วิธีเล่น การ์ดวันเดอร์สเปล - วิธีเล่น การ์ดวันเดอร์สเปล นิยาย วิธีเล่น การ์ดวันเดอร์สเปล : Dek-D.com - Writer

    วิธีเล่น การ์ดวันเดอร์สเปล

    รวบรวมรายละเอียดวิธีเล่นทั้งหมด สมบูรณ์แบบที่สุด ที่เดียว

    ผู้เข้าชมรวม

    647

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    647

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    2
    หมวด :  แฟนตาซี
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  22 ก.ค. 51 / 20:50 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      วิธีเล่น Wonderspell


      การ์ด Wonder Spell [WS] จะมีอยู่ 3 ชนิด คือ Crystal , Soul และ Wonder

      Crystal ---- เป็นการ์ดหลัก ที่ผู้เล่นต้องร่ายลงมาในสนามเป็นใบแรก ถือเป็นแหล่งพลังงานของผู้เล่น
      Soul ------ เป็นการ์ดนักสู้ ,ตัวละคร หรือ พวกมอนสเตอร์
      Wonder ------ เป็นการ์ดเวทย์ หรือดวงชะตา ไอเทมต่างๆ ไว้คอยเสริม
      สำหรับการเล่นเบื้องต้นสำหรับ 1 เด๊ก จะมีการ์ดจำนวนดังต่อไปนี้ แบ่งเป็น 2 กอง
      กอง Soul มี 25 ใบ พอดีไม่ขาดไม่เกิน                                        กอง Wonder ขั้นต่ำ 20 ใบ

      รายละเอียดบน Soul .....


      a. ชื่อการ์ด b. ธาตุ c. อาชีพ (Job) และ ค่าประสบการณ์ (Exp)

      d. ค่าร่าย Mana e. ค่าพลัง โจมตี ( At ) และป้องกัน ( Df )

      f. ค่าพลังใหม่ ตาม เลเวล ของ Crys tal g. ความสามารถ (สเปล / เอบิลิตี้)

      h. ความสามารถ เฉพาะ ของอาชีพ

      Wonder...

      a. Mana (ค่าร่าย) b. ชื่อ

      c. ลักษณะการใช้ในกรณีนี้คือ " PS" ( แปะบน Soul ) และ เวลาอยู่ในสนาม

      d. ประเภทของการ์ด e. ความสามารถของการ์ด

      f. * ถ้ามี...สามารถซื้อเอาจากกองการ์ดได้ตามราคา

      บรรดาตัวละครต่างๆ จะมีธาตุ และ อาชีพ เป็นของตัวเอง

      ซึ่งธาตุในเกม วันเดอร์ สเปล จะมีทั้งหมด 6 ธาตุด้วยกัน

      แสงสว่าง

      พลังศักดิ์สิทธิ์ และการปลดปล่อย มีการต่อต้านคำสาปสูง และการควบคุม

      ดิน

      พลังแข็งแกร่ง และความมั่นคง ป้องกันการโจมตีและเวทย์มนตร์สูงสุด

      น้ำ

      พลังความเย็น และความสงบ มีทรัพยากรสมบูรณ์ และสร้างความได้เปรียบในการต่อสู้

      ลม

      พลังเคลื่อนไหว และเปลี่ยนแปลง ต่อสู้ได้อย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง หลากหลาย

      ไฟ

      พลังความร้อน และรุนแรง มีการทำลายล้างสูงสุด การโจมตีและเวทย์มนตร์สูง

      ความมืด

      พลังด้านลบ และแรงดึงดูด ความสามารถพิเศษสูง พลิกแพลงได้ตามสถาณการณ์

      ประเภทของ WONDER CARD

      1. Fortune --- การ์ดดวงชะตา และเหตุการณ์ต่าง ๆ ส่งผลได้หลากหลายรูปแบบ

      2. Item --- การ์ดสิ่งของต่างๆ ส่วนใหญ่สามารถ"ซื้อ" เอาได้

      3. Limit --- การ์ดความสามารถเฉพาะของอาชีพ เมื่อแปะบน Soul

        Soul นั้น จะได้ความสามารถเพิ่มตามที่ระบุไว้

        ลักษณะการใช้ จะมีบ่งบอกไว้ถ้าเป็น

        "PS" คือ มีเป้าหมายไปยัง Soul และแปะบน Soul นั้น

        "PA" คือ มีเป้าหมายไปยัง สนาม (Arena)

        ถ้าไม่มี ก็แสดงว่าใช้ได้ทั่วไป

      CRYSTAL และการร่ายการ์ด

      Crystal เป็นหัวใจหลักของการ์ดเกมนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนแหล่งพลังงานของผู้เล่น (Mana)

      ซึ่ง Mana ก็คือค่าร่าย เวลานำการ์ดเข้ามาในสนามจากมือก็ เรียกว่าการร่ายการ์ด

      และหัวใจสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือ ทำให้ นักสู้ และตัวละครของเราแข็งแกร่งขึ้นถ้าหาก

      Crystal ของเรา มีเลเวล ที่เพิ่มขึ้น ( LEVEL UP )

      Level Up

      การอัพ เลเวล นั้นทำได้ก็ด้วย การรวม Crystal กับ Soul เรียกว่า การรวมร่าง

      ทำให้ Crystal มีค่า Exp เพิ่มขึ้นตามค่า Exp ของ Soul ทั้งหมดที่รวมร่างกับ Crystal

      การ์ด Soul จะมีพลังเพิ่มขึ้น ตาม LEVEL ของ Crystal โดย เริ่มต้นจะมี LEVEL 1 – 5

      แต่ทั้งนี้ การ์ด Soul จะพลังเพิ่มขึ้นได้ต้องใช้ Crystal ให้ถูกประเภทด้วย เช่น เล่น ธาตุไฟ ก็ต้อง

      ใช้ Crystal ไฟ เป็นต้น *** Soul ที่จะรวมร่างต้องอยู่ในสนามครบ 1 turn ก่อนถึงจะรวมได้
       

      --Refresh--

      เมื่อจบ Sub turn ผู้เล่นที่ใช้ ค่าร่าย(Mana) หมดไปแล้ว ก็จะได้การเติมให้เต็มเหมือนเดิม โดยตอนแรกผู้เล่น จะมี 7 Mana ถ้า หากเลเวล อัพสูงสุดก็จะมีเพียง 3 Mana ต่อ 1 Sub turn

      การแพ้ - ชนะ ใน Wonder Spell

      ผู้เล่น ที่ไม่มี การ์ด Crystal และ Soul อยู่ในสนามเลยจะเป็นผู้แพ้

      ทั้งนี้ผู้เล่นจะมี Crystal เพียง 1 ใบเท่านั้น แต่หากถูกทำลาย ก็สามารถ เรียกมาใหม่จากสุสานได้แต่ต้องมี เงินเพียงพอตาม ราคาของ Crystal นั้น

        รูปแบบสนาม (Arena) ของ Wonder Spell

        แบ่งเป็น 2 แถวคือ AT line และ DF line

        AT line (วางไว้แถวหน้า) โดยปกติแล้ว Soul ที่อยู่ในไลน์นี้เท่านั้นที่จะโจมตีได้ และเมื่อทำการ

        ต่อสู้ จะเทียบค่า AT กัน ถ้าฝ่ายใดมีพลังมากกว่าก็ชนะไป ถ้าเท่ากันก็จะถูกทำลายทั้งคู่ ตก

        ไปยัง สุสาน

        DF line (วางไว้แถวหลัง) Soul ที่อยู่ในไลน์นี้ จะปลอดภัยจากการโจมตี ตราบเท่าที่ ยังมี Soul

        ฝ่ายเราอยู่ที่ AT line และเมื่อถูกโจมตี เราจะเอาค่า DF ไปเทียบ กับค่าพลังของคู่ต่อสู้

        ถ้าเราน้อยกว่าก็จะถูกทำลายไป แต่ถ้าเท่ากันหรือมากกว่า จะไม่เกิดอะไรขึ้นทั้ง 2 ฝ่าย

        คือคู่ต่อสู้ไม่ถูกสวนกลับนั่นเอง

      การโจมตี เมื่อ เราสั่ง Soul โจมตี ก็จะต้องเลือกเป้าหมาย ที่สามารถโจมตีได้ และ Soul ที่ถูกโจมตี ก็จะทำการ สวนกลับ ซึ่ง เรียก Soul ทั้ง 2 นี้ว่า เป็น Soul ที่กำลังต่อสู้กัน

      หากเกิด เหตุการณ์ ที่ทำให้เป้าหมาย หายไป หรือไม่สามารถถูกโจมตีได้ ก็จะต้องหาเป้าหมายใหม่ที่สามารถโจมตีได้ (ถูกบังคับนั่นเอง) ทั้งการร่ายการ์ด หรือใช้ สเปลก็ตาม

      SPELL

      "สเปล" เป็นความสามารถ ที่ผู้เล่นต้องสั่งใช้ จะมีคำว่า

      -Spell- อยู่ด้านหน้าข้อความ ในการ์ดนั้นๆ

      โดยปกติก็จะไม่มีเงื่อนไข แต่บางอย่างก็มีเงื่อนไข เช่น

      "ชาโดว ไนแมร์" ใช้ {Lv. 2: -Spell- Soul 1 ใบในสนาม Sleep curse 1 turn}

      หมายความว่า จะใช้ Spell นี้ได้ "ชาโดว ไนแมร์" ต้องมี Level ตั้งแต่ 2 ขึ้นไป

      Spell Damage

      เป็น Spell แบบทำลาย เช่น

      "ซีออนเบอรี่" ใช้ {Lv.2: -Spell- Wind bolt 6 Dmg}

      หมายความว่า "ซีออนเบอรี่" ใช้ Spell ใส่เป้าหมาย ถ้า เป้าหมายมี ค่า Df น้อยกว่า 6

      Job นั้น จะถูกทำลายไป (เทียบค่า Df ไม่ว่าเป้าหมาย จะอยู่ใน ไลน์ใดๆ)

      ABILITY

      เป็นวิชา ความสามารถ ที่ไม่ใช่ Spell และจะเกิดได้โดย อัตโนมัติ มักจะมีคำว่า

      "เมื่อ..........." อยู่หน้าประโยค เช่น

      "ซีออนเบอรี่" มี Ability ----- "เมื่อเข้ามาในสนามป้องกันการโจมตี (1 turn)"

      ความสามารถนี้ จะเกิด ตอนที่ "ซีออนเบอรี่" เข้ามาในสนาม

      ABILITY แบบมีเงื่อนไข

      ก็เช่นเดียวกับ Spell คือต้องมีค่า Lv. ไม่น้อยกว่าที่ระบุไว้

      ถึงจะเกิดความสามารถนี้ ดังที่ได้กล่าวมาแล้ว

      การจั่วการ์ด ทิ้งการ์ด

      เมื่อเข้าสู่ Subturn โจมตี ของผู้เล่นจะต้องทำการจั่วการ์ด จากกอง ซึ่งต้องจั่วอย่างน้อย

      1 ใบ แต่ไม่เกิน 2 ใบ และผู้เล่นจะถือการ์ดในมือได้ไม่เกิน 7 ใบ ถ้าเกินก็ต้องทิ้งการ์ด ลงไปสุสาน

      **ถ้าผู้เล่นคนใดไม่มี Crystal และ Soul อยู่ในสนามเลย จะถือว่าแพ้การแข่งขัน

      Zone สุสาน (Broken Zone)

      การ์ด ที่ถูกทำลาย หรือถูกทิ้ง ฯลฯ จะตกลงใน สุสาน

      STEP

      เมื่อผู้เล่นคนแรก เริ่มเล่นจะเรียกว่า เป็น "Subturn โจมตี"ของผู้เล่นคนนั้น ส่วนอีกฝ่ายจะเรียกว่า เป็น "Subturn ป้องกัน" ของผู้เล่นอีกฝ่าย เมื่อผู้เล่นคนแรก บอก "ผ่าน " ก็จะเข้าสู่

      Subturn ป้องกัน แทนผู้เล่นอีกฝ่าย ซึ่งผู้เล่นอีกฝ่ายจะได้เป็นผู้โจมตี สลับกันไปเรื่อยๆ

      (สลับกันโจมตีนั่นเอง)

      เมื่อผู้เล่นคนแรกได้กลับมาเป็นฝ่ายโจมตี อีกครั้ง เรียกว่า ครบ 1 Turn (ครบรอบ)

      ใน 1 Turn จึงเท่ากับ 2 Subturn ( Subturn โจมตี + ป้องกัน)

      ปกติผู้เล่นจะสั่งการการ์ด ใดๆก็ได้ ต่อเมื่อ อยู่ใน Subturn โจมตี ของตัวเองเท่านั้น

      ยกเว้น การ์ดที่มีความสามารถ Quick Step


      จะมีรูป "ลูกไฟ " กับกับไว้ในการ์ด หรือตรง ข้อความ ที่เป็น Quick Step

      โดย Quick Step นี้ผู้เล่น จะสั่งการได้ ใน Subturn ป้องกันของตนเอง และ

      Subturn โจมตี ด้วย โดยถือว่าจะเกิดผล ก่อนการ์ดที่ ไม่มี Quick Step

      และ ถ้าการ์ด ที่มี Quick Step ด้วยกันจะถือว่า การ์ดที่ร่าย(ใช้) ทีหลังจะเกิดผลก่อน

      การ์ดที่ร่าย(ใช้) เสมอ

      Active - Wait ----- การ์ดทุกชนิดถ้ายังไม่ได้สั่งการใดๆ จะมีสภาพเป็น Active
      อยู่ ถ้าสั่งการไปแล้ว จะมีสภาพ Wait (รอ) คือจะไม่สามารถสั่งการการ์ดนั้นได้
      จนกว่าจะเข้าสู่ subturnใหม่

      เมื่อผู้เล่นสั่งการ การ์ด ไม่ว่าจะอยู่ใน Zone ใดๆ การ์ดนั้นจากสภาพ Active จะกลายเป็น Wait

      การสั่งดังกล่าวหมายถึง

      1. การโจมตี (ปกติจะโจมตีได้เมื่ออยู่ At line เท่านั้น)

      2. การใช้ Spell (ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้สำหรับการ์ดใบนั้น)

         

        Seed [$] เงินและการขุด ITEM
        อันนี้เป็นระบบที่ผู้เล่นจะมีเงิน คนละ 300 $ เอาไว้ "ขุด"ของพวก ไอเทม ต่างๆ

        ซึ่งการขุดก็คือ การที่ผู้เล่นมีไอเท็มอยู่ในสุสาน แล้วประกาศ "ขุด" หักเงินตามราคาของไอเท็มที่เลือกนั้นที่อยู่ในสุสาน แล้วนำการ์ดนั้นกลับขึ้นมือ

        การสั่งซื้อ ได้เฉพาะใน SubTurn โจมตีของเราเท่านั้นและได้ทีละ 1 ใบ ต่อ 1 เทิร์น

      ระบบ Limit (ท่าเฉพาะของแต่ละอาชีพ)
      ส่วนอันนี้ เป็นการเพิ่มความสามารถ หรือ สเปล ต่างๆ ให้กับ"โซล" ของเรา
      ขึ้นอยู่กับว่า "โซล" เราจะอยู่ใน "อาชีพ" ไหน
      ที่มี ระบบลิมิต รองรับ (มักจะมีอยู่ในการ์ดที่เก่งๆ)


      เช่น Wizard Limit / Knight Limit / Ninja Limit

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×