คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 3rd Floor : อาคันตุกะหน้าหวาน
“ อึนกวัง เครื่องดูดฝุ่นอยู่ไหนน่ะ ฉันหาไม่เจอ เมื่อกี้ฉันทำแก้วแตกในครัวน่ะ”
เสียงมินฮยอกดังมาตลอดทางจากในครัวถึงห้องนั่งเล่น คนที่ถูกเรียกหากระโดดลุกออกจากโซฟาทันที
“ คอยอยู่ตรงนี้นะ ไม่ต้องเข้าไปหรอก เดี๋ยวแก้วจะบาดเอา นายยิ่งแต่ซุ่มซ่ามอยู่” อึนกวังหยิบเครื่องงดูดฝุ่นจากห้องใต้บันไดแล้วตรงไปยังห้องครัว
“ ฉันว่ามันไม่ใช่แค่แก้วแตกแล้วมั้ง นี่มันโหลน้ำตาลทั้งโหลเลยนะ ไปทำอีท่าไหนล่ะเนี่ย” อึนกวังบ่นพลางเก็บเศษแก้วชิ้นใหญ่ๆใส่ถุงขยะ
“ ฉันขอโทษนะ ก็ฉันไม่ได้ตั้งใจนี่นา โหลน้ำตาลมันอยู่สูง ฉันเอื้อมไม่ถึง พอกระโดดไปจับมันก็เลื่อนลงมาจากชั้นวางซะแล้ว” มินฮยอกกล่าวอย่างรู้สึกผิด
“ ไม่เป็นไรหรอก ปกติของใช้พวกนี้มันจะอยู่ด้านล่าง สงสัยเมื่อวานซองเจเข้ามาในครัวแน่ๆเลย สิ่งของถึงเปลี่ยนที่ไปหมด” อึนกวังพูดพลางกวาดสายตาไปทั่วห้องครัว ซึ่งสิ่งของที่เขาใช้ประจำสลับที่กันไปหมด อย่างเช่น ขวดเครื่องปรุงที่ควรอยู่ด้านล่างก็ขึ้นไปอยู่บนชั้นเก็บของซึ่งสูงเกินกว่าเค้าจะเอื้อมถึง แก้วน้ำ จานชามกลับอยู่นบเคาท์เตอร์แทนที่จะอยู่ในตู้ของมัน คนที่ทำแบบนี้ได้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ยุก ซองเจ น้องชายของเขานั่นเอง
“ ว่าแต่ ซองเจไปไหนล่ะ ฉันไม่เห็นเค้าตั้งแต่เช้าแล้ว” มินฮยอกถามถึงน้องชายของคนรักพลางโผล่หน้าออกจากห้องครัวเพื่อมองหาผู้ที่กล่าวถึง
“ ไปรับลูกของเพื่อนแม่น่ะ เค้าจะมาอยู่กับเรา” อึนกวังพูดไปมือก็ทำความสะอาดไปด้วย
“ ใช่หนุ่มน้อยคนนี้รึเปล่า” มินฮยอกถามพลางชี้นิ้วไปนอกห้องครัว ทำให้มือของอึนกวังหยุดลง อึนกวังโผล่หน้าออกมาจากห้องครัว วางทุกสิ่งทุกอย่างลง
“ มาถึงแล้วเหรอ เหนื่อยรึเปล่า ฉัน อึนกวังนะ ส่วนนี่ก็มินฮยอก” อึนกวังยิ้มให้กับหนุ่มน้อยหน้าตาน่ารัก ซึ่งมองทั้งสองคนอย่างงงๆ โดยไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี เนื่องจากอึนกวังทักเขาเหมือนรู้จักกันมานาน
“ สวัสดีครับ ผม จอง อิลฮุล พอดีเห็นหน้าบ้านติดป้ายว่ามีห้องว่างให้เช่า ผมเลยเดินเข้ามา” ถึงจะยังงงๆอยู่บ้าง แต่มารยาทอันดีงามก้ไม่ได้สูญหายไปด้วย
“ อ่าว...นายไม่ได้มากับซองเจหรอกเหรอ” อึนกวังเองก็หน้าแตกกับคำพูดของตัวเอง ก่อนจะหันไปถลึงตาให้คนข้างตัวที่พยายามกลั้นขำจนหน้าแดง ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้ากลับส่ายหน้าไปมาเป็นคำตอบ
“ โอเคๆ งั้นรอที่ห้องรับแขกก่อนนะ เดี๋ยวฉันตามไป” มันคงเป็นสไตล์การพูดที่ติดปากแล้วมั้งสำหรับเจ้าของบ้านกับแขกที่มาพัก อิลฮุลพยักหน้าพลางเดินออกไปเงียบๆ
“ ฮิฮิฮิ ทันเขาอย่างกับรู้จักกันมานานก็ไม่ปาน “ มินฮยอกกล่าวแซวคนรักซึ่งหันหน้าไปทำความสะอาดต่อ
“ ก็ใครจะไปรู้ล่ะ อยู่ดีๆก็เดินเข้าบ้านคนอื่น อย่างกับบ้านตัวเอง โดยเจ้าของบ้านก็ไม่ทันสังเกต ฉันก็เลยนึกว่ามีคนพามา” เมื่อเก็บเสร็จก็วางถุงขยะในถังใหญ่ก่อนจะล้างมือ
“ นายอย่าลืมสิว่าบ้านนายเปิดเป็นหอพักนะ ใครๆเห็นป้ายก็ย่อมเดินเข้ามาถามได้ทั้งนั้น” มินฮยอกว่าพลางส่งผ้าเช็ดมือให้อึนกวัง
“ แล้วก็ไอ้นิสัยที่พูดแบบเป็นกันเองกับคนไม่รู้จัก ก็แก้ไขซะบ้างนะ ไม่ใช่ทุกคนสักหน่อยที่พอเจอหน้ากันครั้งแรกปุ๊บ ก็พูดแบบเป็นกันเองปี๊บ” มินฮยอกเดินเข้าไปใกล้พลางปัดปอยผมที่ลงมาปิดตาของคนรัก
“ ก็มันชินปากแล้วนี่นา แล้วอีกอย่างคนที่มาเช่าแต่ละคนก็อายุน้อยกว่าฉันทั้งนั้น” อึนกวังว่าพลางทำปากบู้
“ ก็ปรับซะสิ” มินฮยอกใช้นิ้วชี้กดลงบนริมฝีปากนั้น
“ อะ...แฮ่มๆ ลูกค้ารออยู่ด้านนอก หยุดสวีตกันก่อนเถอะครับ” เสียงของซองเจหยุดการกระทำของคนทั้งคู่ มินฮยอกจึงเป็นฝ่ายหันหน้าไปยิ้มให้น้องชายของคนรักก่อน
“ มาแล้วเหรอ เจ้าน้องบ้า นายทำห้องครัวฉันเละไปหมด” อึนกวังบ่นอย่างหมดอารมณ์ เมื่อเจอขัดจังหวะแบบนี้ ซองเจได้แต่ยักไหล่ก่อนจะสะบัดหน้าออกจากห้องครัวไป
@ Cube Place Living room.
ซองเจเดินออกมาจากห้องครัว ก่อนจะยิ้มให้แขกที่มาพร้อมกันสี่คน คนที่นั่งบนโซฟาเดี่ยวท่าทางหน้าตางัวเงียเหมือนเพิ่งตื่นนอน คือคนที่นั่งรถมาจากสนามบินกับเขา ส่วนสองคนที่นั่งอยู่โซฟาตัวกลาง คนนึงท่าทางขี้เล่นส่วนอีกคนท่าทางเฉื่อยชา ช่างไม่เข้ากันซะเลย ส่วนคนสุดท้าย ดูจะเป็นปกติที่สุดแต่มีใบหน้าที่น่ารักสะดุดตาผู้พบเห็นอย่างจัง
“ อ้าว...นายที่ฉันชนบนรถนี่ พักที่นี่เหมือนกันเหรอ” ฮยอนชิคหันไปทักคนที่นั่งถัดไปจากเขาด้วยความตื่นเต้น
“ สวัสดีครับ ผม จอง อิลฮุลครับ” อิลฮุลส่งยิ้มน่ารักละลายใจไปให้ ทำให้ผู้ที่ถูกยิ้มให้ใจกระตุกวูบ ส่วนคนที่นั่งด้านข้างทำได้แค่ปรือตาขึ้นมามอง พลางพึมพำในลำคอว่า “พรหมลิขิตล่ะสินะ”
“ อ่อ ยินดีที่ได้รู้จักนะ ฉัน ลิมฮยองชิค ส่วนเจ้าง่วงนี่ก็ ลีชางซอบ” ฮยอนชิคแนะนำตัวเองบ้าง ชางซอบจึงยกมือทักทายแบบพวกฮิพฮอพเป็นโรคเหงาหลับ
“ ส่วนฉันชื่อพีเนียลนะ” ภาษาเกาหลีสำเนียงแปร่งๆถูกส่งมาจากอีกคนที่ถูกลืมอยู่ข้างหลัง ทำให้อีกสามคนที่เหลือหันไปมอง
“ นายไม่ใช่คนเกาหลีเหรอ” คำถามแบบห่ามๆถูกส่งออกมาจากปากคนขี้เล่น
“ อ่อ...ผมอยู่ชิคาโกตั้งแต่เด็กๆครับ เลยพูดไม่ค่อยชัด” พีเนียลตอบกลับไปอย่างสุภาพ ทำเอาทั้งสามคนพยักหน้าหงึกๆอย่างเข้าใจ แต่ก่อนที่บทสนทนาจะยาวไปกว่านี้ เจ้าของบ้างตัวจริงก็เดินเข้ามา
“ ยินดีต้อนรับนะทุกคน ฉัน ซอ อึนกวัง เจ้าของ cube place” เสียงของอึนกวังเรียกความสนใจของคนในห้องนั่งเล่นได้ รวมแม้กระทั่งน้องชายของเขาเอง
“ ฉันได้เตรียมห้องไว้ให้แล้ว เชิญเลือกได้ตามสบายเลยนะ” คำพูดแบบเป็นกันเองก็ยังแก้ไม่หายสักที คนที่ลุกจากโซฟาคนแรก กลายเป็นชางซอบที่ดูเฉื่อยชาที่สุด
“ ผมขอห้องไหนก็ได้ที่ตอนเช้าพระอาทิตย์จะไม่ส่องมารบกวน” คำพูดเหมือนละเมอ ทำให้ผู้ฟังคิดว่าเขายังตื่นอยู่รึเปล่า ฮยอนชิคจึงได้แต่ส่ายหน้ากับพฤติกรรมของเพื่อน
“ งั้นผมขอที่แสงแดดส่องถึงนะครับ ผมชอบแสงอาทิตย์ยามเช้า มันสดชื่นดี” คำพูดของเพื่อนต่างขั้วทำเอาคนอื่นๆเหวอไปตามกัน คราวนี้เหลือเพียงอิลฮุลกับพีเนียลเท่านั้น
“ ผมห้องไหนก็ได้ครับ” อิลฮุลชิงพูดขึ้นก่อน สายตาเป็นคำถามจึงไปตกอยู่ที่คนพูดน้อย
“ งั้นผมขอห้องใต้หลังคาได้มั๊ย มันสงบดี” ซองเจจึงเป็นคนทำหน้าที่พาทุกคนไปยังห้องของตัวเอง พร้อมทั้งอธิบายกฎของบ้านหลังนี้ให้ทุกคนทราบ
“ ที่นี่ ห้องนั่งเล่นกับห้องครัวเราจะใช้ร่วมกันนะครับ ประตูรั้วจะปิดตอนเที่ยงคืน ถ้าใครมีธุระข้างนอกตอนดึกๆกรุณามาเอากุญแจไปปั๊มด้วยนะครับ ส่วนประตูบ้านกับห้องนอนจะใช้คีย์การ์ดใบเดียวกัน น้ำอุ่นมีตลอดเวลา ส่วนเรื่องอาหาร พี่อึนกวังกับพี่มินฮยอกจะเป็นคนดูแลครับ แต่ถ้าใครประสงค์จะทำเองก็ไม่มีปัญหาครับ อาหารเช้าเวลา8-10โมงเช้า ส่วนอาหารกลางวัน ถ้าเป็นวันธรรมดารบกวนช่วยดูแลตัวเองด้วยครับ แต่ถ้าเป็นวันหยุดพี่อึนกวังจะจัดตอนเที่ยงเป๊ะ ส่วนมื้อเย็นเริ่มที่6โมงเย็นครับ ห้องซ้อมดนตรีใช้ได้เลยนะครับ ส่วนเรื่องความสะอาดจะมีแม่บ้านมาทำความสะอาดอาทิตย์ละ3ครั้ง คือ อังคาร พฤหัสและอาทิตย์ครับ ก็ขอให้ช่วยกันรักษาความสะอาดและเคารพความเป็นส่วนตัวของผู้อื่นด้วยนะครับ ขอบคุณครับ” ซองเจพูดรัวยาวเป็นหางว่าวราวกับท่องจำมาเป็นอย่างดี แขกผู้ที่เดินตามมาจึงทำได้แต่พยักหน้าหงึกๆทำความเข้าใจก่อนจะพากันแยกย้ายเข้าห้องไป
ท่าทางจะหนักมากนะนั่นน่ะ555+(ขาดไปคนนึง)
_________________________________________________________________________________________________________________________________
ความคิดเห็น