ข้อมูล

ลำดับตอนที่ #54 : DotA Allstars Heroes

 

สงครามระหว่างเอลฟ์ จุดกำเนิดแห่งความวิปโยค

ในโลกอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ที่ได้ชื่อว่า อเซอร์รอธ (Azeroth) ถูกสร้างโดยเทพเจ้าไททัน มีสิ่งมีชีวิตมากมายก่อกำเนิดในโลกแห่งนี้ เมื่อนานมาแล้ว  จอมอสูรซาร์เจอร์ราส (Sargeras) ซึ่งเป็นด้านมืดของเทพเจ้าไททัน กับกองทัพอสูร สิงสถิตในดินแดนที่ห่างไกลเรียกว่า มิตินรก (Twisting Nether) พวกมันรอคอยเวลาที่จะมีใครสักคนสำแดงด้านมืด เปิดประตูที่เชื่อมต่อระหว่างโลกอเซอร์รอธกับมิตินรก

 

กระทั่ง ในกาลหนึ่ง สิ่งมีชีวิตที่ได้รับพลังจากธรรมชาติและพลังอมตะ พวกเขาเรียกตัวเองว่า คัลโดไร (Kal'dorei) แปลว่า ลูกหลานแห่งดวงดาว พวกเขาก็คือ Night Elve ชนเผ่าที่พึ่งพิงพลังธรรมชาติในป่าเขาลำเนาไพร ใช้ชีวิตอยู่อย่างสงบสุขนับหมื่นๆปี แต่แล้วความแตกต่างของชนชั้นวรรณะ ก็ทำให้พวกไนทเอลฟ์กลุ่มหนึ่งคิดว่าตนสูงส่งกว่า จึงพากันไปตั้งเผ่าใหม่เรียกตัวเองว่า เควลโดไร (Quel'dorei) แปลว่า ลูกหลานของผู้มีชาติกำเนิดอันสูงส่ง ซึ่งเรียกอีกอย่างว่า ไฮโบร์น (Highborne) พวกเขาเหมือนไนท์เอลฟ์ดั้งเดิมทุกอย่าง เว้นแต่ว่า พวกเขามีระบบการปกครองแบบชนชั้น และที่สำคัญที่สุด พวกไฮโบร์นหลงใหลในสิ่งที่เรียกว่าเวทมนตร์ ต่างจากพวกไนท์เอลฟ์ที่พึ่งพลังธรรมชาติ 

 

เห ล่าไฮโบร์นปกครองโดยราชินีผู้เลอโฉมพระนามว่า แอสชาร่า (Queen Azshara) พระนางกับเหล่าไฮโบร์นสร้างเมืองที่สวยงาม โดยใช้ซากโบราณสถานแห่งหนึ่งซึ่งในอดีตนานมาแล้วเคยเป็นเมืองของพวกไน ท์เอลฟ์ พระนางบูรณะจนกลายเป็นเมืองศรีวิไลซ์ ใช้ชื่อว่า ซิน-แอสชารี (Zin-Azshari) ซึ่งไม่ใช่เมืองในป่าในเขาแบบพวกไนท์เอลฟ์ หลังจากนั้นพระนางกับเหล่าไฮโบร์นก็เริ่มศึกษาเรื่องเวทมนตร์จนพบว่าพลัง เวทมนตร์ของพวกปีศาจ เป็นเวทมนตร์ที่มีพลังอย่างมาก พวกไฮโบร์นหลงใหลและกระหายในเวทมนตร์จนถึงขั้นบางพวกยอมยกจอมอสูรซาร์เจอร์ ราวให้เป็นเทพเจ้าของตน

 

ที่ สุดแล้ว พระนางกับเหล่าไฮโบร์นยังพบว่ามีพลังงานบางอย่างเป็นเวทมนตร์ที่มีพลัง มหาศาลส่งออกมาจากบ่อน้ำนิรันดร์ (Well of Eternity) พระนางจึงเริ่มดึงพลังจากบ่อน้ำนิรันดร์ ส่งผลให้เกิดช่องว่างของมิติ กลายเป็นประตูที่จะเชื่อมต่อโลกอเซอร์รอธกับมิตินรก เรื่องนี้รู้ไปถึง พ่อมดดรูอิดนามว่ามัลฟูเรี่ยน สตอร์มเรจ (Malfurion Stormrage : ต้นแบบฮีโร่ Prophet) กับน้องชายฝาแฝดนามว่า อิลลิดัน สตอร์มเรจ (Illidan Stormrage : ต้นแบบฮีโร่ Antimage) รวมทั้งนักบวชสาวแห่งเทพีอีลูนนามว่า ไทรันดา วิสเปอร์วินด์ (Tyrande Whisperwind : ต้นแบบฮีโร่ Priestess of The Moon) 

 

ทั้ง สามคนเป็นไนท์เอลฟ์มาโดยตลอด เติบโตเคียงข้างกันเสมอ และยังเป็นศิษย์ของเซนาเรียส ผู้เป็นกึ่งเทพ (Cenarius : ต้นแบบฮีโร่ Tormented Soul) มัลฟูเรี่ยนกับอิลลิดันต่างก็หลงรักไทรันดา แต่หญิงสาวกลับมีใจให้คนพี่เท่านั้น มันอาจจะดูเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่ทว่าในตอนท้ายมันกลับส่งผลร้ายกาจต่อพวกเขา เมื่อพวกล่วงรู้เรื่องการที่ราชินีแอสชาร่าจะเปิดประตูมิติเพื่อให้พวกกอง ทัพอสูรเดินทางเข้ามาสู่โลกอเซอร์รอธ พระนางกระหายในพลังเวทมนตร์ของพวกปีศาจจนหลงลืมว่าโลกอเซอร์รอธอาจถึงคราว พนาศ มัลฟูเรี่ยนกับไทรันดาพยายามคิดหาทางหยุดยั้ง แต่อิลลิดันกลับอยากรู้อยากเห็นว่าพลังเวทมนตร์ของพวกปีศาจจะเป็นอย่างไร 

 

มัล ฟูเรี่ยนกับไทรันดาคิดว่าคงไม่อาจต่อกรกับเหล่าอสูรได้ หนทางเดียวที่เหลือที่จะหยุดยั้งแผนการของราชินีแอสชาร่า ก็คือการทำลายบ่อน้ำนิรันดร์ อิลลิดันที่ล่วงรู้เรื่องนี้ และมีความคิดต่าง เขาเองก็กลายเป็นพวกไฮโบร์นที่กระหายในเวทมนตร์ไปแล้ว ซ้ำร้าย เขายังรู้สึกผิดหวังในความรัก จึงทรยศด้วยการไปตักเตือนเหล่าไฮโบร์นว่าพวกไนท์เอลฟ์จะยกกำลังมาทำลายบ่อ น้ำนิรันดร์ จึงเป็นสาเหตุให้เกิดสงครามระหว่างไนท์เอลฟ์กับไฮโบร์น

 

มัล ฟูเรี่ยนกับไทรันดาเป็นกองทัพหน้าบุกพระราชวังของราชินีแอสชาร่า พวกไฮโบร์นเตรียมกำลังสู้รบไว้แล้ว แต่ก็ไม่อาจทัดทานพวกไนท์เอลฟ์ได้ สายเลือดเอลฟ์ต้องฆ่าฟันกันเอง จนกระทั่งไทรันดาพลาดท่าและได้รับบาดเจ็บ มัลฟูเรี่ยนเห็นดังนั้นก็ร่ายมนตร์กิกาแอนติคเกล (Gigaanticgale) พัดทำลายพวกไฮโบร์นกระจัดกระจายไปคนละทาง แผ่นดินไหวสั่นสะเทือน แรงพลังงานกระทบกระแทกบ่อน้ำนิรันดร์จนมันเกิดปฏิกิริยาบางอย่าง

 

ประ มิติที่กำลังจะเปิดออก ถูกปิดลงไป พร้อมกับดูดกลืนสิ่งต่างๆที่อยู่รอบๆ จากนั้นเกิดเสียงดังกึกก้องกัมปนาทพร้อมกับการระเบิดเป็นเสี่ยงของบ่อน้ำนิ รันดร์ พระราชวังของราชินีแอสชาร่าจมลงสู่มหาสมุทรพร้อมกับเหล่าไฮโบร์นส่วนหนึ่ง จบสิ้นแล้วเหตุการณ์ที่เรียกว่า The Sundering 

 

ผล จากแรงระเบิดและพลังงานบางอย่างจากบ่อน้ำนิรันดร์ ทำให้ราชินิแอสชาร่ากับเหล่าไฮโบร์นส่วนหนึ่ง กลายพันธุ์ไปเป็นพวกนากา (Naga) สร้างสังคมอยู่ใต้บาดาล โดยพวกไฮโบร์นเพศชายจะมีร่างกายที่ใหญ่โตแข็งแกร่งมากขึ้น ใบหน้าคล้ายมังกร ใช้หอกไทรเด็นท์เป็นอาวุธ สูญเสียความสามารถด้านเวทมนตร์ (พวกนี้มีโมเดลเดียวกับ ฮีโร่ Slithereen Guard ใน DotA) บางส่วนกลายพันธุ์ไปเป็นพวกนากาลอร์ด ส่วนไฮโบร์นเพศหญิง ร่างกายแบบบาง ใบหน้ายังคงความงดงามเหมือนตอนเป็นไฮโบร์น มีแขนงอกเพิ่มขึ้นมา และยังคงมีความสามารถในด้านเวทมนตร์ (มีโมเดล2แบบคือ Naga Siren ซึ่งเป็นต้นแบบฮีโร่ Naga Siren และอีกแบบคือ Naga Seawitch เป็นต้นแบบฮีโร่ Gorgon) และตำแหน่งใจกลางโลกอเซอร์รอธที่เคยเป็นที่ตั้งของบ่อน้ำนิรันดร์ ก็กลายเป็นอาณาบริเวณที่เต็มไปด้วยพายุและฟ้าแลบแปลบปลาบ เรียกกันว่า Mael Storm

 

เรื่อง ราวเหมือนจะลงเอยด้วยดี เพราะมัลฟูเรี่ยนกับไทรันดารอดชีวิต นำพาผู้คนไปอาศัยที่เทือกเขาไฮจาล แต่ทว่าอิลลิดันก็รอดชีวิตด้วย ซ้ำยังปรากฏตัวพร้อมนำขวดแก้วที่ใส่น้ำอมฤตจากบ่อน้ำนิรันดร์ติดตัวมาด้วย เขาเทมันลงไปยังทะเลสาบไฮจาล หวังจะให้บ่อน้ำนิรันดร์กำเนิดขึ้นอีกครั้ง มัลฟูเรี่ยนรู้สึกผิดหวัง เกรงว่าน้องชายของตนจะสร้างความเดือดร้อนแห่งชาวไนท์เอลฟ์ และอาจนำหายนะมาสู่โลกอเซอร์รอธ เขาจึงจับกุมตัวอิลลิดันกักขังไว้ใต้ภูเขาไฮจาลนับแต่นั้นมา ส่วนทะเลสาบไฮจาลนั้น ได้กลายเป็นบ่อน้ำนิรันดร์ไปแล้ว และผลจากเหตุการณ์ The Sundering ที่น่ากลัว ทำให้มัลฟูเรี่ยนกับพวกไนท์เอลฟ์ไม่กล้าที่จะทำลายบ่อน้ำนิรันดร์ 

 

มัล ฟูเรี่ยนจึงปรึกษากับเซนาเรียสและผู้พิทักษ์มังกรทั้งสาม ได้ข้อสรุปว่า จะต้องปลูกต้นไม้อันเป็นขุมพลังวิเศษ ให้มันปกป้องบ่อน้ำนิรันดร์แห่งนี้เอาไว้ ต้นไม้วิเศษที่ว่าก็คือต้นไม้แห่งโลกา (World Tree) ในการปลูกต้นไม้นี้ ผู้พิทักษ์มังกรทั้งสามใช้ผลโอ๊ค เนรมิตให้มันมีอายุยืนยาวชั่วกัลป์ นั่นจึงส่งผลให้ไนท์เอลฟ์มีอายุขัยเป็นอมตะนิรันดร์กาลไม่มีวันป่วย ไม่มีวันละสังขาร

 

ความสงบสุขในโลกอเซอร์รอธ มีมาแต่บัดนั้น แต่ก็เพียงหมื่นปีเท่านั้นเอง...