คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : 9th Floor : ตามลำพัง
เนื่องจากช่วงนี้เป็นช่วงกลางเทอม งานที่โรงเรียนจึงล้นมือเลยทีเดียว เป็นผลให้ผมกับพีเนียลต้องกลับบ้านค่ำ เมื่อมาถึงบ้านปรากฏว่า ไม่มีไฟเปิดเลยสักดวง
~ คือ บีดัลลา นัมดัลลา แทแทแทแท กาดัลลา I like it I Iike it ~
“ พี่อึนกวังอยู่ไหนครับ ทำไมยังไม่กลับบ้านอีก ห๊ะ!!ปูซาน ไปทำอะไรไกลขนาดนั้น ทุกคนเลยเหรอ แล้วกลับเมื่อไรครับ ก็ได้ ผมอยู่กับพี่พีเนียล อืม บาย” ซองเจวางโทรศัพท์อย่างปลงๆ พีเนียลส่งสายตามาเป็นคำถาม
“ พี่ๆที่มหาลัยไปออกค่ายอาสาที่ปูซานน่ะ กลับวันพรุ่งนี้ สงสัยเย็นนี้เราคงต้องหามื้อเย็นเองแล้วล่ะ” ซองเจพูดพลางกลืนน้ำลายเอื๊อก เมื่อนึกถึงสภาพห้องครัวครั้งที่แล้ว เขาโดนพี่ชายบ่นจนหูชาไปหลายวันเลยทีเดียว
“ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจัดการเอง” พีเนียลกล่าวอย่างสบายใจ พลางเดินนำเข้าบ้าน อย่างน้อยพี่ชายคนนี้ก็พึ่งได้ล่ะนะ
บรรยากาศนอกบ้านเริ่มเปลี่ยนแปลงมีเมฆฝนตั้งเค้ามาดำทมึน
“ พีเนียล ผมว่าฝนจะตกล่ะ ในตู้เย็นมีของสดบ้างมั๊ยครับ” ผมเดินไปถามพีเนียลซึ่งยืนอยู่ในครัวหวังเช็ควัตถุดิบ
“ อื้ม มีครบเลย งั้นคืนนี้ผมจะทำสปาเกตตี้นะ เพราะเป็นอาหารที่ผมมั่นใจที่สุดละ” พีเนียลกล่าวอย่างมั่นใจในสิ่งที่ตัวเองกำลังจะทำ
“ ผมทานอะไรก็ได้ครับ พี่ทำตามถนัดได้เลย เดี๋ยวผมเป็นลูกมือเอง จริงๆแล้วพี่อึนกวังเขาไม่ชอบให้ผมเข้ามายุ่งในครัวน่ะครับ” ซองเจบ่นพึมพำๆพลางเดินไปล้างมือ
“ ซองเจ หม้อต้มเส้นอยู่ไหนน่ะ” พีเนียลถามพลางเดินรอบห้องครัว
“อ๋อ อยู่บนนั่นน่ะครับ” ซองเจชี้นิ้วไปบนหลังตู้ เพราะเขาจำได้ว่าเป็นคนเก็บมันเอง
เคร้ง....โอ๊ย!!!!
หม้อที่ว่านั่นหล่นจากหลังตู้กระแทกเข้ากับข้อมือของพีเนียลอย่างจัง
“ พี่เป็นอะไรมากมั๊ยครับ ผมก็ลืมไปว่ามันอยู่สูง” ซองเจวางมีดหั่นผักก่อนจะวิ่งมาดูพีเนียลซึ่งนั่งกุมข้อมือตัวเองอยู่
“ ผมขอโทษนะครับที่ไม่ได้หยิบมันให้พี่ ทั้งๆที่เป็นคนเก็บมันเองแท้ๆพี่ไปพักก่อนนะ เดี๋ยวผมต้มเส้นเอง แค่นี้คงไม่ยากหรอกมั้ง” ซองเจมองข้อมือที่แดงช้ำอย่างเป็นห่วง แต่พีเนียลกลับยิ้มอย่างใจดีพลางส่วยหน้าไปมา
“ ไม่เป็นไรหรอก ผมไม่ระวังเองล่ะ เราทำกันต่อเถอะ” ซองเจเดินไปยังตู้เย็นพลางนำผ้าไปห่อน้ำแข็ง
“ งั้น พี่ประคบน้ำแข็งก่อนนะ ผมเกรงว่าพรุ่งนี้มันจะระบมน่ะครับ” พีเนียลรับมาประคบพลางยิ้มให้อย่างอบอุ่นทำเอาซองเจใจเต้นตึกตัก
“ ไม่ต้องโทษตัวเองนะ ผมไม่เป็นไรจริงๆ ไม่เจ็บเลยดูสิ” พีเนียลเมื่อประคบบรรเทาอาการปวดแล้วก็พลิกข้อมือไปมาให้คนอายุน้อยกว่าสบายใจ ซองเจจึงยอมปล่อยมือออกจากข้อมือของคนเจ็บ
“ ซองเจ ผมขอมะเขือเทศหน่อย” ขณะที่มือข้างนึงคนน้ำซุปในหม้อ มืออีกข้างก็ยื่นมารับมะเขือเทศ ซองเจยื่นให้พลางคิดว่าผู้ชายทำกับข้าวก็มีเสน่ห์เหมือนกันนะเนี่ย มิน่าล่ะ พี่มินฮยอกถึงตกหลุมรักพี่อึนกวัง
“ ว้าว ท่าทางน่ากินจังเลย ขอผมชิมหน่อยสิครับ” ซองเจเดินไปยืนหน้าหม้อซุปอย่างตื่นเต้น
“ อ่ะ...ร้อนหน่อยนะ ระวังๆล่ะ” พีเนียลเป่าไล่ความร้อนออกจากซุปก่อนจะป้อนเข้าปากคนที่ยืนรออยู่ เนื่องจากซองเจตัว สูงกว่าเล็กน้อย เจ้าตัวจึงต้องเท้าศอกกับเคาท์เตอร์เพื่อให้ตัวเท่ากัน
“ อื้ม...อร่อยจังเลย ผมอดใจรอไม่ไหวแล้วเนี่ย พยาธิในท้องร้องกันระงม” ซองเจกล่าวชมราวกับเด็กๆได้ของถูกใจ
“ งั้นเอาจานมาเลย คีบเส้นมาด้วยเดี๋ยวผมตักซุปให้” พีเนียลกล่าวพลางปิดเตาแก๊ส
“ พี่ลองชิมดูสิครับ” ซองเจม้วนเส้นแล้วนำไปจ่อปากพีเนียล ซึ่งพีเนียลก็กินมันอย่างเอร็ดอร่อย
“ อ๊ะ...เปื้อนเลย รอแปปนะครับ” ซองเจวางจานลงพลางเอานิ้วไปปาดคราบซอสที่ติดบริเวณมุมปากพีเนียลออก ขณะที่ปาดออกสายตาไม่ได้ละไปจากใบหน้าเลย พีเนียลค่อยๆโน้มหน้าขึ้นไปหาซองเจ ซึ่งเด็กน้อยได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ ก่อนจะรับรู้ถึงความอุ่นร้อนบริเวณริมฝีปากบาง ซองเจเบิกตาโพลงผิดกับพีเนียลที่หลับตาก่อนจะผละออกอย่างช้าๆ
“ เอ่อ...ที่ชิคาโก เค้าทักทายกันแบบนี้เหรอครับ” ซองเจกระพริบตาปริบๆพลางพูดอะไรเรื่อยเปื่อย
พีเนียลส่ายหน้าไปมาพลางยิ้มกว้าง
“ This kiss for only love” คำพูดนี้ทำเอาซองเจหน้าแดงและเอ๋อสนิท ไม่คิดว่าตัวเองจะมาหมดรูปให้กับชายต่างแดนคนนี้
“ ไปกินข้าวกันเถอะครับ” ซองเจตัดบทด้วยอาการเขิน ก่อนจะเดินออกจากห้องครัวไปอย่างใจลอย ขณะนี้เขาไม่สามารถรับรู้ได้แล้วว่า รสชาติของสปาเกตตี้เป็นอย่างไร เขารู้เพียงแต่ว่า รสจูบของคนตรงหน้าถึงจะเป็นช่วงสั้นๆแต่มันยังคงหวานติดริมฝีปากอยู่เลย
_______________________________________________________________________________________________________
พีเนียลให้อภัยซองเจอีกแล้ว พ่อพระจริงๆ แต่ว่าก็แลกด้วยการจูบน้อง เอ๊ะยังไง ขอถอนคำชมด่วน ฮ่าๆๆๆ
ความคิดเห็น