คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter : 5 จดหมายจากชายนิรนาม
Chapter : 5
หลังเลิกเรียน ผมเดินไปเปิดล็อกเกอร์ มีซองจดหมายร่วงหล่นลงมา
“ ว้าว! ยูได้จดหมายรักด้วยเว้ย...” เพื่อนร่วมห้องผมคนนึงตะโกนดังขึ้น ทำให้ผู้คนที่เดินขวักไขว่ต่างหยุดมองมาที่ผม
“ นายน่ะ หุบปากไปเลย” ผมพูดด้วยความอาย จะมีจดหมายรักได้ไงก็ในเมื่อที่นี่คือโรงเรียนชายล้วน ผมจึงปลีกตัวออกมาหาที่สงบอ่านจดหมาย
“ โคอิเดะ ยู ถ้านายไม่อยากให้เรจิมีข่าวฉาว ก็ออกมาเจอกันที่ห้องแล็บชั้น3 ฉันจะรอนาย
จาก ชายนิรนาม”
ผมอ่านทวนอีกรอบ ก็ยังไม่เข้าใจจนกระทั่งเห็นรูปที่แนบมาด้วย มันคือรูปตอนที่เรจิกำลังจูบหน้าผากผม ทำให้ผมเข้าใจได้ทันที ผมโทรไปบอกเรจิว่าผมไม่สามารถกลับบ้านพร้อมกับเขาได้ เนื่องจากต้องทำรายงาน ในเมื่อวันนี้เรจิมีงาน เขาจึงไม่สามารถอยู่รอผมได้ ผมรีบวิ่งไปยังที่นัดหมาย เมื่อผลักประตูเข้าไป ก็พบกับชายคนนึงซึ่งนั่งรออยู่ก่อนหน้าแล้ว ผมสีน้ำตาลแดง หุ่นสันทัด ใบหน้าคมได้รูป จัดว่าหล่อชนิดเทพเลยล่ะ ผิดแค่ว่าเขาหล่อน้อยกว่าเรจินิดหนึ่ง
“มีอะไร ว่ามา” ผมทำใจกล้าพูดออกไป หมอนั่นเหลือบตามามองผมและจ้องอยู่นาน ทำเอาผมถึงกับทำอะไรไม่ถูก
“ โคอิเดะ ยู ตัวจริงน่ารักกว่าในรูปอีกแฮะ” เพียงแค่สามก้าวเขาก็มาถึงตัวผมซะแล้ว ผมถึงกับผงะถอยหลังไปหนึ่งก้าวเพื่อตั้งหลัก
“ นายเป็นใคร”
“ แปลกแฮะ ที่นายไม่รู้จักฉัน ฉันก็ดังพอๆกับเรจิของนายนั่นแหละ” คำพูดของไอ้หมอนี่กำกวมแฮะ เรจิไม่ใช่ของผมซะหน่อย
“ นายพูดอะไรน่ะ ฉันไม่เข้าใจ แล้วเรจิเขาเป็นของฉันตั้งแต่เมื่อไร” ผมพูดพร้อมกับก้าวขึ้นหน้าเพื่อเผชิญหน้ากับเขา นายคนที่ยืนอยู่ข้างหน้ายื่นนิตยสารมาให้ผมดู ผมจึงเข้าใจทันที หมอนี่คือ นายแบบหน้าใหม่ที่ดังพอๆกับเรจิ “ เอจิ ชูตะ”
“ เอจิ ชูตะ คนที่ต้องถ่ายแบบคู่กับเรจิ แต่ท้องเสียคนนั้นน่ะเหรอ”
“ อือฮึ แต่ความจริงฉันไม่ได้ท้องเสียหรอก พอดีฉันได้ข่าวมาว่าเจ้าเรจิมันกำลังสนใจผู้ช่วย ฉันก็เลยอยากรู้ว่าคุณผู้คนนี้น่าสนใจตรงไหน เลยให้นายได้ถ่ายแบบคู่กับมัน แต่ไม่นึกว่าเรจิมันจะบ้าบิ่น ขนาดโพสท่าเหล่านั้นต่อหน้าประชาชน แต่จะว่าไป นายก็น่ารักดีนะ โดยเฉพาะหน้าแดงๆนั่นน่ะ” ชูตะยังคงพูดกวนประสาทผมได้ที่เลยล่ะ
“ นายคงจะไม่ได้เห็นหน้าแดงๆของฉันอีก” ผมพูดพร้อมกับหันหลังเตรียมจะเดินออกจากห้อง
“ นายไม่สนใจรูปเหล่านี้เลยเหรอ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่านายกับเรจิสนิทกันถึงขั้นไหน รสจูบของเรจิเป็นยังไงบ้างล่ะ ทำเอาถึงกลับเคลิ้มเลยล่ะสิ”
คำพูดเหล่านี้ทำเอาผมถึงกับตัวชาวาบ ผมหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขาอีกครั้ง แต่ยังไม่ทันที่จะพูดอะไร ชูตะก็กระชากตัวผมเข้าไปชิดกับเขาพร้อมกับกระซิบเบาๆข้างหู
“ ถ้านายมาเป็นแฟนฉัน ภาพเหล่านี้ก็จะไม่หลุดไปอยู่ในมือนักข่าว สนใจมั๊ยล่ะ”
ผมมองค้อนชูตะตรงๆ แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกอะไร
“ ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ กะอีแค่มีแฟนเพิ่มอีกสักคน” หมอนั่นยังคงพูดออกมาหน้าตาเฉย
“ ฉัน...กับ...เรจิ ไม่ได้เป็นอะไรกันโว้ยยยยยยยยย” ผมตะโกนใส่หน้าเขา
“ เหรอ แล้วนี่มันรอยอะไรกันล่ะ” ชูตะว่าพลางดึงผ้าพันคอออก
“ จุ๊ๆๆ มีตั้ง 2 รอยแน่ะ อย่าบอกนะว่ายุงกัด ยุงตัวใหญ่ซะด้วย เพราะมันเห็นได้ชัดเลยน่ะสิ ผิวสวยๆเป็นรอยหมด น่าเสียดาย” ชูตะพูดพลางจุ๊ปากอย่างเสียดาย
“ ปล่อยนะ ฉันจะกลับแล้ว” แม้ผมจะสะบัดยังไงก็สู้แรงชูตะไม่ได้เลย พาลนึกเสียใจว่าผมควรจะตัวโตกว่านี้ จะได้ไม่โดนใครรังแกง่ายๆ
“ ฉันอยากรู้นัก ว่าไอ้ริมฝีปากที่พูดฉอดๆจะรสชาติเป็นยังไร” พูดจบเขาก็โน้มใบหน้าเข้ามาชิดกับหน้าผม
“ ปล่อยนะ ไอ้โรคจิต ไอ้บ้า” ผมสะบัดตัวสุดฤทธิ์ มือไม้สะเปะสะปะไปทั่ว นี่ก็มือแล้วคงไม่มีใครอยู่แถวนี้แล้วล่ะ ถึงจะตะโกนยังไงก็คงไม่มีประโยชน์
“ ปล่อยฉันนะ อุ๊บ” ริมฝีปากถูกปิดด้วยปากของอีกคน ซึ่งมันต่างจากสัมผัสที่เคยได้รับโดยสิ้นเชิง ทั้งรุก ทั้งเอาแต่ใจ เรียวลิ้นกระหวัด ทำให้ผมต้องหนีแต่กลับกลายเป็นว่าผมเล่นไปกับมัน กระดุมเสื้อผมถูกปลดไปตอนไหนไม่รู้ รู้แต่ว่าริมฝีปากมันกำลังลากผ่านลำคอและฝากรอยไว้มากมาย เรียวลิ้นลากผ่านหน้าอกและยังคงวนเวียนอยู่อย่างนั้น
“ ฮือ...ไอ้บ้า...หยุดนะ อย่าทำฉัน...” ตอนนี้สมองผมขาวโพลนไปหมด รู้สึกถึงน้ำอุ่นๆที่ไหลออกมาจากนัยน์ตาทั้งสองข้าง มือของชูตะข้างที่ว่างลงมายุ่มย่ามแถวเอวกางเกงของผม ผมรู้ชะตากรรมเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“ร่างกายของนายยังซื่อสัตย์กว่านายอีกนะ” หมอนั่นจับตรงส่วนนั้นของผม แล้วรูดมันขึ้นลงสลับกัน เล่นซะผมไม่มีแรงจะต่อต้าน
“ ไหนนายบอกว่า จะไม่ให้ฉันเห็นหน้าแดงๆของนายไง ลืมคำพูดตัวเองแล้วเหรอ” ชูตะพูดพลางยิ้มกรุ้มกริ่ม
“ หยะ...หยุด...เดี๋ยวนี้นะ” กว่าคำพูดจะออกไปได้ผมต้องรวบรวมกำลังเป็นอย่างมาก
ติ๊ดๆๆ
เสียงโทรศัพท์ของผมดังขึ้น ผมรู้สึกดีใจที่มันดังและมั่นใจว่าคนปลายสายจะต้องช่วยผมได้
“ ว่าไงเรจิ” ความหวังของผมพังครืน เมื่อชูตะเป็นคนรับสาย
“ อยากคุยเหรอ ได้สิ แต่เสียงออกจะโหยหวนนิดนึงนะ” มันยื่นโทรศัพท์ให้ผม แต่ผมหุบปากเงียบไม่พูดอะไรสักคำ มันจึงรูดส่วนอ่อนไหวของผมอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว
“ อ๊า...หยุด...ดะ...เดี๋ยว...นี้นะ อึ๊ก...อ๊า...” ผมต้องเผลอหลุดปากออกไป จากนั้นสายโทรศัพท์ก็ตัดทันที หมดแล้วความหวังของผม ชีวิตของผม ผมรู้สึกได้ว่าตอนนี้น้ำอุ่นๆสีขาวขุ่นมันทะลักออกมาเปรอะมือชูตะ มันยิ้มอย่างสุขสมที่ได้เห็นสิ่งนั้น จากนั้นมันก็ถอดกางเกงออกจากตัวผม ตอนนี้ผมไม่มีแรงจะต้านมันอีกแล้ว อยากทำอะไรก็ทำเถอะ มันใช้ลิ้นเลียสิ่งที่ทะลักออกมาราวกับจะทำความสะอาด แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรมาก ประตูห้องก็ถูกผลักเข้ามา อย่าเรียกว่าผลักเลย มันถูกถีบเข้ามามากกว่า ผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูคือ เรจิ ผมดีใจที่เห็นเขา แต่ก็เสียใจที่เขามาเห็นผมในสภาพทุเรศแบบนี้ เรจิมองผมแวบนึงก่อนจะถอนสายตาไปยังชูตะ ซึ่งทำหน้ากวนอารมณ์
“ ว่าไง เรจิ เสียงของหมอนี่มันคงไปรบกวนโสตประสาทใช่มะ? หวานได้ใจเลยสิ”
เรจิไม่พูดอะไรแต่หมัดหนักอัดเข้าที่ท้องทั้งดุ้น เขาจัดการยำชูตะซะสิ้นฤทธิ์ แต่ก็ยังคงให้เกียรติใบหน้าที่ใช้ทำมาหากินของเหล่านายแบบอยู่ เรจิเดินมาที่ผมพลางถอดเสื้อคลุมมาคลุมตัวผมไว้ ดูก็รู้ว่าเพิ่งถ่ายแบบเสร็จ เพราะชุดที่เขาใส่อยู่คือชุดที่ผมไปเลือกกับเขาเมื่อครั้งก่อน เขาไม่พูดอะไรกลับช้อนตัวผมไปไว้ในอ้อมแขนที่แข็งแกร่ง ด้วยความเหนื่อยล้าผมจึงหลับไปในอ้อมแขนเขาด้วยคราบน้ำตา
ความคิดเห็น