ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    {FIC EXO} All of my pleasure about ChanBaek

    ลำดับตอนที่ #24 : - Hide and Seek - 8 Chanbaek

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.66K
      14
      1 ก.พ. 57




    HIDE AND SEEK
    .. ถ้าผมวิ่งพี่อย่าตามผมนะ..




    8





     

     

     

     

     

    พี่ครับ แบคฮยอนเป็นคนอ่อนแอ..ร่างกายไม่แข็งแรงมาแต่เล็ก.. ตอนเกิดมาก็เกือบจะไม่รอด เห็นคุณแม่บอกว่าอยู่ตู้อบตั้งหลายเดือน พอแบคฮยอนได้ขวบหนึ่ง พ่อแม่ผมก็ย้ายมาอยู่บ้านข้างๆ ตลอดหลายปี เขาแทบไม่ได้ออกจากบ้านเลย เพราะร่างกายเขาน่ะครับ เลยไม่มีเพื่อนวัยเดียวกันเล่นนอกจากผม แต่พอซักหกขวบร่างกายก็ดีขึ้น พวกเราเลยฉลองพาเขาไปเดินเล่นแถวๆแม่น้ำฮัน..’

     

    หลักจากพลัดตกน้ำร่างกายที่ควรจะสมบูรณ์ดีกลับเป็นอย่างนี้น่ะครับ พอถึงวัยต้องเข้าโรงเรียนเขาก็ผูกมิตรกับเพื่อนไม่ค่อยได้ด้วยความที่เล่นกลางแดดคลุกฝุ่นไม่ได้ เลยโดนคนอื่นแกล้งเป็นประจำเลยครับ แถมโดนล้อเลียนในห้องเรียนบ่อยๆ เลยเป็นคนไม่ค่อยยอมพูดมาตลอด

     

    แต่เขาเป็นเด็กที่จิตใจดีที่สุดที่ผมเคยเจอมา เขาถึงเป็นของรักของพวกเรา ของครอบครัว..ส่วนเรื่องของพี่ พวกเราทุกคนรู้ดี เราเต็มใจที่จะให้พี่เข้ามา..แต่แบคฮยอนน่ะคิดมากเกินไป..รักพี่มากเกินไป เขาบอกว่าพี่กับเขาต่างกันมาก

     

    ชานยอลยังจำน้ำเสียงในตอนท้ายของคยองซูและสีหน้านั้นได้ไม่เคยลืมเลือน

     

    อย่าเพิ่งถอดใจกับแบคฮยอนเลยนะครับ ผมขอร้อง..เรื่องนี้ต่อให้ผมช่วยอะไรยังไงเขาก็ไม่รู้สึกดีขึ้นหรอกดีถ้าไม่ใช่พี่...เพราะงั้นผมขอฝากของรักของผมให้พี่ทีนะครับ..’

     

    ชานยอลยังจำคำพูดนี้ได้ มันติดอยู่ในใจของเขาเอง มือใหญ่กอบกุมมือเล็กของคนที่นอนไม่ได้สติอยู่ตรงหน้า เครื่องช่วยหายใจถูกใส่ระโยงระยาง เต็มไปหมดจนชานยอลรู้สึกไม่ชอบใจเอาเสียเลย

     

    แต่รู้ว่ายังไงก็ถอดมันไม่ได้

     

    พี่ชานยอลไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะครับ เดี๋ยวผมกับไคจะอยู่เฝ้าให้ก่อนคยองซูว่าพลางบอกคนที่ไม่ยอมลุกไปไหนตั้งแต่หมอบอกอาการเสร็จแล้ว หากชานยอลกลับส่ายหน้า

     

    ไปเถอะมึง ถ้าแบคฮยอนตื่นขึ้นมาเห็นมึงไม่สบายจะไม่แย่กว่าเดิมหรอ..รีบเปลี่ยนแล้วจะได้รีบออกมา แบคฮยอนคงไม่ตื่นตอนนี้หรอก..”จงอินเดินมาจับไหล่เพื่อนเพื่อบอก ชานยอลจึงพยักหน้ารับ แล้วรีบไปอาบน้ำเพื่อกลับมานั่งอยู่ที่เดิม

     

    ที่ตรงเก้าอี้ตัวเดิมที่เขานั่งอยู่ก่อนหน้านี้ กลับมากุมมือเล็กๆของอีกคนไว้ มือเย็นเยียบที่เขาอยากให้มันอบอุ่นอยู่ตลอดเวลา

     

    จงอินและคยองซูกลับไปแล้ว บอกว่าจะกลับไปคุยกับพ่อแม่ของแบคฮยอนก่อน ในห้องจึงเหลือแค่เขากับคนตัวเล็กที่ยังหลับไม่รู้เรื่องรู้ราวเท่านั้น

     

    เจ็บมากไหมตัวเล็ก ทรมานหรือเปล่า..พี่ชานยอลอยู่ตรงนี้นะ พี่ไม่โกรธเลยที่ตัวเล็กทำให้พี่เสียใจ แต่ช่วยตื่นมาคุยกับพี่ทีนะมือข้างหนึ่งค่อยๆลูบผมเส้นเล็กที่ลู่ลงแนบหมอน

     

    ชานยอลใจไม่ดีเลย เมื่อยามที่เขาพาร่างเล็กมาหาหมอ และหลังจากนั้นไม่นานพ่อแม่ของคนตัวเล็กก็ตามมาเช่นกัน

     

    คนไข้พักผ่อนน้อย และเครียดจัดเลยทำให้ใช้ร่างกายมากกว่าปกติ และตอนนี้หมอวิตกเรื่องคนไข้อาจเสี่ยงทำใหเเป็นโรคหัวใจได้ เพราะเนื่องจากผนังหัวใจของคนไข้ค่อนข้างบางกว่าคนปรกติ เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้ ก็พยายามอย่าให้เขาเครียดมาก

     

    ชานยอลไม่สบายใจเลยซักนิด คิดแล้วคิดอีกว่าหากอีกคนตื่นขึ้นมาแล้วคงต้องมีเรื่องให้คุยกันโดยเร็ว เพราะดูเหมือนว่าทั้งชีวิตแบคฮยอนน่ะไม่เคยเครียดเรื่องไหนเลย เห็นจะมีก็แต่เรื่องของเขาเท่านั้นเอง

     

    ตื่นมาเถอะนะ..มองหน้าให้กำลังใจพี่ซักนิดนึง..”ชายหนุ่มแนบมือเล็กลงที่กับหน้าผากของตน ไหล่ที่ตั้งตรงนั้นลู่ลงอย่างเห็นได้ชัด

     

    ความรักนี่ก็น่าแปลกนะ พอได้รักแล้ว..ไม่ว่าเราจะไม่เคยรู้จักกันเลย หรืออยู่ห่างฟ้าแสนไกล แต่พอพบหน้าเท่านั้น กลับเกิดความรู้สึกบางอย่างที่หัวใจแล้วไม่อยากให้หนีหายไปไหนอีกเลย

     

    พี่....ชยอล..”เสียงเรียกและแรงกุมมืออันน้อยนิดทำให้ชายหนุ่มรีบเงยหน้าขึ้นมอง

    ตัวเล็ก..เป็นยังไงบ้าง..เดี๋ยวพี่เรียกคุณหมอให้นะชานยอลจูบซับหลังมือเล็กทำท่าจะเรียกแพทย์อย่างที่ว่าหากมือเล็กนั้นกลับจับอีกคนเอาไว้ก่อน จนชานยอลต้องกลับนั่งลงที่เดิม

     

    ขอโทษ..แบคฮยอน..ขอโทษแบคฮยอนพูดคำขอโทษออกมาเสียจนน้ำตาไหลเป็นทาง เสียงอู้อี้ผ่านที่คลอบปากอ๊อกซิเจนทำให้คำพูดไม่ชัดเจนแต่ชานยอลกลับได้ยินชัดเหลือเกิน

     

    ขอโทษพี่ทำไม..ไม่ต้องขอโทษชานยอลแนบหน้าผากของตัวเองลงไปกับหน้าผากมน ยิ้มหวานให้กับคนตัวเล็ก ให้อีกฝ่ายนึกสบายใจ หากกลับยิ่งทำให้อีกคนสะอึกสะอื้น

     

    อย่าร้องไห้ซิครับ...คยองซูเล่าให้พี่ฟังแล้ว..วันหลังอย่าคิดมากคนเดียวอีกนะ..”ชานยอลบอกอีกฝ่ายเบาๆไม่วายกดจูบหน้าผากเนียนไปอีกที ราวกับรับขวัญอีกคนยอมลืมตาขึ้นมาหา

     

    แบคฮยอนได้แต่พยักหน้าตอบอีกฝ่ายช้าๆ ตอนนี้เขารู้สึกเหนื่อยหมดแรงเหมือนคนที่ออกแรงวิ่งมาไกล ทั้งที่ชานยอลต่างหากคือคนที่ทำแบบนั้น

     

    หัวใจพี่จะวายตายให้ได้เลยรู้ไหม..”

    ผม....ฮึก คิดว่าจะไม่ได้เห็นพี่แล้ว ผมกลัวแบคฮยอนสารภาพออกมาน้อยๆ

     

    วินาทีที่เขากำลังหมดสติ เขาเพียรนึกถึงแต่ชานยอลและคิดว่าอะไรเสียใจกว่ากันนะ ระหว่างความรักที่มีอุปสรรคกับการไม่ได้เห็นหน้าคนที่เขารักอีกเลย

     

    คำตอบคือการที่เขาไม่เห็นหน้าชานยอลอีก

     

    พี่รู้ไหม ใครบางคน ฮึก ที่ทิ้งให้พี่ยืนอยู่ตรงนั้น ..แล้ว หันหลังจากมาโดยซ่อนความ..ฮึก....เจ็บปวดสาหัสเอาไว้ลึกๆข้างใน คนนั้นคือผมเอง..อย่า..เกลียดผม..เลยนะปกติเป็นคนพูดน้อยแทบตาย

     

    แต่วันนี้เขาจะขอพูดประโยคที่คิดว่ามันคงดีที่สุดในชีวิตนี้

     

    พี่ไม่เคยเกลียดตัวเล็กเลยนะ เพราะรู้ว่าแบคฮยอนรักพี่..แต่ต่อไปนี้ถ้ามีอะไรพยายามคุยกันนะ พี่รู้ว่าแบคฮยอนพูดไม่เก่ง..ไม่เป็นไร คุยกับพี่แค่คนเดียวก็พอ..เรามาเริ่มต้นกันใหม่นะตัวเล็ก”ชานยอลยิ้มให้ หากแบคฮยอนเองกลับยิ้มรับ

     

    จากนั้นเลยได้ฤกษ์เรียกคุณหมอมาตรวจอาการเสียที ซึ่งชานยอลยังยืนอยู่ด้วยตลอด และน่าพอใจที่อาการของคนไข้ตัวน้อยดีขึ้นตามลำดับ เพียงแต่ต้องอยู่พ่นยาขยายปอดและหลอดลมอีกซักวันสองวันเพื่อความแน่นอน

     

    เป็นโอกาสที่ชานยอลจะขอเป็ยคนนอนเฝ้าไข้และได้ทำความรู้จักกับบุพการีของพยอน แบคฮยอนไปด้วยเลย ต้องยอมรับจริงๆว่าท่านทั้งสองน่ารักกับเขามาก

     

    แบคฮยอนน่ะเป็นเด็กขี้กังวลแต่เด็กแล้วล่ะจ๊ะ เขาเป็นเด็กแสดงความรู้สึกไม่เก่ง แถมป่วยกระปอดกระแปด แม่ไม่รังเกียจหรอก..แม่กับพ่อคุยกันมาแต่แรกแล้ว..แบคฮยอนคงดูแลใครไม่ได้ คงต้องหาใครซักคนที่มาดูแล...”คุณนายพยอนพูดขึ้นในระหว่างที่จัดขนมใส่จานมาวางเอาไว้บนโต๊ะนั่งเล่นในห้องพักรักษา

     

    นั่นเห็นไหม..พอพูดเข้าหน่อยล่ะมองตาเขียวเชียว..”เพราะได้รับค้อนจากลูกชายตัวเล็ก หล่อนจึงยิ้มออกมา ก่อนเดินตรงไปหาลูกชายของตัวเอง ยกมือเกลี่ยแก้มใสของลูกชายที่เป็นยิ่งกว่าดวงใจ

     

    พอเขาเริ่มชอบชานยอล พ่อกับแม่ก็อดวิตกไม่ได้ แต่เขาน่ะดื้อเงียบ

    ครับเรื่องนั้นพอทราบ ขอโทษน่ะครับ ที่จริงๆเพราะผมแท้ๆ น้องเลยต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้..”ชานยอลยิ้มฟังเรื่องราวต่างๆที่พ่อกับแม่มาเล่าให้เขาฟัง

     

    มีหลายเรื่องที่เขาได้รับฟังแล้วอดยิ้มไม่ได้ เรื่องต่างๆที่ทำให้เขาได้รู้จักกับแบคฮยอนมากขึ้น

     

    อย่าโทษตัวเองเลยชานยอล ถ้าพูดเรื่องนี้..เห็นที่คงจะขอโทษกันไปไม่จบไม่สิ้นคุณพยอนเสริมด้วยรอยยิ้ม มันก็จริงนี่ ลูกเขาก็คิดมากเอง อีกคนก็ดีจนออกรับแทน

     

    คู่นี้มันดีจริงๆ ความรักของหนุ่มสาวววววว

     

    เรื่องคุณพ่อหวงลูกน่ะตัดไปได้เลย ได้ใจไปตั้งแต่พาลูกเขาฝ่าฝนมาหาหมอแล้วล่ะ ถ้าไม่ได้ชานยอลเขาเองก็จนใจ เขาเชื่ออย่างยิ่งว่าชานยอลจะปกป้องลูกคนนี้ของเขาได้ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเป็นอย่างไร

     

    ไม่ว่าสังคมจะมองแบบไหนเชื่อว่าจะผ่านไปได้

     

    เอาล่ะ..พ่อแม่ว่าพ่อแม่กลับก่อนดีกว่า..เดี๋ยวพ่อต้องไปทำธุระกันน่ะ อีกซักพักคยองซูคงมายังไงฝากชานยอลด้วยนะคุณนายพยอนกอดลูกชายตัวเล็กของเธอเสียแน่น ยิ้มให้ชานยอลอย่างวางใจหากหัวเล็กกลับยังถูไถไปกับอกของมารดาไม่เลิก

     

    ไม่เอาละ อย่าดื้อกับพี่เขานะ..แม่รักเจ้าลูกหมาของแม่ที่สุดเลยว่าแล้วก็หอมฟอดใหญ่ไปทีจนลูกชายเธอพยักหน้าหงอย แต่ก็ยังยอมตาม

     

    หล่อนมองหน้าลูกชายที่หล่อนรัก คิดว่าอีกไม่นาน อาจจะซักสามปี..หรือสี่ปี ลูกชายคงได้เริ่มห่างอกคนเป็นแม่ ฟังดูเหมือนนานแต่เวลามันผ่านไปเร็วเหลือเกินราวกับติดปีก

     

    ใจหาย..แต่ไม่กังวลใจ เห็นอย่างนี้ก็พร้อมจะวางมือ

     

    ที่เหลือระยะเวลาเหล่านี้ก็ปล่อยให้ชานยอลค่อยๆพิสูจน์ความจริงของเขาให้ นางและสามีดูต่อไปเท่านั้นเอง แต่มองจากแววตาแล้วคงไม่มีอะไรให้ต้องคิดมากเท่าไหร่

     

    ยกเว้นเรื่องครอบครัวของฝ่ายเจ้าหนุ่มล่ะนะ

     

    ..........................

    ................

    .....

     

    “สรุปกลับพรุ่งนี้หรอ..”คยองซูถามมองเห็นชานยอลเป็นคนเก็บของเข้ากระเป๋า ในขณะที่แบคฮยอนกำลังนั่งเย็บชุดที่ชานยอลต้องใส่อยู่

     

    โอเค..เอาเป็นตอนนี้เขาดีขึ้นมากแล้ว หลังจากทำเอาคนอื่นกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน

     

    “หมอบอกว่าดีมากแล้วล่ะ ขาดเรียนมาจะครบอาทิตย์แล้วเดี๋ยวมันจะไม่ดี..”ชานยอลว่าพลางเก็บของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ในตอนกลางคืนเข้ากระเป๋าเหลือแต่เสื้อผ้าที่ต้องเปลี่ยนพรุ่งนี้เช้าเอาไว้ในตู้เท่านั้น

     

    “ดีแล้วล่ะพี่..ไม่งั้นพวกผมเป็นห่วงแย่”ลู่หานที่ทำท่าจะเข้ามาดูแบคฮยอนบ้างหากโดนจับให้นั่งนิ่งอยู่บนตักของเซฮุนเลยทำได้เพียงขยับปากพูดเท่านั้นเอง

     

    ชานยอลเก็บของเสร็จเรียบร้อยดีแล้วจึงเดินกลับมานั่งที่ประจำของตัวเอง ที่เขานั่งมาตลอดทั้งคืน จนตอนนี้สายต่างๆได้ถูกหมอเอาออกไปหมดแล้วเหลือเพียงแค่ ที่คลอบปากที่ใส่เป็นครั้งคราวเท่านั้น ตามเวลาที่แพทย์กำหนด

     

    มือใหญ่หยิบกรรไกรตัดด้ายที่เย็บออกอย่างรู้หน้าที่เมื่อเห็นว่าคนตัวเล็กกำลังพันด้ายเก็บอยู่

     

    “ใกล้เสร็จหรือยัง..”ชานยอลหันมาถามอีกคนที่เอาแต่นั่งยิ้มละมุน เย็บไปยิ้มไป

    “ใกล้แล้วครับ”คำตอบน้อยทำเอาห้องเงียบไปทั้งห้อง

     

    ลู่หานกับจงอินน่ะมีภูมิต้านทานนิดหน่อยเพราะเขาอยู่กับคยองซูบ่อย แต่เซฮุนนี่ซิทำหน้าอย่างกับเห็นของแปลกแน่ะ ตั้งแต่รู้เรื่องของแบคฮยอนมา นึกตั้งนานว่าชานยอลมันชอบคนใบ้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

     

    จนแล้วจนรอดก็พอว่าอีกคนไม่ใบ้แฮะ..

     

    “เอ่อ..กูเอางานมาให้..มึงโดดงานสภามาสองวัน เอกสารจากอาจารย์และงานใหม่มีเข้ามา”เซฮุนที่หยิบเอกสารออกมาวางกองบนโต๊ะวางอาหารคนไข้

     

    “เฮ้ย..เซื่องกูมาเฝ้าไข้นะเว้ย..ไม่ได้มาทำงาน กองไว้บนโต๊ะก็ได้..”ชานยอลพูดอย่างหน่ายๆ ฉายาที่เหมาะกับหน้าของเพื่อนที่แม่งชอบแสดงอารมณ์อยู่หน้าเดียว

     

    คนอะไรขนาดแม่งตดในที่ประชุมยังทำหน้าแบบว่า…กูตดแล้วไงได้เลย

     

    “อาจารย์ซูโรบอกให้เอามาให้ได้นี่ครับคุณมึง…ผอ.จะเอาแผนงานพรุ่งนี้แล้ว ขืนรอมึงพรุ่งนี้ มีหวังนางกริ้วซวยยกสภา.. นี่ก็จะหกโมงแล้ว เฮ้ย..หู กูกลับละ จะพาลู่ไปติวภาษา..พรุ่งนี้สอบเกาหลี”แม่คำพูดกวนตรันแต่หน้านิ่งสไตล์มันทำเอาคำพูดกวนเป็นสองเท่า

     

    “เออ..เอาวางไว้ตรงนั้นแหละ..เดี๋ยวกูจัดการ”ชานยอลบอกปัดๆพลางเอามือโบกไล่ คยองซูกับลู่หานจึงเข้ามาร่ำลาพอเป็นพิธีเท่านั้นแล้วจึงขอตัวกลับ

     

    เป็นเวลาที่ชานยอลสามารถได้ใช้ร่วมกันอย่างจริงจัง โอเคถึงเมื่อคืนเขาจะมาเฝ้าแต่ร่างกายแบคฮยอนยังไม่ดีมากนักดังนั้นเขาสองจึงไม่ได้คุยอะไรกันมามาก นอกจากชานยอลทำเพียงนั่งกุมมือยิ้มให้แบคฮยอนอย่างเงียบๆเพียงแค่นั้น

     

    หากวันนี้คนตัวเล็กสามารถลุกขึ้นมานั่งเย็บเสื้อเขาได้แล้วปราศจากเครื่องช่วยต่างๆนั้นเขาคิดว่ามันเรื่องมหัศจรรย์ที่พระเจ้าเป็นผู่ประทานให้

     

    “เสร็จหรือยังครับ”ชานยอลถามหากอีกคนพยักหน้าเบาๆ ยื่นมาให้อีกคนดูว่าเหลือมากเท่าไหร่ซึ่งมันก็ไม่มากอย่างที่เจ้าตัวบอกจริงๆ

     

    “เก็บเอาไว้ทำวันพรุ่งนี้ได้ไหมครับ..”เสียงอ้อนๆนั้นทำเอาแบคฮอนอยากโยนเสื้อทิ้งลงถังขยะด้วยซ้ำถ้าทำได้นะ ไม่ต้องสนใจอีกเลยเอาซิน่ะ

     

    แต่เสื้อก็ของชานยอล..ที่ทำก็เพื่อนพี่ชานยอลเท่านั้น

     

    “อุตส่าห์ได้อยู่สองคนนะครับ..”เห็นว่าแบคฮยอนยังทำท่าคิดอีกคนเลยอาศัยวิชาที่ติดตัวมาเข้าไปเนียนจับมือบางเอาไว้เสียงเองพร้อมกับดึงเอาสิ่งที่อยู่ในมือออกเสีย

     

    ฟังเป็นการอ้อนวอน..แต่มันคือการบังคับดีๆนี่เองล่ะ..สุดท้ายก็ต้องยอมจำนวนให้อีกคนเอาออกไปจนได้แต่ใช่ว่าไม่อยากขอเล่นตัวให้เขาง้อหน่อยเถอะ..

     

    ทั้งๆที่เรื่องที่ต้องเขามาโรงบาลก็เพราะตัวเองคิดมา ทั้งที่เขาอุ้มมาโรงพยาบาล ไหนจะมานอนเฝ้ามานอนดูแล ได้ทีรู้ว่าเขารักก็เอาใหญ่เชียว

     

    “พี่ชานยอล..”

    “คับ ตัวเล็ก…”แบคฮยอนเรียกเสียงหวานจนเจ้าของชื่อคอแทบหัก ขานรับแทบไม่ทันแน่ะ..

    “เบื่อไหมครับ”แบคฮยอนถามอีกครั้งมองงานที่ไม่ได้รับการแตะต้องของชานยอลแล้วก็นึกไม่สบายใจไปเสียเอง

    “ทำหน้าอย่างนี้อีกแล้ว…ถึงบอกว่าอย่าคิดมากไปเองคนเดียวซิครับ..”ชานยอลเอานิ้วยาวกดเบาไที่หัวคิ้วเล็กของแบคฮยอนเบาๆ

     

    คนตัวเล็กหดคอหนีเบาไ หลับตาแน่นเมื่ออีกคนเริ่มรังแกเขา..ไม่ซิเรียกว่าหยอกมากกว่าเนอะ

     

    “หรือตัวเล็กไม่ชอบอยู่กับพี่กันนะ…ถึงเอะอะก็คิดอยากจะตีตัวออกห่าง”ว่าแล้วก็ล้มตัวลงบนตักเล็กของคนบนเตียง พาดเกือบทั้งตัวมันขึ้นไปเสียเลย ไม่ีอะไรหรือใครมาเกะกะเขาแล้วนี่

     

    “เปล่านะครับ”คนตัวเล็กทำเสียงหงอยพลางยิ้มเอาใจอีกคนอ่อนๆ มือเล็กเกี่ยวพันเส้นผมสีทองประกายอ่อนของชายหนุ่ม นึกขำว่านี่ถ้าโรงเรียนมีกฏไม่ให้ย้อมผมคนที่ต้องโดนทำโทษคนแรกเห็นทีจะเป็นประธานนักเรียนคนดี คนเก่งคนนี้แน่ๆ

     

    “ก็เห็นตัวเล็กไล่พี่จังเลย”แกล้งทำเป็นกระเง้ากระงอดไม่สมตัวไปอีกที ได้ทีของเขาเอาคืนบ้างแล้ว

    “ว่าแต่ผมคิดมาก”แบคฮยอนหัวเราะออกมาเบาๆ ไล่ปลายนิ้ไปตามสันกรามได้รูปของคนที่นอนมองเขาเช่นกัน

     

    บรรยากาศอบอุ่น..แม้สถานที่จะไม่ได้เอื้ออำนวยนัก..แต่ถ้ามีเราสองคนที่ไหนก็ดีทั้งนั้นแหละ

     

    “อย่าพี่เรียกว่าคิดมากที่ไหน อย่าพี่เรียกว่าอ้อนครับ”เลยดึงมือซุกซนมากอดจูบเสียแรงๆไปหลายทีจนคนโดนเอากำไรใบหน้าขึ้นสีระเรื่อกว่าเดิม

     

    เมื่อก่อนล่ะเขินจนหัวใจเต้นเร็ว จะเป็นหอบหืดตายให้ได้..แต่ตอนนี้มันกลับเริ่มสงบ..บอกตัวเองว่าหลังจากเกือบตายมาอยากใช้เวลากับชานยอลมากที่สุดให้มากได้

     

    ถ้ามัวแต่เขินล่ะไม่ต้องได้พูดเสียเวลา แต่ว่าไป..คนที่ทำให้แบคฮยอนพูดได้มากขนาดนี้..ก็คงมีแต่คนคนนี้นี่ล่ะนะ

     

    “ตอนนี้เราอยู่กันสองคนอย่างนี้..พี่ไม่เบื่อหรอก พี่จะไดรู้จักตัวเล็กมากขึ้นไง ดีออกไม่ดีหรอ พี่อยากรู้ว่าตัวเล็กชอบกินอะไร ชอบไปเที่ยวไหน ชอบดูหนังเรื่องอะไร ชอบฤดูอะไร..เอ่อ..แล้วมีใครในหัวใจหรือยัง”ถามมาดีๆก็ดีอยู่หรอกแต่อันสุดท้ายนี่ฟังยังไงๆนะ

     

    แล้วมือน่ะ…พอได้จับได้จูบนี่ไม่ยอมปล่อยเลยนะพ่อคุณ…

     

    “ข้อสุดท้ายรู้อยู่แล้วนี่ครับ..”แบคฮยอนอ้อมแอ้มบอก เสตาหลบ..พยายามทำใจไม่เขินแต่ถ้าเจอแบบนี้บ่อยเข้าไออาการเดิมนี่ก็พาลจะกลับมาเยี่ยมเยียนนะ

     

    “รู้แล้วก็จริงแต่อยากได้ยินจากปากนี่”พอพูดปากปลายนิ้วของคนที่นอนกเอื้อมไปลูบปากอิ้มทันทีทันใด ปากว่ามือถึงดีจริงๆ

     

    “ไม่ตอบไม่ได้หรอครับ”อีกคนยื่นขออุธรณ์

    “ไม่ได้..ต้องตอบซิครับ”ศาลไม่รับยื่นเสียอย่างนั้น ทำเอาคนยื่นทำตาน่าสงสาร หากคนมองว่ามันน่ารักสุดใจอยากจะโน้มลงมาหอมแก้มเนียนให้เข็ด หากไม่ติดว่ามันอาจเร็วเกินไป

     

    “ผมตอบก็ได้..แต่พี่ห้ามขอผมเป็นแฟนนะครับ”

     

    ************************************************************************************

     

    TBC มาช้าหน่อย แต่มาชัวร์นะเทิวววววววว น่ารักน่ารักนะ..อุ้ยปมคุณพ่อคุณแม่ยังไม่แก้..อะไรมาให้ตื่นตุ้นอีกเนี่ยยยยยยย ห้ามว่าแบคนะว่ามากๆคนแต่งใจเสียนะว่าลูกเขาบ่อยๆเนี่ย ใจเย็นๆนะคะแล้วรออ่านไปก่อน จุ๊บๆๆๆ

     

    เชิญด่าคนแต่งได้ที่ #ฟิคโค้ก ค่ะ

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×