ลำดับตอนที่ #15
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : Chapter : 15 My Lucky...^^
Chapter : 15
เช้านี้เรจูงมือผมเข้าไปในสตูดิโอ เขายิ้มอย่างมีความสุขซึ่งไม่ต่างอะไรจากผม เราสองคนกุมมือกันไปยังห้องของผู้จัดการส่วนตัว เพราะเรกำลังจะได้เล่นละครเรื่องใหม่ ซึ่งเนื้อเรื่องก็ออกแนวดราม่ารักโรแมนติกเกี่ยวกับวงการแพทย์ เขาได้รับบทเป็นคุณหมอ ผู้ซึ่งอุทิศทั้งชีวิตเพื่อคนที่เขารักและคนไข้อีกมากมายที่เป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองและยังไม่มียารักษาโรค แต่สาเหตุที่เขาต้องลากผมมาด้วยก็คือ
" ผมหานางเอกได้แล้วล่ะครับ" แหะๆ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นแบบลักเพศชายรักชายน่ะครับ ผมจึงเป็นคนแรกที่เรนึกถึง
" ก็ดีเหมือนกันนะ ยูก็น่ารักดี แต่มันอาจจะเหนื่อยหน่อยนะยู สู้ๆล่ะ"
ผู้จัดการบอกอย่างใจดี เรหันมายิ้มให้ผมอย่างดีใจ ผู้จัดการจึงยื่นบทละครให้ผมกับเร
" แล้วจะเริ่มเปิดกล้องตอนไหนครับ" เรถามอย่างเป็นการเป็นงาน
" อืม...ก็คงประมาณ เดือนหน้าน่ะ ยังไงก็ไปซ้อมๆดูก่อน ฝากดูแลยูด้วยล่ะ ฉันต้องไปก่อน มีประชุมน่ะ มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ" พูดจบผู้จัดการก็ยิ้มอย่างใจดีแล้วเดินจากไป
"นี่ เร...ถ้าฉันเป็นโรคแบบนี้จริงๆ เรจะทำยังไง" ผมถามออกไปหลังจากที่อ่านบทย่อๆจบ
" อืม...ผมก็คงจะทำแบบพระเอกล่ะ จะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อรักษายูให้ได้" เรสบตาแล้วพูดกับผมเบาๆ
" ถึงแม้ว่าสุดท้ายฉันจะตายน่ะนะ!!"ผมค้านออกไปแต่เรกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน
" ถึงแม้ว่ายูไม่อยู่แล้ว แต่ผมก็เชื่อว่า ยูยังคงอยู่เคียงข้างผม คอยเป็นกำลังใจให้ผม และผมจะมียูอยู่ในใจคนเดียว" นัยน์ตาที่มองตรงมาบอกถึงความหนักแน่นและจริงใจอย่างที่พูด
" สัญญาได้มั๊ย?...ถ้าฉันเป็นอะไรไป เรจะต้องมีความสุขเพราะตราบใดที่เรมีความสุข ฉันเองก็จะมีความสุขด้วยและถ้าเรเจอใครที่ดีกว่าฉัน ก็ต้องทำให้เขาคนนั้นมีความสุขด้วย อย่าปิดกั้นตัวเองเพราะฉันคนเดียวเลยนะ" เรตะลึงงันกับคำพูดของผมก่อนจะคลายสีหน้าลงแล้วโอบกอดผม
" ยูเองก็ต้องสัญญากับผมนะ ว่าถ้าผมเป็นอะไรไปยูจะต้องไม่ร้องไห้ เพราะนํ้าตาของยูมันทำให้ผมทรมาน ผมไม่อยากให้ยูร้องไห้ ไม่อยากให้ยูทุกข์ใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อไร ผมจะอยู่เคียงข้างยู " ผมกระชับกอดเรแน่น เรยกผมขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะโน้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากของผม
ผมรู้สึกขอบคุณความโชคดีของผมที่ทำให้ผมได้มาเจอกับคนๆนี้ คนที่รักผมอย่างจริงใจ คนที่เติมเต็มทุกอย่างในชีวิตผม คนที่ทำให้ผมมีกำลังใจไม่ว่าจะทำสิ่งใด คนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยผม และสุดท้ายเค้าเป็นคนที่ผมรัก...
.............................
.............
........
....
..
.
" ยู วันนี้ไปช่วยผมหน่อยนะ" เรพูดจบก็ลากผมไปยังห้างสรรพสินค้า ซึ่งผมยังไม่ทันได้ถามเลยว่าให้ช่วยอะไร แต่ความจริงก็กระจ่างเมื่อเราสองคนเดินมาถึงหน้าร้าน...เสื้อผ้า
" งานครั้งนี้คอนเซ็ปอะไรล่ะ" ผมถามพลางเดินเข้าไปในร้านก่อน ซึ่งคือร้านที่เราสองคนเคยมาเมื่อรู้จักกันครั้งแรก
" เทศกาลแห่งความรักน่ะ ไหวมั๊ยล่ะ" เรตอบพลางยักคิ้วอย่างกวนส่วนที่เดินได้
" อย่าดูถูกฝีมือฉันล่ะ พ่อจะแสดงให้ดู" ผมพูดจบก็เดินร่อนไปทั่วร้าน หยิบชิ้นนั้นทีชิ้นนี้ทีแล้วนำมาแมทกัน เรเดินถือเสื้อตัวนึงมาให้ผม เป็นเสื้อกั๊กแขนกุดสีขาวสะอาดตาแต่มีลายปักสีชมพูไขว้ไปไขว้มาอย่างเก๋ไก๋ เขายื่นมันมาให้ผม
" เรจะใส่ตัวนี้จริงๆน่ะเหรอ" เอ๊ะ!!!คำนี้ทะแม่งๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
" แล้วผมใส่ไม่ได้รึไง" แน่ะ!!ยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่
" ก็เปล่า...แต่คิดว่าตัวมันเล็กไป แล้วแบบมันก็...ดูน่ารักเกินไปสำหรับเร" ใช่เลย นี่ก็เป็นอีกคำพูดนึงที่ผมพูดกับเรในวันที่เรารู้จักกันครั้งแรก (ถ้าจำไม่ได้กลับไปอ่านตอนที่ 1)
" ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ผมอยากซื้อ/เรอยากซื้อ" ผมกับเรพูดจบพร้อมกัน ผมยื่นมือไปรับเสื้อกับบัตรเครดิต ส่วนเรก็ส่งมันมาให้ผมอย่างว่าง่ายแล้วเราก็หัวเราะพร้อมกัน
"555+ ยังจำได้อีกเหรอ" ผมถามพลางยิ้มกว้าง
" ผมจำเรื่องของยูได้ทุกเรื่องเลยล่ะ รู้มั๊ยเวลายูโกรธหรือหงุดหงิดใส่ผม มันน่ารักดีนะ"
" งั้นเรก็คงอยากให้ฉันโกรธเรใช่มั๊ย" ผมถามพลางยืนกอดอกมองหน้าเรด้วยสายตาท้าทาย
" ถึงจะน่ารัก แต่ผมก็ไม่อยากให้ยูโกรธผมหรอกนะคร้าบบบบบ" เรยังคงเล่นลิ้น
" เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า" พูดจบเรก็จูงมือผมไปจ่ายเงินแล้วออกจากร้านทันที
" ครั้งที่แล้ว ยูต้องวิ่งตามผม แต่ครั้งนี้ เราจะเดินไปด้วยกัน" เรส่งมือมาทางผม ผมก็เกาะกุมมันพร้อมกับเดินไปกับเขา
" รู้มั๊ย...ตอนที่ยูวิ่งตามน่ะ มันทำให้ผมรู้ว่ายูตัวเล็กขนาดไหน ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากแกล้ง ก็เลยให้ยูถือของซะเยอะขนาดนั้นแล้วก็วิ่งตามผมทั้งๆที่มีขาสั้น 555+" แน่ะ!!ยังเหน็บอีก
"แต่พอเห็นยูหอบ ผมก็เลยรู้สึกว่าแกล้งเยอะไปหน่อย ผมก็เลยตั้งใจจะขอโทษโดยการพายูไปร้านกาแฟนั่นล่ะ หวังว่าคงจะยกโทษให้กันนะ" เรเล่าอย่างสนุกปาก จนกระทั่งมาถึงร้านกาแฟที่ว่า
.......ผู้ชายคนนี้ทำให้ผมรู้ว่าทุกวันของผมจะมีความสุข ทุกวินาทีของผมจะมีค่า และทำให้ผมสัมผัสถึงความรักได้ทุกวัน.....
" เรรู้มั๊ย ฉันเคยเห็นเรก่อนที่เราจะได้เจอกันด้วยล่ะ" เรมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะกลับไปสนใจวิปครีมคาปูชิโน่ตรงหน้าต่อ
"ตอนไหนล่ะ ผมเจอคนมาเยอะ ถ้าไม่บอกผมคงนึกไม่ออกหรอก" หลังจากที่ตักนู่นตักนี่เข้าปาก เรจึงหันมาสนใจผมต่อ
" ก็ตอนที่อยู่ที่สนามบินไง ฉันไปเข้าห้องนํ้าจากนั้นก็ไปเจอเรที่ตู้กดนํ้า กำลังยืนด้อมๆมองๆ ฉันก็เลยเข้าไปดู แล้วก็หยอดเงินเพิ่มให้ แต่ตอนนั้นเรมองฉันตาขวางด้วยล่ะ แถมคำขอบคุณสักคำก็ไม่มี...อ๊ะ...เลอะหมดแล้ว" ขณะที่ผมเล่าให้เรฟัง เขาถึงกับนิ่งอึ้งโดยไม่รู้สึกถึงฟองวิปครีมที่ติดอยู่ตรงมุมปาก ผมก็เลยต้องยื่นมือออกไปเช็ดให้ แต่เรก็ยังคงอยู่ในท่าเดิม
" ตอนนั้น ผมนึกว่าเด็กผู้หญิงที่ไหนซะอีก นั่นมันยูหรอกเหรอ ทำไมผมซื่อบื้อขนาดนี้เนี่ย" เรว่าพลางยิ้มเขินๆ ผมเพิ่งเคยเห็นเขาหน้าแดงเป็นครั้งแรกล่ะ
" แหม!!! ว่าแต่คนอื่นเขา เวลาตัวเองหน้าแดงก็น่ารักเหมือนกันนั่นล่ะ" ผมพูดแซวพร้อมกับหยิกแก้มเขาไปเบาๆหนึ่งที
" ตอนนั้นเป็นใครก็คงเข้าใจผิดล่ะ ก็ฉันตัวเล็กนี่ แถมผมก็เริ่มยาวอีกต่างหาก" ผมกัดขนมปังเข้าปาก
" มิน่า ตอนเราเดินชนกัน ผมถึงรู้สึกว่าคนๆนี้หน้าคุ้นจัง ที่แท้ก็คนเดียวกันนี่เอง แต่ยูตอนนี้น่่ะ น่ารักกว่าตอนที่เราเจอกันที่สนามบินอีกนะ" เรจิยิ้มจนตาหยี เล่นชมกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้ก็เขินสิครับ
" ไม่ต้องมาชมเลย คนเจ้าเล่ห์" ผมบีบจมูกเรจิเบาๆ ตอนนี้ผมคงไม่ต้องปลอมตัวอะไรมาก เพราะใครๆก็คงนึกว่าผมเป็นสาวน้อยแรกแย้มไปแล้วล่ะ เนื่องจากผมของผมยาวขึ้นและตัวก็เล็กๆเลยไม่มีใครสงสัย
" ยูรู้มั๊ย ถ้าที่นี่ไม่ใช่ร้านกาแฟ ผมจับกดไปนานแล้ว*-*" เรจิกระซิบเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มปีศาจมาให้
" คนบ้า!! " ผมทุบแขนเรเบาๆไปหลายครั้ง เจ้าตัวก็เอาแต่หัวเราะหึๆอย่างโรคจิต
....นี่ก็คงเป็นความโชคดีของผมที่ในขณะนี้เราอยู่ในร้านกาแฟ ไม่อย่างงั้นผมคงเสร็จเค้าเป็นแน่TT^TT....
..................................................................................................................................................................................................................
" ผมหานางเอกได้แล้วล่ะครับ" แหะๆ เนื่องจากเรื่องนี้เป็นแบบลักเพศชายรักชายน่ะครับ ผมจึงเป็นคนแรกที่เรนึกถึง
" ก็ดีเหมือนกันนะ ยูก็น่ารักดี แต่มันอาจจะเหนื่อยหน่อยนะยู สู้ๆล่ะ"
ผู้จัดการบอกอย่างใจดี เรหันมายิ้มให้ผมอย่างดีใจ ผู้จัดการจึงยื่นบทละครให้ผมกับเร
" แล้วจะเริ่มเปิดกล้องตอนไหนครับ" เรถามอย่างเป็นการเป็นงาน
" อืม...ก็คงประมาณ เดือนหน้าน่ะ ยังไงก็ไปซ้อมๆดูก่อน ฝากดูแลยูด้วยล่ะ ฉันต้องไปก่อน มีประชุมน่ะ มีปัญหาอะไรก็โทรมานะ" พูดจบผู้จัดการก็ยิ้มอย่างใจดีแล้วเดินจากไป
"นี่ เร...ถ้าฉันเป็นโรคแบบนี้จริงๆ เรจะทำยังไง" ผมถามออกไปหลังจากที่อ่านบทย่อๆจบ
" อืม...ผมก็คงจะทำแบบพระเอกล่ะ จะพยายามทุกวิถีทาง เพื่อรักษายูให้ได้" เรสบตาแล้วพูดกับผมเบาๆ
" ถึงแม้ว่าสุดท้ายฉันจะตายน่ะนะ!!"ผมค้านออกไปแต่เรกลับยิ้มอย่างอ่อนโยน
" ถึงแม้ว่ายูไม่อยู่แล้ว แต่ผมก็เชื่อว่า ยูยังคงอยู่เคียงข้างผม คอยเป็นกำลังใจให้ผม และผมจะมียูอยู่ในใจคนเดียว" นัยน์ตาที่มองตรงมาบอกถึงความหนักแน่นและจริงใจอย่างที่พูด
" สัญญาได้มั๊ย?...ถ้าฉันเป็นอะไรไป เรจะต้องมีความสุขเพราะตราบใดที่เรมีความสุข ฉันเองก็จะมีความสุขด้วยและถ้าเรเจอใครที่ดีกว่าฉัน ก็ต้องทำให้เขาคนนั้นมีความสุขด้วย อย่าปิดกั้นตัวเองเพราะฉันคนเดียวเลยนะ" เรตะลึงงันกับคำพูดของผมก่อนจะคลายสีหน้าลงแล้วโอบกอดผม
" ยูเองก็ต้องสัญญากับผมนะ ว่าถ้าผมเป็นอะไรไปยูจะต้องไม่ร้องไห้ เพราะนํ้าตาของยูมันทำให้ผมทรมาน ผมไม่อยากให้ยูร้องไห้ ไม่อยากให้ยูทุกข์ใจ ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนเมื่อไร ผมจะอยู่เคียงข้างยู " ผมกระชับกอดเรแน่น เรยกผมขึ้นนั่งบนโต๊ะทำงาน ก่อนจะโน้มหน้าลงมาประทับริมฝีปากลงบนเรียวปากของผม
ผมรู้สึกขอบคุณความโชคดีของผมที่ทำให้ผมได้มาเจอกับคนๆนี้ คนที่รักผมอย่างจริงใจ คนที่เติมเต็มทุกอย่างในชีวิตผม คนที่ทำให้ผมมีกำลังใจไม่ว่าจะทำสิ่งใด คนที่คอยเป็นห่วงเป็นใยผม และสุดท้ายเค้าเป็นคนที่ผมรัก...
.............................
.............
........
....
..
.
" ยู วันนี้ไปช่วยผมหน่อยนะ" เรพูดจบก็ลากผมไปยังห้างสรรพสินค้า ซึ่งผมยังไม่ทันได้ถามเลยว่าให้ช่วยอะไร แต่ความจริงก็กระจ่างเมื่อเราสองคนเดินมาถึงหน้าร้าน...เสื้อผ้า
" งานครั้งนี้คอนเซ็ปอะไรล่ะ" ผมถามพลางเดินเข้าไปในร้านก่อน ซึ่งคือร้านที่เราสองคนเคยมาเมื่อรู้จักกันครั้งแรก
" เทศกาลแห่งความรักน่ะ ไหวมั๊ยล่ะ" เรตอบพลางยักคิ้วอย่างกวนส่วนที่เดินได้
" อย่าดูถูกฝีมือฉันล่ะ พ่อจะแสดงให้ดู" ผมพูดจบก็เดินร่อนไปทั่วร้าน หยิบชิ้นนั้นทีชิ้นนี้ทีแล้วนำมาแมทกัน เรเดินถือเสื้อตัวนึงมาให้ผม เป็นเสื้อกั๊กแขนกุดสีขาวสะอาดตาแต่มีลายปักสีชมพูไขว้ไปไขว้มาอย่างเก๋ไก๋ เขายื่นมันมาให้ผม
" เรจะใส่ตัวนี้จริงๆน่ะเหรอ" เอ๊ะ!!!คำนี้ทะแม่งๆเหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน
" แล้วผมใส่ไม่ได้รึไง" แน่ะ!!ยิ่งคุ้นเข้าไปใหญ่
" ก็เปล่า...แต่คิดว่าตัวมันเล็กไป แล้วแบบมันก็...ดูน่ารักเกินไปสำหรับเร" ใช่เลย นี่ก็เป็นอีกคำพูดนึงที่ผมพูดกับเรในวันที่เรารู้จักกันครั้งแรก (ถ้าจำไม่ได้กลับไปอ่านตอนที่ 1)
" ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ ผมอยากซื้อ/เรอยากซื้อ" ผมกับเรพูดจบพร้อมกัน ผมยื่นมือไปรับเสื้อกับบัตรเครดิต ส่วนเรก็ส่งมันมาให้ผมอย่างว่าง่ายแล้วเราก็หัวเราะพร้อมกัน
"555+ ยังจำได้อีกเหรอ" ผมถามพลางยิ้มกว้าง
" ผมจำเรื่องของยูได้ทุกเรื่องเลยล่ะ รู้มั๊ยเวลายูโกรธหรือหงุดหงิดใส่ผม มันน่ารักดีนะ"
" งั้นเรก็คงอยากให้ฉันโกรธเรใช่มั๊ย" ผมถามพลางยืนกอดอกมองหน้าเรด้วยสายตาท้าทาย
" ถึงจะน่ารัก แต่ผมก็ไม่อยากให้ยูโกรธผมหรอกนะคร้าบบบบบ" เรยังคงเล่นลิ้น
" เราไปหาอะไรกินกันดีกว่า" พูดจบเรก็จูงมือผมไปจ่ายเงินแล้วออกจากร้านทันที
" ครั้งที่แล้ว ยูต้องวิ่งตามผม แต่ครั้งนี้ เราจะเดินไปด้วยกัน" เรส่งมือมาทางผม ผมก็เกาะกุมมันพร้อมกับเดินไปกับเขา
" รู้มั๊ย...ตอนที่ยูวิ่งตามน่ะ มันทำให้ผมรู้ว่ายูตัวเล็กขนาดไหน ยิ่งเห็นก็ยิ่งอยากแกล้ง ก็เลยให้ยูถือของซะเยอะขนาดนั้นแล้วก็วิ่งตามผมทั้งๆที่มีขาสั้น 555+" แน่ะ!!ยังเหน็บอีก
"แต่พอเห็นยูหอบ ผมก็เลยรู้สึกว่าแกล้งเยอะไปหน่อย ผมก็เลยตั้งใจจะขอโทษโดยการพายูไปร้านกาแฟนั่นล่ะ หวังว่าคงจะยกโทษให้กันนะ" เรเล่าอย่างสนุกปาก จนกระทั่งมาถึงร้านกาแฟที่ว่า
.......ผู้ชายคนนี้ทำให้ผมรู้ว่าทุกวันของผมจะมีความสุข ทุกวินาทีของผมจะมีค่า และทำให้ผมสัมผัสถึงความรักได้ทุกวัน.....
" เรรู้มั๊ย ฉันเคยเห็นเรก่อนที่เราจะได้เจอกันด้วยล่ะ" เรมองหน้าผมนิดนึงก่อนจะกลับไปสนใจวิปครีมคาปูชิโน่ตรงหน้าต่อ
"ตอนไหนล่ะ ผมเจอคนมาเยอะ ถ้าไม่บอกผมคงนึกไม่ออกหรอก" หลังจากที่ตักนู่นตักนี่เข้าปาก เรจึงหันมาสนใจผมต่อ
" ก็ตอนที่อยู่ที่สนามบินไง ฉันไปเข้าห้องนํ้าจากนั้นก็ไปเจอเรที่ตู้กดนํ้า กำลังยืนด้อมๆมองๆ ฉันก็เลยเข้าไปดู แล้วก็หยอดเงินเพิ่มให้ แต่ตอนนั้นเรมองฉันตาขวางด้วยล่ะ แถมคำขอบคุณสักคำก็ไม่มี...อ๊ะ...เลอะหมดแล้ว" ขณะที่ผมเล่าให้เรฟัง เขาถึงกับนิ่งอึ้งโดยไม่รู้สึกถึงฟองวิปครีมที่ติดอยู่ตรงมุมปาก ผมก็เลยต้องยื่นมือออกไปเช็ดให้ แต่เรก็ยังคงอยู่ในท่าเดิม
" ตอนนั้น ผมนึกว่าเด็กผู้หญิงที่ไหนซะอีก นั่นมันยูหรอกเหรอ ทำไมผมซื่อบื้อขนาดนี้เนี่ย" เรว่าพลางยิ้มเขินๆ ผมเพิ่งเคยเห็นเขาหน้าแดงเป็นครั้งแรกล่ะ
" แหม!!! ว่าแต่คนอื่นเขา เวลาตัวเองหน้าแดงก็น่ารักเหมือนกันนั่นล่ะ" ผมพูดแซวพร้อมกับหยิกแก้มเขาไปเบาๆหนึ่งที
" ตอนนั้นเป็นใครก็คงเข้าใจผิดล่ะ ก็ฉันตัวเล็กนี่ แถมผมก็เริ่มยาวอีกต่างหาก" ผมกัดขนมปังเข้าปาก
" มิน่า ตอนเราเดินชนกัน ผมถึงรู้สึกว่าคนๆนี้หน้าคุ้นจัง ที่แท้ก็คนเดียวกันนี่เอง แต่ยูตอนนี้น่่ะ น่ารักกว่าตอนที่เราเจอกันที่สนามบินอีกนะ" เรจิยิ้มจนตาหยี เล่นชมกันซึ่งๆหน้าอย่างนี้ก็เขินสิครับ
" ไม่ต้องมาชมเลย คนเจ้าเล่ห์" ผมบีบจมูกเรจิเบาๆ ตอนนี้ผมคงไม่ต้องปลอมตัวอะไรมาก เพราะใครๆก็คงนึกว่าผมเป็นสาวน้อยแรกแย้มไปแล้วล่ะ เนื่องจากผมของผมยาวขึ้นและตัวก็เล็กๆเลยไม่มีใครสงสัย
" ยูรู้มั๊ย ถ้าที่นี่ไม่ใช่ร้านกาแฟ ผมจับกดไปนานแล้ว*-*" เรจิกระซิบเบาๆพร้อมกับส่งยิ้มปีศาจมาให้
" คนบ้า!! " ผมทุบแขนเรเบาๆไปหลายครั้ง เจ้าตัวก็เอาแต่หัวเราะหึๆอย่างโรคจิต
....นี่ก็คงเป็นความโชคดีของผมที่ในขณะนี้เราอยู่ในร้านกาแฟ ไม่อย่างงั้นผมคงเสร็จเค้าเป็นแน่TT^TT....
..................................................................................................................................................................................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น