คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : WAMPWoLF : 3
WAMPWoLF 3
ร่างกายที่เต็มไปด้วยรอยบาดแผลที่เกิดขึ้นจากการต่อสู้เมื่อครู่นั้นคือสิ่งที่ครวได้รับการรักษาที่สุด ข้าพยายามพยุงร่างทั้งสองมาที่ประตูเมืองก่อนจะสั่งให้ทหารช่วยกันพาทั้งสองกลับไปยังพระราชวัง
“จงแด...เจ้าทำอะไร นี่มันมนุษย์หมาป่า” เสียงพี่คริสที่กำลังโวยวายใส่หูข้าก็เริ่มดังหนักขึ้นเมื่อข้ายังคงเดินหน้าพาหมาป่าทั้งสองเข้าสู่พระราชวังของชาวเอล์ฟ
“ท่านพี่ แต่เขาทั้งสองกำลังเจ็บหนักข้าจะปล่อยให้พวกเขาตายต่อหน้าต่อตาได้เยี่ยงไร?” ข้าไม่ฟังคำพี่คริสแม่แต่น้อย ชาวเอล์ฟมีพลังวิเศษด้านการรักษาดังนั้นข้าจึงพาเขาทั้งสองมาที่นี่เพื่อรับการรักษา
“เซฮุน เซฮุน เซฮุนอ่า” เสียงข้าตะโกนร้องเรียกเซฮุนดังกึกกร้องไปทั่วทั้งพระราชวัง ไม่นานร่างขาวก็ปรากฎตรงหน้า
“มีอะไรหรอ?จงแด เรียกเราซะดังเลย”
“เซฮุน เจ้าโปรดช่วยหมาป่าทั้งสองนี้ด้วยพวกเขาถูกโจมตีโดยพวกของท่านซีเรียส ข้ารู้ว่านี้มันผิดกฏแต่เจ้าโปรดช่วยพวกเขาด้วย” ข้าอ้อนวอนขอร้องต่อเซฮุนให้โปรดช่วยรักษาพวกเขาทั้งสอง เซฮุนทำหน้าลังเลเล็กน้อยก่อนจะเริ่มลงมือรักษา เอล์ฟรักษาวิ่งวุ้นกันให้ทั่วพระราชวังเพื่อทำการรักษา เสียงร้องโอดครวญดังไปทั่ววัง คงเป็นเพราะความเจ็บปวดที่เขาทั้งสองได้รับ
“เราทำหน้าที่ของเราแล้ว ตอนนี้รอแต่ให้เขาทั้งสองหายดีแล้วต่อไปจะว่ายังไงค่อยว่ากันนะจงแด” ข้ารู้สึกขอบใจเจ้ามากที่ยอมช่วยแต่ถึงอย่างไรข้าก็ทำผิดกฎของมิดเดอร์เอิร์ท หลังจากที่เขาทั้งสองหายก็จะต้องออกจากเมืองนั้นคือสิ่งที่ข้าคิดไว้
ตลอดเวลามีเพียงแค่ข้าที่คอยดูแลพวกเขาทั้งสองมีพี่คริสที่มาคอยช่วยข้าบ้าง เพราะเอล์ฟไม่ถูกกับมนุษย์หมาป่า
“จงอิน ชานยอล เจ้าทั้งสองเป็นอย่างไรบ้าง” ข้าเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงแต่ตอนนี้ทั้งสองอาการดีขึ้นแล้ว แต่คำถามก็ไร้ซึ้งคำตอบลู่หานเดินเข้ามาพาพวกเราทั้งหมดไปยังโถงกลางของพระราชวัง ที่นั้นทุกคนอยู่กันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา
“เจ้าทั้งสองหายดีแล้วนะ...งั้นก็ออกไปจากเมืองของข้าได้แล้ว” เสียงเรียบและท่าทีที่เย็นชาของท่านเลย์ฟังดูน่าเกรงขามยิ่งนักแต่มันก็ไม่ได้ทำให้สองคนตรงหน้ากลัวเลยสักนิด
“ท่าพวกข้าออกจากเมืองนี้ไปก็จะโดนฆ่าโดยพวกของท่านซีเรียส โปรดให้พวกเราสองพี่น้องอยู่ที่นี้เถอะ” หมาป่าผู้น้องพูดขึ้นอย่างเรียกคะแนนความน่าสงสาร แต่ท่านเลย์ดูทีท่าว่าจะไม่ยอมการต่อเถียงระหว่างทั้งสองจึงยังดำเนินต่อไป
“พี่เลย์...เราคิดว่าให้หมาป่าทั้งสองอยู่ที่นี่ก็ดีนะ การต่อสู้กับพวกท่านซีเรียสเราอาจจำเป็นที่จะต้องใช้เขาทั้งสองในการฝึกการต่อสู้กับหมาป่า” หลังจากที่เซฮุนเงียบอยู่นานในที่สุดก็พูดอะไรที่จะพอเป็นประโยชน์บ้าง และหลังจากการลงความเห็นกันท่านเลย์ทรงอนุญาตให้ทั้งสองอยู่ที่พระราชวังและสอนการรบแบบหมาป่าให้แก่ตัวข้าและทุกๆคน
“ขอบคุณพวกท่านมาก...ข้าจะทำหน้าที่นี้อย่างดี” จงอินหมาป่าผู้น้อยพูดขึ้น
อากาศยามบายสายลมพัดผ่านพ้นไปข้านั่งพักผ่อนสมองอยู่ในสวนก่อนที่คืนนี้การฝึกฝนอันหนักหน่วงจะเริ่มขึ้นอีกครั้ง มีคนกำลังเดินมาทางข้าเสียงรองเท้าเหยียบบนหญ้าดังขึ้นถี่ขึ้นเรื่อยๆ ข้าหันหลังไปก็พบกับชายร่างสูงผิวสีเข้าที่ข้าเคยช่วยชีวิตเอาไว้
“เจ้าจะทำอะไรจงอิน”
“ข้าก็แค่จะแกล้งท่านให้ตกใจเล่น” เจ้าเดินดังขนาดนี้เป็นใครใครเขาจะตกใจ ถ้าเจ้าเดินให้เบากว่านี้บางทีข้าอาจจะแกล้งตกใจให้ได้นะ
“แล้วมีอะไร??พี่เจ้าหายไปไหนหล่ะ”
“พี่ข้าฝึกให้กับพวกทหารอยู่หน่ะ ส่วนข้าก็หนีออกมา ข้าจะมาขอบคุณท่านที่ช่วยพวกข้าเอาไว้”
“ไม่เป็นไรหรอกข้าไม่ได้ทำอะไรมาก เจ้าควรไปขอบคุณเซฮุนมากกว่านะ” ข้าพูดปัดๆไปเพราะมันคือเรื่องจริงคนที่ช่วยเจ้าไว้คือเซฮุนจริงๆ
“งั้นข้าไปพบท่านเซฮุนก่อนล่ะกัน...ขอตัวนะครับเจ้าชายแห่งโอรากอน”
“เดี๋ยว...ข้ารู้สึกเหมือนข้าเคยเจอเจ้ามาก่อน”
“ท่านไม่เคยเจอข้าหรอก...” จงอินพูดจบก็เดินหายไปอย่างรวดเร็วสมแล้วกับการที่เขาเป็หมาป่า
ตะวันเริ่มลับขอบฟ้าความมืดเริ่มกลืนกลิ่นท้องฟ้านี่จะเป็นเวลาที่ข้าพร้อมจะทำการฝึกซ้อมที่สุด ข้า พี่คริส เซฮุน ลู่หานและคนอื่นๆต่างพากันขึ้นไปฝึกฝนกันบนภูเขาสถานที่แห่งการซ้อมรบ
เคร้ง!!! เสียงดาบปะทะกัน ความรุนแรงของมันเกิดประกายไฟออกมาทุกครั้งที่คมดาบสัมผัสกัน
“ท่านไค...เรามาฝึกให้พวกนี้อย่างนี้เราจะไม่เสียเปรีบหรอ” เจ้าชานยอลคนสนิทหัวหยอยกระซิบข้า
“อย่างน้อยเราก็ได้เห็นวิธีการรบของพวกนั้นนะ”
“นายน้อยของข้านี่ฉลาดซะจริงๆเลย”
“อย่ามาเรียกข้าว่านายน้อยข้าไม่ชอบ” ข้าโวยวายใส่เจ้าชานยอลเล็กน้อยเพราะแค่แบคฮยอนเรียกข้าคนเดียวข้าก็จะบ้าตายอยู่แล้วอย่ามาเรียกข้าแบบนี้อีก
การยืนมองเอล์ฟ แวมไพร์ และผู้พิทักษ์สู้กันต้องยอมรับว่าฝีมือพวกเราไม่เลวและจัดว่าเข้าขั้นยอดเยี่ยมเลยทีเดียวการที่ได้รู้ถึงวิธีการรบของแต่ละครมันย่อมเป็นผลดีต่อฝ่ายของเราเสียจริงๆ กองทัพของมิดเดอร์เอิร์ทนั้นฝีมือเยี่ยมก็เหลือแต่กองทัพแวมไพร์ที่ข้ายังไม่เห็น ดังนั้นข้าจะต้องทำให้จงแดกลับโอรากอนให้โดยเร็วและสงครามที่แท้จริงจะเริ่มเสียที
“นี่ลู่หาน เจ้าแกล้งข้างั้นหรือ???” เสียงขอเซฮุนโวยวายเมื่อน้ำหนักของดาบที่ลู่หานลงทำให้ดาบให้มือเซฮุนนั้นหลุดลอยออกไป
“ข้าเปล่า แต่ท่านเองต่างหากที่ขาดสมาธิในการต่อสู้” ลู่หานกล่าวต่อว่าเซฮุนที่ไม่มีสมาธิในการซ้อมเอาเสียเลย เซฮุนผู้ถูกต่อว่าก็แสดงอาการไม่พอใจ
“ข้าว่าถึงเวลาที่ท่านจงแดจะเรียนวิธีการต่อสู้แบบหมาป่า” จงอินหยิบดาบและเดินเข้าสู่สนามฝึกทำให้การต่อสู้ในทุกๆคู่หยุดชะงักและหันมาให้ความสนใจกับการปะรองของข้าและจงอิน
จงอินยกยิ้มให้จงแดก่อนที่จะเริ่มลงดาบกันทันที ประกายไฟที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นว่าทั้งคู่ลงดาบกันหนักเพียงใด จงแดยกดาบขึ้นกันอีกครั้งแขนทั้งสองข้างเริ่มชาขึ้นทุกที ในขณะที่ขาทั้งสองยังคงวาดหลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนตัวก็พลิกหลบดาบที่มาจากจงอิน
จงแดวาดดาบลงด้วยพลังที่มีทั้งหมดส่งผลให้ดาบของจงอินหักออกเป็นเสี่ยงๆในเมื่อมีไร้อาวุธเขาก็ย่อมเป็นฝ่ายเสียเปรียบทันใดนั้น จงอินกลับกลายร่างเป็นมนุษย์หมาป่าตัวใหญ่ขนดำสนิทดังสีนินนัยน์ตาสีแดงราวกับทับทิม กระโจนใส่จงแดทันทีทำให้ร่างของจงแดตกอยู่ภายใต้ร่างของหมาป่าตัวใหญ่
ตาประสานตานัยน์ตาที่จงแดเคยฝันถึง นัยน์ตาที่เคยเห็นก่อนเข้าประตูเมืองเขากลับได้เห็นมันชัดๆอีกทีก็ในคืนนี้
“เจ้าเป็นใครกันแน่จงอิน...” ข้าเอ่ยถามเสียงเบาที่จะมีเพียงแค่เราทั้งนั้นที่ได้ยิน ข้าไม่ได้รับคำตอบแต่อย่างใด จงอินกลับเข้าสู่ร่างมนุษย์อีกครั้ง
“จิตใจของท่านยังไม่แข็งแกร่งพอ...” นั่นคือสิ่งที่จงอินพูดกับข้าก่อนจะเดินออกจากสนามฝึกไป จิตใจข้ายังไม่แข็งแกร่งพองั้นหรอ เจ้าพูดเรื่องอะไร ข้ารีบเดินตามเจ้าหมาป่าร่างดำนั้นไปทันที
“ว้าว...กระโจนแบบนั้นข้าว่ามันเท่ห์มากเลยนะ เจ้าว่าไหมลู่หาน” เซฮุนหันไปถามลู่หาน
“แต่ท่านเป็นเอล์ฟท่านทำแบบนั้นไม่ได้หรอก...เรียกสมาธิกลับมาด้วยนะเซฮุน” ลู่หานตอบก่อนจะกลับมาสนใจฝึกฝนกับคนตรงหน้าต่อ
ข้าตะโกนเรียกให้หยุดตั้งแสนนานแต่จงอินก็ไม่มีที่ว่าจะหยุดสักที
“หยุดหันหลังให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ” ในที่สุดจงอินก็หยุดเดินและหันกลับมามองแววตาของเขาไม่ต่างกันเลยกับตอนที่เป็นหมาป่าแววตาดุดันซ้อนอะไรไว้หลายๆอย่าง
“ท่านมันเอาแต่ใจ จิตใจวอกแวกไม่มีสมาธิ ท่านตื่นกลัวกับสิ่งที่ท่านไม่เคยเห็น ท่านกลัวข้า”
“ต่อว่าข้าจบหรือยัง ใช่ข้ากลัวกับสิ่งที่ข้าไม่เคยเจอ ข้ากลัวเจ้าตอนที่เจ้าเป็นหมาป่า แต่นั้นมันคือหน้าที่เจ้าที่จะสอนให้ข้าไม่กลัวกับสิ่งเหล่านั้น”
“ท่านไม่จำเป็นต้องกลัวข้า ท่านมีพลังอำนาจมากยิ่งนั้นท่านควรฝึกฝนควบคุมพลังและใช้มันให้เกิดประโยชน์” จงอินพูดก่อนจะเดินหายเข้าไปในความมืด ไม่นานพี่คริสก็ออกมาตามหาข้าก่อนจะพาข้ากลับไปยังสนามฝึก หลังจากกลับไปท่านแม่ก็ทรงมาสอนการควบคุมพลังอำนาจของข้า...
“นี่ท่านไค...ข้าสงสัยทำไมท่านไม่ฆ่าท่านจงแดไปเลยหล่ะเมื่อกี้หน่ะ” นี่เจ้าหยอยเจ้าจะต้องให้ข้าอธิบายอีกกี่รอบเจ้าถึงจะเข้าใจเนี่ย
“นี่ถ้าฆ่าจงแดเมื่อกี้เจ้าคิดว่าข้าจะรอดไหมหล่ะ ดูมั้งดิฝีมือระดับเทพยืนกันเต็มเจ้ากับข้าได้ตายไม่เหลือซากแน่”
“นั่นสิครับ ข้าลืมไป”
“เจ้าบื้อ!!!” มีลูกน้องบื้อนี่มันน่าปวดหัวดีนะว่่าไหม??
ดินแดนคานาเบล
“น้องเจ้าเป็นไงบ้าง” ท่านซีเรียสเอ่ยถามบุตรชายคนโต
“ไค...มันเข้าไปในมิดเดอร์เอิร์ทได้แล้ว ท่านพอไม่ต้องห่วงข้าจะจับตาดูอย่างดี” แบคฮยอนกล่าว
“น้องเจ้าก็มีแผนของเขา แต่เจ้าก็ควรเตรียมแผนสำรองของเจ้าไว้ด้วยนะแบคฮยอน ถึงน้องเจ้าจะเก่งเพียงใดแต่ใจนั้นมันยากที่จะห้ามวันใดน้องเจ้าพลาด เจ้าจะต้องไปจัดการให้ข้า” แบคฮยอนตอบรับคำสั่งของท่านซีเรียสก่อนที่จะออกจากปราสาทไป แสงแดดยามเที่ยงทำให้ภายในเมืองคานาเบลไม่คึกคักนัก มนุษย์หมาป่าทุกตัวแทบจะหลบแสงแดดอยู่ในบ้าน พวกเขาสามารถโดนแดดได้แต่ส่วนใหญ่เวลากลางวันคือช่วงเวลาพักผ่อน
จงอินกับชานยอลอ้างว่าต้องออกไปล่าเหยื่อหาอาหารกินทั้งสองจึงออกมาจากมิดเดอร์เอิร์ทและแอบกลับมาคานาเบลอย่างลับๆ การอ้างว่าออกไปหาอาหารนั้นคือสิ่งที่จะทำให้ทุกคนในมิดเดอร์เอิร์ทเชื่อได้ที่สุดแล้ว
“แผนของเจ้ากำลังไปได้สวยนะ” ท่านซีเรียสกล่าวชมเชยบุตรชายคนเล็กที่สามารถทำตามแผนที่ว่างไว้ได้อย่างเรียบร้อย
“ข้าเป็นถึงท่านไคแห่งอานาเบล ไว้ใจข้าเถอะท่านพ่อว่าข้าจะต้องทำได้”
“เจ้าจงไว้ใจตัวเองให้มากกว่านี้หล่ะกัน” คำสั่งสอนที่เป็นนัยทำให้จงอินรู้สึกหงุดหงิดทุกที ทำไมท่านไม่พูดอะไรที่มันเข้าใจง่ายๆบ้าง
“ข้ามีเวลาให้เจ้าอีก 4 จันทร์เพ็ญ เจ้าจงทำให้เจ้าชายแห่งโอรากอนกลับบ้านของมันให้ได้”
“รับทราบ...งั้นข้าขอตัว” จงอินพูดจบก็เดินออกจากปราสาทไปทันที
“ชานยอล...เจ้าจงดูแลลูกข้าให้ดี”
“ครับท่านซีเรียส” สิ้นเสียงชานยอลก็รีบตามจงอินเพื่อกลับไปยังมิดเดอร์เอิร์ททันที
มิดเดอร์เอิร์ท
การฝึกฝนการควบคุมพลังตลอดทั้งคืนมันเห็นผลดีจริงข้าสามารถทำอะไรก็ได้เพียงแค่ใจนึกเพียงแต่ข้าต้องเรียนรู้การกำหนดจิตโดยไม่หลับตา เพราะถ้าข้ามัวแต่หลับตานึกในสนามรบข้าอาจจะตายก่อนได้ ช่วงเวลานี้คือเวลาพักผ่อนข้าจึงออกมาฝึกเล็กๆน้อยในสวน
ตั้งจิตและคิดไม่นานมวลน้ำก็ปรากฎสายน้ำที่ปรากฎในมือถูกควบคุมโดยจิตข้า ข้าเหมือนกำลังรถน้ำต้นไม้ด้วยพลังจิต สายน้ำถูกซัดสาดไปยังต้นไม้ทุกต้น แต่ข้าก็ได้ยินเสียงประสาทมาจากหลังพุ่มไม้ ไม่นานหมาป่าขนสีดำสนิทก็ปรากฎตัวในลักษณะที่เปียบปอนขนที่ไม่ฟูมันยิ่งทำให้ดูตลก
“เจ้านี่เวลาเปียกน้ำแล้วดูตลกดีนะ” ข้ายืนขำอยู่ตรงนั้นจนในที่สุดจงอินก็กลับมาสู่ร่างมนุษย์
“ตลกมากไหม??” จงอินยืนขยี้ผมตัวเองมองแล้วเขาก็แทบจะเหมือนเด็กชายธรรมดาที่ชอบทำตัวแข็งแกร่งแต่จริงๆแล้วเขาก็ไม่มีอะไร
“ไปกินอะไรมา??เลือดเต็มปากเลย” สายน้ำที่ซัดสาดทุกสิ่งกลับกลายเปลี่ยนเป็นหยดน้ำดั่งหยาดฝนพรมไปทั่วใบหน้าอีกคนเพื่อนชำระล้างคราบเลือดที่เปื้อนอยู่เต็มปาก
“เจ้าทำอะไร??” น้ำเสียงที่ไม่พอใจทำให้ข้ารู้สึกได้ว่านี่คือสิ่งที่ข้าไม่ควรทำ แต่ข้าก็แค่อยากจะช่วยล้างปากให้เจ้าเองนะ
“ไม่ต้องมายุ่งกับข้า” ข้าหยุดการกระทำทุกอย่างตอนนี้ไร้สิ้นทุกหยดน้ำ จงอินเดินหายไปทิ้งความสังสัยมากมายไว้กับข้า นี่ข้าทำอะไรผิดขนาดนั้นเลยหรอ หรือว่าเจ้ากลัวน้ำขนาดนั้น... แต่ช่างเถอะข้าจะไปสนใจเจ้าทำไมกัน
“ท่านไค...ท่านร้อนหรอ??หน้าท่านแดงแล้วนะ มาพักก่อนไหม” ชานยอลเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้าของเจ้านายของตนเอง
“ร้อนบ้าไร เปียกขนาดนี้ แล้วก็เรียกข้าว่าจงอินถ้าไม่อยากทำแผนแตก” ข้าไม่ได้ร้อนแล้วก็ไม่ได้รู้สึกอะไรด้วย เจ้าชานยอลหนิชอบทำข้าอารมณ์เสียอยู่เรื่อยอยากจะฆ่ามันจริงๆนัก
...ข้าแค่ต้องทำตามแผนให้สำเร็จข้าจะต้องไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้นท่องไว้นะคิมไค ว่าเจ้าเกิดมาเพื่อฆ่า จงแด ทายาทแห่งโอรากอนเท่านั้น...
TALK: หายไปพักนึงเลย รีดเดอร์ไปเล่นน้ำกันไหมมาบ้าง???
ไรท์ไม่ได้ไปเลยย มาอัพแล้วนะ
เม้นให้กำลังใจไรท์ด้วยนะจ๊ะ
ขอบคุณรีดเดอร์ที่ยังติดตามกันอยู่นร่า
ความคิดเห็น