ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [SF] D.O.L.L. : WonKyu NC-17

    ลำดับตอนที่ #1 : - 1 -

    • อัปเดตล่าสุด 30 มี.ค. 53


    หมายเหตุ - แต่งนานแล้ว เอาของเก่ามาหากิน
    ป.ล. เรื่องนี้ค่อนข้างแรง... ใครรับไม่ได้ ไม่เม้นต์ก็ไม่เป็นไรค่ะ แต่ใครรับได้ช่วยเม้นต์ให้ด้วยนะ ^^

    [SF] D.O.L.L.
    Couple : Siwon KyuHyun
    Rate : NC-17
    Genre : Dishonesty , POV
    Status : 01
    Writer : NiTRoGeN14
    Writer's Note : ที่มาของความเพ้อ


    user posted image

    ช่างน่ารักจริงๆ

    ...
    .
    .
    .

    อยู่ในนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ?

    กับคำถามที่วนเวียนซ้ำไปซ้ำมาตั้งแต่เริ่มจำความได้ ห้องสีขาวสะอาดตา หน้าต่างบานใหญ่ที่มักจะฉายภาพพระอาทิตย์ยามอัสดงให้เห็นอยู่เสมอ ชั้นหนังสือสีขาวที่ไม่มีวันเก่า หนังสือเล่มหนาหลายต่อหน้าเล่มที่ถูกจัดเก็บเป็นระเบียบบนชั้น ตู้เสื้อผ้าสีขาวและแน่นอนว่าเสื้อผ้าทุกชุดที่อยู่ในนั้นก็เป็นสีขาว เตียงนอนสีขาวที่กว้างแสนกว้างยามหลับตานอนเมื่อไหร่ก็จะรู้สึกว่ามันกว้างเกินไปเสมอ และกระจกเงาบานใหญ่ที่สูงกว่าตัวเขาอยู่เสมอ ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าไหร่ตัวเขาเองก็ไม่เคยจะสูงเกินกระจกเงาบานนี้เลย

    ผมแตะปลายนิ้วลงบนดวงตาคู่กลมโต จ้องมองมันนิ่งอยู่อย่างนั้น ภาพที่สะท้อนออกมาจากระจกคือเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มีดวงตากลมโตสีดำสนิท แก้มใสขาวอมชมพู ริมฝีปากอิ่มแดงสดราวกับผลเชอร์รี่ที่ได้ทานบ่อยๆ ผมสีดำปีกกายาวระบ่าเรียงตัวสวย

    ผมยิ้ม...

    ยิ้มให้กับตัวเองที่อยู่ในกระจก

    ตัวผมที่ห้องนี้กับอีกคนที่อยู่ในกระจก ผมอดคิดไม่ได้ว่าเราช่างเหมือนกันอะไรอย่างนี้นะ ไม่ว่าจะเป็นใบหน้าและท่าทางหรือแม้แต่การถูกขังอยู่ในโลกเล็กๆแห่งนี้ ไม่ได้พบเจอกับใครมีเพียงตัวเองเท่านั้นและเพื่อนอีกคนที่อยู่อีกด้านหนึ่งของกระจก

    โลกเล็กๆใบนี้ช่างเงียบเหงา ไม่มีใครมีเพียงแต่ตัวเองเท่านั้นเอง

    ...

    ผมลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งเพื่อพบว่าตอนนี้โลกข้างนอกกลายเป็นสีดำไปหมดแล้ว ดาวที่แข่งขันกันส่องแสงอวดตัวพร่างพรายเต็มทั่วท้องนภา
    งดงาม...
    แต่ก็ไม่เคยสัมผัสถึง...

    เคยคิดจะเปิดหน้าต่างบานนั้นออกไปเพื่อจะไขว่คว้า แต่ก็ไม่เคยทำได้สักที มันติดอยู่ตรงที่ว่า...ถ้าเปิดออกไปแล้ว 'อิสระ' ก็จะมาหยุดอยู่ตรงหน้า ผมกลัวว่าผมจะรีบร้อนตะครุบตะกรามอิสระนั้นไว้ในลืมระวังตัวอะไรไปในหลายเรื่องๆ และนั้นอาจจะทำให้ผมไม่ได้พบกับมันอีกเลย

    เมื่อไม่ได้โผเข้าไปหาอิสระแล้วผมก็ทำใจนั่งลงมองอิสระที่อยู่ข้างนอกอย่างที่ทำเป็นประจำ นั่งมองจนเพลิดเพลินไปกับเหล่าเมฆหมอกที่ลอยมาบดบังแสงดาว สนุกกับการลุ้นให้เมฆนั้นลอยหายลับไปเสียที สุขเมื่อได้พบว่าเมฆร้ายนั้นได้จางหายไปกับลมแรง จนลืมนึกถึงพายุร้ายที่ใกล้เวลาจะเคลื่อนตัวเข้ามา

    เสียงประตูที่เปิดออกทำให้ความหฤหรรษ์ที่เพิ่งได้สุขสมหายวับไปต่อหน้า เมฆดำน่ากลัวกำลังลอยเคลื่อนเข้ามาใกล้ จนนกน้อยที่ไร้ปีกต้องหวาดกลัว

    "สายัณห์สวัสดิ์ ตุ๊กตาของฉัน" เสียงเอ่ยทักทายที่ไร้ชีวิตราวกับว่าผู้พูดไม่ใช่หุ่นยนต์อาจจะทำให้ใครหลายต่อหลายคนรู้สึกกลัวแต่กับตุ๊กตาตัวนี้แล้วมันเป็นน้ำเสียงที่คุ้นเคยและเป็นเพียงเสียงเดียวของคนอื่นที่เขาได้ยิน ตลอดชีวิตของตุ๊กตาตัวนี้ไม่มีใครอื่นนอกจากเจ้าของเพียงหนึ่งเดียว เจ้าของที่ได้ชื่อว่า...

    "สวัสดีครับคุณพ่อ"

    .
    .
    .

    อยู่ในนี้มานานเท่าไหร่แล้วนะ?

    คำถามนี้กลับมาอีกครั้งเพราะคำพูดของคุณพ่อเมื่อคืนที่บอกว่าพรุ่งนี้เขาจะมีอายุครบ 15 ปี

    15 ปีแล้วหรือนี่ที่เขาได้ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องนี้และไม่ได้ออกไปที่ไหนอีกเลย...

    ชีวิตที่ช่างเหมือนนิยาย...ใครเล่าจะรู้ว่ามีอยู่จริง เขาเหมือนกับฮาเซนเทลที่ถูกแม่มดใจร้ายขังไว้ในหอคอย เฝ้ารอวันที่จะมีเจ้าชายสักคนผ่านมาและช่วยเขาไว้ แต่คงไม่มี... คนที่ขังเขาคือบิดาและบิดาของเขาก็ฉลาดพอที่จะไม่ใครได้ผ่านเข้ามา แน่นอนว่าตลอดระยะเวลาเกือบสิบห้าปีเขาไม่เคยเห็นใครนอกจากบิดาอีกเลย

    วันนี้ก็ได้แต่นั่งเหม่อเฝ้ามองพระอาทิตย์ที่กำลังจะตกดิน พรุ่งนี้ก็จะเป็นวันเกิดของเขาแล้วสินะ...ถ้าเช่นนั้นถ้าอยากจะขอพร เขาก็ขอให้ได้ออกไปเดินเล่นที่โลกภายนอกบ้างได้มั้ย?

    คงไม่ได้สินะ

    ...

    เช้าวันเกิดปีที่สิบห้า ผมตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นเล็กน้อยแล้วความตื่นเต้นที่มีอยู่เพียงเล็กน้อยก็หายวับไปเมื่อสำนึกได้ว่าตนเองยังอยู่ที่ห้องสีขาวเหมือนเช่นดังทุกวัน

    คุณพ่อเดินเข้ามาตั้งแต่เช้าพร้อมกับกล่องของขวัญใบหนึ่งสีขาวเหมือนกับวันเกิดที่ผ่านมาทุกๆปี แต่ที่ต่างออกไปคงเป็นสีของริบบิ้น ริบบิ้นที่ผูกกล่องของขวัญมักเป็นสีขาวอยู่เสมอ แต่ปีนี้ริบบิ้นเส้นนั้นกลับกลายเป็นสีดำไปเสียได้

    "สุขสันต์วันเกิดปีที่สิบห้านะตุ๊กตาของฉัน" คุณพ่อย่างก้าวสุขุมเข้ามาหาพร้อมกับยื่นกล่องของขวัญมาให้ตรงหน้า "รับไปสิ นี่คือของขวัญปีที่สิบห้าของเธอนะ" ผมมองสบตาของคุณพ่อสลับกับกล่องของขวัญ พลางนึกไปว่าของขวัญปีนี้จะเป็นอะไรกันนะ ของขวัญเมื่อปีที่แล้วเป็นหนังสือนิทานภาษาอังกฤษ ปีก่อนหน้านั้นก็เป็นหนังสือนิยายภาษาอังกฤษ ก่อนหน้านั้นไปอีกก็เป็นหนังสือภาษาอังกฤษ และความเหมือนที่แตกต่างไปจากนั้นอีกก็คือหนังสือทุกเล่มเก่าเสียจนกระดาษกลายเป็นสีเหลือง

    ผมรับกล่องของขวัญมาถือไว้ก่อนจะแกะริบบิ้นออกเมื่อคุณพ่อสั่งให้เปิดดู ทันทีที่ผมเปิดกล่องออกมาผมก็อดที่จะตกใจไม่ได้เมื่อพบว่าของขวัญปีนี้ไม่ใช่หนังสือแต่กลับกลายเป็นรูปภาพเก่าๆใบหนึ่งเท่านั้น ผมหยิบรูปภาพรูปนั้นขึ้นมาดูด้วยความตื่นเต้น ผมไม่เคยเห็นคนอื่นเลยนอกจากคุณพ่อและตัวผมเอง จึงไม่น่าแปลกใจที่ผมจะรู้สึกตื่นเต้นจนหัวใจสั่นระรัวเหมือนกลองศึกอย่างนี้

    "ชอบไหมของขวัญชิ้นนี้?"

    "ชอบครับ ว่าแต่...ใครกันหรือครับ" ผมยิ้มกว้างในขณะที่ตอบคำถามคุณพ่อไปด้วย คุณพ่อเองก็ยิ้มกลับมาให้ผมเหมือนกันแต่ผมก็ไม่ค่อยชอบรอยยิ้มของคุณพ่อเอาเสียเลย

    "แม่ของเธอยังไงล่ะ"


    "แม่?"


    "มานี่สิคยูฮยอน มาดูหน้าตาของเธอสิช่างเหมือนกับแม่ของเธอราวกับถอดพิมพ์เดียวกันออกมา" คุณพ่อลากผมมายืนอยู่หน้ากระจก ผมจ้องเด็กเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามสลับกับรูปในมือ

    เราช่างเหมือนกันจนน่ากลัว

    "เธอสวยเหมือนแม่เธอเมื่อสิบห้าปีที่แล้วเลยคยูฮยอน ตอนนั้นแม่ของเธอก็น่ารักเหมือนตุ๊กตาอย่างนี้ ดวงตาคู่กลมโตใส ผิวขาวจัดๆ แก้มใสอมชมพูแบบนี้ และกลีบปากอิ่มสีแดงสดที่น่าจุมพิตคู่นี้ แม่เธอทำให้ฉันคลั่งตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกันและเธอก็กำลังทำให้ฉันรู้สึกอย่างนั้นรู้ตัวหรือเปล่า หืม? คยูฮยอน"

    "ผมกับคุณแม่..."

    "งดงาม"

    "..."

    "ฉันคิดไม่ผิดที่เลี้ยงดูเธอไว้ ให้เธอเป็นตุ๊กตาที่เป็นตัวแทนของผู้หญิงคนนั้น เหมือนกันทุกอย่างหน้าตา ผิวพรรณหรือแม้กระทั่งนิสัย นิสัยที่ไร้เดียงสา อ่อนต่อโลก แต่ฉันจะทำให้เธอต่างจากผู้หญิงคนนั้นฉันจะทำให้เธอเป็นของฉัน ของฉันเพียงคนเดียวและตลอดไป"

    "ของคุณพ่อ เพียงคนเดียวและตลอดไป"

    "ฉันจะไม่ยอมให้เธอถูกใครหน้าไหนมาพรากเธอไปจากฉัน จะไม่ยอมให้ใครมาแอบลักขโมยเธอไปกินเหมือนกับแม่ของเธอ เธอจะต้องเป็นของฉันเป็นตุ๊กตาให้ฉันตลอดไปนะคยูฮยอน"

    ผมจ้องมองเด็กผู้ชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าด้วยสายตาว่างเปล่า ภาพในกระจกบานนั้นสะท้อนให้เห็นว่าเด็กผู้ชายคนนั้นกำลังถูกกลืนกินโดยพ่อของตัวเอง เหมือนกับในนิยายกรีกโบราณของเหล่าเทพเจ้าบนเขาโอลิมปัส พ่อสมสู่กับลูก ลูกสมสู่กับแม่ พี่น้องต่างอยู่ร่วมรักกัน ทุกอย่างเกิดขึ้นราวกับเป็นเรื่องธรรมดาและสำหรับคุณพ่อแล้ว เราสองคน ก็คงไม่ต่างกัน

    อย่างนั้นใช่ไหม?

    สัมผัสอุ่นนุ่มที่ทาบทับบนแก้มอบอุ่นเกินกว่าจะบรรยาย เหมือนกับยาพิษร้ายแรงที่เมื่อแตะต้องลงที่ใดก็ทำให้ผู้ที่ถูกพิษหมดเรี่ยวแรงลงทั้งปวง มือไม้อ่อนขาทั้งสองข้างสั่นจนทรงตัวไว้ไม่อยู่ คุณพ่ออุ้มผมไปนอนลงบนเตียงก่อนที่จะคร่อมทับตัวผมไว้ สั่นไปทั้งตัวเมื่อลมหนาวจากเครื่องปรับอากาศกระทบผิวกายเปลือยเปล่า สะท้านไปทั้งอกเมื่อสัมผัสจุมพิตร้อนจัดแตะต้องไปทั่วร่าง ลมหายใจสะดุดขาดเมื่อถูกช่วงชิงลมหายใจเพราะจูบหนักๆที่เฝ้าแต่จะสำรวจเข้าไปในโพรงปาก ลิ้นต่อลิ้นสัมผัสกระหวัดรัดกันแนบแน่น ช่วงชิงลมหายใจเพียงหนึ่งเดียวที่สำนึกได้ว่าในโลกนี้ ทั้งชีวิตนี้ เขามีเพียงคุณพ่อเท่านั้น

    แค่เพียงคุณพ่อเท่านั้น

    เพียงคนเดียว...

    ...

    2BCon

    อย่างที่จั่วหัวไปว่า For P'eve ฟิคเรื่องนี้แต่งให้พี่อีฟค่ะ แต่งมาสักพักแล้วล่ะ
    ตอนนั้นอารมณ์มันกำลังขึ้นหลังจากที่ได้คุยกับพี่รุ้ง
    ประกอบกับรูปที่เห็นข้างบน น่ารักมาก wonnabwithkyu/erweedtz6.gif
    ก็เลยกลายมาเป็นฟิคเรื่องนี้ ออกแนวป่วง
    55+
    เอาเป็นว่า เอ็นจอยกันเถอะค่ะ wonnabwithkyu/72.gif
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×