ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [FIC]...Sorry... - WonHanKyu (NC-17)

    ลำดับตอนที่ #10 : - 9 -

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.77K
      1
      8 พ.ย. 52

    [FIC] Sorry.
    Couple : Siwon Hanhyung Kyuhyun
    Rate : NC-17
    Genre : Force&Crafty
    Writer : NiTRoGeN14
    Writer's Note : โกหกอะไรได้ก็โกหกไปแต่อย่าโกหกหัวใจตัวเอง

    - 9 -

    ...

    ด้วยเสียงอึกทึกตึงตังทำให้คยูฮยอนไม่สามารถจะทนข่มตานอนต่อไปได้ ร่างบางฝืนลากสังขารยับๆของตนเองออกมาจากห้องนอนที่เอาตัวเข้าไปสิงได้สองวันเต็มสู่โลกภายนอก เป็นไปตามคาดว่าตัวต้นเสียงคืออีทงแฮที่วิ่งไล่กับเฮนรี่อยู่ทั่วห้องนั่งเล่นเพราะไปแย่งขนมเฮนรี่แก้มป่องกิน โจคยูฮยอนนั่งทรุดตัวลงกับโซฟาตัวใหญ่หน้าโทรทัศน์ที่มีโจวหมี่นั่งอยู่แล้วอย่างไม่รู้จะทำอะไร

    "ยังโอเคดีไหม?" เหมือนคนพูดจะดูเป็นห่วงแต่สายตาที่ยังจับจ้องอยู่กับหนังสือในมือทำให้น้องเล็กเบ้ปาก ถามเพราะมารยาทใช่ไหม? งั้นคราวหลังไม่ต้องถามก็ได้นะ

    "ก็ดีฮะ" แม้ในใจจะนึกเคืองแต่คยูฮยอนก็ต้องตอบตามมารยาท ตอนนี้หัวมันมึนๆคิดอะไรก็ไม่ค่อยออกได้แต่นั่งเฉยๆฟังเสียงบอกให้หยุดของเฮนรี่ไปมาก็เริ่มเพลิน สักพักเจ้าตัววุ่นประจำวงก็วิ่งแหมะมานอนแทรกกลางระหว่างหนุ่มน้อยชาวเกาหลีกับหนุ่มใหญ่ชาวจีน ไม่แทรกเฉยๆแต่มีการเอาหัวหนุนตักพี่ชายชาวจีนหน้าตาเหมือนซีวอนอีกด้วยแน่ะ

    "พี่ทงแฮลุกออกมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" ไม่ทันไรเสียงแหลมๆของเฮนรี่ก็ดังลั่น ดังอย่างเดียวไม่พอยังเอาร่างอวบๆของตัวเองลงเบียดแย่งตักโจวหมี่อีกด้วย คยูฮยอนเห็นแล้วปวดหัวยิ่งกว่าเดิมเลยเดินหนีออกมาเงียบๆให้สามคนนั้นตกลงกันเอง

    ร่างบางบิดขี้เกียจซ้ายขวาพอให้หายขบเมื่อย ดวงตาซุกซนก็เหลือบไปเห็นพี่ชายอีกคนกำลังวิดพื้นอยู่ก็เข้าไปหา

    "ขยันฟิตหุ่นจังเลยนะครับกลัวสู้พี่ซีวอนไม่ได้เหรอ"

    "ใช่ แล้วนายว่าตอนนี้หุ่นพี่ดีกว่าซีวอนหรือยังล่ะ" ฮันคยองหยุดการออกกำลังช่วงเช้าลงทันทีที่เห็นคยูฮยอนเดินมา ชายหนุ่มจ้องมองลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยนั้นแล้วก็ได้แต่หลอกตัวเองในใจ

    ...ไม่มีอะไรเกินเลยหรอกน่า ก็แค่พี่กับน้องเล่นกัน...

    "แบบนี้น่ะดีแล้วล่ะครับ อยากจะมีกล้ามใหญ่ๆแบบนั้นไปทำไมกัน กล้ามปูแบบนั้นไม่เหมาะกับพี่เลยสักนิด" นอกจากจะพูดจาหวานเอาใจแล้วร่างบอบบางยังเอาหัวทุยๆของตัวเองมาซบเข้ากับแขนเรียวเล็กแต่แข็งแรงของลีดเดอร์เฉพาะกิจอีกด้วย ฮันคยองเริ่มยิ้มออกมือหนายกขึ้นลูบศรีษะเจ้าตัวเล็กเบาๆ

    "พี่เป็นแบบนี้คยูฮยอนก็จะรักพี่แค่คนเดียวใช่ไหม?" ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้ถามออกไป ในใจก็เต้นโครมครามนึกกังวลกลัวว่าคำตอบจะไม่ได้ออกอย่างที่คิดไม่ก็กลัวว่าคำตอบนั้นอาจจะเต็มไปด้วยคำโกหก

    โจคยูฮยอนเงียบไปพักใหญ่จนคนถามใจแป้ว ใบหน้าหวานเงยขึ้นสบสายตากับร่างสูงมั่น ดวงตาของคนทั้งคู่ต่างสะท้อนภาพของกันและกัน ดวงตาเป็นหน้าต่างของหัวใจ สิ่งที่เห็นจากจักษุสีดำสนิทคู่นั้นจะมีแต่ความจริง "ผมรักพี่...รักพี่ฮันคยองคนเดียว รักจนยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อที่เราสองคนจะได้รักกันอย่างไม่มีอุปสรรคอะไรอีก อะไรที่ขวางทางรักของเราผมจะไม่ยอมให้มันทำตามอำเภอใจ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อรักของเรา"

    .
    .
    .

    เพื่อรักของเรางั้นเหรอ?

    ชเวซีวอนทวนคำพูดของโจคยูฮยอนอยู่ในใจ ในเมื่อคยูฮยอนเห็นเขาเป็นอุปสรรคในความรักที่แสนจะจอมปลอมนั่นเขาก็จะยอมเป็นอุปสรรคที่ยากที่สุดที่จะไม่ยอมให้คนทั้งคู่ได้ผ่านพ้นไป จะต้องไม่มีใครมีความสุขตราบเท่าที่ชเวซีวอนคนนี้ยังทนทุกข์ จะต้องไม่มี...

    ...

    หากการจะบำบัดแค้นต้องระบายอารมณ์ลงกับอะไรสักอย่าง สิ่งที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการบั่นทอนอาการคลั่งแค้นของซีวอนได้คงมีเพียงโจคยูฮยอนเพียงคนเดียวเท่านั้น ไม่ว่าซีวอนจะทำอะไรกับคยูฮยอน ร่างบางก็ไม่เคยคิดที่จะปริปากบอกให้ฮันคยองฟัง แม้จะนึกกังวลอยู่บ้างกับอาการของคยูฮยอนที่อ่านไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ในใจแต่ซีวอนก็ไม่อยากจะเอามาคิดให้รกสมอง ตอนนี้ขอแค่มีความสุขไปวันๆกับการได้แอบกินร่างหวานหยดของน้องน้อยสลับกับชมดวงตาคู่โตที่จ้องมองกลับมาด้วยอารมณ์ทั้งหวาดกลัว หวาดหวั่น ไม่พอใจ แล้วสุดท้ายก็แปรเปลี่ยนเป็นดวงตาที่สะท้อนเพียงแต่ภาพของเขา มองเขาด้วยความต้องการอย่างสุดซึ้ง เท่านี้ก็ไม่มีอะไรสุขเท่าอีกแล้ว

    โดยเฉพาะช่วงนี้... ช่วงที่ซีวอนมีความสุขเพราะได้โอบกอดคยูฮยอนถี่เหลือเกิน ด้วยหน้าที่การงานของฮันคยองทำให้เจ้าตัวไม่ค่อยอยู่ที่พัก หมาไม่ได้อยู่เฝ้าเนื้อแบบนี้ ก็เสร็จโจรอย่างเขาน่ะสิที่จะลอบลักแอบแทะกินเนื้อรสหวานหยดปานอาบน้ำพึ้งได้ตามใจปราถนา

    อย่างคืนนี้...คืนที่ฟ้าช่างเป็นใจ ดวงจันทร์สว่างเต็มดวงงดงาม โจคยูฮยอนนอนซบอกเขาอยู่บนเตียงแคบๆ อากาศภายนอกที่หนาวทำอะไรเขาที่ได้รับความอบอุ่นจากคยูฮยอนไม่ได้เลย

    "พี่ซีวอน..." จู่ๆร่างที่เงียบไปนานจนเขานึกว่าหลับไปแล้วก็เอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ ซีวอนจึงพลิกตัวให้ร่างทั้งสองได้มองหน้ากันและพูดคุยกัน

    "อะไรเหรอ?"

    "ผม...ผมรู้สึกไม่ค่อยดี พูดตรงๆนะ ทุกครั้งที่เราสองคนนอนด้วยกัน...ผมรู้สึกดี ผมยอมรับ...แต่หลังจากนั้นทุกครั้งที่ได้มองตาของพี่ฮันคยองผมก็ยิ่งรู้สึกผิด เพราะผมรักพี่เขามากถึงยอมทำทุกอย่างที่เป็นการดึงพี่ให้ออกห่างไปจากเขา แต่ความผิดมันก็ค้ำคอแม้เริ่มแรกผมจะถูกบังคับแต่เพราะผมไม่คิดจะโกหกใจตัวเองผมถึงรู้สึกผิดที่แอบรู้สึกดีๆกับพี่ หรือเพราะผมทำทุกอย่างตรงเกินไป...เพราะผมไม่ค่อยรู้เล่ห์รู้เหลี่ยมผมถึงไม่รู้ว่าจะควรทำยังไงนอกจากให้พี่กอดเพื่อที่ไม่ให้พี่เหงาแล้วกลับมาหาพี่ฮันคยองอีก..."

    ซีวอนนอนนิ่งๆมองคนพูดที่เริ่มปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาไม่รู้ตัว มือหนาปาดเช็ดน้ำตาให้ก่อนจะกดจูบลงบนหน้าผากเกลี้ยงเบาๆ

    "นายทำถูกแล้วที่ไม่โกหกใจตัวเอง นายทำถูกแล้ว..."






    "แล้วพี่ล่ะทำถูกหรือยัง?"

    "..."

    .
    .
    .

    "เดี๋ยวเช้านี้ลูกไปโบส์กับพี่ซีวอนนะจ๊ะ" ทันทีที่เดินลงมาจากชั้นบนคุณแม่ผู้เสียดีก็บอกทันที คิ้วบางขมวดเข้าหากันอย่างสงสัย ทำไมเขาต้องไปโบสถ์กับพี่ซีวอนในวันปีใหม่ด้วยเล่า

    "ทำไมต้องไปกับซีวอนล่ะฮะ แล้วพ่อกับแม่ไม่ไปด้วยกันเหรอ" คยูฮยอนโผเข้ากอดเอวมารดาถูไถใบหน้าเข้ากับสีข้างออดอ้อนกริยาเหมือนแมวตัวน้อยๆที่ขาดความอบอุ่น

    "เดี๋ยวพ่อกับแม่แล้วก็พี่อาราจะไปโบสถ์ที่ต่างจังหวัดน่ะจ๊ะ เห็นว่าเย็นนี้มีธุระไม่ใช่เหรอแม่กลัวว่าจะกลับมาไม่ทันก็เลยโทรไปบอกให้ซีวอนพาเราไปโบสถ์ด้วย ไปทำบุญซะบ้างปีนี้จะได้เจอแต่เรื่องดีๆ" เมื่อคนเป็นแม่ว่าอย่างนั้นลูกที่แสนดีจะขัดได้ยังไง เจ้าตัวเล็กก็เลยต้องนั่นหน้าบูดหน้าบึ้งไปตลอดทางที่จะไปโบสถ์

    "นี่ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยไม่ได้หรือไง เดี๋ยวพ่อฉันก็หาว่าฉันไปแกล้งลูกชายเพื่อนรักเขาหรอก" ชเวซีวอนว่าก่อนจะขยี้หัวแมวเล่นไปที แต่แมวมันก็ดื้อปัดมือใหญ่ทิ้งทันทีที่แตะหัว

    "ก็เรื่องของพี่สิ ปีใหม่ทั้งทีทำไมพี่ฮันคยองต้องอยู่ที่จีนด้วยนะ" พูดไปก็ถอนหายใจไปไม่ได้นึกสนใจคนที่นั่งขับรถอยู่ข้างๆสักนิดว่าจะรู้สึกยังไง

    เท้าเผลอเหยียบคันเร่งเพิ่มความเร็วโดยไม่รู้ตัว อะไรไม่รู้ดลใจให้มือบังคับพวงมาลัยปาดซ้ายแซงขวา รถทุกคันอยู่ตรงหน้าดูเกะกะสายตาไปหมด คยูฮยอนเพียงฉีกยิ้มก่อนจะหันไปหาใบหน้าหล่อที่ตึงเครียดไป

    "พี่หึงผมเหรอ?"

    "อย่ารู้สักเรื่องได้ไหม? เงียบไปเลยไป!!" เสียงทุ้มตวาดลั่นรถก่อนที่จะเหยียบเบรกกะทันหัน โชคดีที่โจคยูฮยอนคาดเข็มขัดนิรภัยไว้ไม่งั้นหัวกลมๆนั่นต้องกระแทกเข้ากับกระจกหน้าแน่ๆ ส่วนไอ้ตัวต้นเหตุก็ลงจากรถปิดประตูกระแทกหน้าใส่เสียงดังลั่นไม่คิดจะสนใจคนที่พามาสักนิด ร่างบางจิ๊ปากขัดใจก่อนจะวิ่งตามร่างสูงเข้าโบสถ์ไป

    ...

    คยูฮยอนจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองดื่มไปกี่แก้วแล้วรู้เพียงแต่ว่าถ้ามีคนรินโซจูสีขาวๆใส่แก้วให้เขาก็จะดื่มมัน วันนี้นอกจากจะเป็นวันที่ 1 มกราคมที่เป็นวันปีใหม่แล้วยังเป็นวันเกิดของรุ่นพี่คนหนึ่งในวงอีกด้วย และคนๆนั้นก็คืออีซองมิน กระต่ายน้อยร่างอวบหวานใจพี่หมียองอุนนั่นเอง งานเลี้ยงเริ่มตั้งแต่สามทุ่มจนตอนนี้ล่วงเข้าวันที่สองของเดือนไปแล้วงานเลี้ยงก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบง่ายๆเมื่อเครื่องดื่มน้ำเมาทั้งหลายยังคงถูกทยอยออกมาจากตู้เย็นราวกับไม่มีวันหมด แล้วยิ่งเมื่อคิมยองอุนประกาศก้องว่าไม่เมาไม่เลิกนั้นก็ยิ่งทำให้ปาร์ตี้วันเกิดของกระต่ายอวบยิ่งเฮฮาเข้าไปอีก

    "เอิ๊ก!!" เสียงเรอไม่ค่อยเบานักบ่งบอกอาการที่เมาเต็มที่ของร่างบางได้เป็นอย่างดี ชเวซีวอนมองมักเน่แล้วก็ส่ายหัวทั้งๆที่คยูฮยอนเด็กกว่าเขาตั้งสองปีแต่กลับดื่มหนักหว่าเขาอีก มองสภาพน้องเล็กแล้วก็กลุ้มจะพากลับบ้านยังไงกันในเมื่อเมาไม่รู้เรื่องแบบนี้ขืนพากลับมีหวังเขาถูกสวดยับแน่โทษฐานไม่ดูแลน้องให้ดี แต่จะให้ค้างที่นี่ก็คงไม่ไหวเพราะคงไม่ได้ค้างแต่คงดื่มต่อจนพรุ่งนี้ต้องแฮงค์ลุกไปไหนไม่ไหวทั้งวัน คงต้องพากลับคอนโดฯของเขาเองล่ะมั้งถึงจะดีที่สุด คิดได้อย่างนั้นร่างสูงก็จัดแจงบอกลาหัวหน้าวงและเจ้าของงานเลี้ยงกลับก่อนพร้อมกับอุ้มแมวที่เมาไม่รู้เรื่องพาดบ่าเดินออกจากงานเลี้ยงมา

    แม้จะไม่ได้ดื่มจนเมามายแต่ซีวอนก็ดื่มไปไม่น้อย จะขับรถเองให้เสี่ยงอุบัติเหตุหรือคุกก็คงไม่คุ้มร่างสูงก็จำต้องโบกแท๊กซี่กลับคอนโดฯส่วนตัว นั่งไปได้ไม่ถึงครึ่งทางคยูฮยอนก็เริ่มอาละวาดแสดงนิสัยงี่เง่าออกมาลั่นรถ

    "พี่จาพาโพ้มปายหนาย... โพ้มยางม่ายมาว อาวเหย้ามาอีกจิ โพ้มจาดื่มอีกกก"

    ซีวอนกุมขมับนึกอย่างตบหัวไอ้แมวบ้าไปทีแต่ก็ทำไม่ลง ได้แต่บอกย้ำๆว่าถึงบ้านแล้วจะให้กินอีกจนเงียบหลับไปแล้วนั่นแหละถึงจะค่อยยังชั่ว พอถึงที่พักก็ต้องหอบหิ้วเอาคยูฮยอนขึ้นลิฟต์เข้าห้องอีก กว่าจะพามาถึงได้ก็เล่นเอาเหงื่อโทรมกายราวกับเล่นฟิตเนสมาราธอนสามชั่วโมง

    ทุลักทุเลต่ออีกหน่อยเพื่อพาเจ้าตัววุ่นเข้าไปนอนแผ่บนเตียง ในใจก็อยากจะเปลี่ยนชุดให้ น้องจะได้นอนสบายๆแต่อีกใจก็แย้งว่าแค่นี้กูก็ทำให้มึงมากพอแล้ว ซีวอนก็เลยทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ล้มตัวลงนอนข้างๆแมวเมานั่นแหละ กะจะหลับตาให้หลับลงไวๆแต่เสียงอ้อแอ้ฟังไม่ศีพท์ก็ดังขึ้นอีกครั้งหลังจากเงียบไปนาน

    "งี่งีงอน งี๊..."

    "อาราย" ฝ่ายนู้นมาแบบงี่เง่าก่อนชายหนุ่มก็เลยของี่เง่ากลับ

    "กอด... กอดผมหน่อยนะ" น่าแปลก คราวนี้เสียงขอคนที่เมาจัดกลับดังชัดเจน ซีวอนกระพริบตาปริบๆไม่อยากจะเชื่อหูนักแต่อาการที่คยูฮยอนพลิกตัวแล้วเบียดเข้าหาก็ทำให้ต้องเชื่อ

    "เป็นอะไรไปน่ะเรา จู่ๆก็อยากให้กอด เมาจนบ้าไปแล้วหรือไง"

    "งืม...เมาจนบ้าไปหมด บ้า... เหงา เหมือนพี่ไงที่เหงาจนบ้า ชอบใช้สายตาเหงาๆมาทำให้ผมใจอ่อน ทำให้ผมต้องกอดตอบ เหงา..."

    "ความเหงาทำให้คนเป็นบ้า บ้าจนยอมทำได้ทุกอย่างเพื่อที่จะไม่ต้องเหงา ไม่อยากอยู่คนเดียวบนโลกใบนี้จนต้องหาใครสักคนมาอยู่ข้างๆ ตอนนั้นฉันตอบนายไปว่ายังไงนะ...ที่นายถามฉันว่าทำถูกหรือยัง..."

    "แล้วพี่ก็ตอบว่าเหงา... ตลกตายล่ะ ผมตามใจพี่มามากแล้วนะ ตอนนี้ผมเหงาพี่ก็ต้องใจผมบ้างล่ะ" คยูฮยอนหัวเราะน้อยๆกับแผ่นอกกว้างมือยกขึ้นโอบแตะแผ่นหลังกว้าง

    "คิดถึงฮันคยองขนาดนั้นเชียว?"

    "มั้ง"

    2BCon

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×