ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic] Naniya's Short Fiction [yaoi]

    ลำดับตอนที่ #1 : [SF]Sign [Kibum & Eunhyuk]

    • อัปเดตล่าสุด 16 ส.ค. 54


     Title: Sign

    Pair: Kibum & Hyukjae

    Author: Naniya

    Rate: เวิ่นเว้อไร้สาระ

    Note: มึน -_-

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    Speechless…

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    “Bubble Bubble Bubble Pop! Bubble Bubble Pop pop! ~ u a a ah ooH a a ahh~”

     

     

    เสียงเพลงโซโล่ของนักร้องสาวสมาชิกวง4นาที่ที่ดังอยู่ผ่านทางหน้าจอมือถือที่ คิมคิบอม สมาชิกวงบอยแบนด์ชื่อดัง อุตส่าห์หาทางที่จะเข้าชมรายการวิทยุ89.1 cool FM  (ทั้งๆที่ตนเองนั้นแทบจะโง่เทคโนโลยีสิ้นดี) ไม่ได้ดึงดูดความสนใจของเขาเท่ากับร่างบางในชุดเสื้อยืดสีดำและหมวกแก๊ปที่อำพรางผมอันสลวยเก๋สีบลอนด์สว่าง ที่ดีดดิ้นไปตามจังหวะเร้าของเพลงดัง (ที่ท่าเต้นฉาวจนโดนแบนการออกอากาศทั้งที่เค้าดูกันไปเป็นสิบรอบแถมมีคลิปลงยูทูป) ผ่านสายตาของเขาไปเมื่อสักครู่ โดยไม่แคร์ว่าตนกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้แคบๆ และกำลังออกอากาศไปทั่วทั้งเกาหลีใต้ (อนึ่ง อาจลามไปถึงคลิปในยูทูปยิบๆย่อยๆที่บรรดาภูติสีน้ำเงินตัวน้อยสามารถจับอิริยาบถทั้งหมดไว้ได้)

     

     

     

     

     

    ชายหนุ่มถอนหายใจเฮือกใหญ่  ลืมเรื่องที่จะออกไปดื่มเคล้าแสงยามราตรีตามที่ได้นัดไว้ไปเสียสนิท มือหนากดปิดโปรแกรมทั้งหลายทั้งปวงออกก่อนที่จะโยนมันลงบนเตียงนุ่มและทิ้งตัวลงตามติดๆ ก่อนที่จะเหม่อมองดวงจันทร์สีเงินที่ส่องประกายเด่นเป็นสง่า

     

     

     

     

     

     

    ...ดูท่าทางจะสบายดี...

     

     

     

     

     

     

    ปล่อยให้ความเหงาเข้าครอบคลุมจิตใจเสียพักใหญ่ ก่อนที่ร่างสูงจะตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วกดเข้าโปรแกรมทวิตแคสเตอร์ ก่อนที่จะไล่ดูรายการทวิตเตอร์ที่เขาติดตามอยู่ช้าๆ แล้วสายตาก็สะดุดกับทวิตล่าสุดของพี่ชายร่วมวงที่เขาสนิทที่สุด....

     

     

     

    ....Good Night !! ELF …!

     

     

     

     

     

     

    ตาคมหรี่มองอย่างชั่งใจ พร้อมกับความคิดบางอย่างที่ซับซ้อนในหัวสมอง ก่อนที่จะกดโทรศัพท์คู่ใจอย่างชำนาญ พร้อมๆกับหน้าจอที่เกิดความเปลี่ยนแปลง

     

     





     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ….

     

     

     

     

     

    นิ้วเรียวที่กำลังกดรีเฟรชหน้าทวิตหยุดชะงัก เป็นเวลานานๆทีที่อีฮยอกแจจะนึกครึ้มอกครึ้มใจเปิดขึ้นมาเพื่อฆ่าเวลาระหว่างทางกลับบ้าน หลังจากที่ตารางงานในวันนี้ไม่ได้มีอะไรเป็นพิเศษหลังการจัดรายการวิทยุตามปกติ จึงมีเวลาว่างพอที่จะพักผ่อนมากกว่าปกติ (ซึ่งหาได้ยากยิ่งหลังจากการออกอัลบั้มคัมแบ็ค) แต่ความคิดที่จะกลับหอแล้วนอนหลับอย่างสบายใจนั้นก็ต้องอันตรฐานไป

     

     

     

     

     

     

     

    วันนี้ต้องมีโปรแกรมพิเศษที่ไม่ได้เตรียมล่วงหน้าจนได้

     

     

     

     

     

    ร่างบางหันไปกระซิบอะไรบางอย่างกับลีดเดอร์ ซึ่งพยักหน้ารับหงึกหงักก่อนที่จะบอกคนขับให้จอดใกล้ๆร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง

     

    เมื่อส่งสัญญาณกับคนขับว่าวันนี้จะกลับไปที่หอเองเสร็จแล้ว รถตู้ของบริษัทก็เคลื่อนที่จากไป มือเรียวจึงหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมากดหมายเลขปลายทางแล้วโทรออก ไม่กี่อึดใจก็มีเสียงตอบรับจากปลายสาย เขาจึงรีบบอกจุดประสงค์ของตัวไป

     

     

     

     

    มารับฉันที่คอนวิเนียนเดิมที่เราชอบมาบ่อยๆด้วย

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ….

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    เมื่อฮยอกแจขึ้นมาบนรถแล้ว ร่างสูงก็ค่อยๆเคลื่อนรถไป ตามถนนในกรุงโซลที่ไม่เคยหลับใหลอย่างช้าๆ ตาคมเหล่มองด้านคนนั่งแล้วหันไปมองถนนโดยไม่พูดอะไร

     

     

     

     

    ในบางครั้ง คิมคิบอมก็ไม่เคยเข้าใจ ฮีฮยอกแจ สักเท่าไหร่

     

     

     

    เวลาที่ร่างบางอยู่ต่อหน้ากล้องหรือแฟนคลับมากมาย ก็มักจะยิ้มอย่างร่าเริงให้ทุกคนราวกับว่าโลกนี้ไม่มีอะไรที่น่าเศร้าน่าหดหู่ แต่ครั้งใดที่พวกเขาอยู่กันแค่ในกลุ่มเพื่อนๆร่วมวง ร่างบางก็มักจะเงียบและหมกมุ่นอยู่กับเกม และนานๆครั้งถึงจะมาร่วมวงสนทนากับคนอื่นบ้าง

     

     

    แต่สิ่งเดียวที่เขาเห็นจากอีกคนเสมอไม่ว่าจะอยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย หรือจะอยู่เพียงแค่ลำพัง คือหัวใจที่บริสุทธิ์ และห่วงใยคนรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม

     

     

     

    ความคิดของเขาสะดุดลงแค่นี้ เมื่อจู่ๆมือข้างซ้ายที่ไม่ได้จับพวงมาลัย ถูกอีกคนฉวยไปกอบกุมเอาไว้ ความอบอุ่นจากสัมผัสเล็กๆนั้นแผ่ซ่านไปถึงหัวใจที่กำลังเหนื่อยล้าเบาๆนั้นให้รู้สึกผ่อนคลายลงมาบ้าง

     

    สำหรับเขา....อีฮยอกแจมีอิทธิพลต่อชีวิตอย่างน่าประหลาด แม้ว่าพวกเขานั้นจะพูดคุยกันน้อยนิดเมื่อเทียบกับระยะเวลาที่พวกเขารู้จักกันมานาน แต่การกระทำต่างๆที่พวกเขาร่วมทำมาก็ทำให้ไม่จำเป็นต้องสื่อออกมาเป็นคำพูดใดๆมากมายนัก

     

     

     

     

    ...แม้เพียงการกระทำแค่เล็กน้อย ก็สามารถบ่งบอกเรื่องราวร้อยพันในใจระหว่างพวกเขาได้...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    แม้จะใช้เวลาพอสมควรกว่าที่คิบอมจะขับรถมาถึงหน้าหอพักซูเปอร์จูเนียร์ แต่ก็ไม่นานพอที่จะให้คนทั้งสองมีเวลามากพอที่จะซึมซับบรรยากาศดีๆทั้งหมดเอาไว้ในใจ

     

     

     

     

     

     

    ...เวลาหมดแล้ว...

     

     

     

     

     

     

     

    มือที่สอดประสานกันอยู่ค่อยๆคลายออกช้าๆ ร่างบางสบสายตาอีกฝ่ายเพียงชั่วครู่ก่อนที่จะหันหลบแทบจะทันทีก่อนที่จะกลั้นใจพูดออกมา

     

     

     

     

     

     

     

    ...รีบๆทำหน้าที่ตรงนั้นให้เสร็จเร็วๆ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...ฉัน...ไม่สิ ทุกคน...กำลังรอนายอยู่ที่ฝั่งนี้

     

     

     

     

     

     

     

    ...

     

     

     

     

     

     

     

    รีบๆตามมาเร็วๆล่ะ...

     

     

     

    ทันทีที่พูดจบ ฮยอกแจก็รีบเปิดประตูรถแล้วก้าวฉับเข้าไปในอาคารทันที ร่างสูงมองตามอีกฝ่ายจนลับตาแล้วซบหน้าลงกับพวงมาลัยรถแล้วกำมือแน่น

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...อยากตามไปใจจะขาดอยู่แล้วล่ะ...ทุกคน...

     

     

     

     

     

     

    ...

     

     

     

     

     

     

    ...

     

     

     

     

     

     

    ทันทีที่พ้นจากสายตาของร่างสูงแล้ว ร่างบางก็ทรุดลงนั่งอย่างหมดแรงพลางกลั้นเสียงสะอื้นไม่ให้เล็ดรอดออกมา มือเรียวพยายามปาดหยาดน้ำตาออกจากใบหน้า แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่กระทำจะไม่มีผลอันใดเลยเมื่อน้ำตาเจ้ากรรมนั้นมันไม่หยุดไหลง่ายๆ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ...ถึงอยากจะรั้งเอาไว้ แต่เมื่ออีกฝ่ายเลือกทางเดินไปแล้ว แม้แต่เขา ก็ต้องเคารพการตัดสินใจ...

     

     

     

     

     

    ...และทำได้เพียงแค่เชื่อใจเท่านั้น...

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    .........

     

     

     

     

     

     

    Naniya talks:

     

     

    ไม่มีอะไรจะพูดค่ะ กะแต่งฮา แต่ดันลงดราม่ามาซะหมดแม็กเลย....

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×