ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FicEXO] VAMPWoLF หมาป่า...ที่รัก [KaiChen]

    ลำดับตอนที่ #2 : WAMPWoLF : 1

    • อัปเดตล่าสุด 31 มี.ค. 57


    WAMPWoLF 1

     

     

     


     

     


     

    เพียง แค่ชั่วพริบตาจดหมายในมือของพี่คริสก็ถูกเผาเป็นจุลเพียงแค่พี่คริสมองไปที่ กระดาษเพียงเท่านั้น เพราะอะไรกัน? หลังจากนั้นพี่คริสก็เปิดแผ่นไม้กระดานที่อยู่ที่พื้นเผยให้เห็นอุปกรณ์การ รบต่างๆมากมายทั้งธนู ลูกศร มีดสั้น ดาบ และอื่นๆอีกมากมาย ข้าเพิ่งรู้ว่าบ้านของเรามีของแบบนี้อยู่มากมาย

     

     

    นี่ ดาบของเจ้าทำจากเงินแท้ และธนู ขอพวกนี้จะช่วยป้องกันจากมนุษย์หมาป่าได้ พี่คริสหยิบสรรค์สิ่งของเหล่านั้นก่อนจะส่งมันทั้งหมดมาให้กับข้า

     

    แต่ ท่านพี่...นี่มันเรื่องอะไรกัน?ทำไมอยู่ๆท่านถึงเผากระดาษนั้นได้ ทำไมบ้านของเราถึงมีสิ่งของเหล่านี้อยู่มากมาย นั้นคือสิ่งที่ข้าอยากรู้ตอนนี้ทุกอย่างดูแปลกไปจากเดิมหลังจากเกิดเรื่อง ขึ้นอยู่ๆท่านแม่ก็หายตัวไปแล้วไหนจะใครที่มาบุกบ้านของเราอีกมันเกิดอะไร ขึ้นกันแน่

     

    แล้ว เจ้าคิดว่าหญิงชาวบ้านจะสอนการสู้รบให้เจ้าได้หรอ??เจ้าไม่ใช่มนุยษ์ธรรมดา อย่างคนอื่นเขา ข้าก็ไม่ใช่ ท่านแม่ก็ไม่ใช่...ใส่นี้ไว้ พี่คริสยื่นผ้าคลุมสีดำสนิทให้กับข้า ข้ารับมาใส่ไว้แต่โดยดีโดยที่คำถามมากมายยังคงค้างคาใจอยู่

     

    ข้าไม่ใช่มนุษย์แล้วข้าเป็นอะไร?ท่านพี่เป็นอะไร?และท่านแม่เป็นอะไร?”

     

    นั่น มันยังไม่ถึงเวลาที่เจ้าต้องรู้”  สรุปตอนนี้ข้าก็ยังไม่รู้สิ่งใดเลยสินะ แม้แต่ตัวเองเป็นใครข้ายังไม่รู้เลยช่างน่าขำสิ้นดี แต่มีสิ่งหนึ่งที่ข้าต้องรู้เดี๋ยวนี้คือสิ่งใดที่เข้ามาทำลายหมู่บ้าน พี่คริสบอกเพียงว่ามันมีพลังมากมาย

     

    ดาบเงินและธนูคนนี้เอาไว้ปกป้องจากมนุยษ์หมาป่าแล้วสิ่งใดเล่าที่จะใช้กำจัดตัวพวกนั้นข้าเอ่ยถามพี่คริส

     

    มือ ของเจ้า...เมื่อถึงเวลาเจ้าจะรู้ว่าต้องฆ่ามันอย่างไร? เราต้องรีบไปให้ไกลที่สุดก่อนที่แสงอาทิตย์จะหมด สิ้นเสียงพูดการเดินทางอันแสนยาวไกลก็เริ่มต้นขึ้น เป็นการเดินเท้าที่ไกลที่สุดเลยก็ว่าได้ 5วันแล้วสำหรับการเดินทาง ไม่ได้หลับแม้แต่น้อยและการกินแต่เพียงผลไม้ข้างทางมันก็เริ่มทำให้ข้าอ่อน แรงเหลือเกินร่างกายของข้าต้องกินการบางสิ่งแต่ข้าไม่สามารถระบุได้ว่ามัน เป็นสิ่งใด

     

    จง แด...ทำไมเจ้าหน้าซีดแบบนี้ พี่คริสให้ข้านั่งพักตรงใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ปกคลุมไปด้วยใบไม้ใหญ่แต่ถึงแม้จะ ได้พักแล้วร่างกายของข้าก็ยังไม่หายอ่อนเพียรสักทีพี่คริสถอดผ้าคลุมสีดำออก ถลกคอเสื้อของตนเองเผยให้เห็นไหล่กว้างและกระดูกไหปลาร้าที่สวยงาม

    พี่คริส...ท่านจะทำอะไร?”

     

    เจ้าต้องการเลือด!!! ตอนนี้ข้าหาเลือดให้เจ้าไม่ได้นอกจากเลือดของข้าเอง

     

    แต่ว่าข้า...

     

    เจ้า ไม่คิดหรอ?ว่าทำไมท่านแม่ถึงให้เจ้ากินแต่น้ำองุ่น เพราะมันเป็นน้ำที่พอผสมเลือดลงไปแล้วเจ้าจะดูไม่ออกไง ตอนนี้ข้าพอจะรู้แล้วว่าตนเองเป็นอะไร? ถึงจะอย่างงั้นก็เถอะถ้าข้าต้องการเลือดจริงๆแต่ข้าไม่เคยกินเลือดแบบนี้ฟัน ของข้าก็เหมือนมนุษย์ปกติแล้วข้าต้องทำอย่างไร?

     

    เจ้าเพียงแค่คิด

     

    เพียง แค่คิด??ท่านบอกข้าเพียงเท่านี้มันจะช่วยได้มากสักแค่ไหนเชียว ข้าหลับตาตั้งสมาธิเพียงแค่คิด คิดว่าจะต้องดื่มเลือดจากร่างกายของร่างข้างหน้าเพียงแค่คิดจากฟันปกติก็แปล เปลี่ยนเป็นเขี้ยว เพียงแค่เขี้ยวงอกมามันทำให้ข้ารู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไปกลิ่นของร่างตรง หน้ามันช่างหอมชวนเย้ายวนให้ลิ้มลองเลือดหวานเสียงจริงๆ ข้าก้มลงสูดกลิ่นหอมก่อนจะฝังเขี้ยวลึกบริเวณลำคอของพี่คริส

     

    อ๊ากก!!!

     

    เสียง ร้องที่แสดงความเจ็บปวดมันทำให้ข้านึกสงสารแต่ตอนนี้ไม่สามารถมีสิ่งใดมา หยุดจงแดคนนี้ได้ ช้าดื่มเลือดหวานจนพอใจก่อนจะผละออกจากลำคอแกร่งข้าเช็ดคราบเลือดที่ปากก่อน ที่เขี้ยวแหลมจะกลายกลับไปเป็นฟันปกติพี่คริสที่หน้าซีดมันทำให้ข้ารู้ตัว ว่าข้าดูดเลือดของท่านไปมากไม่น้อย

     

                    “พี่คริส...ข้าขอโทษ

     

                    555ดีนะเจ้าไม่ดูดจนหมดตัวข้า พี่คริสพูดติดหัวเราะตอนนี้ข้ารู้สึกสดชื่นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนและมีพละ กำลังมากกว่าปกติ เพียงแค่การดื่มเลือดสดๆเพียงครั้งเดียวมันทำให้ข้ารู้สึกดีแบบนี้เชียวหรือ

     

                    “ท่านดูดเลือดข้าก็ได้พี่คริส..

     

                    “ข้าไม่ใช่แบบเจ้า...ข้าไม่จำเป็นต้องกินเลือดแบบเจ้า

     

                    “แล้วท่านเป็นอะไร

     

                    “ข้าเป็นผู้พิทักษ์ของเจ้า ข้ากินอาหารธรรมดา

     

                    ถ้าข้าเป็นแวมไพร์แล้วเหตุใดตัวข้าจึงไม่จำเป็นต้องดื่มเลือดทุกวัน ทำไมผิวหนังของข้าจึงสามารถทนต่อแสงอาทิตย์ได้ เพราะที่ข้ารู้มาแวมไพร์ทั่วไปจะคงชีพด้วยเลือดและไม่สามารถโดนแสงอาทิตย์ แต่ทำไมข้าถึงทำได้หมด

     

                    “เพราะเจ้าไม่ใช่แวมไพร์ธรรมดา...เรื่องนี้เจ้าต้องถามท่านแม่เอง

     

    หลัง จากนั่งพักได้ไม่นานการเดินทางก็ได้ดำเนินต่อท้องฟ้ามืดสนิทไร้แม้แต่แสงดาว มีเพียงพระจันทร์ที่สาดส่องแสงเพียงเล็กน้อย บรรยากาศเงียบสงัดไร้เสียงใดๆทำให้หนทางข้างหน้ายิ่งดูหน้ากลัวเข้าไปใหญ่

     

                    มีบางอย่างกำลังมา นั่นคือสิ่งที่ข้าสัมผัสได้ไม่นานก็มีเงาสีดำมากมายวนไปมาอยู่บริเวณโดยรอบ ข้าไม่อาจรู้ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร? ชั่วพรอบตาก็มีเงาสีดำปรากฏอยู่ตรงหน้าจากเงากลายเป็นร่างสูงสายตาที่ดูคม คายนั้นมันทำให้ผมรู้ว่าเขาต้องไม่ใช่มนุษย์ธรรมดา

     

                    “คริส...ไม่เจอกันนานนะเสียงทุ้มเอ่ยขึ้น

     

                    สักร้อยปีได้แล้วมั้ง เจ้ายังดูไม่เปลี่ยนเลยนะ...เทา ร้อยปีนี่พี่คริสอายุเท่าไหร่แล้วเนี่ย??บทสนทาที่ดูไม่ธรรมดามันทำให้ข้า รู้สึกถึงอันตรายที่กำลังจะตามมาไม่นานนี้

     

                    “เจ้ามาที่นี่ทำไม?” พี่คริสถาม

     

                    “เจ้าก็รู้ว่าตอนนี้ท่านซิเรียสกำลัง จะกำจัดหมากตัวสุดท้ายแห่งโอรากอนแล้วจึงจะขึ้นยึดบัลลังก์ได้...ถ้าข้าได้ ตัวโอรสไปข้าอาจจะได้รางวัลตอบแทนอะไรบ้าง นี่ข้าเป็นเจ้าชายหรอ?พวกเจ้าข้าพระบิดาข้าเพื่อบัลลังก์แห่งโอรากอ นหรอ??ข้าจะไม่มีวันยอมให้ใครมาทำร้ายบ้านของข้าเด็ดขาด

     

                    “เจ้า...จะไม่มีวันได้บัลลังก์แห่งโอรากอน”  

     

                    เจ้าชายก็...ขนาดพระบิดาของท่านยังต้องสิ้นชีพให้แก่ท่านซีเรียสแล้วเด็ก อย่างท่านจะสู้อะไรได้เจ้าดูถูกข้ามากเกินไปแล้วนะ มือบางยกคันธนูมุ่งยิงไปยังหัวใจเพียงชั่วครู่ศรก็ถูกยิงออกไปปักตรงหัวใจ ของฝ่ายศัตรูแต่มันไม่ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเจ็บปวดแม้แต่น้อย

     

                    “หึ หึหึ...แค่นี้หรอ ท่านมีความสามารถแค่นี้หรอ? จับมันมาให้ได้ สิ้นเสียงการสั่งการของเทาแวมไพร์เลือดผสมต่างวิ่งตรงมายังทางเราทั้งสองคน

     

                    “ดึงคอมันออกนั่นคือสิ่งที่พี่คริสบอกให้ผมทำเพราะนั้นคือสิ่งเดียวที่จะสามารถฆ่าพวกมันได้

     

    ครึก!!!

     

    เสียง การดึงหัวออกจากคอสำหรับผมมันเป็นเรื่องง่ายมาก ตนแล้วตนเล่าก็ยังไม่หมดพวกแวมไพร์เลือดผสมยังคงมีออกมาเรื่อยๆ ร่างสูงของพี่คริสแกร่งดาบแล้วดาบเล่าเพียงแค่แวบมองข้าก็รู้ว่าแรงของพี่ คริสใกล้จะหมดเต็มที ข้าพยามยามจะเข้าไปอยู่ใกล้ๆพี่คริสให้ได้มากที่สุด มันถึงเวลาที่ข้าจะต้องปกป้องท่านบ้างร่างสูงหมดแรงเต็มทีถึงแม้ว่าข้าจะมี กำลังมากแต่ข้าไม่สามารถฆ่าทีละตัวได้จนหมด ในเมื่อแวมไพร์ปกติกลัวแสงดังนั้นข้าคิดว่าไฟก็สามารถที่จะฆ่าพวกมันได้

     

    ....เจ้าเพียงแค่คิด...

    นั่น คือสิ่งที่พี่คริสสอนข้า จงแดเพียงแค่เจ้าคิดทุกว่าก็จะเป็นดั่งใจ ข้าหลับตาตั้งสมาธิเพียงแค่ลืมตามือของข้าก็ไฟลุกแต่มันกลับไม่ส่งผลกระทบ ต่อผิวหนังข้าแม้แต่น้อยแสงไฟสีส้มที่กำลังลุกไม่นานไฟที่ข้าสร้างขึ้นก็เผา พวกมันจนมอดไหม้มีเพียงแวมไพร์ที่ชื่อ เทา ที่ตอนนี้ได้หายเข้าป่าไปแล้วเพียงแค่ข้ากำมือไฟในมือก็กลับดับลง

     

    เจ้าทำได้ดีกว่าที่ข้าคิดนะ...จงแดพี่คริสที่ตอนนี้นั่งลงทรุดอยู่กับพื้นกล่าวชมเชยข้าเสียใจข้าแก้มปริไปหมดแล้ว

    ก็ท่านสอนข้าเองหนิ...อีกอย่างถ้าท่านไม่ให้ข้าดื่มเลือด ข้าก็ทำแบบนี้ไม่ได้หรอก

     

    ใกล้เช้าแล้วข้าขอพักสักหน่อยนะพี่คริสพูดกับผมก่อนจะหลับตาลงและเพราะความเหนื่อยล้าที่สะสมทำให้ผมเผลอหลับตามไปติดๆ

     

    ...หมาป่าตัวใหญ่ขนดำสนิท นัยน์ตาแดงราวสีของทับทิมช่างดูน่ากลัวแต่กลับดูมีเสน่ห์อย่างเหลือเชื่อ...

     

    จง แดง จงแดเสียงพี่คริสปลุกข้าจากความฝันอันแสนประหลาดผมลืมตามองท้องฟ้า นี่หลับมานานเท่าไหร่กันเนี่ย แปลกจังทำไมผมถึงฝีนถึงหมาป่าได้รอยวันพันปีไม่เคยฝันถึง

     

    ถ้า เร่งเท้าหน่อยคืนนี้เราคงถึงประตูเมืองมิดเดอร์เอิร์ท ในที่นั้นเราทุกคนจะปลอดภัย พี่คริสเดือนนำทางข้าไปเรื่อยๆในใจข้าตอนนี้กำลังเห็นภาพหมาป่าตัวนั้นกำลัง จ้องมองมามันเหมือนจริงเกินกว่าที่จะเป็นความฝัน เพียงแค่ยืนมองเท่านั้น ไม่นานฟ้าก็มืดลงอีกครั้งเราทั้งสองเร่งฝีเท้าขึ้นจนถึงประตูเมืองมิด เดอร์เอิร์ทเมืองของพรายผมยาว ความรู้สึกที่เหมือนโดนจับตามองทำให้ต้องหันกลับไปมอง ดวงตาแดงเหมือนอย่างที่เคยเห็น

     

    พี่คริส

    อะไร??”

    ป่าว ครับพอหันกลับมาอีกทีกลับหายไปแล้ว ประตูเมืองเปิดออกตอนนี้เราทั้งสองก็มาถึงดินแดนที่ปลอยภัยเสียทีจะได้พัก ผ่อนให้หายเมื่อยล้าก่อนจะทำการเปิดศึกใหญ่...

     

    ณ ดินแดนคานาเบล

     

    ไค...เจ้า จะลีลาทำไม?ทำไมถึงไม่รีบจัดการในตอนที่มันทั้งสองกำลังอ่อนแอ เหตุใดเจ้าจึงทำเพียงแค่ยืนมอง หมาป่าที่มีขนขาวราวหิมะวิ่งเข้ามายังปราสาทของตนเองก่อนจะกลายร่างกลับมา เป็นมนุษย์และเดินตรงมายังน้องชายผิวสีเข้มซึ่งมองแล้วเขาทั้งสองไม่น่าจะ เป็นพี่น้องกันได้

     

    ผม แค่คิดว่ามันยังไม่ถึงเวลานะ...พี่แบคฮยอน หมาป่าผู้น้องกล่าวถึงเหตุผลของตนเองหลังจากทั้งสองคุยกันไม่นาน กษัตริย์แห่งคานาเบลก็เสด็จมายังห้องโถงที่โอรสทั้งสองกำลังนั่งเถียงกัน อยู่

     

    ท่านซีเรียสบุตรชายคนเล็กกล่าวทักทายผู้เป็นบิดา

    "ข้าเป็นพ่อเจ้าหยุดเรียกชือข้าแบบนั้นสักทีเถอะไค" บิดากล่าวกลับบุตรชาย

    "ท่านพ่อ...น้องไม่ยอมจัดการกับศัตรูของเราขณะที่ยังมีโอกาส" แบคฮยอนลููกชายที่ผิวดุจหิมะเปิดปากเอ่ยฟ้องบิดาของตนที่น้องชายผิวเข้มไม่ ยอมทำตามคำสั่งที่ได้รับ

    "ท่านพี่จะให้ข้าฆ่ามันแล้วก็โดนศรเงินของเอล์ฟยิงตายหรือไง" ข้าเถียงอย่างเอาเป็นเอาตายถึงข้าจะเป็นน้องแต่ข้าไม่ควรยอมให้กับท่านพี่ เสมอไป

    "ก็จริงอย่างที่น้องเจ้าว่า...ทำอะไรต้องรอจังหวะที่เหมาะสม" ท่านพ่อกล่าวแบคฮยอนค่อนข้างหงุดหงิดที่ท่านพ่อมาเข้าข้างข้าแต่แบคฮยอนเป็น พี่ที่ค่อนข้างใจร้อนแต่อีกเดี๋ยวก็คงหายเองแบคฮยอนจึงเดินออกจากโถงกลาง ปราสาทไป


     

    ....ถ้า เจ้าคิดว่ายังไม่ถึงเวลา...แล้วเวลาของเจ้าหล่ะเมื่อไหร่ ถ้าเจ้าทำไม่ได้ข้าจะทำเอง แล้วจงอย่าให้สิ่งใดมาบังตาเจ้านะไคเพราะสงครามครั้งนี้เราจะแพ้ไม่ได้ โอรากอน ต้องเป็นของเรา...

    นั่นคือสิ่งที่ท่านพ่อพูดก่อนจะเดินจากไป










     

    TALK : เป็นไงกันบ้างคะกับตอนที่1ของ wampwolf เปิดตัวละครไปบ้างแล้ว
    แต่ยังไม่หมดนะคะจะมีใครอีกบ้างโปรดติดตามกันด้วยนะคะ
    เม้นให้กำลังใจไรท์ด้วยนะคะ555555555
    ฝากติดตามตอนต่อๆไปกันด้วยนะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×