ลำดับตอนที่ #14
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter : 14 วันที่พ่อแม่ไม่อยู่....?
Chapter :14
โอ้ย...เจ็บ" เสียงครางออกมาพลางคลำหัวป้อยๆของเร ดังลั่นมาจากห้องครัวของบ้านโคอิเดะ เนื่องจากศรีษะของร่างสูงชนเข้ากับประตูตู้เหนืออ่างล้างจานอย่างจัง
" เป็นอะไรมากมั๊ย เร ขอโทษด้วยนะ เมื่อกี้ฉันเพิ่งเก็บของแล้วปิดประตูไม่สนิท" ร่างเล็กวิ่งเข้ามาในครัวพลางถามอย่างร้อนรน
" ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าตู้นี้มันตํ่าไปรึเปล่า" เรจิพูดพลางจับขอบตู้ที่เพิ่งกระทำการประทุษร้ายร่างกายเขา ผมจึงมองตามแล้วเดินเข้าไปยืนตรงอ่างล้างจาน อยู่มาตั้งนานยังไม่เคยเดินชนสักทีแต่เรมาแค่วันเดียวกลับเจ็บตัวซะงั้น
" มันไม่ได้เตี้ยหรอก แต่เรสูงเองต่างหากล่ะ" หลังจากที่ผมพิจารณาแล้วผลมันก็ออกมาดังนี้ เรมองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ก็
จริงแฮะ ผมสูงแค่ไหล่เขาเองง่ะ เรมองผมยิ้มๆแล้วยกตัวผมขึ้นนั่งบนขอบเคาท์เตอร์ข้างอ่างล้างจาน จากนั้นก็วิ่งออกไปข้างนอกและกลับเข้ามาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็ว
" ทำแผลให้หน่อยสิครับ" ใบหน้ายิ้มๆนัยน์ตาส่อแววเจ้าเล่ห์มองมาทางผมอย่างออดอ้อน ผมจึงแกล้งบีบปลายจมูกโด่งรั้นเบาๆ ก่อนจะลงมือทำแผลให้ ที่จริงก็แค่ทายาตรงที่มันปูดขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่เรน่ะ เข้ามาใกล้ผมเกินไปแล้ว
" ทำไมต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้นล่ะ" ผมพูดไปมือก็ทาไป
" ก็เผื่อยูมองเห็นไม่ชัดไงครับ ผมเลยต้องเข้ามาใกล้อย่างนี้" พูดไม่พูดเปล่า หน้าเรเริ่มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมเลยต้องหลบสายตาของเขา
" อะ...เสร็จแล้ว ถอยออกไปได้แล้ว" ผมผละจากหน้าผากเขาก่อนจะเอามือมาดันหน้าอกร่างสูงเพื่อให้ออกห่างจากตัวเขาแต่ก็คงไม่ได้ผล ก็เพราะมือเขาคร่อมผมไว้กับเคาท์เตอร์เรียบร้อยแล้วนี่
" ผมยังไม่ได้ขอบคุณเลย" พูดจบเรจิก็ประกบปิดปากอย่างนุ่มนวล เนิ่นนานแต่เรก็ไม่ยอมถอนออกไปสักที เรเริ่มสอดลิ้นเข้ามาผ่านกลีบปากที่บอบบาง พร้อมเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กๆของผม
" อื้อ..." ผมครางออกมาเพื่อเตือนเขาว่า ผมกำลังจะหมดลมหายใจ เรจิจึงผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
" เรจิบ้า...คนทะลึ่ง" ผมหอบน้อยๆมองค้อนคนตรงหน้า ตอนนี้หน้าผมร้อนไปหมด ริมฝีปากก็ยังคงความรู้สึกเมื่อสักครู่อยู่ เรจิเลียริมฝีปากอย่างชอบใจ
" ถ้าจะขอบคุณแบบนี้ ไม่เอานะ" ผมพูดอย่างงอนๆ เรมองหน้าผมแล้วยิ้มออกมา แต่...เป็นยิ้มของปีศาจง่ะ
แง้...แย่กว่าเดิมซะอีก เรก้มลงมาอีกครั้งแต่เปลี่ยนเป็นไซร้คอผมแทน เห็นมั๊ยล่ะ!...มันแย่กว่าเดิมซะอีก เขากดจูบทิ้งไว้2-3รอยและใช้ริมฝีปากหยอกล้อกับติ่งหูของผม
" อื้อ...อย่างนี้ก็ไม่เอา ออกไปนะ คนบ้า" ผมพยายามปัดป่ายเป็นพัลวันแต่ก็โดนมือของเรล็อกไว้อยู่ดี
" ขอบคุณแบบคนธรรมดาน่ะ ไม่เป็นเหรอ ชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อยเลย" ผมหอบเล็กน้อยก่อนที่เรจะผละออกไป สาเหตุที่วันนี้เรมาอยู่ที่นี่และทำลุ่มล่ามกับผมได้เนื่องจาก พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดและฝากผมไว้กับเร ประจวบเหมาะกับวันนี้เรไม่มีงาน ขนาดกลางวันยังเป็นอย่างนี้แล้วคืนนี้ผมจะรอดมั๊ยเนี่ยT^T...
" วันนี้ผมจะทำกับข้าวให้ยูกินนะ" เรพูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววข้างฝาผนัง มาผูกเข้าที่เอว ลายปักรูปกระต่ายกับสีชมพูลายตารางหมากรุกช่างทำให้เรดูน่ารักอะไรเยี่ยงนี้
" ผมดูน่ารักใช่มั๊ยล่ะ " เรถามขึ้นราวกับอ่านใจของผมได้ ผมจึงส่งค้อนไปให้พร้อมกับสะบัดหน้าหนี
" คนหลงตัวเอง" ผมทำท่าจะเดินออกจากห้องครัวแต่เรคว้าตัวผมเข้าไปกอดได้ก่อน
" ผมน่ารักสู้ยูไม่ได้หรอก ใช่มั๊ย?..."ผมจึงยิ้มออกมาและพยักหน้าพลางหลับตาพริ้ม
ป๊อก...
" โอ้ย!มาดีดหน้าผากฉันทำไมล่ะ" ผมบ่นพลางคลำหน้าผากตัวเองป้อยๆ
" ยูก็หลงตัวเองเหมือนกันนั่นแหล่ะ555+" เรหัวเราะออกมา ผมชอบเวลาเรหัวเราะจัง มันดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆเลย เรจูบที่หน้าผากของผมก่อนที่จะปล่อยตัวผมออกมา ผมออกมานั่งที่โซฟา พลางเปิดทีวีดู จากนั้นจึงเผลอหลับไป
ผมไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่สิ่งที่มาปลุกผมก็คือ พ่อครัวจำเป็น ซึ่งอาสาทำกับข้าวให้ผม
" ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา" เรจิพูดอย่างอ่อนโยนพลางพยุงผมลุกขึ้น
" ฉันหลับไปตอนไหนน่ะ" ผมถามพลางเหลือบมองนาฬิกาตอนนี้มันเลยเที่ยงมาหลายชั่วโมงแล้วล่ะ
" ทำไมเรไม่ปลุกฉัน แล้วนี่กินข้าวรึยัง" ผมลุกลี้ลุกลน เรจิยังคงมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน
" ไปล้างหน้าก่อนนะ จะได้มากินข้าวกัน" เรจูงมือผมไปยังห้องนํ้าและยืนรอผมจนล้างหน้าเสร็จ
" เรมาปลุกฉันนานแล้วเหรอ" ผมถามพลางเช็ดหน้าไปด้วย
" คราวหลังอย่าไปนอนแบบนี้ที่อื่นนะ หลับไม่รู้เรื่องเลย ดีนะคนที่อยู่ด้วยเป็นผม ถ้ายูไปนอนอย่างนี้ที่อื่นนะ ผมจะตียูจริงๆด้วย" เรพูดทีเล่นทีจริงแต่นํ้าเสียงที่ส่งมาบ่งบอกถึงความห่วงใย
"โอเคคร้าบ...ผมจะปฏิบัติตาม" ผมพูดพร้อมทำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร เรยิ้มให้ผมพลางเอื้อมมือมาบีบปลายจมูกทำเอาจมูกผมแดงไปเลย ผมจึงยิ้มตอบให้เขาก่อนจะยื่นมือไปจับใบหน้าของเร
" ในเมื่อนั่งเฝ้ายามให้ จะให้อะไเป็นรางวัลดีน้า" ผมพูดพลางสอดส่ายสายตาไปทั่วใบหน้า
จุ๊บ...
ผมจูบปลายจมูกเรเบาๆ เขายิ้มนัยน์ตาเป็นประกายพร้อมกับคว้าตัวผมไปกอด
" ขอบคุณครับ" เขากระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมพยักหน้าอยู่กับอกอุ่นๆของเร
นํ้าเสียงที่อ่อนโยนบ่งบอกถึงความรักที่เรมีให้ผม มันช่างอ่อนละมุน นุ่มนวล บางเบาราวกับอยู่ในความฝัน ผมอยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆจัง
"...... พระเจ้าครับ ขอให้ผมได้มีเรไว้กอด และมีเรอยู่กอดผมไปนานๆด้วยเถิด....."
..................................................................................................................................................................................................................
ป.ล.ความหมายของจูบนั้นมีมากมาย แต่ที่จะนำมาบอกกล่าวคือการจูบแบบในเนื้อเรื่อง
เริ่มจากจูบปากก่อนละกัน อาจจะแปลได้หลายความหมายอย่างเช่น เป็นการทักทายของชาวต่างชาติ แต่ในเนื้อเรื่องเป็นการบ่งบอกถึงความต้องการ
การจูบหน้าผาก หมายความว่า เป็นการถนุถนอม ดูแล เอาใจใส่
และการจูบปลายจมูก ทุกท่านอาจสงสัยว่าทำไมยูจูบปลายจมูกเรแล้วเขายิ้มอย่างมีความสุข เพราะการจูบที่ปลายจมูกนั่นหมายความว่า ผมรักคุณ...^^
" ไม่เป็นไรหรอก แต่ว่าตู้นี้มันตํ่าไปรึเปล่า" เรจิพูดพลางจับขอบตู้ที่เพิ่งกระทำการประทุษร้ายร่างกายเขา ผมจึงมองตามแล้วเดินเข้าไปยืนตรงอ่างล้างจาน อยู่มาตั้งนานยังไม่เคยเดินชนสักทีแต่เรมาแค่วันเดียวกลับเจ็บตัวซะงั้น
" มันไม่ได้เตี้ยหรอก แต่เรสูงเองต่างหากล่ะ" หลังจากที่ผมพิจารณาแล้วผลมันก็ออกมาดังนี้ เรมองหน้าผมเล็กน้อยก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ก็
จริงแฮะ ผมสูงแค่ไหล่เขาเองง่ะ เรมองผมยิ้มๆแล้วยกตัวผมขึ้นนั่งบนขอบเคาท์เตอร์ข้างอ่างล้างจาน จากนั้นก็วิ่งออกไปข้างนอกและกลับเข้ามาพร้อมกับกล่องปฐมพยาบาลอย่างรวดเร็ว
" ทำแผลให้หน่อยสิครับ" ใบหน้ายิ้มๆนัยน์ตาส่อแววเจ้าเล่ห์มองมาทางผมอย่างออดอ้อน ผมจึงแกล้งบีบปลายจมูกโด่งรั้นเบาๆ ก่อนจะลงมือทำแผลให้ ที่จริงก็แค่ทายาตรงที่มันปูดขึ้นมาเท่านั้นเอง แต่เรน่ะ เข้ามาใกล้ผมเกินไปแล้ว
" ทำไมต้องเข้ามาใกล้ขนาดนั้นล่ะ" ผมพูดไปมือก็ทาไป
" ก็เผื่อยูมองเห็นไม่ชัดไงครับ ผมเลยต้องเข้ามาใกล้อย่างนี้" พูดไม่พูดเปล่า หน้าเรเริ่มเข้ามาใกล้ผมเรื่อยๆ ผมเลยต้องหลบสายตาของเขา
" อะ...เสร็จแล้ว ถอยออกไปได้แล้ว" ผมผละจากหน้าผากเขาก่อนจะเอามือมาดันหน้าอกร่างสูงเพื่อให้ออกห่างจากตัวเขาแต่ก็คงไม่ได้ผล ก็เพราะมือเขาคร่อมผมไว้กับเคาท์เตอร์เรียบร้อยแล้วนี่
" ผมยังไม่ได้ขอบคุณเลย" พูดจบเรจิก็ประกบปิดปากอย่างนุ่มนวล เนิ่นนานแต่เรก็ไม่ยอมถอนออกไปสักที เรเริ่มสอดลิ้นเข้ามาผ่านกลีบปากที่บอบบาง พร้อมเกี่ยวกระหวัดลิ้นเล็กๆของผม
" อื้อ..." ผมครางออกมาเพื่อเตือนเขาว่า ผมกำลังจะหมดลมหายใจ เรจิจึงผละริมฝีปากออกอย่างเสียดาย
" เรจิบ้า...คนทะลึ่ง" ผมหอบน้อยๆมองค้อนคนตรงหน้า ตอนนี้หน้าผมร้อนไปหมด ริมฝีปากก็ยังคงความรู้สึกเมื่อสักครู่อยู่ เรจิเลียริมฝีปากอย่างชอบใจ
" ถ้าจะขอบคุณแบบนี้ ไม่เอานะ" ผมพูดอย่างงอนๆ เรมองหน้าผมแล้วยิ้มออกมา แต่...เป็นยิ้มของปีศาจง่ะ
แง้...แย่กว่าเดิมซะอีก เรก้มลงมาอีกครั้งแต่เปลี่ยนเป็นไซร้คอผมแทน เห็นมั๊ยล่ะ!...มันแย่กว่าเดิมซะอีก เขากดจูบทิ้งไว้2-3รอยและใช้ริมฝีปากหยอกล้อกับติ่งหูของผม
" อื้อ...อย่างนี้ก็ไม่เอา ออกไปนะ คนบ้า" ผมพยายามปัดป่ายเป็นพัลวันแต่ก็โดนมือของเรล็อกไว้อยู่ดี
" ขอบคุณแบบคนธรรมดาน่ะ ไม่เป็นเหรอ ชอบฉวยโอกาสอยู่เรื่อยเลย" ผมหอบเล็กน้อยก่อนที่เรจะผละออกไป สาเหตุที่วันนี้เรมาอยู่ที่นี่และทำลุ่มล่ามกับผมได้เนื่องจาก พ่อกับแม่ไปต่างจังหวัดและฝากผมไว้กับเร ประจวบเหมาะกับวันนี้เรไม่มีงาน ขนาดกลางวันยังเป็นอย่างนี้แล้วคืนนี้ผมจะรอดมั๊ยเนี่ยT^T...
" วันนี้ผมจะทำกับข้าวให้ยูกินนะ" เรพูดจบก็เอื้อมมือไปหยิบผ้ากันเปื้อนสีชมพูหวานแหววข้างฝาผนัง มาผูกเข้าที่เอว ลายปักรูปกระต่ายกับสีชมพูลายตารางหมากรุกช่างทำให้เรดูน่ารักอะไรเยี่ยงนี้
" ผมดูน่ารักใช่มั๊ยล่ะ " เรถามขึ้นราวกับอ่านใจของผมได้ ผมจึงส่งค้อนไปให้พร้อมกับสะบัดหน้าหนี
" คนหลงตัวเอง" ผมทำท่าจะเดินออกจากห้องครัวแต่เรคว้าตัวผมเข้าไปกอดได้ก่อน
" ผมน่ารักสู้ยูไม่ได้หรอก ใช่มั๊ย?..."ผมจึงยิ้มออกมาและพยักหน้าพลางหลับตาพริ้ม
ป๊อก...
" โอ้ย!มาดีดหน้าผากฉันทำไมล่ะ" ผมบ่นพลางคลำหน้าผากตัวเองป้อยๆ
" ยูก็หลงตัวเองเหมือนกันนั่นแหล่ะ555+" เรหัวเราะออกมา ผมชอบเวลาเรหัวเราะจัง มันดูไร้เดียงสาเหมือนเด็กๆเลย เรจูบที่หน้าผากของผมก่อนที่จะปล่อยตัวผมออกมา ผมออกมานั่งที่โซฟา พลางเปิดทีวีดู จากนั้นจึงเผลอหลับไป
ผมไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน แต่สิ่งที่มาปลุกผมก็คือ พ่อครัวจำเป็น ซึ่งอาสาทำกับข้าวให้ผม
" ตื่นได้แล้วครับ คนขี้เซา" เรจิพูดอย่างอ่อนโยนพลางพยุงผมลุกขึ้น
" ฉันหลับไปตอนไหนน่ะ" ผมถามพลางเหลือบมองนาฬิกาตอนนี้มันเลยเที่ยงมาหลายชั่วโมงแล้วล่ะ
" ทำไมเรไม่ปลุกฉัน แล้วนี่กินข้าวรึยัง" ผมลุกลี้ลุกลน เรจิยังคงมองผมด้วยสายตาอ่อนโยน
" ไปล้างหน้าก่อนนะ จะได้มากินข้าวกัน" เรจูงมือผมไปยังห้องนํ้าและยืนรอผมจนล้างหน้าเสร็จ
" เรมาปลุกฉันนานแล้วเหรอ" ผมถามพลางเช็ดหน้าไปด้วย
" คราวหลังอย่าไปนอนแบบนี้ที่อื่นนะ หลับไม่รู้เรื่องเลย ดีนะคนที่อยู่ด้วยเป็นผม ถ้ายูไปนอนอย่างนี้ที่อื่นนะ ผมจะตียูจริงๆด้วย" เรพูดทีเล่นทีจริงแต่นํ้าเสียงที่ส่งมาบ่งบอกถึงความห่วงใย
"โอเคคร้าบ...ผมจะปฏิบัติตาม" ผมพูดพร้อมทำท่าตะเบ๊ะแบบทหาร เรยิ้มให้ผมพลางเอื้อมมือมาบีบปลายจมูกทำเอาจมูกผมแดงไปเลย ผมจึงยิ้มตอบให้เขาก่อนจะยื่นมือไปจับใบหน้าของเร
" ในเมื่อนั่งเฝ้ายามให้ จะให้อะไเป็นรางวัลดีน้า" ผมพูดพลางสอดส่ายสายตาไปทั่วใบหน้า
จุ๊บ...
ผมจูบปลายจมูกเรเบาๆ เขายิ้มนัยน์ตาเป็นประกายพร้อมกับคว้าตัวผมไปกอด
" ขอบคุณครับ" เขากระซิบข้างหูผมเบาๆ ผมพยักหน้าอยู่กับอกอุ่นๆของเร
นํ้าเสียงที่อ่อนโยนบ่งบอกถึงความรักที่เรมีให้ผม มันช่างอ่อนละมุน นุ่มนวล บางเบาราวกับอยู่ในความฝัน ผมอยากอยู่อย่างนี้ไปนานๆจัง
"...... พระเจ้าครับ ขอให้ผมได้มีเรไว้กอด และมีเรอยู่กอดผมไปนานๆด้วยเถิด....."
..................................................................................................................................................................................................................
ป.ล.ความหมายของจูบนั้นมีมากมาย แต่ที่จะนำมาบอกกล่าวคือการจูบแบบในเนื้อเรื่อง
เริ่มจากจูบปากก่อนละกัน อาจจะแปลได้หลายความหมายอย่างเช่น เป็นการทักทายของชาวต่างชาติ แต่ในเนื้อเรื่องเป็นการบ่งบอกถึงความต้องการ
การจูบหน้าผาก หมายความว่า เป็นการถนุถนอม ดูแล เอาใจใส่
และการจูบปลายจมูก ทุกท่านอาจสงสัยว่าทำไมยูจูบปลายจมูกเรแล้วเขายิ้มอย่างมีความสุข เพราะการจูบที่ปลายจมูกนั่นหมายความว่า ผมรักคุณ...^^
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น