ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    short fic:: GOT7 ::JARK

    ลำดับตอนที่ #3 : First : Jark (ตอนที่2) 40%

    • อัปเดตล่าสุด 13 ก.พ. 59


     Jackson Part.2


                    รอยยิ้มแรก

                ถ้านึกถึงสถานที่ที่ทำให้คนมีความสุขและสนุก คุณนึกถึงที่ไหนกันครับ?

    สำหรับผม ที่แรกที่คิดได้คือ สวนสนุก.... ที่ๆมีทั้งรอยยิ้มและเสียงหัวเราะเต็มไปหมด มันน่าจะเป็นที่ที่สร้างความทรงจำดีๆได้ ผมจึงเลือกที่นั่น ที่จะพาอี๋เอินไปวันพรุ่งนี้ แต่คือ ผมจะลากมันไปยังไง? นี่ผมชวนมันไปครั้งที่ 3 แล้วนะ เฮ้ออออ

    “ต้วนอี๋เอิน.......” ลองอีกซักตั้งฟะ

    “กู!!!ไม่!!ไป!!

    “.....................” ยังไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไรต่อเลยครับ มันตัดบทผมซะแล้ว ผมนั่งเบะทำหน้าหมาหงอยใส่มัน มันแค่เหลือบตามามองผมนิ๊ดเดียว แล้วก็ปิดการสนทนาด้วยการใส่หูฟังนอนหันหลังให้ผมซะงั้น

    “เออ....ไม่ไปก็ไม่ไป ถ้ามึงอยากจะจมปลักกับความทุกข์ของตัวเองแบบนี้ไปตลอดก็เรื่องของมึง ถ้ามึงไม่อยากเปิดใจให้ใครเลยแม้กระทั่งกูก็เรื่องของมึง ถ้ามึงไม่อยากลองใช้ชีวิตแบบคนปกติคนอื่นที่เค้าทำกันมันก็เรื่องของมึง กูแค่อยากช่วยมึง กูอยากทำอะไรให้มึง แต่ถ้ามึงไม่รับ ไม่เอา ไม่ต้องการ กูก็ไม่รู้จะทำอะไรไปทำไมเหมือนกัน .........” ผมบ่นตัดพ้อมันยาวเหยียด ใส่ฟิลเตอร์ความเวอร์วังให้ตัวเองดูน่าสงสาร เผื่อมันจะใจอ่อน ผมรู้นะ ถึงมันจะใส่หูฟังนอนหลับตา แต่มันได้ยินที่ผมพูดทุกประโยค หลังจากนี้ถ้ามันจะไม่ไปอีกผมก็ไม่ตื๊อมันแล้วครับ บอกตรงๆว่าผมก็เหนื่อยเหมือนกัน ที่มันเลือกที่จะปฏิเสธทุกอย่างแบบนี้

                    ผมนั่งมองมันซักพัก ทุกอย่างยังนิ่งเหมือนเดิม จนผมถอดใจ ยอมเดินกลับไปนอนเตียงตัวเอง หันหน้าเข้าหากำแพง ข่มตานอนบ้าง ยอมรับว่ารู้สึกน้อยใจ ผมไม่เคยต้องใช้ความพยายามกับใครขนาดนี้มาก่อน จนไม่รู้สึกตัวว่าคนเตียงตรงข้ามลืมตาหันมามองหลังจากที่รู้ว่าผมหัวถึงหมอนแล้ว เรานอนหันหลังให้กันแบบนี้จนกระทั่งเป็นผมเองที่เผลอหลับไป

    “กากา”

    zzzzzzz

    “กากา...ตื่น”

    “งือออ หม่าม๊า ขออีก 5 นาที”

    “ไหนว่าจะพากูไปสวนสนุกไง เดี๋ยวสายคนเยอะ กูไม่ชอบ”

    “.........................” ผมลืมตาทันที นี่ไม่ใช่เสียงแม่ นี่มันเสียงอี๋เอิน หันหน้าไปอย่างรวดเร็วก็เห็นคนตัวบางยืนอยู่ข้างๆเตียงมองผมหน้านิ่งๆ

    “ให้เวลา 10 นาที ถ้าไม่เสร็จกูไม่ไป” พูดจบก็เดินไปนั่งเตียงตัวเอง กระดิกเท้ามองผมที่ยังอึ้งๆงงๆ

    “ตอนนี้ 8 โมง 20 ถ้า 8 โมงครึ่งไม่เสร็จ...” ไม่ต้องรอให้มันพูดจบครับ ผมกระเด้งตัวเองออกจากที่นอนอัตโนมัติ วิ่งหางจุกตูดไปเข้าห้องน้ำ ไม่วายหันไปมองอีกคนค้อนๆ ชี้หน้านิ่งๆของมัน –ฝากไว้ก่อนนะอี๋เอิน เล่นงี้เลยนะ ไอ้ตัวแสบ- ถามว่าผมโกรธมันจริงๆไหม ไม่เลยครับ ผมออกจะดีใจด้วยซ้ำที่มันเริ่มแกล้งคนอื่น ถึงคนโดนแกล้งจะเป็นผมเองก็เถอะ สำคัญกว่านั้นคือ มันยอมไปเที่ยวตามที่ผมชวน แล้วทำไมผมต้องโกรธมันล่ะ

    “ช้าไป 10 วิ”

    “อี๋เอิน!!! 10 วิเนี่ยนะ” โวยลั่นเลยครับ รีบสุดตีนขนาดนี้แล้ว ถ้า 10 วิแค่นี้มันยังเรียกเลทนี่ก็ไม่รู้จะยังไงต่อแล้ว

    “ไปยัง?” มันมองหน้าผม ทำเลิกคิ้วก่อนยืนเต็มความสูงแล้วเดินนำผมไปเลย

    “อะ เออ ไปๆ ไปคร๊าบบบบ”

    เรานั่งรถเมล์กันไปฮะ กว่าจะถึงสวนสนุกก็ 10 โมงกว่าพอดี จริงอย่างที่อี๋เอินบอก คนเยอะมาก เพราะวันนี้วันเสาร์ด้วย เด็กเล็ก ครอบครัว คู่รักเต็มไปหมด ผมรู้สึกตื่นเต้นกับทุกอย่าง ไม่ได้มานานแล้วครับสวนสนุกเนี่ย ซึ่งต่างจากฟิลลิ่งคนข้างๆโดยสิ้นเชิง มึงช่วยมีอารมณ์ร่วมกับกูหน่อยได้ไหมอี๋เอิน

    “มึงอยากเล่นอะไรเป็นพิเศษไหม” ผมหันไปถามมันหลังจากที่เข้าคิวซื้อตั่วมาได้เรียบร้อย

    “ไม่อะ” ตอบว่าไม่แต่หันไปมองรถไฟเหาะไม่วางตาเลยนะมึง ผมมองตามสายตามันไปก็ต้องแอบกลืนน้ำลาย ขอร้องเหอะ เล่นอะไรกูเล่นกับมึงหมด ขออย่างเดียว รถไฟเหาะนี่ขอบาย

    “ไปเล่นม้าหมุนกัน” ไม่รอมันตอบครับ ลากแม่งไปเลยดีกว่า เพราะสายตามันยังไม่ละไปจากรถไฟเหาะเลย

    “ม้าหมุนเนี่ยนะ”

    ผมทั้งชวนมันเล่นเครื่องเล่นนู่นนี่นั่นเยอะแยะ แต่มันก็ยังเหมือนเดิม ไม่ได้รู้สึกมีส่วนร่วมอะไรกับผมเลย เหมือนผมบังคับมันมา

    “มึงไม่สนุกหรออี๋เอิน”

    “ไม่หนิ ก็สนุกดี”

    “เนี่ยนะสนุก เอากระจกม๊ะ หน้าตาคนสนุกเนี่ย”

    “ก็กูเป็นของกูแบบนี้ มึงจะอะไรนักหนาวะ กูก็ยอมมากับมึงแล้วนี่ไง”

    “......โอเค ขอโทษที่บังคับมา งั้นก็กลับกันเหอะ” เฟลสัดเลยครับ ทำไมวะ ผมทำเพื่อมันแท้ๆ ไม่เห็นมีอะไรดีขึ้นเลย แถมยังพาลจะทะเลาะกันอีก

    “เดี๋ยวดิ” มันรั้งชายเสื้อผมไว้ จนผมต้องหันไปมอง

    “ยังไม่ได้เล่นอันนั้นเลย” นั่นไง งานเข้าแล้วไม๊ล่ะกากาเอ๊ยยยย อี๋เอินชี้ไปทางรถไฟเหาะที่กำลังมีคนกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งเพราะความเร็วและหวาดเสียวของมัน

    “มะ มึงไม่อยากเล่นหรอก กลับเห๊อะ” ผมกลืนน้ำลายดังเอื๊อก จนมันมองผมด้วยความสงสัย

    “มึงกลัว??” มันเอียงคอถาม สีหน้าจริงจังเกินกว่าที่ผมจะคิดว่ามันกำลังล้อเลียนผมอยู่

    “........................” ผมก็ป๊อดเกินกว่าที่จะตอบว่าไม่กลัวครับ เพราะผมกลัวจริงๆ ฮืออออ

    “ห่า ไม่เห็นมีอะไรน่ากลัว ไป ไปเล่นกัน” มันทั้งลากทั้งฉุดผม

    “ม่ายเอ๊า อี๋เอิน กูขอร้อง กูไม่เล่นอันนี้”

    “ไหนว่าอยากทำเพื่อกูไง” โอ้โห ไอ้นี่ ทวงหรอวะ แค่นี้ทวงหรอวะ

    “แล้วมันเกี่ยวเฮียอะไรวะ กูเล่นอันนี้แล้วมึงจะโอเคขึ้นรึไง”

    “เออ...”

    “..................” เอาจุดไปแดก มึงเอาจริงดิ

    “เล่นเหอะ ไหนๆมาแล้ว.....นะ” มันเขย่ามือผมยึกๆ ผมขอเข้าข้างตัวเองว่ามันกำลังอ้อนผมอยู่ได้ไหม อ้อนด้วยสีหน้านิ่งๆของมันเนี่ย

    “กะ ก็ได้” แพ้ครับ แพ้ทางมัน ไม่เคยเห็นมันโหมดนี้ มันไม่เคยมาขออะไรผม ที่ผ่านมาผมทำทุกอย่างให้มันเองตลอด พอครั้งนี้มันขอ คือ แค่ไม่ใช่ขอให้ผมไปตาย ผมทำได้หมดเลยอะ...ว่าแต่ ยังไม่เคยมีใครตายเพราะรถไฟเหาะใช่ป่ะครับ??? TT_____TT

    ระหว่างรอขึ้นเครื่องมันดูตื่นเต้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ ยืนไม่อยู่สุขหันซ้ายหันขวา มองแต่ไอ้เครื่องที่มันหมุนๆอยู่บนราง ตางี้เป็นประกายเหมือนเด็กๆเลย ผมที่ยืนซังกะตายอยู่ข้างมันได้เห็นแบบนั้นก็เริ่มมีกำลังใจขึ้นมาเลยครับ

    จนถึงรอบที่เราได้เล่น โห...ฉี่จะแตก ทำไมต้องได้นั่งหัวขบวนด้วยยย

    “กากา...มึงไหวป่ะเนี่ย”

    “ทะ ทำไม...”

    “หน้ามึงซีดมากกก”

    “มาขนาดนี้แล้ว ก็ไหวแหล่ะ....มั้ง”

    “อะ...” มันยื่นมือข้างนึงมา ผมมองหน้ามันแบบงงๆ

    “อะไร” มันไม่ตอบอะไรผม แต่ใช้มือข้างนั้นจับมือประสานมือผมข้างที่อยู่ใกล้ตัวมัน บีบมือผม2-3 ครั้ง.....ผมคิดว่าผมต้องตื่นเต้นกับไอ้รถไฟเหาะบ้าบอนี่มากเกินไปแน่ๆเลยครับ เพราะตอนนี้เหมือนหัวใจผมมันเต้นแรงจนจะหลุดออกมาข้างนอกอยู่แล้ว

    “อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก” เสียงผมไงจะใครล่ะครับ แหกปากตั้งแต่เครื่องเริ่มออก ผมบีบมือคนข้างๆแน่นเลยครับ ไม่กลัวมันเจ็บด้วย แล้วมันก็ดูจะไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไร เพราะเสียงมันบ่งบอกว่ากำลังสนุกมาก เหมือนผมจะได้ยินเสียงหัวเราะของมันด้วยครับ ....ครับ...คือผมได้ยินแต่เสียง เพราะตอนนี้ผมหลับตาปี๋ ไม่กล้าลืมตาลืมยายลืมบรรพบุรุษใดๆขึ้นมาทั้งสิ้น

    “กากา....”

    “.....................”

    “กากา ลืมตาได้แล้ว จบแล้ว”

    “..ห๊ะ จบแล้วหรอ กูยังไม่ตายใช่ไหม??” ผมค่อยๆผ่อนลมหายใจแล้วลืมตาทีละข้างช้าๆ

    พระเจ้า..........นี่ผมตายไปแล้วใช่ไหม??? สิ่งที่ผมเห็นตรงหน้าคือนางฟ้าชัดๆ รอยยิ้มสดใสจากริมฝีปากสีสวย ประดับด้วยฟันเขี้ยวที่ทำให้วงหน้าดูมีเสน่ห์ขึ้น ดวงตาที่หยีปิดและพวงแก้มที่ขึ้นสีชมพูอ่อนๆแบบเป็นธรรมชาติเพราะการยิ้ม..................... ต้วนอี๋เอินกำลังยิ้มให้ผม มีเสียงหัวเราะคิกคักเหมือนกลั้นขำอยู่แว่วๆ หูดับ ตาพร่าไปหมดแล้วครับ เหมือนเห็นแสงระยิบระยับเป็นฟิลเตอร์อยู่ข้างหลังมันยังไงยังงั้น

    “กากา มึงโอเคไม๊เนี่ยยย” มันเขย่าร่างผม ก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้

    “หะ หวะ ไหว .... เล่นอีก 10 รอบก็ไหว” อู้หู ตบปากตัวเอง 10 ที ปฏิบัติ!!!! สติไปหมดแล้วกู พูดอะไรแบบนั้นวะ เดี๋ยวแม่งเอาจริง ผมตายแน่ครับ

    5555 พอเหอะ เดี๋ยวมึงตายก่อน ป่ะ กลับห้องกัน” มันหัวเราะเสียงใสก่อนดึงตัวผมลุกออกจากเครื่องเล่น เดินจูงมือผมไปตลอดทาง

    การมาสวนสนุกครั้งนี้เป็นอะไรที่เกินคาดกับผมมาก ผมไม่ได้คิดว่าจะได้เห็นรอยยิ้มแบบนั้นของมัน ได้ยินเสียงหัวเราะแบบนั้นของมัน....และไม่ได้คาดหวังว่ามันจะเป็นห่วงผมหรือทำอะไรเพื่อผมแบบนั้น

    คุ้มค่ามากครับกับการได้เห็นรอยยิ้มของมัน ผมจะไม่ทำให้มันหายไปอีกเลย ผมจะทำให้มันยิ้มและหัวเราะให้ได้แบบวันนี้...ถึงผมจะต้องขึ้นรถไฟเหาะอีกกี่รอบ ผมก็จะทำ 



    .................................................................................

    talk


    ก่อนอื่นขอโทษก่อนเลยค่ะที่มาต่อช้ามากกกก

    ตอนแรกว่าจะมาอัพทุกวันวันละ 20-30% ก็ยังดี

    ที่ไหนได้ หลังจากอัพตอนแรกไปแล้วนั้น...

    งานก็เข้าเอาเข้าเอาจนไม่มีเวลาจับฟิคเลย

    ด้วยความที่เป็นมือสมัครเล่น การแต่งฟิคของเราก็เลยต้องใช้เวลาค่อนข้างนานในแต่ละตอนค่ะ

    ขอโทษจริงๆน้า (มีคนรออ่านรึเปล่าไม่รู้ ๕๕๕๕๕๕๕)

    ฝากด้วยนะคะ #firstjark


    - คุณ KrisYeol xx ขอบคุณมากๆค่า ^^

    - คุณ Alexia2702 ใจเย็นๆน้าาา ๕๕๕๕๕๕


    ขอบคุณค่า ><

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×