คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : glittering stars1
บทที่1
ลู่หาน นั่นคือชื่อของผม พ่อแม่พี่น้องต่างเรียกผมด้วยชื่อนี้ แม้จะมีบางคนที่จะเรียกผมผิดแปลกไปบ้างผมก็ให้อภัย
ครอบครัวของผมเป็นครอบครัวใหญ่ต่างจากครอบครัวคนจีนอื่นๆ บ้านของผมมีสมาชิก7 คน มีคุณปู่ คุณย่า คุณพ่อ คุณแม่ พี่สาว ผมเอง และน้องสาว ครอบครัวของเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น แม้จะไม่ได้ร่ำรวยเพราะบ้านเราเปิดร้านขายอาหารตามสั่งแต่ถึงอย่างนั้นผมก็เติบโตมาด้วยความสุข....แต่ความสุขก็อยู่กับผมได้ไม่นานนัก เมื่อผมอายุ11 ขวบ ตอนนั้นบ้านเราเจอปัญหาเมื่อคุณปู่เสีย ทุกอย่างก็ดูแย่ไปหมด พี่สาวของผมเธอแอบหนีไปกับผู้ชายจากเมืองชิงเต่าที่เธอแอบคบมานานจนตั้งท้องคุณพ่อโกรธมากเลยไล่เธอออกจากบ้านไป เธอจึงไปอาศัยอยู่กับสามีของเธอซึ่งผมไม่เคยเห็นหน้า จากนั้นคุณพ่อกับคุณแม่ก็ทะเลาะกัน น้องสาวผมก็ประสบอุบัติเหตุ ทำให้ทุกอย่างยิ่งแย่ ร้านอาหารของครอบครัวก็ขาดทุนจนต้องปิดลง
คุณพ่อของผมจึงตัดสินใจไปทำงานเป็นลูกจ้างของโรงงานผลิตอาหารกระป๋องส่วนคุณแม่ต้องอยู่บ้านดูแลคุณย่า ชีวิตผมย่ำแย่ลงมากในตอนนั้น คุณแม่ไม่ตามใจผมเลยสักอย่าง ในตอนนั้นผมจึงต้องล้มเลิกความตั้งใจที่จะเป็นนักฟุตบอล ชีวิตหลังจากนั้นดำเนินมาอย่างน่าเบื่อขึ้นเรื่อยๆ ผมใช้ชีวิตไปวันๆอย่างไร้ความหมายจนกระทั่งผมอายุ20 โชคชะตาก็ได้เข้าข้างผม ในคืนวันคริสมาสต์ ผมได้ขอพรกับดวงดาวบนท้องฟ้าที่แทบจะมองไม่เห็นในฤดูหนาวที่หิมะตกหนัก ขอพรว่าให้ชีวิตของผมได้ดีขึ้นจากเดิม แล้วคำอธิษฐานนั้นก็เป็นจริง เมื่อ
“พ่อหนุ่มม...หนุ่มน้อยคนนั้นน่ะ” เสียงแหลมแสบแก้วหูดังขึ้นใกล้ๆเด็กหนุ่มหน้าใสที่กำลังก้มหน้าก้มตาซักผ้าจึงค่อยๆหันไปมองตามต้นเสียง ภาพที่เห็นเบื้องหน้าคือสุภาพสตีใส่ชุดสีฟ้าระยิบระยับ รูปร่างอ้วนท้วมใบหน้าดูสูงวัยอย่างเห็นได้ชัด
“ว่าไงครับ..ป้า” ลู่หานขานรับและพูดคำสุดท้ายเสียงเบา เนื้องจากไม่แน่ใจว่าควรเรียกเธอว่าอะไร
“ฉันมาจากบริษัทกลิตเตอร์สตาร์ พอดีมีแมวมองมาบอกฉันว่าเธอมีคุณสมบัติเหมือนที่เราต้องการ” คุณป้าร่างท้วมเอ่ยอย่างสุภาพก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ลู่หานที่ใส่ชุดนอนธรรมดาแบบเก่าๆเธอมองลู่หานหัวจรดเท้า
“ห้ะ....ผมเนี่ยนะ?” เด็กหนุ่มเบิกตากว้าง อะไรกัน! ใครกันที่มาแอบมองเขา แล้วเลือกมาหาคนในหมู่บ้านเล็กๆแบบนี้เนี่ยนะ แมวมองคนนั้นสติดีไหม ก็ได้แต่คิดไปในใจเท่านั้นล่ะ ลู่หานไปกล้าพูดออกไปหรอก
“ใช่ เธอนั่นล่ะ ทางเรากำลังจะหานายแบบมาถ่ายแบบโฆษณาสินค้าตัวใหม่และเธอมีทุกอย่างที่เราต้องการ ดวงตาใสเป็นประกาย ผิวขาวนวลและใบหน้าหวานสวย” เธอไม่ว่าเปล่าแต่ยังเอื้อมมือไปจับแก้มลู่หานเบาๆจนลู่หานต้องเอี้ยวตัวหลบ
“แล้วไงต่อครับ”
“มาเป็นนายแบบให้เรา เราจะให้ค่าเหนื่อยเธอสมน้ำสมเนื้อ”
“.....” ลู่หานนิ่งไป ตอนแรกกำลังจะปฎิเสธแล้วเชียวแต่เมื่อพูดถึงค่าจ้าง....ใช่แล้ว เขายังต้องการเงิน
“ผมจะแน่ใจได้ยังไงว่าผมจะไม่ถูกหลอกให้ไปเสียตัวหรือทำเรื่องที่ไม่สมควรน่ะ” ลู่หานพูดตามที่คิด
“เรารับประกันก็แล้วกัน ฉันไม่มีอะไรมายืนยันเธอหรอกนะพ่อหนุ่ม ถ้าเธอสนใจจะไปฉันจะให้นามบัตรและที่อยู่เอาไว้ และเธอต้องไปคนเดียว” สาวสวยร่างท้วมวางนามบัตรลงบนโต๊ะเก่าๆหน้าบ้านแล้วทำท่าจะหมุนตัวเดินออกไป
“เดี๋ยวก่อนครับ!...”ลู่หานรีบคว้ามือเธอไว้ แล้วเดินมายืนขวางหน้าเธอ
“ว่าไงล่ะ”
“ผมตกลงครับ..ผมจะไปที่บริษัทในวันพรุ่งนี้”
..............................................................................................................................................................................................................................
ปัจจุบัน ปักกิ่ง 2014
" ท่าน CEO ค่ะ ไม่ทราบว่าเรื่องที่ท่านกำลังจะแต่งงานเป็นเรื่องจริงไหมค่ะ"
"ตอนนี้ข่าวที่ว่าหุ้นบริษัทกำลังตกหนักเนื่องจากบริษัทคู่แข่งมี CEO ใหม่ไฟแรงมาบริหารจริงไหมครับ"
"ท่านค่ะ ความสัมพันธ์์ของท่านกับคุณหนูคิมมินซอกเป็นไปในรูปแบบไหนค่ะ"
เหล่านักข่าวต่างพยายามวิ่งตาม CEO หนุ่ม ของบริษัทกลิตเเตอร์สตาร์แล้วต่างรัวคำถามนับไม่ถ้วนที่ชวนปวดหัวใส่ชายหนุ่มร่างบางที่มีใบหน้าหวานสวยซึ่งกำลังกุมขมับเมื่อถูกเลห่าสื่อมวลชนทั้งหลายยืนขวางประตูทางเข้าห้องทำงาน
มือเรียวเล็กล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบโทรศัพท์สุดหรูรุ่นพิเศษขึ้นมากดยิกๆแล้วแนบโทรศัพท์เข้ากับหูของตน
"เลขาจาง...ได้โปรดออกมารับผมที่หน้าออกทำงานด้วย"
"นี่...เลขาจาง..ได้ยินที่ผมพูดไหม...ผม..กำ ลัง จะ ถูก กลืน!"
"ถ้ามาช้า...ผมจะหักเงินเดือนทันที! " ตุ๊ด... กดวางสายเสร็จก็ยืนปั้นหน้าหล่อยิ้มแฉ่งให้เหล่านักข่าว
"ต้องขอโทษนะครับ..ตอนนี้ผมยังไม่พร้อมตอบคำถาม"CEO หนุ่มพูดอย่างใจเย็นพลางพยายามสาวเท้าเดินหนีนักข่าวลงไปยังห้องทำงานรวมของเหล่าพนักงาน
"เลขาจาง!....เลขาจางอยู่ไหน"เสียงทุ้มห้าวนิดหวานเอ่ยตวาดอย่างมีอำนาจถามหาคนที่เพิ่งโทรหาไปเมื่อครู่สายตาคู่สวยกวาดไปรอบห้องแต่ก็ไร้วี่แววของเลขาคนสนิท
"ผมอยู่นี่...เลขาจางอยู่นี่ครับบอส"ต้นเสียงดังขึ้นท่ามกลางเหล่านักข่าวที่ยืนอยู่หน้าประตูห้อง เมื่อลู่หานหันไปก็พบเข้ากับร่างๆหนึ่งในชุดสูทสีน้ำตาลชุดประจำซึ่งกำลังพยายามเบียดตัวออกมาจากเลห่านักข่าวอย่างเก้ๆกังๆ เมื่อหลุดพ้นออกมาได้แล้วก็เดินเข้ามาหาบอสที่ตัวเองเคารพรักก้มโค้งเคารพหนึ่งทีก่อนจะยกยิ้มหวานเผยให้เห็นลักยิ้มคู่ใจแล้วเอ่ยทักทาย
"สวัสดีครับอส ทำไมวันนี้บอสมาทำงานเช้า"
"ยังจะถาม...เลขาอะไรไม่ได้เรื่องมาช้ากว่าเจ้านาย..ผมจะหักเงินเดือน!"บอสหนุ่มขยับเน็คไทให้เข้าที่แล้วเก็กหน้าให้ดูเข้มก่อนจะหยิบปากกามาจดอะไรบางอย่างในสมุดบัญชีเงินเดือนของเลขาส่วนตัวที่ตัวเองยึดไปเก้บไว้เพื่อที่สะดวกเวลาจะหักเงินเดือน
"โธ่..บอสอ่า..วันนี้รถติดนี่ครับ" เลขาจางเอ่ยด้วยรอยยิ้มพลางเดินไปนั่งลงยังโต๊ะทำงานที่ประจำ
บอสหนุ่มตวัดสายตามองเลขาของตัวเองที่กำลังทำหน้ายิ้มระรื่นมีความสุขดีแม้จะเพิ่งถุกหักเงินเดือน
"ทำไมวันนี้นายอารมณ์ดีนัก..ห๊ะ!" ปัง!
"เฮ้ยย...ตกใจหมดครับบอส"คำถามที่มาพร้อมกับการตบโต๊ะทำงานของตนจากบอสลู่ ทำเอาเขาแทบสำลักกาแฟที่กำลังดื่ม
"นายก็บอกผมมาสิเลขาจาง หุ้นบริษัทตก ถุกหักเงินเดือนแล้วทำไมนายยังมีความสุข" บอสหนุ่มถามพลางเลิกคิ้วขึ้นอย่างสงสัย
"ก็แหมบอส...วันนี้น่ะเรื่องที่ผมเขียนในบล็อกถูกตีพิมพ์น่ะสิ"จางอี้ชิงเอ่ยด้วยรอยยิ้มบางๆขณะยกกาแฟขึ้นจิบ
"ขนาดนั้นเชียว"บอสหนุ่มส่ายหัวอย่างเอือมระอาก่อนจะหมุนตัวเดินไปนั่งลงยังโต๊ะทำงานของตนแล้วก้มหน้าลงเซ็นเอกสาร
yo baby yo baby yeye .......เสียงโทรศัพท์มือถือดังลั่นขึ้นบนโต๊ะทำงานจนเจ้าของต้องรีบวางมือจากปากกาแล้วหยิบมันขึ้นมารับสาย
"สวัสดีครับ..ลู่หานพูดครับ"
("นี่พี่เองนะเสี่ยวลู่!...ตอนนี้พี่มีปัญหาใหญ่นายจะช่วยพี่หน่อยได้ไหม") เสียงปลายสายเจือแววร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
"อืม เรื่องอะไรล่ะครับพี่ซ่ง" บอสหนุ่มเริ่มมีลางสังหรณ์ไม่ดีอยู่ในใจคิ้วเรียวขมวดกันยุ่ง
("ช่วงนี้พี่ทะเลาะกับโจวมี่ พี่ไม่อยากให้ลูกมีปัญหา พี่อยากให้นายรับจื่อเทาไปดูแลสักพักได้ไหม..ได้ไหมลู่")
ลู่หานเงียบไปสักพัก....เวรสิ เขาน่ะไม่ชอบเลี้ยงเด็กและไม่ถูกกับเด็กด้วย กับไอหลานจื่อเทาเขาก็แทบไม่เคยเห็นหน้า เคยเห็นครั้งเดียวก็ตอนมันเพิ่งคลอดได้ไม่กี่วัน...แล้วเขาจะเลี้ยงมันได้ยังไง!
"แล้วพี่จะให้จื่อเทามาอยู่กับผมนานไหมครับ ผมไม่ชอบเด็กนะ พี่ก็รู้ ผมอาจเขมือบลูกพี่ได้" ประโยคนี้ของบอสหนุ่มทำเอาเสียงปลายสายแอบขำเบาๆอย่างอดไม่อยู่
("ฮึ ฮ่าฮ่าๆ...บ้าน่าเสี่ยวลู่เอาอะไรคิด..จื่อเทามันโตล่ะนะตัวเท่ายักษ์แล้วนายคิดว่าจื่อเทาอายุเท่าไหร่กัน")
"5ขวบ"
("ผิดแล้ว....16 แล้วต่างหากตอนพี่มีจื่อเทานายยังเล็กๆอยู่เลย") ซ่งเฉียนผู้เป็นพี่เอ่ยปนเสียงหัวเราะ
"เออจริง...ตอนนี้ผมก็แก่แล้วนี่นะ 23 แล้ว..เอาเถอะ พี่จะให้มันมาหาผมเองหรือผมไปรับมัน จะให้ทำไรบอกมา" ไหนๆแล้วเขาก็ไม่อยากขัดพี่สาวซึ่งกำลังเดือดร้อน ช่วยรับไว้เป็นภาระก็ได้ว่ะ
("เอาเป็นว่าที่ให้จื่อเทาไปหานายเอง..นายยังอยู่บ้านเดิมใช่ไหม..ถ้าไม่รบกวนฝากจัดการเรื่องหาโรงเรียนให้จื่อเรียนด้วยอ่อ..ช่วงนี้พี่ไม่มีเงินถ้าหลานอย่างได้อะไรตามใจหน่อยนะ") ราวกับนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ลู่หานเครียดหนักกว่าเดิม..ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกสินะ!
"ครับๆ..แล้วพี่มีอะไรอีกไหม" ถามไปตามมารยาทแต่ในใจภาวนาไว้แล้วว่าอย่าได้มี
("มีเยอะแต่ไม่รบกวนนายแล้ว แค่นี้นะรักษาสุขภาพด้วย" ) ตู้ดดดดด. พูดจบปลายสายก็กดวางสาย
"เห้ออออ"..... ทิ้งให้ CEO หนุ่มรูปหล่อถอนหายใจและคิดหนักกับเรื่องมากมายที่เขาต้องแบกไว้ลำพัง
"ไม่เครียดนะครับบอส....บอสยังมีผมนะ"เสียงนุ่มของเลาจางเอ่ยขึ้นใกล้ๆพร้อมกับฝ่ามือนุ่มที่ถือวิสาสะวางลงไปกุมมือน้อยๆของบอสตัวเอง
"ฉันรู้..เลย์" ลู่หานยิ้มน้อยๆให้จางอี้ชิง
"ผมจะอยู่เคียงข้างบอส....ตลอดไป...ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะอะไรก็ตาม" และนั่นราวกับเป็นคำสัญญา คำสัญญาที่ลู่หานไม่เคยรู้เลยว่ามันมีความนัยแฝงไว้......ใครบางคนกำลังคิดไม่ซื่อกับเจ้านายตัวเองแล้ว
............................................................................................................50%...................................................................................................
ความคิดเห็น