเขาต้องเดือดร้อน เขายอมทำทุกอย่าง หลังจากเวลาผ่านไปราวๆ 2 ชั่วโมง พี่น้องตัวโย่งก็กลับมานั่งข้างกันอีกครั้ง คนนึงมีท่าทางอิดโรยจากการเสียเลือดส่วนอีกคนก็นั่งคิ้วขมวดอย่างเป็นกังวล นี่ก็ใกล้รุ่งสางแล้วแต่ยังไม่มีความเคลื่อนไหวจากห้องผ่าตัดเลย เขาทั้งคู่ต่างเอนหัวพิงกันเพื่อพักผ่อนสายตา จนกระทั่งพยาบาลเปิดประตูออกมาเป็นเวลาหกโมงเช้าพอดี

    “ ตอนนี้คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วนะครับ ร่างกายบอบช้ำและช้ำในหลายจุด เรากำลังย้ายคนไข้ไปยังห้องพักฟื้นครับ” เมื่อคุณหมอพูดจบผมกับพี่จีฮุนก็ยิ้มออกมาทันที ผมรู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก มันคุ้มจริงๆที่นั่งรอตั้งห้าชั่วโมงเพื่อฟังข่าวดีนี้ อันดับต่อไปผมคงต้องติดต่อญาติของผู้ป่วยสินะ แต่จะติดต่อยังไงนี่สิเพราะผมไม่รู้จักเขาเลยสักนิดแถมหลักฐานที่ควรจะติดตัวเขามาก็ไม่มีอะไรเลยสักอย่าง ราวกับเจ้าตัวเดินออกมาข้างนอกตัวเปล่าไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มือถือสักเครื่องหรือบัตรสักใบ ผมค่อยๆเปิดประตูห้องพักผู้ป่วยอย่างแผ่วเบา เขายังคงไม่ได้สติ ผมมองใบหน้านั้นดีๆแล้วชักจะไม่มั่นใจซะแล้วสิว่าเขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย เพราะใบหน้าเนียนถึงจะมีผ้าพันแผลปิดอยู่บวกกับผิวขาวซีดนั้นไม่ส่อเค้าโครงหน้าของผู้ชายสักนิด ไหนจะขนตายาวหนาและเรียวปากบางนั่นอีก ผมกำลังคิดว่าเราเข้ามาถูกห้องรึเปล่านะ เราทั้งคู่ยืนอยู่ข้างๆเตียงผู้ป่วย ทันทีที่เห็นหน้าเขาถึงแม้จะมีผ้าพันแผลปิดอยู่นิดหน่อยก็ตามแต่มันก็ทำให้พี่ชายผมถึงกับชะงักงัน

    “ มีอะไรเหรอครับ พี่รู้จักเขาเหรอ?” ผมถามอย่างแปลกใจเมื่อเห็นมอาการแปลกๆของพี่ชาย พี่จีฮุนดูเหมือนจะสติหลุดไปนิดก่อนจะเบือนสายตาออกจากใบหน้าสวยนั้น

    “ เปล่าหรอก แค่รู้สึกคุ้นๆหน้าน่ะ เอาล่ะ...เดี๋ยวเราให้นักสืบช่วยสืบหาครอบครัวเขาแล้วกัน ตอนนี้เรากลับไปพักผ่อนกันเถอะ ฉันจ้างพยาบาลดูแลเขาแล้ว ไม่ต้องห่วง” พี่จีฮุนพูดรัวเร็วพลางเดินนำหน้าผมออกจากห้อง ทำไมกันนะ? พอเขาเห็นหน้าคู่กรณีของผมถึงกับเปลี่ยนไปเป็นคนละคนเลย ความสุขุมที่มีในตอนแรกนั้นหายไปไหน

    ฉันขอโทษนะที่ทำให้นายต้องมาเจออะไรแบบนี้ ฉันขอโทษจริงๆ ลีชางซอบ

    ร่างสูงเมื่อก้าวพ้นประตูถึงกับพร่ำขอโทษคนในห้องในใจ เขาไม่คิดจริงๆว่าคนที่นอนไม่ได้สติอยู่นั้นจะโชคร้ายเพราะคนในครอบครัวเขาถึงสองครั้ง



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×