ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO] VAMPWoLF หมาป่า...ที่รัก [KaiChen]

    ลำดับตอนที่ #9 : WAMPWoLF : 8

    • อัปเดตล่าสุด 29 มิ.ย. 57


    WAMPWoLF 8

     

     

     
     

     

                สี่เท้าแกร่งยังคงวิ่งต่อไปอย่างไม่เหนื่อยอ่อน จิตใจที่กระวนกระวายคิดถึงอีกฝ่ายกลับทำให้เขาวิ่งเร็วขึ้น ไม่นานเขาก็กลับมาถึงดินแดนแห่งเพชรพลอย หลังจากกลายร่างกลับเป็นมนุษย์ไคเดินตรงไปยังห้องที่อยู่เกือบสูงสุดบนปราสาท ที่หน้าห้องนั้นมีทหารยามเฝ้าอยู่อย่างหนาแน่

     

             ไคเปิดประตูบานใหญ่แต่กลับไม่พบสิ่งใดภายในห้อง สิ้นการคิดของเขาก็ปรากฎร่างสูงอยู่ตรงหน้า

     

             “เจ้าเข้ามาทำไม?” คริสขึ้นเอ่ยถามขึ้นเมื่อเขาเห็นคนที่เป็นต้นเหตุที่ทำให้น้องของเขาต้องเจ็บปานตาย

     

             “ข้ามาหาจงแด เขาเป็นอย่างไรบ้าง” เขากำลังพูดอยู่กับคริสแต่สายตากลับมองไปรอบๆห้องเผื่อว่าจะเจอคนที่เขาอยากเจอ

     

             “จงแดต้องนอนอยู่ในโรงบนยอดปราสาท เขาจำเป็นจะต้องนอนรับแสงจันทร์และแสงอาทิตย์เพื่อจะได้กลับมาเป็นดั่งเดิม ในสถานที่เจ้าไม่สามารถขึ้นไปได้รวมถึงพวกเราทุกคนยกเว้นองค์ราชินี”

     

             “แล้วอีกนานเท่าไหร่??”

     

             “จนกว่าจงแดจะตื่น เมื่อถึงเวลานั้นเจ้าก็จะเห็นเอง”

     

             ความหวังที่จะเจอจงแดช่างน้อยลงทุกที ใจของเขาจะขาดเมื่อรู้ว่าอีกคนยังคงไม่หายดี และยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่สามารถดูแลจงแดได้เลย เขาไม่สามารถปกป้องจงแดได้ นั้นคือสิ่งที่ไคเฝ้าตอกย้ำตัวเอง

     

             “ท่านไค...ท่านไปทำแผลก่อนดีไหม” ชานยอลคนสนิทผู้ซื่อสัตย์เดินเข้ามาถามอย่างห่วงใย เมื่อเห็นว่าตามร่างกายของไคนั้นได้รับบาทเจ็บมากมาย

     

             “แผลแค่นี้ข้าไม่ตายหรอก...ข้อขออยู่คนเดียวสักพักเถอะ” เมื่อได้ยินดังนั้นชานยอลจึงหายออกมาเงียบๆปล่อยให้ไคได้อยู่กับตัวเองสักพัก

     

            

    พระราชวังกลับมาเงียบดั่งเดิม องค์ราชินีได้สั่งฝึกทหารมากขึ้นเป็นสองเท่าเพราะสงครามใหญ่น่าจะใกล้เข้ามาเต็มที ท่านซีเรียสคงจะยึดโอรากอนในเวลาที่ผู้นำกำลังได้รับบาทเจ็บ

     

             “ชอนยอลอ่า...เจ้าเห็นท่านไคบ้างหรือเปล่า?” ลู่หานถาม

     

             “ไม่รู้สิ ช่วงนี้ท่านไคแทบไม่ออกมาให้ใครเห็นเลย” ชานยอลตอบก่อนจะหันไปสนใจกับการฝึกรบตรงหน้าต่อ

     

             “ท่านจงแดก็หลับนานเกินไปแล้วนะ” ลู่หานพูดด้วยน้ำเสียงที่เศร้าสลด

     

             “ 2ปี นี่ผ่านไปไวเนอะ...อาการหนักขนาดนั้นคงต้องหลับนานกว่านี้แน่ๆ สำหรับคนที่รอนี่สิ มันคงนานสำหรับเขาแน่” เซฮุนพูดเบาๆ

     

             เวลาบ่ายแสงแดดอ่อนๆในโอรากอนช่างเหมาะกับการนั่งจิบน้ำชาเสียจริงๆ ในสวนของพระราชวังองค์ราชินีกำลังนั่งพักผ่อนอยู่ในสวนกับแม่นมคนสนิท

     

             “ทำไมท่านหญิงถึงยังให้บุตรชายคนเล็กแห่งคานาเบลอยู่ที่นี่อีกหล่ะ ทั้งๆที่เขาทำให้องค์ชายเป็นแบบนี้” แม่นมกล่าวถามราชินีด้วยความสงสัย

     

             “เพราะคิมไคจะทำให้ลูกของเรามีความสุข...” การจิบน้ำชาถูกขัดด้วยเสียงของเซฮุนที่ร้องตะโกนลั่นไปทั่วสวนดอกไม้ “เซฮุนอ่า...ทำไมเจ้าถึงไม่เรียบร้อยดั่งพี่ชายของเจ้านะ” ราชินีตรัสด้วยสีหน้าที่ยิ้มแย้มเหมือนแกล้งเซฮุนเล่น

     

             “ข้าขอโทษๆๆ แต่ว่าข้าเห็นว่าพวกของท่านแบคฮยอนกำลังมุ่งหน้ามายังโอรากอนอีกไม่นานก็จะถึงแล้ว...ทำยังไงกันดีเราควรรีบไปเตรียมกองทัพไหม?” เซฮุนยังคงดูตื่นเต้นกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้นซึ่งต่างจากองค์ราชินีที่ยังคงยิ้ม “ท่านยิ้มอะไรของท่าน?” เซฮุนหน้าบู้เมื่อราชินีทำเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น

     

             “แบคฮยอนจะนำกองทัพของเขามาเพื่อช่วยเรา คำทำนายนี้ถูกส่งมาให้ข้าโดยพี่ชายของเจ้า ฉะนั้นมีเหตุผลอันใดให้ข้าต้องตื่นกลัวรึ?”

     

             “พี่ข้า???แล้วท่านก็ไม่บอกข้าตกใจหมดเลย...งั้นข้าจะไปรอท่านแบคฮยอนหล่ะกัน” เมื่อพูดจบเซฮุนวิ่งออกไปด้วยความตื่นเต้นโดยมีลู่หานวิ่งตามไปไม่ห่าง

     

             “ท่านเซฮุนอายุเท่าไหร่กันทำไมถึงยังเหมือนเด็กอยู่แบบนี้”

             “เพราะว่ามีลู่หานคอยตามใจอยู่แบบนี้ไง เซฮุนถึงไม่ยอมโตสักที” ราชินีอมยิ้มพร้อมกับมองไล่หลังมองผู้ที่เสมือนหลานชายของตนเอง

     

             แบคฮยอนเดินทางมาถึงยังหน้าพระราชวังในเวลาค่ำๆพอดี เซฮุนกลับไปสะดุดตากับผู้หญิงตัวเล็กที่มีผมนาวสีทองที่เดินมาข้างของแบคฮยอน

     

             “นี่ใครหรอ?” เซฮุนถาม

     

             “เธอเป็นแวมไพร์หน่ะข้าได้ช่วยเธอไว้ระหว่างทาง เลยนำเธอมาเป็นผู้ช่วยของข้า” แบคฮยอนตอบ “ข้าว่าท่านคงรู้เหตุผลที่มาที่นี่แล้วใช่ไหม?ข้าขอความกรุณาด้วย”

     

             หลังจากที่แบคฮยอนแหละเหล่าทหารหมาป่าได้รับอนุญาติให้เข้ามาได้ แบคฮยอนจึงเตรียมทหารของตนเพื่อฝึกซ้อมกับเหล่าแวมไพร์อย่างเต็มที่ หลังจากที่เขารู้ว่าพ่อของเขานั้นถูกความโลภเข้าครอบงำแบคฮยอนจึงนำทหารภายใต้การควบคุมของตนออกจากคานาเบลและมายังโอรากอน ทุกๆอย่างอยู่ในคำทำนายจากราชาแห่งมิดเดอร์เอิร์ทที่ส่งมาให้

                                                                                             

              “ลู่หาน...เจ้าเห็นไคบ้างไหมเนี่ย??” เซฮุนถามเพราะตลอดเวลาสองปีที่ผ่านมาเขาเห็นไคแทบนับครั้งได้

     

             “ข้าดูแลท่านทั้งวันก็เหนื่อยแล้ว...ไม่มีเวลาไปดูคนอื่นหรอก”

     

             “ข้าโตแล้วเจ้าไม่ต้องตามติดข้าขนาดนี้ก็ได้นะ”

     

             “แน่ใจนะ...วันๆท่านเอาแต่เรียกชื่อว่า ลู่หาน ลู่หาน ทั้งวันเลยนะ” เซฮุนไม่เถียงสิ่งใดแต่กลับหน้าแดงก่อนจะเดินหนีหายออกไป

     

             เวลามันผ่านไปช้าเหลือเกินสำหรับคนที่รอ คิมไคยังคงนั่งอยู่จุดๆเดิมจุดที่ถ้าเขากลับมาไม่ทัน เขาอาจจะไม่ได้เห็นจงแดอีกต่อไป เสียงใบไม้เสียดสีกันไปตามสายลมกลับไม่ทำให้เขาหลุดออกมาจากความคิดของตนเอง

     

             “ตรงนี้สินะที่จงแดถูกยิงด้วยศรเทมีส” คริสพูดขึ้นหลังจากมองไคอยู่นาน

     

             “อืม”

     

             “เจ้าเป็นแบบนี้เพราะน้องข้าสินะ...”

     

             “อืม”

     

             “...ข้าแค่มาบอกว่า พี่ชายเจ้ามาโอรากอนได้สักพักแล้วเจ้าหน้าจะไปหาหน่อยนะ”

     

             “แบคฮยอนมาหรอ?” ไคยังคงนั่งนิ่งต่อไป “เขาคงมาช่วยเหมือนดั่งคำทำนายสินะ...ไว้ข้าจะกลับไปหล่ะกัน” คริสเดินออกมาเพราะทนท่าทีที่เย็นชาของไคไม่ไหว ยิ่งคุยยิ่งโหโหเหมือนคุยกับต้นไม้ยังไงยังงั้น

     

             หลังจากนั้นไม่นานไคก็กลับพระราชวังแต่ยังไงไม่ออกมาเจอใครอีกตามเคย เขาหมกตัวอยู่ในห้องและในห้องสมุดอยู่เท่านั้น

     

             “จงแดอ่า...เจ้าหลับนานไปแล้วนะ” เสียงบ่นพึมพ่ำที่เต็มไปด้วยความคิดถึง นานเหลือเกินที่เขาไม่ได้ยินเสียงบ่นงุ๊งงิ๊งของคนตัวเล็ก ถ้าวันนั้นเขาไม่ปล่อยให้จงแดอยู่คนเดียวทุกอย่างมันคงไม่เป็นแบบนี้ คิมไคปล่อยตัวเองให้อยู่ในห้วงความคิดก่อนจะค่อยๆหลับตาลง

     

             “ชานยอล!!!

     

             “ท่านแบคฮยอน...”

     

             “เจ้าเห็นคิมไคบ้างไหม??ตั้งแต่ข้ามาโอรากอนข้ายังไม่เจอเลย”

     

             “ข้าคิดว่าท่านไคน่าจะอยู่บนห้อง จะให้ข้าไปตามไหม?”

     

             “ไม่ต้องหรอก...เจ้าไปซ้อมต่อเถอะ” ได้ยินดังนั้นชานยอลจึงหันไปสนใจกับการลงดาบต่อ “เจ้า...ไปตามคิมไคให้ข้าที”

     

             “ได้ค่ะ...ท่านแบคฮยอน”

     

             แวมไพร์สาวผมทองเดินขึ้นไปถึงยังห้องของคิมไค ประตูไม้โบราณถูกเปิดออกเผยให้เห็นร่างสูงกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบาย กลุ่มผมสีควันบุหรี่กลับทำให้แวมไพร์สาวสนใจมากขึ้น เธอเดินไปยืนข้างเตียงของคิมไค

     

             “ท่านคิมไคคะ...ท่านแบคฮยอนให้ตามลงไปพบค่ะ” ไร้เสียงตอบรับจากไค เขายังคงนอนนิ่งเหมือนอย่างเดิน “ท่านไคคะ”

     

             “ข้าไม่ว่าง” ไคตอบขณะที่ยังคงหลับตาอยู่ เมื่อเห็นว่าไม่ได้การแวมไพร์สาวเลยดึงแขนของไค

     

             “ท่านแบคฮยอนเรียก ฉะนั้นท่านควรมานะ” ถึงแม้จะออกแรงมาแค่ไหนร่างของไคก็ไม่ขยับแต่มันกลับสร้างความรำคาญให้กับไคเป็นอย่างมาก”

     

             “เลิกยุ่งกับข้าสักทีได้ไหม?” ไคโวยวายเสียงดังก่อนจะลุกขึ้นมาสะบัดมือทิ้ง “ไวท์...”

     

             “กัมจง...” แวมไพร์สาวโถมตัวเขากอดไคอย่างเต็มแรง “ข้าคิดถึงเจ้า”

     

             “เจ้ามาที่นี่ได้ยังไง?”

     

             “ข้าเป็นคนรับใช้ของท่านแบคฮยอนหน่ะ ข้าเพิ่มรู้ว่าเจ้าเป็นน้องชายของเขา”

     

             “55555เจ้าปล่อยข้าได้แล้ว”

     

             “ไม่...ทำไมวันนั้นเจ้าถึงไม่มาหาข้า ทำไมอยู่ๆเจ้าก็หายไป เจ้ารู้ไหมข้าคิดถึงเจ้าใจแทบขาดเลยนะ” ไวท์ยังคงกอดไคไว้แน่ราวกับว่าเขาจะหายไปจากเธออีก

     

             “เพราะเจ้ากับข้าต่างกันเกินไปยังไงหล่ะ?” ไคผลักอีกคนออก “ไปบอกแบคฮยอนด้วยว่าข้ายังไม่อยากไปเจอเขา”

     

             “อืม...” ไวท์ปิดประตูห้องก่อนจะเดินหายออกไป

     

             “ทำไมเจ้าต้องกลับมาในวันที่ข้ากำลังอ่อนแอแบบนี้นะ?...” ไคล้มตัวลงนอนอีกครั้งและหวังว่าครั้งนี้คงจะไม่มีอะไรมากวนใจเขาอีก

     

             ด้วยสภาพจิตใจที่อ่อนแอของคิมไคบวกกับการได้เจอคนรักเก่าของเขา ถึงมันจะผ่านมาหลายสิบปีแต่ไคก็ยังจำเธอได้ ตอนนี้ไคและไวท์สนิทกันมากขึ้น และถ้าหากจงแดยังไม่ตื่นตอนนี้ทั้งสองคงกลับมารักกันอีกเป็นแน่

     

             “ทำไมเจ้าถึงมาอยู่ที่นี่หล่ะ?” ทั้งสองนั้นอยู่ในสวน ในยามค่ำคืนที่เงียบสงบจึงทำให้ทั้งสองคุยกันเรื่อยเปื่อย

     

             “มีหลายเหตุผลหน่ะ เจ้าถามทำไม?”

     

             “เหมือนความบังเอิญที่ทำให้เราเจอกันอีกครั้งเนอะ เจ้าว่าไหม?” แวมไพร์สาวซบลงบนไหล่กว้างของไค

     

             “คืนนี้ดาวสวยนะ ข้าไม่ได้มองดาวแบบนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ”

     

             “กัมจงอ่า...” มือขาวซีดเลื่อนขึ้นไปจับใบคมเข้มอีกคน “ข้ายังรักเจ้าไม่มีวันเปลี่ยนแปลงนะ” ริมผีปากบางเลื่อนขึ้นประกบกับริมผีปากหนา ไคไม่ได้ห้ามเธอแต่กลับให้ทุกอย่างมันผ่านไปช้าๆ ไม่นานไวท์ก็ถอนริมผีปากออกก่อนจะโอบกอดไคอย่างโหยหา

             ทันทีที่ริมผีปากของทั้งสองสัมผัสกัน มันกลับทำให้ใครอีกคนสะดุ้งตื่น เฉกเช่นดั่งฝันร้ายที่ปลุกเขาจากนิทรา จงแดตื่นแล้วเพราะเขาถูกปลุกด้วยภาพที่เขาไม่อยากเห็น เพียงแค่ตื่นลืมตาเขาก็ต้องพบกับความเสียใจ

     

             ฝาโรงถูกเปิดออกเผยให้เห็นเพดานแก้วกับแสงจันทร์สาดส่องมายังเขา จงแดเดินไปยังหน้าต่างห้องเขากลับมองลงไปข้างล่างด้วยสายตาที่เศร้าสร้อย

     




             “คิมไค...เจ้าจะรู้ไหมว่าเจ้าปลุกข้าด้วยฝันร้าย”




















    TALK: HELLO!!! ไรท์กลับมาอัพแล้ววววววว
    ช่วงนี้เรียนหนัก การบ้านเยอะ ทำวิจัยอีก อิอิอิ แต่มาอัพตอนแปดแล้วเน้อ
    หวังว่าทุกคนคงจะสนุกนะคะ อย่าลืมเม้นให้กำลังใจไรท์หรือระบายอะไรก็ได้นะ5555
    หรือจะคุยกันผ่านทาง twitter : @DarknessLJ ก็ได้นะ อิอิ
    ขอบคุณทุกคอมเม้นและการติดตามนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×