คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 1
“
นี่! พวกเรายังต้องเดินไปอีกนานแค่ไหนอ่า~” เสียงบ่นหงุงหงิงตามประสาจากเด็กหญิงตัวน้อยดังขึ้น ขณะที่สองขาเรียวเล็กก้าวไปตามทางเดินปูอิฐเก่าๆ ดวงตาสีฟ้าโทนแปลกประหลาดของเธอจ้องมองแผ่นหลังของคู่สนทนาที่เดินนำหน้าอยู่รอคอยคำตอบ
ตึก ตึก ตึก
“…” ไร้เสียงตอบรับจากคู่สนทนาของเธอ ร่างสูงที่อยู่ในชุดโค้ทตัวยาวยังคงเดินอย่างเป็นจังหวะไม่รีบเร่งเช่นเดิน ดวงตาสีอำพันเหลือบมองร่างเล็กๆที่เดินตามหลังตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะหันกลับไปสนใจทางเดินตรงหน้าอีกครั้ง ทำเอาเด็กหญิงหน้ามุ่ยลงทันที
“นี่!! ป๊ะป๋า!!! คุณได้ยินที่ฉันพูดมั้ยเนี่ย?? ป๊ะป๋าๆ!?” เด็กหญิงเอ๋ยออกมาอย่างขัดใจ เธอก้าวขาให้เร็วขึ้นจนสามารถมองเห็นใบหน้าด้านข้างของชายหนุ่มที่ตัวเองเรียกว่า ‘ป๊ะป๋า’ได้ในที่สุด
“…เงียบน่ายัยเตี้ย พวกเราเกือบจะถึงเมืองแล้ว เธอน่ะเงียบๆแล้วเดินตามหาเหอะ!!” ร่างสูงดูไม่สบอารามณ์เท่าไรนัก ท่าทางเขากำลังรำคาญเด็กกญิงที่ป้วนเปี้ยอยู่ข้างๆนี่ไม่น้อย แต่ท่าทางแบบนั้นก็ไม่ได้ทำให้เด็กหญิงสะทกสะท้าน เธอกอดอกพร้อมกับทำแก้มป่องอย่างงอนๆ
“ฉันไม่ใช่“ยัยเตี้ย”ซักหน่อยนะ! ฉันชื่อเอฟี่ต่างหากล่ะ!! ป๊ะป๋า!!”
“เลิกเรียกฉันแบบนั้นซะที…มันทำให้ฉันประสาทเสียสุดๆ” ชายหนุ่มไม่สนใจคำแก้ต่างของเด็กหญิงตัวน้อย คิ้วเรียวของเขาขมวดเข้าหากันแน่นจนแทบจะรวมเป็นอันเดียวกัน เมื่อได้ยินคำเรียกที่ไม่ค่อยน่าพิสมัยสำหรับหนุ่มโสดเท่าไรนัก
“โถ่…ก็คุณไม่เคยบอกชื่อตัวเองเหมือนกันซักครั้งเลยนี่น่า! แล้วจะให้ฉันเรียกชื่อไหนล่ะ ป๊ะป๋า!!” คำตอบของเด็กหญิงตัวน้อยทำให้ชายหนุ่มถอยหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย เขาเลิกคิดที่จะต่อปากต่อคำกับเด็กหญิงตัวน้อยแล้วตัดสินใจหันมาสนใจกับเส้นทางข้างหน้าต่อในที่สุด
เอฟี่ดูจะเบื่อไม่น้อยกับการเดินทางที่ดูไร้จุดหมายเสียเหลือเกินในสายตาของเธอ ขาเล็กเตะฝุ่นไปตามทาง เธอสังเกตมาซักพักแล้วว่าบริเวณรอบๆนี้แทบจะไม่มีผู้คนผ่านไปมาจนแทบจะเรียกว่าร้างเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้ว่าป๊ะป๋าของเธอจะบอกว่าเกือบถึงแล้วก็ตามที แต่เด็กหญิงตัวน้อยกลับรู้สึกว่าพวกเธอเดินวนอยู่ที่เดินมาตลอดเวลาเพราะเดินทางมาทั้งวัน ตอนนี้เธอก็เริ่มจะล้าเสียด้วย ดวงตาสีฟ้าแปลกประหลาดของเธอจ้องมองแผ่นหลังของชายหนุ่มอย่างชั่งใจ ก่อนจะส่งเสียใสๆออกมา “นี่! ป๊ะป๋าขอขี่หลังหน่อยได้มั้ย!!”
“…” เป็นอีกครั้งที่ชายหนุ่มเหลือบมองเธอด้วยสายตานิ่งๆก่อนที่ริมฝีปากได้รูปจะหยักขึ้นเป็นรอยยิ้มเจ้าเลห์ “ได้สิ ขี่หลังฉัน คิดราคาเบาๆซัก…1แสนเป็นไง”
“!?” หลังจากเรียบเรียงจำนวนเลข0อยู่ในหัวเรียบร้อยแล้ว เด็กหญิงอ้าปากค้าง เธอเดินกระแทกเท้านำหน้าชายหนุ่มไปอย่างอนๆพร้อมกับบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ “ป๊ะป๋าบ้า!!”
“…เอานี่ พวกเราถึงแล้ว” หลังจากเดินต่อมาอีกซักพัก ชายหนุ่มหยุดอยู่หน้าป้ายบอกทางขนาดใหญ่พอประมาณ ดวงตาสีอำพันเหลือบมองเด็กหญิงตัวน้อยข้างกายเล็กน้อย “แล้วก็จำไว้ ว่าให้เรียกฉันว่าเลโอระหว่างที่อยู่ที่นี่”
“เอ๋?”
ชายหนุ่มไม่ได้สนใจสีหน้างุนงงของเอฟี่เท่าไรนัก เขายืนล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ “คำตอบล่ะ?”
“ก็ได้!” เด็กหญิงกอดอกมองก่อนจะฉีกยิ้มออกมาตามประสาเด็ก ดวงตาสีฟ้าแปลกแระหลาดของเธอหันไปสนใจกับป้ายบอกทางตรงหน้าอีกครั้ง คิ้วเรียวขมวดมุ่นจนแทบจะรวมเป็นเส้นเดียวกัน
“เว…เว…”
“เวอร์มิลเลี่ยน” เลโอผ่อนลมหายใจออกมาเมื่อเห็นความสามารถในการอ่านหนังสือของเด็กหญิง “มันเขียนว่าเวอร์มิลเลี่ยนทาวน์”
“ซักวันหนึ่งฉันจะฉลาดขึ้นมากกว่านี!!!” เธอตบมือแปะ พร้อมกับฉีดยิ้มสดใสออกมา
“ไม่มีทางแน่นอน เลิกหวังเถอะ” คำพูดร้ายกาจที่ออกมาจากปากของเลโอทำให้เอฟี่หน้ามุ่ย เธฮทำแก้มป่องอย่างค่อยพอใจเท่าไรนักก่อนจะรีบเดินตามชายหนุ่มไปเมื่อเห็นว่าไม่ยอมสนใจเธอ
“…”
“..”
การเดินทางครั้งนี้เต็มไปด้วยความเงียบและใช่เวลาเพียงไม่นานนัก ในที่สุดหนึ่งชายหนุ่มและหนึ่งเดกหญิงก็เข้ามาในตัวเมือง
ดวงตาสีฟ้าแปลกประหลาดของเอฟี่มองบรรยากาศรอบๆตัวเมืองที่ดูเงียบกว่าปกติราวกับว่าที่เมืองแห่งนี้ไม่มีใครอยู่ เธอรู้สึกว่าบรรยากาศของเมืองนี้มันวังเวงพิกลรวมไปถึงแสงแปลกๆที่ส่องวิบๆวับๆอยู่รอบๆตัวเมืองที่ดูไม่น่าไว้ใจจนอดไม่ได้ที่ขยับเข้าไปใกล้ๆชายหนุ่ม มือเล็กๆเกาะชายเสื้อโค้ทไว้ขณะที่เสียงใสเอ่ยถาม “…แล้ว เราจะทำอะไรต่อ?”
“หาที่พัก…” ชายหนุ่มเอ๋ยตอบ ขาเรียวขาเดินตรงไปพบกับผู้คนมายมากอยู่กลางเมือง รวมกลุ่มยืนมุงดูเด็กสาวผมสีเหลืองออกส้มผูกเป็นหางม้า ใส่หมวกสีส้มมีหูแมว ดวงตาสีเปลือกไม้กลมโตจ้องมองไปที่ชายหนุ่มผมสีดำดูหล่อเหลา เธอชี้นิ้วก่อนประกาศว่า“นายคือคนร้ายในคดีรอบสังหารลูกสาวท่านเจ้าเมืองเวอร์มิลเลี่ยน!!”
ชายหนุ่มผมสีดำมองเด็กสาวด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนที่ริมผีปากจะหยักโค้งเป็นรอยยิ้มแสนอันโรคจิต “ หึๆ ฮ่าๆ ใช่แล้ว ฉันเป็นคนฆ่าลูกสาวท่านเจ้าเมืองเอง ฮ่าๆ ใบหน้าของเธอตอนที่ถูกกรีด…มันช่างงดงาม ฮ่าๆ เสียงของเธอมันช่างไพเราะ หึๆ ฮ่าๆ”
“นายมันโรคจิต…” เด็กสาวผมหน้าม้ามองหน้าชายหนุ่มอย่างเอือมระอา ชายหนุ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั้ง ชาวเมืองพากันวิ่งหนี ฆาตกรหนุ่มหยิบมีดสั้นพุ้งเข้าใส่เด็กสาวผมหน้าม้า เด็กสาวยิ้มเล็กน้อย “คิก คุณนะระวังแขนหักนะค่ะ”
“ฮะ?” ฆาตกรงงกับคำพูดของเด็กสาว จู่ๆมีเด็กสาวผมสีม่วงยาวตรงวิ่งผ่านเอฟี่กับเลโอไปอย่างเร็วตรงไปหาฆาตกรหนุ่มอย่างไปทันตั้งตัว แขนของฆาตกรหนุ่มถูกบิดขึ้นไปเสียงดังกร็อบ
อ๊ากกกกกกกกกกกกก
ฆาตกรหนุ่ซุดลงไปนั่งกับพืน เด็กสาวผมสีม่วงหันไปมองเด็กสาวผมหน้าม้าอย่างไม่พอใจ
“ลินเซอร์!! อย่าทำอะไรโดนไม่คิดจะได้ไหม!! ถ้าเธอโดนแทงขึ้นมาจะว่าไง!!”
“ก็…ฉันรู้นะค่ะว่าไดเนจังต้องมา ฉันเลยพูดออกไปแบบนั้นไงค่ะ”เด็กสาวผมหน้าม้าหรือลินเซอร์ยิ้มแย้มออกมาอย่างอารมณ์ดี
“จริงๆเลย เอาตัวไปได้”เด็กสาวผมสีม่วงหรือไดเนถอยหายใจ ก่อนสั้งให้ตำรวจที่อยู่รอบๆจับตัวฆาตกรหนุ่มไป เลโอและเอฟี่เดินเข้าไปใกล้พวกไดเน
“ฆาตากน?” เอฟี่พูดออกมา เลโอขึ้นกับถอยหายใจ
“ฆาตกรค่ะ” ลินเซอร์ยิ้มก่อนแก้คำพูดของเอฟี่ให้ เธอมองเลโอและเอฟี่ “พวกคุณคงเป็นนักเดินทางใช่ไหมค่ะ”
“ใช่ พวกเราเป็นนักเดินทาง ฉันเลโอ ส่วนนี้เอฟี่” เลโอชี้ไปที่เด็กสาวตัวน้อยข้างๆ
“ค่ะ ฉันลินเซอร์เป็นนักสืบ ส่วนนี้ไดเนเป็นคนคุ้มกันให้ฉันค่ะ” ลินเซอร์ยิ้มแนะนำตัวเองพร้อมเด็กสาวผมสีม่วงให้พวกเลโอรู้จัก
“พวกนายหาที่พักกันอยู่ใช่ไหม?” ไดเนพูดขึ้น
“ใช่”
“ไปกับพวกเราไหมค่ะ ฉันกำลังไปหาที่พักพอดี มีคุกกี้ด้วยกินไหมค่ะ”ลินเซอรืยื่นคุกกี้ให้เอฟี่ เด็กสาวตัวน้อยรับคุกกี้มากินอย่างอร่อย
“ก็ดี..”
ตึก ตึก ตึก
เลโอ เอฟี่ ลินเซอร์ ไดเนเดินเข้าโรมแรมเพื่อหาที่พัก
“มีห้องว่างไหมค่ะ” ไดเนเดินเข้าไปถามพนักงาน
“ค่ะ มีว่างอยู่แค่2ห้องค่ะ”
“งั้นเอาทั้ง2ห้องค่ะ”
“ค่ะ นี่ค่ะ” พนักงานยื่นกุญแจห้องให้ไดเน ไดเนกล่าวขอบคุณก่อนเดินส่งกุญแจให้เลโอ
“ขอบคุณ” เลโอรับกุญแจ เขาเดินไปที่ห้องพักพร้อมสาวๆ ไดเนและลินเซอร์พักห้องข้างๆเขากับเอฟี่
ความคิดเห็น