ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO] VAMPWoLF หมาป่า...ที่รัก [KaiChen]

    ลำดับตอนที่ #6 : WAMPWoLF : 5 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 22 พ.ค. 57


    WAMPWoLF 5

     

     

     

     

     

     

    โอรากอน

     

             โอรากอนเป็นดินแดนทางตอนเหนือที่สวยงามหากแต่ในปัจจุบันกลับถูกความเศร้าโศกเข้าครอบงำอณาจักร การเดินผ่านเมืองทำให้ตัวจงแดนั้นรู้ว่าประชาชนของเขาอยู่ในความทุกข์หลังจากที่พระบิดาของเขาได้จากไป

     

             พระอาทิตย์ทอแสงขึ้นที่ขอบฟ้าพร้อมกับประตูวังที่ต้อนรับพวกเขาเข้าไปภายในพระราชวัง หญิงร่างสูงในชุดสีขาวเธอดูสง่างามอย่างมากไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเธอคือราชินีแห่งโอรากอน

     

             “จงแด...จงแดลูกของแม่” พระมารดากอดบุตรชายไว้ในอ้อมกอดแน่ราวกลับว่ากลัวจะเสียบุคคลที่รักไปอีกคน น้ำใสๆไหลปะบ่าของบุตรชาย

     

             “ท่านแม่ร้องไห้ทำไม...ข้าอยู่กับท่านแล้วนี่ไง”    จงแดเอื้อมมือไปซับน้ำตาก่อนจะสวมกอดมารดาอีกครั้ง

     

             ภายในปราสาทถูกจัดเตรียมสำหรับงานฉลองคืนนี้ หลังจากที่ชาวเมืองเริ่มทราบถึงการกลับมาของราชาองค์ใหม่แห่งโอรากอนต่างก็เริ่มยินดีและความโศกเศร้าก็เริ่มที่จะจางหายไป

     

             จันทราแทนที่อาทิตย์ประตูวังเปิดออกเพื่อต้อนรับชาวเมืองทุกคนเข้ามาในงานฉลอง ทุกคนแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีสดใสและเริ่มมีรอยยิ้มปรากฏบนใบหน้า เสียงดนตรีบรรเลงอย่างไพเราะก่อนที่ราชาองค์ใหม่จะปรากฏตัวในชุดฉลองพระองค์สีขาวทองช่างสง่างามเหมือนกับพระบิดาไม่มีผิด

     

             “อย่าเพิ่งเรียกข้าว่าราชาเลย โปรดเรียกว่าเจ้าชายก็พอ วันใดที่ข้าสามารถลงโทษผู้ที่ทำผิดต่อเราไว้ได้เมื่อนั้นจึงค่อยเรียกข้าแบบนั้น” จงแดกล่าวอย่างถ่อมตนกับประชาชนของตนเอง ก่อนจะให้ชาวเมืองไดสนุกสนานกันอย่างเต็มที่

     

             “นี่...ประชาชนพวกนี้คือแวมไพร์หมดเลยหรอ?” เซฮุนกระซิบลู่หาน

     

             “ใช่แล้ว...บางคนก็เป็นเลือดผสมบางคนก็เป็นเลือดแท้” ลู่หานตอบก่อนจะส่งแก้วแชมแปนให้กับเซฮุน เซฮุนรับมาอย่างไม่สงสัย

     

             งานเลี้ยงต้องมีวันเลิกลา งานฉลองจบลงก่อนที่พระอาทิตย์จะขึ้นเพียงไม่นาน นั้นคือความปลอดภัยของประชาชนบางคนที่เป็นเลือดผสม แวมไพร์เลือดผสมผิวหนังไม่สามารถต้านทานต่อแสงแดดได้ ดังนั้นงานเลี้ยงจึงจบลงเพื่อปกป้องประชาชนบางส่วน

     

             “เช้าแล้วทำไมลูกยังไม่นอนอีก?”

     

             “ข้ายังไม่ง่วงเลยท่านแม่ ท่านแม่ไปนอนเถอะครับ” จงแดกล่าวกับพระมารดาก่อนจะเดินออกจากห้องโถงของพระราชวังตรงไปยังสวนดอกไม้ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนหญ้าสีเขียวสดพร้อมกับหลับตาลง

     

             “มานอนอะไรตรงนี้” เสียงทุ้มแหบเรียกให้เจ้าชายน้อยลืมตาขึ้นอีกครั้ง

     

             “ท่านพี่”

     

             “ตอนนี้ข้าเป็นผู้พิทักษ์เจ้านะไม่ใช่พี่ของเจ้าสักหน่อย” คริสส่งยิ้มบางๆให้กับคนที่ขึ้นชื่อว่าเคยเป็นน้องชายของตน

     

             “ยังไงท่านก็คือพี่ข้าอยู่ดีนั้นแหละ...พี่ว่าข้าจะทำได้หรือเปล่า?” จงแดเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เป็นกังวลอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่าเขาจะสามารถเอาชนะท่านซีเรียสผู้ที่มีอำนาจมหาศาลได้หรือเปล่า เขาจะสามารถปกป้องบ้านเมืองของตนได้หรือเปล่า นั้นคือคำถามที่ยังไม่สามารถตอบได้

     

             “เจ้าแข็งแกร่งว่าที่เจ้าคิดนะ...เพียงแค่เจ้าต้องรู้จักวิธีควบคุมพลังและฝึกให้มากขึ้น”

     

             “ข้าไม่รู้ว่าข้าจะมีเวลาฝึกอีกแค่ไหน กองทัพคานาเบลก็ไม่รู้ว่าจะโจมตีเราอีกเมื่อไร?”

     

             “คำทำนายวันศึกจะมาถึงพร้อมกับทหารเอล์ฟเวลานั้นเจ้าจะรู้ว่าเราจะเหลือเวลาอีกเท่าไหร่” ท่านเลย์จะเป็นคนทำนายวันศึกและสารนั้นจะมาถึงโอรากอนพร้อมกับทหารและหมาป่าสองพี่น้อง

     

             “เจ้ากลับไปนอนเถอะ...จะได้มีแรงไว้ฝึกคืนนี้” คริสบอกน้องชาย จงแดเชื่อฟังอย่างว่าง่ายเดินเข้าพระราชวังจนลับสายตาของพี่ตัวสูง

     

             การดื่มเลือดมนุษย์วันละครั้งสามารถเพิ่งกำลังให้กับแวมไพร์เลือดพิเศษได้อย่างมหาศาล พวกเลือดพิเศษกล่าวคือพวกเชื้อพระวงศ์แวมไพร์เท่านั้นซึ่งตอนนี้ก็เหลือไม่มากนอกจากองค์ราชินีและจงแดก็มีพระญาติอีกเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นซึ่งท่านทั้งสองก็อาศัยอยู่ในพระราชวังเล็กทางตะวันตกของโอรากอน ไม่ค่อยได้มายังวังหลวงสักเท่าไหร่

     

             สำหรับพลังวิเศษที่จงแดนั้นมีอคือการสามารถควบคุมจิตของฝ่ายตรงข้ามได้และสามารถกำหนดดินน้ำลมไฟได้ มีเพียงไม่กี่สิ่งที่จงแดไม่สามารถควบคุมได้นั้นคือ แวมไพร์เลือดพิเศษเหมือนกับตน งู และ หมาป่า นั้นคือสิ่งที่จงแดไม่สามารถกำหนดให้อีกฝ่ายทำตามที่ตนเองนึกคิดไว้ได้...

     

     

     

    มิดเดอร์เอิร์ท

     

           เมืองที่แสนงดงามยามแสงอาทิตย์ตกกระทบกับพระราชวังคงปฏิเสธไม่ได้ว่าสวยเพียงใด เหล่าทหารเอล์ฟกำลังเตรียมตัวกันอยู่ภายในปราสาท จงอินและชานยอลยังคงนั่งนิ่งอยู่ในห้องพักโดยไร้เสียงของบทสนทนา

     

             “ท่านซีเรียสจะต้องการโอรากอนไปเพื่ออะไร?” เสียงของชานยอลทำลายความเงียบภายในห้อง สีหน้าของจงอินยังคงนิ่งเงียบก่อนจะหันหน้ามาหาชานยอลผู้คุ้มครองของตน

     

             “มันต้องมีอะไรมากกว่าที่เราคิด...เราถึงต้องเข้าไปค้นหาไง” พูดจบเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นท่านเลย์เรียกชานยอลกับจงอินไปพบยังโถงพระราชวัง ตามทางเดินต่างถูกประดับไปด้วยดอกไม้ที่ส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วไม่นานหมาป่าทั้งสองก็เดินมาถึงห้องโถง

     

             “นำสารนี้ไปส่งให้ถึงมือจงแดที่โอรากอนนะ ข้าไว้ใจพวกเจ้าได้ใช่ไหม?จงอิน ชานยอล” เลย์ยื่นสารที่ถูกม้วนแล้วผูกด้วบริบบิ้นสีแดง จงอินเพียงแค่พยักหน้าไร้การตอบรับก่อนจะลุกขึ้นและเดินหันหลังออกจากโถงกลางไปชานยอลเห็นดังนั้นจึงรีบลุกตามไป

     

             “ข้าหวังว่าความดีของทุกคนจะช่วยเปลี่ยนแปลงความคิดของพวกเจ้าทั้งสองนะ บุตรชายคนเล็กแห่งคานาเบล....”


     


    ---- 40% ----

    ทันทีที่ประตูเมืองเปิดออกสายลมกลับพัดผ่านอย่างน่ากลัวภายในป่าวันนี้ดูหน้ากลัวกว่าทุกวันท้องฟ้าช่างแตกต่างกับมิดเดอร์เอิร์ท ท้องฟ้ามืดครึ่มราวกับจะมีพายุใหญ่

     

             “ท่านแบคฮยอนรออยู่ข้างหน้าใช่ไหม?”

     

             “อืม” จงอินตอบสั้นๆเขารู้ว่าแบคฮยอนกำลังดักรอเขาอยู่ระหว่างทาง เขาจะทำอย่างไรดีถ้าทำสิ่งที่ต้องทำคือช่วยแบคฮยอนจัดการกับเอล์ฟแต่ความรู้สึกของเขาตอนนี้มันช่างสวนทางกันเสียเหลือเกิน ตลอดทางจงอินยังคงมัวแต่คิดว่าเขาควรทำอย่างไร

     

             ผ่านไปสองวันก็ยังไร้วี่แววของแบคฮยอนที่แอบเฝ้าซุ่มในป่าทำไมถึงลงมือช้าขนาดนี้อีกแค่ 3 วันพวกเอล์ฟก็จะเดินทางถึงโอรากอนแล้ว

     

             “พวกท่านล่วงหน้าไปก่อนเลย ข้ากับพี่ชายเราขอหาอะไรกินกันก่อนแลัวจะตามกลิ่นพวกท่านไป” จงอินกล่าวบอกแม่ทัพของทหารเอล์ฟ ชานยอลจงอินก็เดินหายไปในความมืดพวกเขาทั้งสองไม่ได้หิวแต่อย่างใดแต่พวกเขากำลังตามหาแบคฮยอนและหมาป่าตัวอื่นๆ

     

             การตามหาแบคฮยอนใช้เวลาไม่เท่าไหร่ แบคฮยอนและหมาป่าซุ่มกันอยู่ในถ้ำที่เอล์ฟจะต้องเดินผ่านก่อนที่จะเข้าเขตโอรากอน

     

             “เจ้า...มานี่ทำไม?” ทันทีที่แบคฮยอนมองเห็นร่างของน้องชายก็เกิดอาการไม่พอใจ เพราะมันจะทำให้แผนทุกอย่างที่วางไว้เสียงทั้งหมด

     

             “ข้ามีเรื่องจะคุยกับเจ้า...”

     

             “อะไร?”

     

             “เจ้ายังฆ่าเอล์ฟพวกนี้ไม่ได้”

     

             “เจ้า...หมายความว่าอย่างไร เจ้าจะปล่อยพวกมันไปแบบนี้หรอ?” แบคฮยอนเลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโหนี่น้องชายของเขาคิดจะทำอะไรกันแน่

     

             “เป้าหมายของเราคือโอรากอนไม่ใช่หรอ?ถ้าเจ้าข้าเอล์ฟแล้วข้าจะเข้าโอรากอนยังไง?ข้าจะได้เลือดของบุตรชายแห่งโอรากอนได้อย่างไร?”

     

             “......”

     

             “ฉะนั้นเจ้ากลับไปซะ...มันยังไม่ถึงเวลาของเจ้าแบคฮยอน!!!” น้ำเสียงที่ฟังดูเรียบๆแต่แอบแฝงไปด้วยพลังอำนาจ ซึ่งมันสร้างความไม่พอใจให้กับแบคฮยอนอย่างมาก

     

             “ไค...เจ้ากล้าไล่ข้าหรอ?” เสียงคำรามของแบคฮยอนดังไปทั่วภายในถ้ำด้วยความโมโห

     

             “ใช่...ถึงเจ้าจะเป็นพี่ข้าแต่อย่าคิดว่าเจ้าจะสั่งข้าได้ทุกอย่าง”

     

             “ไค!!!” แบคฮยอนกระชากร่างสูงมือเล็กกำแน่นไปที่ลำคออีกคนอย่างเต็มแรง แต่มันกลับถูกปัดออกอย่างง่ายดาย

     

             “อย่าคิดว่าข้าเป็นน้องแล้วข้าจะยอม...อีกอย่างเจ้าน่าจะรู้ว่าสู้กับข้ายังไงเจ้าก็ไม่ชนะ ถ้าเจ้ายืนยันที่จะข้าเอล์ฟข้าก็ต้องบอกว่าข้าก็ต้องข้าเจ้าเหมือนกัน” พูดจบไคก็กลับร่างหมาป่าก่อนจะวิ่งหายเข้าไปในป่า

     

             ถึงเวลาราตรีอีกครั้งค่ำคืนนี้ทหารเอล์ฟจะเดินผ่านถ้ำ ถ้าแบคฮยอนไม่ทำตามแผนของไคคืนนี้คงได้มีการเลือกเลือดเนื้อระหว่างพี่น้องเป็นแน่ ไคและชานยอลตอนนี้กลับมาสมทบกับเหล่าทหารแล้วหลังจากที่หายไปเกือบท้้งวัน

     

             “จงอินอ่า...ทำแบบนี้แล้วท่านแบคฮยอนจะไม่ว่าหรอ” เสียงกระซิบของชานยอลดังผ่านพ้นหูของไค

     

             “ว่าแล้วจะทำไม?หน้าที่ข้าแผนข้า เจ้าอยู่ข้างใครกันแน่” ไคแสดงสีหน้าไม่พอใจหลังจากที่คนสนิทของเขาบ่นกอกหูมาตลอดทาง

     

             ถ้ำที่หมาป่าซุ่มดักโจมตีอีกห่างออกไปเพียงไม่มากแต่ทว่ายิ่งเดินเข้าไปใกล้กลับไร้เสียงของสิ่งมีชีวิตเงียบเสียจนน่าตกใจ “นี่แบคฮยอนยอมจริงๆหรอ?” นั่นคือสิ่งที่จงอินในใจแต่กลับแปลกที่ชานยอลก็คิดแบบนั้นเพราะปกติ โอรสองโตจะหัวดื้อและไม่ยอมฟังยิ่งกับน้องของตนแบคฮยอนจะเอาชนะตลอด

     

             “ท่านแบคฮยอนต้องคิดอะไรอยู่แน่”

     

             “ชู่ววว~~~” ไคทำเสียงชู่วเพื่อให้ชานยอลเงียบก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าคออีกคนมาปิดปาก

     

             “บอกกี่ทีว่าอย่าเสียงดังเดี๋ยวข้าก็ไล่กลับเลยหนิ” ทั้งสองคนยังคงเดินเถียงกันตลอดทางแต่กลับไม่ลืมที่จะคอยระวังภัยจากพี่ชายตัวดี ไม่นานก็เดินทางมาถึงโอรากอน บ้านเมืองดูมีชีวิตชีวามากกว่าตอนที่เห็นคราวที่แล้วมาก ประวังที่ทำจากไม้โอ๊ตบานใหญ่ๆค่อยๆเปิดออกเหล่าทหารเอล์ฟพากันเดินมุ่งหน้าเข้าสู่พระราชวัง

     

             “มาถึงกันสักทีข้าเป็นห่วงแทบแย่” เซฮุนพูดขึ้นเมื่อเหล่าทหารของเขามาถึงโอรากอนอย่างปลอดภัยกันทุกคน

     

             “แล้วสองพี่น้องมหาป่าหล่ะ?”

     

             “หมาป่าหรอ?” องค์ราชินีทรงตรัสด้วยน้ำเสียงที่ตกใจ “เจ้าปล่อยให้หมาป่าเข้ามาในเมืองแบบนี้ได้ยังไง ไปจัดการเดี๋ยวนี้เลยนะ” องค์ราชินีลุกขึ้นจากที่นั่งตรงไปยังประตูวังอย่างร้อนรน เมื่อมาถึงก็ปรากฎร่างของชายร่างสูงสองคนที่ยืนอยู่แต่ไม่สามารถเข้ามาได้

     

             “พวกเจ้าไม่รู้หรือว่าโอรากอนไม่อนุญาตให้พวกหมาป่าอย่างเจ้าเข้ามา”

     

             “แต่พวกข้าไม่ได้คิดจะมาทำร้ายใครนะครับท่านองค์ราชินี”

     

             “หมาป่าอย่างพวกเจ้ามันไว้ใจไม่เคยได้ เจ้าทั้งสองจะออกไปดีดีหรืออยากจะจบชีวิตอยู่ที่นี่...ข้าจะไม่มีวันให้พวกเจ้ามาทำร้ายคนของข้าอีก...”  ไม่ว่าจะอย่างไรราชินีก็จะไม่ยอมให้หมาป่าเข้ามาอย่างเด็ดขาด ไคและชานยอลจึงเลือกที่จะเดินหันหลังกลับ

     

             “เดี๋ยว!!!” เสียงของเจ้าชายตัวน้อยดังแทรกผ่านเหล่าทหารแวมไพร์ที่คอยยืนคุ้มกันอยู่ทางด้านหลังก่อนจะปรากฏร่างเล็กๆ

     

             “เจ้าทั้งสองจะไปไหนไม่ได้...ท่านแม่นั้นเพื่อนของข้าท่านจะไล่เขาไปไหนไม่ได้” จงแดหันมาส่งสายตาอ้อนวอนกับมารดาของตนแต่เหมือนจะไม่เป็นผล มือหนาของพี่คริสจับแขนของจงแดไว้แน่นตามคำสั่งขององค์ราชินี

     

             “ลูกข้าเจ้าห้ามออกไปนอกกำแพงแก้วเป็นอันขาด” จงแดผู้ดื้อรั้นไม่ฟังแม้กระทั้งเหตุผลของใคร เขาสะบัดมืออย่างเต็มแรงเพียงเสี้ยววินาทีจงแดก็ก้าวผ่านกำแพงแก้วออกไป

     

             “จงแด!!!” เซฮุนอุทานด้วยความตกใจ

     

             “เจ้าออกมาทำไมกัน” ไคถามจงแดด้วยความสงสัย

     

             “ข้าแค่จะทำให้ทุกคนเห็นว่าเจ้าสองคนไว้ใจได้แล้วจะไม่ทำร้ายพวกเรา” จงแดพูด “เห็นไหมท่านแม่พวกเขาไม่ทำร้ายข้าและจะไม่ทำร้ายใคร พวกเขาเป็นเพื่อนของเรา” จงแดยังคงยืนเพื่อยืนยันความไว้ใจของเขาจนในที่สุดมารดาก็ต้องใจอ่อนลงให้กับความดื้อรั้นของบุตรชายตัวเอง

     

             “เจ้าทั้งสอง...เชิญเข้ามาได้” สิ้นเสียงการรับสั่งขององค์ราชินีหมาป่าทั้งสองก็สามารถเดินผ่านเข้าประตูวังได้อย่างสบายๆ เพียงก้าวผ่านไปได้ไม่กี่ก้าว ไคก็รู้สึกถึงสัมผัสที่รั้งข้อมือของเขาไว้

     

             “โปรดอย่าทำลายความไว้ใจที่ลูกของเรามีต่อเจ้าทั้งสอง” องค์ราชินีตรัสเพียงเบาๆเพื่อให้ได้ยินเพียงแค่สองคน

     

             “ข้าจะทำให้ดีที่สุด” ไคตอบ

     

             “เจ้าสองคนเดินทางมาเหนื่อยสิท่าข้าเตรียมห้องไว้ให้แล้วพักผ่อนให้สบายนะ” จงแดพูดพร้อมกับส่งยิ้มมาให้หมาป่าทั้งสองก่อนจะพากันหายเข้าไปในวัง

     

             “ท่านหญิง ท่านไว้ใจได้หรอคะ”

     

             “จัดทหารเฝ้าวังให้มากขึ้น...คริส เจ้าดูแลจงแดให้ดีๆ” คริสตอบรับอย่างหนักแน่น

     

     

    คานาเบล

            

             “ทำไมเจ้าหน้าอย่างนั้นหล่ะ?”

     

             “ข้าโมโห มันเป็นน้องข้าแต่กลับสั่งข้า ข้าไม่เข้าใจไม่เข้าใจแผนของไคเลยจริงๆท่านพ่อ” แบคฮยอนหน้าแดงด้วยความอารมณ์เสียเพราะเป็นอีกครั้งที่เขาจะต้องยอมแพ้ให้แก่น้องของตนเอง

     

             “ใจเย็นๆแบคฮยอนอีกไม่นานเจ้าก็จะได้ลิ้มรสเลือดของพวกแวมไพร์













    TALK: เย้ๆๆๆมาอัพให้แล้วนะคะ
    ตอนหน้าจะเริ่มมีเรื่องราวของความรักของไคเฉินแล้วยังไงก็ติดตามกันด้วยนะ

    ไรท์กำลังจะเปิดเรื่องใหม่
    เลยอยากถามรีดเดอร์ว่าอยากอ่านคู่ไหนไหม คือไรท์อยากเขียน ไคเฉิน คริสเฉิน เลย์เฉิน ฮุนเฉิน
    ต้องมารอลุ้นนะคะว่าไรท์จะเขียนคู่ไหน

    ตอนต่อไปจะตามมาอัพเร็วๆนะคะ จ๊วบบบ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×