คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #18 : WAMPWoLF : 17
Wampwolf : 17
--- 300 ร้อยปีผ่านไป ---
เวลาล่วงเลยมากว่าสามร้อยปี ภูมิประเทศประเทศที่เคยถูกควบคุมด้วยป่ากลับเริ่มหายไป เมืองถูกสร้างขึ้นมากมาย ปราสาทโอรากอนยังคงตั้งเด่นอย่างสง่างามท่ามกลางเมืองมากมาย ในยุคสมัยนี้ที่มนุษย์เป็นผู้ครองโลก เหล่าแวมไพร์และหมาป่าต่างทำตัวกลมกลืนและใช้ชีวิตดั่งคนทั่วไป
“ราชาเสด็จ” เสียงแตร์ดังไปทั่วเมืองก่อนจะมีเสียงประกาศดังไปทั่ว ชาวบ้านที่เดินกันไปมาอยู่ในตลาดยามเช้าต้องหยุดลงเพื่อแสดงความเคารพต่อองค์ราชา
“ไม่เป็นไรหรอก...พวกเจ้าทำตัวตามสบายเถอะข้าแค่อยากออกมาสูดอากาศข้างนอกวังบ้าง” ร่างสูงกระโดดลงจากหลังม้าตัวสีดำมันคงจะเป็นม้าประจำพระองค์ไปแล้วเพราะท่าทีของมันช่างดูสง่ามากกว่าม้าตัวไหนๆ
“แต่คิมไค...นี่มันตลาดนะ” องค์รักษ์ประจำตัวที่มีนามว่าชานยอลเอ่ยกระซิบที่ข้างหูของคนที่เป็นทั้งเจ้านายและเป็นทั้งเพื่อน
“ก็แค่ตลาด เจ้าจะบ่นอะไรนักหนา” คิมไคขมวดคิ้ว
“เจ้านี่มันดื้อเหมือนเดิม ถ้าจงแดอยู่ที่นี่ก็คงดีสิมีแต่เขาเท่านั้นแหละที่เจ้าจะฟัง” ชานยอลเผลอหยุดปากพูดชื่อใครอีกคนไปโดยไม่ได้ตั้งใจ
“ถ้าอยู่ตรงนี้ก็คงดีสิ” น้ำเสียงที่อ่อนลงทำให้ผู้ฟังรู้ทันทีว่าเขานั้นพูดในสิ่งที่ไม่ควรพูดออกไป “เจ้ากลับไปก่อนไป ข้าขออยู่คนเดียว” เห็นแบบนั้นชานยอลจึงพาทหารติดตามกลับเข้าวังทั้งหมด เหลือเพียงองค์ราชาที่ยังคงเดินเล่นอยู่ในเมือง
ภายใต้กำแพงล้อมรอบพระราชวังสิ่งมีชีวิตในนี้ล้วนเป็นแวมไพร์และหมาป่าทั้งสิ้น กฏใหม่ที่คิมไคตั้งขึ้นคือห้ามดื่มเลือดมนุษย์เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติ และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาคิมไคก็สามารถทำให้อณาจักแห่งนี้สงบและไร้สงครามมาโดยตลอด
“กว่าจะกลับ ถ้าเจ้าโดนทำร้ายมาข้าจะทำยังไง” ชานยอลหลังทราบข่าวจากทหารว่าราชากลับมาแล้วก็รีบเข้ามาหาทันที
“นี่...เจ้าติดนิสัยขี้บ่นมาจากแบคฮยอนหรือไง” คิมไคนั่งลงบนโซฟาสีแดงตัวนุ่มภายในห้องของเขา
“ข้าอยากจะบ่นเจ้าซะที่ไหน แบคฮยอนฝากให้ข้าดูแลเจ้านะ”
“ข้าอายุหลายร้อยแล้วนะข้าโตขนาดเป็นราชาแล้วนะ เจ้าเลิกห่วงข้าเถอะเจ้าควรจะห่วงแบคฮยอนบ้างนะ ข้าบอกให้เจ้ากลับไปเป็นราชาของคานาเบลเจ้าก็ไม่ยอมฟัง แถมยังมาเป็นองค์รักษ์ข้าอีก” ปากหนายังคงบ่นงิ๊งๆไปเรื่อยๆจนเรียกเสียงหัวเราะจากคนเป็นเพื่อนได้
“เจ้านี่มันขี้บ่นเหมือนราชินีของเจ้าเลยนะ” ชานยอลยิ้ม “คริสสัญญาไว้แล้วยังไงเจ้าก็รอหน่อยนะ” ชานยอลลูบไหล่คิมไคเบาๆเพื่อเป็นการให้กำลังใจ
“นี่ข้าก็รอมาสามร้อยปีแล้วนะ กิ๊กสักคนก็ไม่มีข้านี่มันคิมไคผู้ซื่อสัตย์ชัดๆ”
“ชมตัวเองก็เป็นเพื่อนข้า...พักเถอะ!!!ข้าไม่กวนแล้ว” ชานยอลตบบ่าคิมไคเบาๆก่อนจะเดินออกจากห้องเพื่อปล่อยให้เพื่อนของตัวเองได้พัก
“จงแด...ป่านนี้เจ้าจะเป็นยังไงบ้างนะ” สายตาคมเข้มมองขึ้นยังดวงจันทร์ที่ส่องสว่างอยู่บนท้องฟ้า คิมไคทำได้เพียงแต่คิดถึงคนรักที่หายไปนานถึงสามร้อยปี เหตุที่เขาเป็นราชาของโอรากอนตอนนี้ก็เพื่อที่จะรักษาอณาจักรและรอใครบางคนกลับมาเป็นราชินีของเขาดั่งคำสัญญาที่เคยให้ไว้
--- 300 ปีที่แล้ว ---
“จงแด!! จงแด!! เจ้าตื่นสิ เจ้าเป็นแบบนี้ไม่ได้นะ” มือหนาช้อนร่างบางที่ไร้สติขึ้นมาไว้ในอ้อมกอด ถึงแม้ว่าคิมไคจะพยามยามรักษาบาดแผลต่างๆมากแค่ไหนมันก็กลับไม่ได้ผลอย่างที่เคย
“พวกเรามาไม่ทันสินะ” คริสพูดงึ่มง่ำหลังจากที่มาถึงเขาก็ได้แต่เพียงยืนมองน้องตัวเองที่นอนไร้สติอยู่ในอ้อมกอดหมาป่าตัวใหญ่
“ข้ามาไม่ทันงั้นหรอ” น้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาสีแดง คิมไคไม่ได้ร้องไห้มานานแค่ไหนแล้ว นี่เขากำลังอ่อนแอเอาเสียมากๆ “คริส!!! เจ้าทำอะไรสักอย่างสิเจ้าเป็นถึงคลอซิน และนี่ก็น้องของเจ้านะ”
“แล้วเจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยให้น้องของข้าตายอย่างงั้นหรือไง” คริสตะคอก
“เจ้าก็ทำอะไรสักอย่างสิ”
“วางจงแดลงแล้วยืนขึ้น” คิมไคมองมาทางคริสด้วยความสงสัย “ข้าบอกให้ยืนขึ้น” คิมไควางร่างของจงแดอย่างเบามือก่อนจะยืนขึ้นเต็มความสูง
“ข้าคลอซินผู้พืทักษ์แห่งโอรากอนขอแต่งตั้งให้เจ้าเป็นราชาองค์ใหม่แห่งโอรากอน” คริสผู้ซึ่งมีอำนาจสูงสุดแห่งโอรากอนได้แต่ตั้งคิมไคเป็นราชาเพื่อปกป้องอณาจักรคนต่อไป ทหารทุกคนเมื่อได้ยินดังนั้นต่างโค้งทำความเคารพราชาองค์ใหม่
“เดี๋ยว!!! นี่มันตำแหน่งของจงแดนะ”
“ระหว่างนี้ข้าฝากดูแลอณาจักรด้วย แล้วสักวันจงแดจะกลับมาทวงตำแหน่งคืน” คริสยิ้มก่อนจะเดินไปอุ้มร่างไร้สติของน้องชายตัวเอง
“ชานยอล...พาราชาคิมไคกลับวังได้แล้ว” ชานยอลพยักหน้ารับคำ “อ่อ...ต่อจากนี้ข้าขอสั่งห้ามทุกคนห้ามขึ้นมาบนเขาลูกนี้จงแดต้องการความสงบ” สิ้นคำพูดร่างสูงของคริสก็หายเข้าไปในถ้ำ
เป็นเวลานานกว่าร้อยปีที่ภูเขาแห่งโอรากอนห้ามผู้คนเข้าไปเยี่ยมเยียน คิมไคได้จัดเวรยามทหารเฝ้าที่ตีนภูเขาในทุกๆทิศเพื่อป้องกันพวกมนุษย์ขึ้นไป หลังจากเสร็จสิ้นสงครามหมาป่าทุกตนก็ยอมจำนนต่อคิมไคและแบคฮยอน เซฮุนและลู่หานก็อำลาและนำชาวเอล์ฟกลับมิดเดอร์เอิร์ท ส่วนแบคฮยอนตอนนี้ก็ขึ้นเป็นราชาองค์ใหม่แห่งคานาเบล
“ถ้าข้าลืมตาขึ้นท่านก็จะหายไปใช่ไหม?” จงแดเอ่ยถามขึ้น ตอนนี้ทั้งเขาและคริสต่างอยู่ในโลกระหว่างความเป็นและความตาย เพียงจงแดลืมตาเขาก็จะสามารถกลับเข้าสู่โลกของความจริง
“พี่ก็ไม่ได้หายไปไหนสักหน่อย พี่ยังคงอยู่ในตัวเจ้าเสมอนะ” คริสยีผมผู้ที่เป็นเหมือนน้องแท้ๆของเขา
“ทำไมถึงช่วยชีวิตข้าและยอมสละชีวิตตัวเอง พี่เป็นถึงคลอซิลผู้ยิ่งใหญ่นะ”
“ยิ่งใหญ่ขนาดไหนข้าก็ต้องปกป้องเจ้านะ อีกอย่างถ้าข้าปล่อยเจ้าตายมีหวังข้าโดนรุมข้าแน่ๆ5555555” คริสยิ้มบางๆ แต่คนตัวเล็กกลับไม่คิดแบบนั้น
“จงแด”
“ครับ?”
“เจ้าเป็นราชานะข้าบอกกี่รอบแล้วว่าเจ้าจะอ่อนแอไม่ได้ การเกิดมาเป็นกษัตริย์เจ้าต้องแบกรับภาระมากมายเจ้าจะอ่อนแอไม่ได้ เจ้าตายมาแล้วครั้งนึง แต่ต่อจากนี้จะไม่มีอะไรมาทำร้ายเจ้าได้นั้นคือสิ่งเดียวที่พี่อย่างข้าจะปกป้องเจ้าได้และจะปกป้องเจ้าตลอดไป”
“ท่านพี่” จงแดโผลเข้ากอดคนเป็นพี่ น้ำใสๆค่อยๆไหลออกจากตา
“เจ้ายังมีพี่เสมอนะ ในนี้...” คริสจิ้มไปที่หัวใจของจงแด “พี่จะปกป้องเจ้าตราบเท่าที่เจ้ายังเป็นน้องพี่”
“ขอบคุณนะ” สำหรับจงแดมันเป็นเรื่องยากที่เมื่อลืมตาขึ้นมาเขาจะไม่มีคริสคอยดูแลเหมือนแต่ก่อน
“ไม่คิดถึงคิมไคหรือไง เจ้าหมาป่านั้นมันคิดถึงจงแดจะแย่แล้วนะ”
“ปล่อยให้คิดถึงไป อยากปล่อยให้ข้าตายอย่างเปล่าเปลี่ยวเองทำไมหล่ะ” จงแดหน้าบึ้ง
“เจ้านั้นมันรีบวิ่งจนขาแทบพันเลยนะ จงแดนั้นแหละไม่อดทนรอเลย”
“ท่านพี่ว่าข้าทำไม” จงแดเบะปาก
“เจ้าหลับนานไปแล้ว ถึงเวลาตื่นแล้วนะ” คริสยีผม “สิ่งต่างๆที่ข้าทำได้ข้าก็สอนไปหมดแล้ว ช่วยคิมไคดูแลอณาจักรด้วยนะแล้วก็เจ้าโตแล้วนะ อย่างทำตัวเป็นเด็กนะ”
“ข้ารู้แล้ว” จงแดกอดคริสแน่นมากกว่าที่เคยทำมา นี่หรือเปล่าที่เรียกว่าครอบครัว
“ทุกครั้งที่เจ้าหลับข้าจะมาหานะ”
“เจ้าเมืองเหนือนำของมาบรรณาการณ์” ชานยอลพูดพร้อมกับขบวนของบรรณาการณ์ที่มีทั้งข้าวของเงินทองและหญิงสาวมากมาย
“ทำไมถึงชอบส่งบรรดานารีมาให้นะ บอกว่าไม่เอาไง” คิมไคแสดงสีหน้าอารมณ์เสีย
“งั้นข้าเอานะ”
“ข้าจะฟ้องแบคฮยอน”
“-..- ข้าล้อเล่น”
“องค์ราชาจะรับของบรรณาการณ์ทั้งหมดยกเว้นนารี” ชานยอลประกาศ
“แต่ว่าพวกเราเดินทางมาไกล อีกทั้งยังมีผิวพรรณที่สวยงาม” หนึ่งในนารีสาวสวยเอ่ยขึ้น เพราะไม่ว่าหญิงใดได้พบกับราชาคิมไคก็ต้องตกหลุมเส่หน์กันทั้งนั้น
“แล้วไง...ข้าบังคับให้เจ้ามางั้นหรอ” ขิ้วเข้มขมวดเข้าหากันก่อนจะลุกออกจากที่นั่งและหายไปทางหลังห้องโถง
“เอ่อ...ถ้าพวกเจ้าไม่กลับก็ต้องไปทำงานอยู่คอกม้านะเลือกเอา” ชานยอลบอกซึ่งเหล่าหญิงสาวพวกนี้คงไม่ยอมทำงานหนักแน่นอนพวกเธอจึงรีบเดินทางกลับ
“หนีมาห้องสมุดหลวงตลอด” ชานยอลรู้ทันทีว่าเวลาที่คิมไคหงุดหงิดและต้องการความสงบเขาจะหนีมานั่งอยู่ในนี้เสมอ
“อยากกินแต่ก็ต้องอดกลั้นนี่มันน่าสงสารจริงๆ” ชานยอลขำก๊ากกับอาการของเพื่อนตัวเอง เขารู้ว่าที่จริงแล้วคิมไคนั้นอยากจะกินหญิงสาวพวกนั้นขนาดนั้นแต่ก็ต้องอดกลั้นเอาไว้เพื่อรอจงแด
“เออดิ...จงแดกลับมาเมื่อไหร่ข้าจะกินทั้งวันเลย”
“อย่ากามให้มันมากนัก” ชานยอลที่จะพูดไม่ได้เพราะนั้นหล่ะคือนิสัยแท้ของเพื่อนที่สนิทกันที่สุด บทสนทนาของทั้งสองหยุดลงเพราะทหารแวมไพร์เข้ามากระซิบบางอย่างกับชานยอล
“เกิดไรขึ้น?” คิมไคถาม
“มีคนมาอารวาท แล้วบอกว่าอยากเจอเจ้าตอนนี้อยู่ที่โถงปราสาท” ชานยอลพูดด้วยสีหน้าไม่ค่อยดีเพราะเขาคิดว่าเขาต้องโดนคิมไคด่าแน่ๆ
“ทหารมีเป็นร้อยกลับจัดการไม่ได้ เจ้าโดนโทษแน่ชานยอล” คิมไคลุกก่อนจะเดินไปยังโถง
คิมไคที่เดินเข้ามายังโถงปราสาทโดยมีชานยอลเดินตามติด ภายในโถงมีทหารที่นอนสลบอยู่จำนวนหนึ่งและคนเจ้าปัญหาตอนนี้กับนั่งอยู่บนบัลลังค์ราชาและเพราะผ้าคลุมสีดำที่ปิดหน้าอยู่จึงทำให้ไม่เห็นว่าเป็นใคร
“เจ้าเป็นใคร?กล้าดียังไงมานั่งที่ของข้า” คิมไคพูด
“เจ้านั้นแหละกล้าดียังไงมาแย่งบัลลังค์ข้าไป...คิมไคบุตรคนเล็กแห่งคานาเบล” สิ้นเสียงบุคคลปริศนาก็ลุกขึ้นผ้าคลุมศีรษะที่ถูกปิดก็เปิดออกเผยให้เห็นใบหน้าอย่างชัดเจน
“จงแด...”
ไม่ได้มาอัพซะนานเลยขอโทษนะคะ ลืมพี่คิมไคกับน้องจงแดไปยังเอ่ย
ไรท์ทั้งติดสอบ ทั้งต้องไปทำค่าย เลยเพิ่งว่าง
ตอนแรกกะจะให้ตอนนี้จบเลยแต่ทำไม่ลง แต่จะมีตอนหน้า(ตอนพิเศษ) ให้นร่าา
เม้นให้กำลังใจเค้ากันด้วยนะ อิอิ
ความคิดเห็น