คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : WAMPWoLF : 7
WAMPWoLF 7
เหลือเวลาอีกเพียงแค่สองวันเท่านั้นที่แบคฮยอนบุตรชายคนโตแห่งคานาเบลจะทำการสังหารจงแดราชาแห่งโอรากอน สีหน้าของคิมไคดูครุ่นคิดแต่เรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขานั้นกำลังคิดอะไรอยู่
แสงจันทร์สาดส่องมายังห้องสมุดแสงที่ลอดผ่านหน้าต่างทำให้เห็นมากำลังมีใครสักคนนั่งอยู่ตรงระหว่างชั้นวางหนังสือที่สูงใหญ่ ความสงบทำให้เขาสามารถคิดอะไรได้หลายๆอย่างแต่ไม่นานความสงบก็กลับถูกทำลายลงด้วยเสียงแหลมสูงของใครบางคน
“จงอินอ่า...เจ้าอยู่ไหนข้ารู้นะว่าเจ้าอยู่ในนี้” จงแดไล่เดินตามหาไคตั้งแต่ทางเข้าจงมาสุดทางของห้องสมุด ไคเพียงแค่หันมองตามเสียงแต่กลับไม่เอ่ยปากอะไรแม้แต่น้อย จงแดนั่งลงข้างๆไคก่อนที่จะเอ่ยปากเรื่องสำคัญ
“ข้ารู้แล้วหล่ะว่าทำไมท่านซีเรียสถึงอยากได้โอรากอน”
“เพราะอะไรหล่ะ”
“มังกรไงหล่ะ” ไคหันมองหน้าด้วยความสงสัย “ท่านซีเรียสจำจะต้องใช้หัวใจมังกรเพื่อเพิ่มพละกำลัง หากว่าใครได้หัวใจมังกรไปผู้นั้นจะคงความเป็นอมตะและทุกสรรพสิ่งในโลกจะต้องยอมสยบให้กับท่านซีเรียส” จงแดเล่าด้วยน้ำเสียงที่จริงจังแต่สีหน้าของไคกลับยังคงนิ่งเฉยไร้อาการใดๆ
“เจ้าบอกข้าทำไมหล่ะ”
“ข้าก็แค่อยากบอกเจ้าหน่ะ...เพราะหน้าที่ของข้าคือการปกป้องมัน” สิ้นเสียงจงแดลุกขึ้นหันหลังให้กับร่างสูงแต่ก็กลับถูกแรงดึงที่มือเอาไว้
“แล้วถ้าเจ้าไม่สามารถปกป้องมันไม่ได้หล่ะ???”
“ข้าจะต้องทำให้ได้...” ไคปล่อยมือของจงแดให้เป็นอิสระก่อนที่ร่างเล็กจะเดินหายไปในความมืด
โถงพระราชวังในยามค่ำคืนกลับงดงามไปอีกแบบซึ่งมันสวยงามแต่ต่างจากตอนกลางวันแสงจันทร์นั้นส่องลงมายังพระที่นั่งของพระราชาที่ตั้งเด่นอยู่ภายในห้องโถง จงแดหย่อนตัวลงนั่งก่อนจะหลับตาลงพรางนึกถึงเรื่องที่เขารับรู้
“ทำไมมานั่งอยู่ตรงนี้”
“ท่านแม่”
“ลูกมีอะไรไม่สบายใจใช่ไหม?” สัมผัสที่อ่อนโยนจากแม่ส่งผ่านสู่ลูกชายทางสายตา “ลูกรู้แล้วใช่ไหมว่าต้องรับหน้าที่อะไรบ้าง”
“ลูกรู้แล้วท่านแม่”
“ไม่ต้องกังวลไปหรอก...ตั้งแต่ลูกกลับมายังไม่ได้ไปหลุมพระศพท่านพ่อเลยนะ...พอตะวันขึ้นแม่ว่าลูกไปหน่อยก็ดีนะ”
“ให้ลูกไปคนเดียวหรอ?เพราะพี่คริสก็ไม่อยู่”
“ใครบอกว่าจะให้ลูกไปคนเดียวมันอันตรายเกินไป แม่จะให้จงอินไปกับลูก”
“แต่ว่า...” จงแดไม่ทันได้เถียงมารดาของตนก็เดินจากไปทิ้งให้เขาอยู่กับความเงียบ ความเงียบที่ไร้เสียงตอบรับใดๆ แม่ของเขาคิดจะทำอะไรทำไมอยู่ๆถึงไว้ใจจงอินขึ้นมาทั้งที่ก่อนหน้านี้แค่เขาก้าวเท้าออกจากกำแพงแก้วก็ยังไม่ได้เลย
“เซฮุน...ท่านไปไหนมา?” จงแดเอ่ยถามหลังจากพบเซฮุนกับลู่หานที่กำลังเดินกลับห้องพักของตน
“วันนี้แสงจันทร์สวยข้าเลยออกไปรับแสงสักหน่อยหน่ะ รู้สึกสดชื่นมาก” เซฮุนตอบก่อนจะขอตัวไปพักผ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้นอากาศสดใสดั่งเช่นทุกวันที่เคยเป็นมาประตูวังเปิดออกก็พบกับประชากรที่บางตากว่าปกติ เพราะเวลานี้จะมีเฉพาะแวมไพร์เลือดแท้เท่านั้นที่ผิวหนังสามารถทนทานต่อแสงแดดได้ ประชาชนบางส่วนมารอต้อนรับจงแดที่กำลังจะเดินทางขึ้นไปบนยอดเขาแห่งโอรากอนเพื่อทำความเคารพหลุมพระศพของบิดาของตนเอง
ยอดเขาตั้งเด่นเป็นตระหง่าอยู่ภายในอณาจักรเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดและไม่สามารถมองเห็นยอดเขาได้เพราะมันถูกปกคลุมไปด้วยเมฆหนาสีขาว การเดินทางนั้นลำบากกว่าที่คิดเพราะเป็นเขตต้องห้ามจึงทำให้มีสภาพอากาศที่แปลกและบรรยากาศที่แปลกประหลาดเพื่อป้องกันให้มนุษย์เข้ามา
แต่เพราะการที่ไม่ใช่มนุษย์ธรรมดาจึงทำให้ทั้งสองเดินทางได้เร็วเป็นสองเท่า ป่าทึบไร้แสงใดๆลอดผ่านมายังพื้นดินพวกเขาทั้งสองใกล้ที่จะถึงยอดเขาแห่งโอรากอนแล้ว
“พักก่อนได้ไหม?ข้าเหนื่อย” จงแดนั่งลงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่แผ่กิ่งก้านสาขาออกมามากมาย ไคไม่ตอบแต่กลับนั่งลงข้างๆจงแด “เจ้าว่ามังกรหลับไหลอยู่ที่ไหน?”
“ข้าจะไปรู้ได้ยังไง” ไคตอบปัดๆ
“ถ้าเจ้าเจอมังกรเจ้าจะทำยังไง จะฆ่ามันแล้วเอาหัวใจของมันหรือเปล่า” เป็นคำถามที่ไร้การตอบผู้ฟังทำเพียงแค่นิ่งและไม่ตอบคำถามนั้น หลังจากพักกันนานพอสมควรทั้งสองจึงเริ่มเดินทางขึ้นเขา
ตะวันกำลังจะลาลับขอบฟ้าพวกเขาขึ้นมาทันก่อนที่พระอาทิตย์จะตกพอดี ตะวันค่อยๆหายไปในหมู่เมฆหลุมพระศพตั้งอย่างสง่างามเพื่อรับแสงตะวันสุดท้ายของวัน จงแดหันมองที่หลุมพระศพของพระบิดาก่อนจะวางช่อดอกไม้ที่เขาเตรียมมา ดอกนาซิสซัสสีขาวสะอาดตาที่วางลงอย่างทนุถนอม เมื่อดอกไม้แตะผิวโลงพระศพก็บังเกิดสายลมอ่อนๆพร้อมกับกลิ่นหอมของดอกไม้ จงแดยื่นหน้ารับลมพร้อมกับสูดอากาศเข้าเต็มปอด
“ท่านพ่อคงกล่าวตอนรับข้าสินะ…” จงแดกล่าว
ทั้งสองเดินออกมาจากถ้ำบนยอดเขาที่ฝังพระศพของราชาแห่งโอรากอน ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มไร้แสงและอากาศก็เริ่มเย็นลง ทั้งสองนั่งลงที่หินริมหน้าผาแต่ความเงียบกลับครอบงำพวกเขาเอาไว้
“ทำไมเจ้าถึงเก่งเรื่องการรบจัง…ทั้งที่เจ้าก็เป็นแค่ชาวบ้านธรรมดา” จงแดตัดสินใจทำลายความเงียบ
“...แม่ขอข้าสอนข้ากับชานยอลไว้หน่ะเป็นวิชาติดตัว” คำพูดที่ดูตะกุกตะกักของไคทำให้อีกคนเริ่งสงสัยในตัวของเขา จงแดไม่ถามต่อกลับนั่งเงียบต่อไป
ยิ่งมืดอากาศก็ยิ่งเย็นตัวของจงแดเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็งแตกต่างจากไคที่ตัวของเขายังคงอุ่น หมอกบางตาเริ่มปกคลุมยอดเขาโอรากอนแสงจันทร์คืนนี้กลับไม่สว่างดังเช่นทุกวัน อากาศที่หนาวผิดปกติและลมที่พัดแรงขึ้นทุกที ทั้งสองจึงตัดสินใจที่จะลงจากยอดเขาโอรากอนและเดินทางกลับพระราชวังกันคืนนี้
“นี่มันก็พื้นราบแล้วนะ ทำไมยังไม่หายไปอีก” จงแดถามด้วยความสงสัยสายตามองไปรอบๆอย่างหวาดกลัว
“เจ้าดูกลัวนะจงแด...ไม่มีอะไรหรอกข้าอยู่ทั้งคน” ไคพูดก่อนจะเดินนำหน้าอีกคน
ในป่าเต็มไปด้วยความมืดมิดจงแดกับไคที่สามารถมองเห็นตอนกลางคืนได้เป็นอย่างดีทำให้ไม่เป็นอุปสรรคกับทั้งสองในการเดินทางตอนกลางคืน หลังจากหลุดพ้นออกมาจากแนวของตีนเขาก็พบกับป่าโปร่งที่สามารถเดินทางได้สะดวกขึ้น
“เจ้าว่ามันเงียบแปลกๆไหม?แม้แต่เสียงนกยังไม่ได้ยินเลยอ่า” จงแดวิ่งไปเกาะแขนไคไว้แน่น
“เจ้าขี้กลัวขนาดนี้เลยหรอ?อีกอย่างนกที่ไหนจะออกมาร้องตอนนี้” ไคหันไปมองคนตัวเล็กที่วิ่งมาเกาะแขนของเขาไว้แน่นก่อนจะขยี้ผมนุ่มของอีกคนเบาๆ
“แบคฮยอน...” ไคบ่นพึมพ่ำกับตัวเองหลังจากที่เห็นร่างของแบคฮยอนอยู่บนต้นไม้ข้างหน้า “เจ้ารอข้าอยู่ตรงนี้ระวังตัวด้วยนะ” ไควิ่งออกไปก่อนจะหายไปในความมืดทิ้งให้จงแดอยู่ตามลำพังที่ใต้ต้นไม้ใหญ่
เสียงฝีเท้าที่เหยียบใบไม้แห้งดังเข้ามาเรื่อยๆ รอบๆตัวของจงแดมีแต่เสียงที่แปลกๆก่อนจะปรากฏร่างของหมาป่าตัวใหญ่สีน้ำตาลมากมายแต่หนึ่งในนั้นกลับมีหมาป่าตัวสีขาวเดินตรงหน้ามายังเขา หมาป่าตัวใหญ่สีขาวกลายร่างเป็นชายหนุ่มน่าตาน่ารัก เมื่ออยู่ในร่างของมนุษย์เขากลับดูเหมือนแวมไพร์มากกว่าเพราะผิวที่ขาวราวน้ำนมกับริมผีปากสีอมชมพู
“สบายดีไหม?ท่านจงแด...” น้ำเสียงที่เยือกเย็นของเขาทำให้คนตรงหน้าตัวสั่นเล็กน้อย
“แบคฮยอนบุตรชายคนโตแห่งคานาเบล...เจ้ามาทำอะไรในดินแดนของข้า” ถึงแม้จะตัวคนเดียวแต่จงแดก็ยังสามารถทำหน้าที่ของราชาที่ดีได้น้ำเสียงที่ดูแข็งแกร่งแต่แฝงไปด้วยความกลัวทำให้แบคฮยอนยิ้มออกมาเล็กน้อย
“เจ้ามาคนเดียวยังที่จะกล้าถามข้าอีกนะ”
“ใครบอกว่าข้ามาคนเดียว”
“เจ้ามากับใครงั้นหรอ?ทำไมข้าถึงไม่เห็นเลยหล่ะ”
“หยุดคุยเรื่องคนอื่นเถอะ จะมาฆ่าข้าไม่ใช่หรอทำไมไม่รีบทำซะหล่ะ? ถึงเจ้าจะฆ่าข้าไปเจ้าก็จะไม่มีวันได้หัวใจมังกรไปให้พระบิดาของเจ้าหรอก?” จงแดเดินเข้าไปหาแบคฮยอนซึ่งเสมือนเป็นการท้าทายอำนาจของแบคฮยอน แต่ถึงแม้แบคฮยอนจะโมโหแต่สีหน้ากับเต็มไปด้วยความสงสัย
“หัวใจมังกร...เจ้าหมายถึงอะไร?” สิ้นเสียงของแบคฮยอนจงแดก็ล้มลงไปนั่งกับพื้น
ฮึก!!!
“ศรเทมีส!!!” จงแดถูกยิงด้วยศรเทมิสซึ่งไม่รู้ว่าถูกยิงมาจากไหน จงแดลงไปนอนกองกับพื้นและดิ้นด้วยความทรมานเพราะพิษจากศรเริ่มเข้าสู่ของเขาแล้วสีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บแต่กลับพยายามกลั้นเสียงร้องเอาไว้
เมื่อศรถูกยิงมาจากไหนก็ไม่รู้และไม่รู้ว่าใครยิงมาทำให้พวกหมาป่าเริ่มแตกตื่นแบคฮยอนจึงเลือกที่จะกลับไปและทิ้งจงแดเอาไว้อยู่อย่างนี้แต่ก่อนที่เขาจะไปจงแดได้บอกบางสิ่งกับเขาเอาไว้
สักวันเจ้าจะกลับมาช่วยข้า.....
จงแดที่ยังคงนอนเจ็บปวดกับความทรมานเขาไม่สามารถลุกขึ้นยืนหรือส่งเสียงขอความช่วยเหลือได้เลย ถ้าเขาหลับไปจะไม่มีอะไรมารับประกันว่าเขาจะสามารถตื่นขึ้นมาได้อีก ถ้าเขาจะต้องตายเขาก็ขอเห็นหน้าใครบางคนก่อนที่จะตายได้หรือไม่ นั้นคือสิ่งที่ราชาแวมไพร์กำลังคิด
“จงแดอ่าาาาาาาา” ไควิ่งกลับมาด้วยสภาพที่ไม่สู้ดีนักร่างกายของเขามีบาดแผลมากมายแต่เมื่อเห็นร่างตรงหน้านอนอยู่ที่พื้นเขากับไม่ได้รู้ถึงความเจ็บปวดที่เขาได้รับเลยแม้แต่น้อย “เจ้าเป็นอะไร???ศรเทมีส ใครทำร้ายเจ้า” ไคประคองร่างเล็กให้มาอยู่ในอ้อมกอดของตนเอง
“เจ้ากลับมาจริงๆด้วย” จงแดเอื้อมมือบางไปลูบใบหน้าอีกคนที่มีรอยแผลอยู่ที่แก้มซ้าย “เจ้าไปโดนอะไรมา?”
“ข้าจะพาเจ้าไปหาเซฮุนเองอดทนหน่อยนะ” ไคแบกจงอินไว้บนหลังก่อนจะกลายร่ายเป็นมหาป่าสีดำตัวใหญ่ ไคจะแข็งแรงมากกว่าเวลาอยู่ในร่างหมาป่าแบบนี้
กอดข้าไว้แน่นๆนะแล้วเจ้าจะปลอดภัย
นั่นคือสิ่งที่จงแดได้ยินในหัวของตนเองเพราะเป็นมหาป่าไคจึงพูดไม่ได้ทำได้เพียงแค่ส่งกระแสจิตคุยกันเท่านั้น
เพราะพิษจากศรเทมีสทำให้จงแดอ่อนแรงและเป็นไข ตอนนี้ตัวของจงแดเย็นราวกับน้ำแข็งในขั้วโลกแต่เพราะไออุ่นจากร่างกายของไคทำให้เขาไม่ตัวเย็นจนเกินไป
“กอดเจ้าแล้วทำไมข้าถึงรู้สึกอบอุ่นแบบนี้นะ คิมไค”
เจ้าเรียกข้าว่าอะไรนะ...คิมไค อย่างงั้นหรอ
แต่ก็ไร้การตอบรับใดๆจากจงแด ตอนนี้จงแดหลับไปด้วยพิษของศรไคจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้น ไม่นานเท่าไหร่ก็มาถึงพระราชวัง ตอนนี้ไคอยู่ในร่างของมนุษย์แล้วจงแดยังคงอยู่ในอ้อมกอดของเขา ไควางจงแดลงบนเตียงอย่างเบามือ
“เซฮุน เซฮุน เซฮุนอ่าาาาาาา” ไคร้องเรียกตะโกนชื่อของเซฮุนดังไปทั่วพระราชวังไม่นานเซฮุนก็วิ่งเข้ามาในห้องพร้อมกับลู่หาน คริส ชานยอลและพระราชินี “ระหว่างทางจงแดถูกยิงด้วยศรเทมีส โปรดช่วยรักษาทีข้าขอร้อง” ไคแสดงสีหน้าอ้อนวอน
“เพราะเจ้านั้นแหละ เพราะเจ้าใช่ไหมจงอิน” คริสกระชากไคเต็มแรงแต่ก็ถูกองค์ราชินีห้ามไว้ก่อน
“ข้าจะทำเท่าที่ข้าช่วยได้ ลู่หาน คริส และองค์ราชินีโปรดอยู่ช่วยข้าก่อนนะ” เซฮุนพูด
หลังจากที่เซฮุนรับปากไคก็รีบออกจากห้องโดนทันทีโดยมีชานยอลตามออกมาไม่ห่าง
“ท่านไค...เอิ่มม จงอินเจ้าจะไปไหน?”
“ข้าจะไปหาแบคฮยอน...เจ้าอยู่ที่นี่แล้วข้าจะรีบกลับมา” ไควิ่งออกจากพระราชวังไป
คานาเบล
“หัวใจมันกรคืออะไรท่านพ่อ?” นั่นคือคำถามที่แบคฮยอนถามท่านซีเรียสตั้งแต่กลับมาถึงคานาเบล แต่ก็ไร้คำตอบจากพระบิดาของตนเอง
“เจ้าไปเอาเรื่องนี้มาจากไหน?” ท่านซีเรียสเอ่ยถามบุตรชายของตนหลังจากที่นั่งเงียบมานานสักพัก
“มันเป็นเรื่องที่พวกลูกอย่างเราไม่ควรรู้สินะครับ” ไคเดินเข้ามาในปราสาทด้วยท่าทีที่น่ากลัว “แบคฮยอน...ไหนเจ้าบอกว่าจะยิงศรเทมีสพรุ่งนี้ไง แล้วพวกของเจ้าบังอาจมากที่มาทำร้ายข้านะ”
“ข้า...ข้าไม่ได้ยิง ข้าเองก็ยังตกใจมาถึงตอนนี้” แบคฮยอนตอบ
“ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วใครยิง???”
“ข้าเอง...” ท่านซีเรียสตอบ
“ทำไมท่าน......”
“เจ้าไม่มีวันทำงานนี้สำเร็จหรอกคิมไค เพราะเจ้ารักมันเจ้าจะไม่มีวันฆ่ามันกับมือของเจ้าได้”
“.....”
“หลังจากราชาองค์สุดท้ายสิ้นลง มังกรจะตื่นและเมื่อถึงเวลานั้น...”
“ท่านมันกระหายในอำนาจ กระหายที่จะปกครองโลกใบนี้ ท่านอยากเป็นใหญ่เหนือสิ่งใดๆท่านกำลังถูกความโลภเข้าครอบงำ ท่านเลี้ยงพวกข้าเฉกเช่นทหารของท่าน เลี้ยงเพื่อไว้ใช้งาน ท่านไม่เคยเลี้ยงดูพวกข้าในฐานะของลูกแม้แต่น้อย และท่านจะไม่มีวันได้รับความรักจากข้าอีกต่อไป” ไคระเบิดอารมณ์ออกมาซึ่งสร้างความตกใจให้แก่ผู้ฟังอย่างมาก แผ่นหลังกว้างถูกหันให้กับพ่อของตน
“ถ้าเจ้ากล้าออกไปจากปราสาท ก็อย่าหวังว่าเจ้าจะได้กลับมาอีกนะคิมไค”
“ข้าจะไม่มีวันกลับมาอย่างแน่นนอน”
TALK: อิอิ มาอัพให้แล้วนร่าาาาาาาา
หายไปซะนานขอโทษทีนะคะ เปิดเทอมแล้วยุ่งมากเลยๆ ต้องไปรับน้องอีก .บ่นๆๆๆ
ยังไงก็เม้นให้กำลังใจกันด้วยนะคะ
อิอิ แล้วจะมาอัพต่อไวๆนะ
ความคิดเห็น